แชร์

บทที่ 665

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา

“ทำไมหรือ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"

เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก

“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ

“ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”

“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำ

เซียวอวี้ผงกหัว

“อืม”

เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีก

ทว่า แอบกำหมัดแน่น

ไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้ว

เซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”

ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขา

แต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไร

ระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้า

อาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว

“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”

พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้า

เซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิด

เขาทำอะไรผิด พ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
ตัวเองประทานการหย่าให้เขาเองนะมาใส่ร้ายเขาอีกฮ่องเต้นี่จริงๆเลยเชียว
goodnovel comment avatar
Nichaphat
เมียหลวง หึง ตลอดด
goodnovel comment avatar
Double Rainbow
หึงหนัก ผู้หญิงก็ยังหึง 555
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 666

    เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 667

    เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 670

    วินาทีที่ถอดหน้ากากของนางออก เซียวอวี้เห็นนางยิ้มดั่งดอกไม้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางยิ้มอย่างปล่อยตัว มีความสุขอาจเป็นเพราะดื่มจนเมา ทิ้งเกราะป้องกันตัว นางล้มสู่อ้อมกอดของเขา เกาะไหล่ของเขา แล้วลุกขึ้นมา“ข้าไม่ได้เมา...”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเดินยังไม่มั่นคง ยังบอกว่าไม่เมา?“ตงฟางซื่อส่งเจ้ากลับมา” เขาไม่ได้ถาม ทว่าเป็นการพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหยิ่นลิ่วคอยปกป้องนางอยู่ตลอดตอนที่ตงฟางซื่อไปหาถึงเซียวเหยาจวี เซียวอวี้ก็รู้แล้วภายหลังนางตามตงฟางซื่อไปยังหอสุรา ดื่มสุราทานข้าวกับคนเหล่านั้น เขาก็รู้เขาอดกลั้นไม่ไปรบกวนนาง เพราะเขารู้ดี นั่นคือเพื่อนสนิทของนาง เป็นวิถีชีวิตของนางถึงแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานกับเขา นั่นก็คือสิ่งที่นางไม่อาจทอดทิ้งทว่า นางเป็นสตรีผู้หนึ่ง ดื่มอยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้วเซียวอวี้วางหน้ากาก จับปลายคางของนางไว้“ดื่มไปมากเท่าไหร่? ถึงได้เมาเป็นสภาพเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคลี่มือของเขาออก แววตาเต็มไปด้วยความมัวหมอง ไม่เย็นชาเหินห่างเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“ก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้เมา”นางลุกขึ้น อยากหาน้ำดื่มทว่าเวลาถัดมา ตรงแขนมีแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 671

    ณ ค่ายเป่ยต้าสีหน้าของเมิ่งฉวีเขียวคล้ำ เขามองไปที่ฮ่องเต้เบื้องหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ฝ่าบาท ท่าน...” ตรัสว่าอะไรนะ ถุงยาง?ยังอยากให้ฮูหยินทำถุงยางให้มากหน่อย?จากที่เขารู้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะทำให้ไปสิบอันหรอกหรือ?ใช้หมดเร็วขนาดนี้เลยหรือ?!เมิ่งฉวีอดไม่ได้ที่จะคิดว่า...หนุ่มแน่นช่างกำลังวังชาดีเสียจริงเซียวอวี้ไม่สะดวกที่จะพูดเรื่องนี้กับฮูหยินเมิ่ง จึงคิดจะพูดกับเมิ่งฉวีแทนถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษด้วยกันเมิ่งฉวีรู้สึกลิ้นจุกปาก “ฝ่าบาท เรื่องนี้ยากนัก กับฮูหยิน กระหม่อมเองก็พูดไม่ออกพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในกระโจม ท่าทางดูผ่อนคลายสงบนิ่งเขากล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า“จิ่วเหยียนกับฮูหยินเมิ่งผูกพันดุจมารดาและบุตร นางต้องแต่งงานไปไกลถึงเมืองหลวง เราตัดสินใจว่าจะให้ฮูหยินเมิ่งติดตามไปด้วย”เมิ่งฉวี: !!!ฝ่าบาทจะมาพรากพวกเขาสามีภรรยาออกจากกันได้อย่างไร!นี่กำลังขู่เขาอย่างนั้นหรือ?……ณ จวนแม่ทัพเวยเฉียงกับสาวใช้นามไฉ่เยว่ย้ายมาอยู่ที่นี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่บ้างยังดีที่นางคุ้นเคยกับท่านพี่และฮูหยินเมิ่ง จึงไม่ถึงกับประหม่าฮูหยินเมิ่งสงสารที่เวยเฉี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 672

