공유

บทเสริม

last update 최신 업데이트: 2025-06-21 17:22:21

บทเสริม

            เมืองอู่เฉิง

            จวนของกู้เหว่ย

            กู้อวี้ชุน บุตรชายคนโตของกู้เหว่ยเดินกลับไปกลับมาอยู่ในเรือนด้วยสีหน้าร้อนใจ

            ราวสองเดือนก่อน กู้อวี้ชุนสั่งให้องครักษ์มากฝีมือออกจากเมืองอู่เฉิงไปทำงานบางอย่าง

            เป็นงานที่ออกตามหาคนและกำจัดให้สิ้นซาก 

            คนดวงซวยที่ถูกหมายหัวคนนั้นคือเหยียนหลิ่ว

            ในเมืองอู่เฉิงแห่งนี้ นอกจากตระกูลจาง เหยียนหลิ่วก็ไม่รู้จักใครอื่น 

            ดังนั้นเหยียนหลิ่วไม่มีทางได้หนีออกจากเมืองอู่เฉิงไปได้ไกล และไม่มีทางไปเมืองหลวงกับพวกตระกูลจาง

            เมื่อเป็นเช่นนี้ โดยปกติ องครักษ์ที่กู้อวี้ชุนส่งไปทำงานควรกลับมาถึงเมืองอู่เฉิงตั้งแต่หนึ่งเดือนที่แล้ว

            แต่ว่า ทำไม?

            “นายน้อย แม่ทัพกู้กลับมาแล้วขอรับ”

            กู้อวี้ชุนได้ยินคำพูดของบ่าวก็ทำยิ่งร้อนใจ

            บิดากลับมาแล้ว แต่องครักษ์พวกนั้นยังไม่กลับมา ขืนเป็นแบบนี้ บิดาต้องรู้แน่ๆ ว่าเขาโยกย้ายคนออกจากเมืองอู่เฉิง 

            “เจ้าได้ข่าวขององครักษ์พวกนั้นหรือยัง”

            บ่าวติดตามรับใช้กู้อวี้ชุนส่ายหน้าเบาๆ

            “ยังเลยขอรับ”

            ตายแน่ องครักษ์พวกนั้นกำลังทำอะไรอยู่นะ! 

            กู้อวี้ชุนกำหมัดด้วยความร้อนรนในใจ

            จังหวะนั้นเอง ประตูเรือนถูกผลักจากด้านนอก

            ปัง!

            ทั้งกู้อวี้ชุนทั้งบ่าวติดตามหันไปมอง พอเห้นว่าเป็นกู้เหว่ย ทั้งสองคนรีบก้มศีรษะให้ความเคารพทันที 

            “นายท่าน!?”

            “ท่านพ่อ…”

            กู้เหว่ยก้าวอาดๆ เข้ามาในเรือนของบุตรชายคนโต เมื่อยืนกลางห้อง ริมฝีปากใต้หนวดเคราพลันขยับขึ้นลง

            “สิ่งที่เจ้าทำมีผลกระทบใดรู้บ้างหรือไม่”

            ในใจของกู้อวี้ชุนเต้นแรงอย่างร้อนรน หากกระนั้น กลับแสร้งทำเป็นปากแข็ง

            “ท่านพ่อพูดเรื่องอะไรขอรับ”

            กู้เหว่ยหรี่ตามองบุตรชาย ความกดดันแผ่กระจายทั่วห้อง ทำเอาทั้งคุณชายใหญ่และบ่าวขนลุก

            “น่าเสียดาย” กู้เหว่ยกล่าวพลางส่ายหน้า

            “เสียดายอะไรหรือขอรับ” กู้อวี้ชุนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

            “ข้าเสียดายองครักษ์ที่ซื่อสัตย์และมากฝีมือทั้งห้าคนนั้น”

            ฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าของกู้อวี้ชุนยิ่งตรึงเครียด เพราะคำพูดของบิดาสื่อว่ารู้เรื่ององครักษ์ทั้งห้าที่เขาส่งออกเมืองอู่เฉิงแล้ว

            “ท่านพ่อ…”

            กู้อวี้ชุนเปิดปากกำลังขอความเมตตา แต่กลับพูดได้เท่านั้น เพราะกู้เหว่ยชิงกล่าวเสียก่อน

            “องครักษ์พวกนั้นต้องมาตายเพราะคำสั่งของเจ้าแท้ๆ ”

            อึก!

