แชร์

บทที่ 1128

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
งูตัวนั้นเจ้าเล่ห์นัก ครู่เดียวก็เลื้อยเข้าไปในเรือนหลัก และไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ที่ใด

เพื่อจะจับงู จึงจำเป็นต้องรื้อค้นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของฮองเฮา

เรื่องนี้จำต้องทูลขออนุญาตจากฮ่องเต้

ประจวบเหมาะที่ช่วงค่ำเซียวอวี้คิดถึงฮองเฮา จึงมาที่จื้อจ้ายจวี องครักษ์จึงนำเรื่องนี้กราบทูลทันที

เซียวอวี้ขมวดคิ้ว

เขาเข้าไปในห้องด้วยตนเอง หลังจากค้นหาอยู่รอบหนึ่ง กลับพบว่างูตัวนั้นกำลังนอนขดตัวอยู่บนเตียง

ทันใดนั้น คนหนึ่งคนกับงูหนึ่งตัว ก็ประสานสายตากัน

สีหน้าของเซียวอวี้เปลี่ยนเป็นคร่ำเคร่ง ขณะกำลังจะให้คนเข้ามาจับงู จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามันดูคุ้นตา

งูตัวนี้ คล้ายกับงูตัวที่หร่วนฝูอวี้เลี้ยงไว้

เมื่อนึกถึงว่าหร่วนฝูอวี้กับรุ่ยอ๋องหายตัวไปพร้อมกัน เซียวอวี้ก็เริ่มเอะใจ

หลังจากเขาสั่งให้คนใช้ถุงตาข่ายจับงูตัวนั้นไว้แล้ว ก็นำมันไปส่งที่จวนรุ่ยอ๋อง เพื่อต้องการให้คนในจวนยืนยัน

องครักษ์หลิวหวาออกมายืนยันเป็นคนแรก

หลิวหวาฝืนความรู้สึกต่อต้านตามสัญชาตญาณ เข้าไปดูใกล้ ๆ

หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ เขาก็ยืนยันทันที

“นี่คืองูที่พระชายาเลี้ยงไว้!”

ที่จื้อจ้ายจวี

เมื่อข่าวส่งกลับมาที่เซียวอวี้ เขาก็เก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1129

    เซียวอวี้ครุ่นคิดอยู่นาน ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเรื่องอื่นเขาไม่เชื่อในเรื่องดวงชะตาอะไรนั่น ทว่าธรรมชาติของมนุษย์ที่ถานไถเหยี่ยนพูดถึง เขากลับเชื่อจิ่วเหยียนแต่ไหนแต่ไรมาก็ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความชอบธรรม ถึงแม้ตอนนั้นนางจะตัดใจจากต้วนไหวซวี่แล้ว ทว่ากลับยินดีที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเขาอำนาจการปกครองของแคว้นซีหนี่ว์ไม่มั่นคงเป็นปัญหาพื้นฐาน ต่อให้แก้ปัญหาภายนอกจากสองแคว้นอย่างแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้ แต่ปัญหาภายในยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องการไปของจิ่วเหยียนในครั้งนี้ หากต้องรับตำแหน่งประมุขแคว้นจริง ๆ แล้วจะสามารถวางมือ มองดูแคว้นซีหนี่ว์เผชิญกับความวุ่นวายภายในได้อย่างไร? นางต้องเลือกที่จะเริ่มต้นและจบลงอย่างสมบูรณ์...เซียวอวี้ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกังวลใจถานไถเหยี่ยนคิดจะทำสิ่งใด เขารู้ชัดเจน นั่นก็คือการรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวทว่าเขาไม่กลัวว่าแคว้นซีหนี่ว์จะแข็งแกร่ง กลัวเพียงว่าจิ่วเหยียนจะไม่กลับมา“เฉินจี๋!”เฉินจี๋รีบเข้ามาในตำหนักทันทีเซียวอวี้คิ้วตาดูเย็นชา น้ำเสียงฟังดูเคร่งขรึม“ส่งกองกำลังไปหนึ่งกลุ่ม ไปรับฮองเฮากลับวังอย่างลับ ๆ”เฉินจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1130