    “ท่านแม่! ท่านว่าอะไรนะ ข้ายังมีน้องสาวอีกคนรึ?!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่อยากจะเชื่อน้องสาวอีกคนนึงของเขา เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ถูกส่งตัวออกไปแล้วที่ฮูหยินเฟิ่งบอกเขาก็เพราะหวังว่าบุตรชายจะได้รู้ว่าเขายังมีน้องสาวที่ต้องปกป้องอีกคนหนึ่งเฟิ่งเหยียนเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง“ท่านแม่ เดี๋ยวนะ เหตุใดคนที่แต่งกับฮ่องเต้แต่แรกถึงเป็นจิ่วเหยียน ไม่ใช่เวยเฉียงเล่า?“เช่นนั้นเวยเฉียงล่ะ? เวยเฉียงไปไหนแล้ว?”แววตาของฮูหยินเฟิ่งแฝงไปด้วยความโกรธแค้น“เป็นท่านพ่อของเจ้า สามีชั่วนั่น! เขาคิดว่าหลังจากเวยเฉียงถูกลักพาตัวไปก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่อาจเข้าวังไปเป็นฮองเฮาได้ จึงส่งเวยเฉียงออกไปเสีย ทั้งยังโกหกว่านางตายแล้ว! เขาหลอกพวกเราทุกคน!”“หากไม่ใช่เพราะจิ่วเหยียน ยามนี้เวยเฉียงจะเป็นหรือตายอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้!”เฟิ่งเหยียนเฉินที่น่าสงสารถูกปกปิดจนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องที่เวยเฉียงถูกลักพาตัวไป สูญเสียความบริสุทธิ์ เขาก็เพิ่งได้รู้ความจริงเอาตอนนี้เขารู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังหึ่งหึ่งสวรรค์!ในช่วงที่เขาตกอยู่ในความกลัดกลุ้มนั่น ที่แท้ตระกูลเฟิ่งกลับเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้เขาที่เป็นพี่ชาย ช่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 673

    เฟิ่งเหยียนเฉินตกตะลึงอยู่นาน เขาไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม่เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง“เป็นจิ่วเหยียน หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามท่านพ่อของเจ้า“เมิ่งสิงโจวตัวจริงตายจากไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเป็นจิ่วเหยียนที่เสี่ยงชีวิตปลอมตัวเป็นเขา ทว่าผู้ที่สร้างความชอบทางการทหารตลอดมาล้วนเป็นจิ่วเหยียน น้องสาวของเจ้า”เมื่อเห็นท่านแม่สงบนิ่งเพียงนี้ มั่นใจถึงเพียงนี้ ลมหายใจของเฟิ่งเหยียนเฉินก็ช้าลง“ท่านแม่ จิ่วเหยียนมีความสามารถเพียงนี้จริงหรือ?”ปกป้องรักษาชายแดนเหนือเป็นเวลาเพียงสามปี นางก็กลายเป็นแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัวจนตัวสั่นผลงานการรบอันเลื่องลือที่นางสร้าง แม้แต่บุรุษยังยากที่จะทัดเทียมได้เขายังคิดว่าจากนี้จะต้องปกป้องน้องสาวทั้งสองคนให้ดีทว่าตอนนี้ดูไปแล้ว...เป็นน้องสาวที่ปกป้องเขา ปกป้องราษฎรของหนานฉีต่างหาก!ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีน้องสาวที่เก่งกาจดุจเทพเช่นนี้!ชั่วขณะหนึ่งเขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมิน่าเล่าคราแรกที่เห็นฮองเฮาในวัง ถึงได้รู้สึกว่านางแผ่บรรยากาศที่แข็งแกร่งออกมา ไม่เหมือนเวยเฉียงที่เขาคุ้นเคยยามนั้นเขายังนึกว่าเป็นลักษณะอันน่าเกรง

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status