            กู้อวี้ชุนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ร่างกายแข็งทื่อ

            จริงอยู่ว่าส่วนใหญ่กู้เหว่ยไม่ค่อยอยู่ที่จวน แต่เมื่อในจวนมีการเคลื่อนไหว ไหนเลยผู้เป็นเจ้าของเรือนอย่างเขาจะไม่รู้

            แต่ว่า…ทำไมถึงต้องเอาถึงตายด้วย

            กู้อวี้ชุนสงสัย

            “ท่านพ่อ เรื่องนี้หมายความว่ายังไงขอรับ”

            “คนทำงานพลาดไม่ควรเก็บไว้ ข้ครั้งนี้ข้าเก็บกวาดความผิดพลาดแทนเจ้า ก็เพื่อปกป้องตระกูลกู้ จำเอาไว้ด้วย”

            กู้เหว่ยต้องสังหารองครักษ์ทั้งห้าเพื่อปิดปาก เพราะพวกนั้นทำงานพลาดครั้งใหญ่ ดันโจมตีรถขนเสบียงของสำนักราชองครักษ์หลวง

            หากเว่ยจ้งสืบสาวเรื่องราวต่อ ต้องรู้แน่ว่าองครักษ์ทั้งห้ามาจากบ้านตระกูลกู้ จากนั้นก็จะรู้ถึงความเน่าเฟะ แล้วเรื่องนี้จะต้องแพร่สะพัดออกไปทั่ว 

            เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ต้องกำจัดองครักษ์พวกนั้นทิ้งเสีย

            แน่นอน กู้อวี้ชุนไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้ เขาคิดว่าที่บิดาฆ่าองครักษ์ที่ตนส่งออกไปกำจัดเหยียนหลิ่ว ต้นเหตุเป็นเพราะตน

            กู้อวี้ชุนคุกเข่าลงตรงหน้าบิดา

            “ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว”

            กู้เหว่ยหลุบตามองลูกชาย ถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะกล่าวตักเตือนบุตรชาย  

            “คนหนีไปแล้วก็ปล่อยไป ช่วงนี้อยู่เงียบๆ เข้าไว้ แล้วก็ อย่าเพิ่งติดต่อฉินเฟยอวี่จะดีกว่า ทำงานพลาดจนไปหาเรื่องคนใหญ่คนโตเข้า”  

            “ขอรับ”

            เรื่องของฉินเฟยอวี่ กู้อวี้ชุนรู้มาแล้ว

            ลงทุนไปเมืองหลวงเพื่อเอาเรื่องจางตงตง แต่สุดท้ายก็ถูกเล่นงานคืน แถมยังเสียหลงจู๊ที่ซื่อสัตย์ไปด้วยอีกคน

            “ท่านพ่อ จากนี้ข้าควรทำอย่างไรต่อดีขอรับ”

            “ชดเชยเงินให้กับทางบ้านขององครักษ์พวกนั้น แล้วก็…เด็กคนนั้นชื่อเหยียนหลิ่วใช่หรือไม่ จากนี้ไปเจ้าก็คิดว่าในบ้านหลังนี้ไม่เคยมีเจ้านั่นอยู่”

            “ขอรับ”

            เหยียนหลิ่วเป็นลูกชายที่เกิดจากบ่าวชั้นล่างกับกู้เหว่ย นับว่ามีสายเลือดของกู้เหว่ยครึ่งหนึ่ง

            กู้เหว่ยมีนิสัยมักมากในกาม ขอแค่บ่าวในบ้านหน้าตาดีหน่อย แม้จะเป็นสาวแรกรุ่น เขาก็เรียกให้พวกนางมาปรนนิบัติถึงเตียง

            ที่ผ่านมา บ่าวพวกนั้นไม่มีใครตั้งท้องลูกของกู้เหว่ยสักคน เพราะได้ฮูหยินคอยเก็บกวาด

            ยกเว้นเพียงบ่าวที่คลอดเหยียนหลิ่ว

            หากจำไม่ผิด บ่าวคนนั้นอายุเพียงสิบกว่าปี ไม่รู้ว่าอะไรคือการล่วงละเมิด และอะไรคือการตั้งครรภ์

            นางจึงไม่รู้ว่าตนกำลังท้องลูกของกู้เหว่ย

            ตอนคลอดลูก นางคลอดในห้องเก็บฟืนด้วยจู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บท้อง 

            ตอนที่ฮูหยินรู้เรื่องเข้า สั่งให้คนมาเก็บกวาดทั้งบ่าวชั้นล่างกับทารกที่เพิ่งคลอดในทันที แต่บังเอิญกู้เหว่ยอยู่ที่จวน

            ต่อให้ชั่วช้าสามานย์แค่ไหน พอเห็นเด็กทารกตาดำๆ ร้องอุแว้ๆ อยู่ตรงหน้า ใจก็กำจัดไม่ลง

            ด้วยเหตุนี้ กู้เหว่ยจึงขอให้ฮูหยินละเว้นชีวิตเด็กทารกไว้

            การที่เขาละเว้นชีวิตน้อยๆ หนึ่งชีวิต ไม่ใช่เพราะผูกพันรักใคร่ แค่จิตใจยังอำมหิตไม่พอเท่านั้นเอง   

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status