    ณ ห้องทรงพระอักษร“ฝ่าบาท รุ่ยอ๋องและพระชายาถูกช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว! รุ่ยอ๋องกำลังรอเข้าเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนัก มีเรื่องสำคัญจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ได้ยินเช่นนั้น เซียวอวี้จึงรีบสั่งให้รุ่ยอ๋องเข้ามาในตำหนักทันทีไม่นาน รุ่ยอ๋องก็มาถึงเขาทำความเคารพทันที: “กระหม่อม ถวายบังคมฝ่าบาท!”เซียวอวี้เห็นสภาพร่างกายและจิตใจของเขายังดีอยู่ ในใจก็คลายกังวลลงบ้าง“ปลอดภัยก็ดี”รุ่ยอ๋องสีหน้าดูคร่ำเคร่ง“ฝ่าบาท สาเหตุที่กระหม่อมถูกจับ เป็นเพราะพวกเขาต้องการเลือดของกระหม่อม นี่ทำให้กระหม่อมนึกถึงการตายของบิดา”เซียวอวี้กลับเพิ่งได้ยินเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรกเขาจ้องมองไปที่รุ่ยอ๋อง “ต้องการเลือดของเจ้าเพราะเหตุใด? แล้วพวกเขาได้ไปหรือไม่?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะ“กระหม่อมไม่รู้สิ่งใดเลย เพียงแต่สงสัยว่า คนที่สังหารบิดากระหม่อม และจับตัวกระหม่อม อาจจะเป็นพวกเดียวกัน”เซียวอวี้คิ้วขมวดแน่นความคับข้องใจที่ถูกใส่ร้ายของท่านอ๋องผู้เฒ่า เขาเข้าใจเป็นอย่างดีฮ่องเต้องค์ก่อนก็ทรงเสียพระทัยมาตลอดและเนื่องด้วยความผิดพลาดในอดีตที่เป็นข้อเตือนใจนี้ ทุกครั้งที่มีคนกล่าวหาว่าเมิ่งสิงโจวมีกองก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1131

    ในที่ประชุมเช้าเหล่าขุนนางที่ร่วมประชุมรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างยิ่ง พากันเรียกร้องให้ตรวจสอบตระกูลมู่หรงอย่างเข้มงวด“ฝ่าบาท ในเมื่อได้สืบพบความผิดปกติภายในหอบรรพบุรุษของตระกูลมู่หรง อีกทั้งยังค้นพบรังมนุษย์โอสถที่จวนของมู่หรงสวี้ เช่นนั้นก็ต้องตรวจสอบคนอื่นในตระกูลมู่หรงอย่างเข้มงวดด้วย!” “กระหม่อมเห็นด้วย! จะต้องไม่ใช่การกระทำของมู่หรงสวี้เพียงผู้เดียวเป็นแน่ คนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงต่อให้ไม่มีส่วนร่วมโดยตรง ก็มีความผิดฐานปกปิด! ความผิดฐานละเลยไม่ตรวจสอบ!”เริ่มต้นหลังจากเกิดความวุ่นวายที่วิหารบรรพบุรุษ ตระกูลมู่หรงก็ไม่ต่างจากสภาพของกำแพงที่คลอนแคลนและถูกผู้คนผลักให้ล้มลงตอนนี้คดีมนุษย์โอสถทำให้ขุนนางที่ไม่มีความผิดหลายคนถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้อง และสร้างความวุ่นวายจนทำให้ผู้คนตื่นตระหนก ทุกคนจึงสะสมความคับแค้นมาเป็นเวลานานในเมื่อสืบพบตัวการที่กระทำความผิด ก็ต้องลงโทษให้หนัก ถึงจะระงับความโกรธแค้นของราษฎรได้ดังนั้นแล้ว ตระกูลมู่หรงจึงถูกคุมขังทั้งตระกูลอีกครั้งครั้งก่อนก็มีบิดาของมู่หรงหลัน---มู่หรงเหลียนสละชีพปกป้องทั้งตระกูลครั้งนี้ โอกาสรอดชีวิตของตระกูลมู่หรงมีน้อยเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1132

    หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความจริงเรื่องที่เซียวอวี้รับนางกลับมา เป็นเพราะกลัวว่านางจะไปแคว้นซีหนี่ว์แล้วไม่กลับมาอีก ก็นิ่งเงียบอยู่นานขณะที่เซียวอวี้กำลังครุ่นคิดว่าจะยอมรับผิดอย่างไร จู่ ๆ นางก็จุมพิตเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขาเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนก้มลงจุมพิตเขาอีกครั้ง การกระทำดูนุ่มนวล เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอบโยน“เรื่องนี้ไม่อาจตำหนิท่านได้ ท่านไม่เชื่อ เป็นเพราะหม่อมฉันให้ความเชื่อมั่นกับท่านไม่มากพอ“ถานไถเหยี่ยนมีทักษะในการพูด และมักจะทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย“ทว่า ฝ่าบาท หม่อมฉันจะบอกท่านให้ชัดเจนว่า ในใจของหม่อมฉัน ที่ที่มีคนในครอบครัวอยู่ ที่นั่นถึงจะเป็นบ้าน“ท่านเป็นสามีของหม่อมฉัน แม้จะไม่ใช่เครือญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ท่านเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ของหม่อมฉัน“ต่อให้แคว้นซีหนี่ว์จะดีเพียงใด ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับท่าน”เซียวอวี้นิ้วมือสั่นเทา“จริงหรือ?”ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ จึงถามอีกครั้ง: “เราเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตเจ้าจริง ๆ หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนถามกลับ: “ไม่ใช่ท่าน แล้วจะเป็นใครได้เพคะ?”เรื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1133

    ก่อนหน้านี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกบรรพบุรุษของตระกูลมู่หรง จึงเคยเห็นภาพวาดนี้มาก่อน ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า ปฐมจักรพรรดิทรงขยายดินแดนรวบรวมแผ่นดิน โดยได้รับการสนับสนุนจากมู่หรงจ่างจี๋ที่ยอมสละยุทธสัมภาระ มู่หรงจ่างจี๋ในวัยเพียงสี่สิบ ดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดีได้ไม่ถึงสามปี ก็จากโลกนี้ไปตลอดกาล ภาพบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ตงฟางซื่อวาดขึ้นมาในตอนนี้ ใบหน้าคล้ายคลึงกับมู่หรงจ่างจี๋อย่างมาก เซียวอวี้ก็นำภาพวาดมาเทียบกัน เขามองภาพวาดในมือ แล้วก็มองภาพวาดที่บันทึกไว้ ถึงจะไม่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็มีความคล้ายถึงเก้าส่วนจากสิบ! เขาสบตากับเฟิ่งจิ่วเหยียน “อาจเป็นเพียงคนหน้าคล้ายกัน หรือไม่ก็อาจเป็นบุตรนอกสมรสของตระกูลมู่หรงที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างนอก”อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่ามู่หรงจ่างจี๋จะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางท่องยุทธภพมานาน เคยพบเจอเรื่องราวประหลาดมามากมาย ที่แคว้นฉู่มีชายชราท่านหนึ่ง อายุมากถึงสามร้อยกว่าปี นักพรตอาวุโสของสำนักเทพยุทธ์ มีอายุยืนยาวถึงสองร้อยสิบเจ็ดปี แคว้นหนานฉีสถาปนาราชวงศ์มายาวนานกว่าสองร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1134

    เซียวอวี้ตามความคิดของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทัน เมื่อครู่ยังพูดถึงมู่หรงจ่างจี๋อยู่แท้ ๆ ทำไมตอนนี้ถึงวกไปพูดถึงปฐมจักรพรรดิได้? ทว่าเขาก็ยังตอบนาง “ไท่จู่ฝังที่สุสานตะวันออก” เพื่อป้องกันการถูกปล้นสุสาน สุสานปฐมจักรพรรดิมีทั้งหมดสิบสามแห่ง ล้วนมีเวรยามคอยเฝ้าปกป้องแน่นหนา ความจริง ทั้งสิบสามแห่งนั้นล้วนเป็นของปลอม สถานที่ฝังพระศพที่แท้จริง มีเพียงจักรพรรดิในแต่ละยุคเท่านั้นที่ล่วงรู้ เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฝ่าบาท ทรงเปิดสุสานได้หรือไม่เพคะ?” เซียวอวี้ขมวดคิ้วทันที“ไม่ได้” ปฐมจักรพรรดิเสด็จสวรรคตไปนานแล้ว เขาจะทำลายความสงบของท่านได้อย่างไร เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เข้าใจ คำขอนี้ทำให้เขาลำบากใจ ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความจริงของคดีมนุษย์โอสถ นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผู้ที่ต้องการมีชีวิตอมตะที่แท้จริง อาจไม่ใช่มู่หรงจ่างจี๋ แต่เป็นปฐมจักรพรรดิ” เซียวอวี้ตกตะลึงอย่างมาก อ้าปากเล็กน้อย “จิ่วเหยียน เจ้าพูดจาเลอะเลือน “เจ้าหมายความว่า คนที่อยู่เบื้องหลังคดีมนุษย์โอสถ คือปฐมจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ?” เรื่องนี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1135

    ปลายเดือนสี่ คดีมนุษย์โอสถจบลงในที่สุด ผู้บงการตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงล้วนพ้นผิด เหล่าสมาชิกของขบวนการมนุษย์โอสถ ล้วนถูกตัดสินโทษประหาร รอการลงดาบในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่ขาดปาก “ในที่สุด เรื่องนี้ก็จบลงสักที!”“ศาลต้าหลี่ทำคดีเก่งกาจยิ่งนัก!” “เรื่องฉาวโฉ่ของตระกูลมู่หรงช่างมีมากมายจริง ๆ หากพูดว่าคนอื่น ๆ ในตระกูลไม่เกี่ยวข้อง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด” “ข้าก็คิดเช่นนี้ ไม่แน่มู่หรงสวี้อาจเป็นแค่แพะรับบาป!” อย่างไรเสีย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกลักพาตัวไปทำมนุษย์โอสถอีกต่อไป ภายใต้แสงตะวัน ทุกสิ่งยังคงดำเนินไป ต้นเดือนห้า เมืองหลวงเกิดข่าวลือใหม่ ตามโรงน้ำชาและโรงสุรา ผู้คนต่างพากันพูดคุยถึงเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจ “พวกเจ้ารู้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อนมีนักพรตผู้หนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวง บอกว่ามีวิชาทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนพากันไปกราบไหว้จนธรณีประตูของเขาแทบพัง!” “ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ในใต้หล้าจะมีชีวิตเป็นอมตะได้อย่างไรกัน” “ข้ายัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1136

    นักพรตอาวุโสคนนั้น เป็นนักพรตปลอมที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดหามา เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจากแคว้นฉู่ ทว่ามีอายุยืนยาวสามร้อยกว่าปีเป็นเรื่องจริง ใช้แผนการนี้ เพียงเพื่อล่อตัวการของคดีมนุษย์โอสถ เพราะนางสันนิษฐานว่า เป้าหมายสูงสุดของคนผู้นั้น คือการมีชีวิตเป็นอมตะ ดังนั้น คราวนี้จะต้องประสบความสำเร็จให้จงได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเต้นระส่ำ กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข เซียวอวี้พูดเตือนนาง “ยาเย็นหมดแล้ว ดื่มยาเสียก่อน” ……ค่ำคืนล่วงเลยไป มีข่าวจากข้างนอกวังมารายงาน...ตามหานักพรตอาวุโสคนนั้นเจอแล้ว เมื่อเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินข่าวนี้ ต่างก็รู้ว่าต้องมีอีกข่าวหนึ่งตามมาด้วย “ฝ่าบาท พวกหยิ่นเอ้อร์ได้จับตัวคนร้ายไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้กำลังนำตัวไปยังคุกเทียนเหลาเพื่อสอบสวนพ่ะย่ะค่ะ!” อารมณ์เซียวอวี้กระวนกระวาย เขาร้อนรุ่มใจ อยากรู้ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่อาจทนรอจนถึงรุ่งสาง เขากับเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบมุ่งหน้าไปยังคุกเทียนเหลาทันที ครึ่งชั่วยามต่อมา ภายในคุกเทียนเหลา พวกเขาได้เจอคนที่ลักพาตัวนักพรตอาวุโสเฒ่าไป และเป็นไปได้สูงว่านี่คือผู้อยู่เบื้องหลัง

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status