Share

บทที่ 701

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
รุ่ยอ๋องหาได้เปิดโปงเรื่องที่องค์หญิงมาแอบฟังไม่ นัยน์ตายังคงอ่อนโยนดุจน้ำ

“ไปกันเถิด พวกเรากลับไป เล่นหมากรุกกันต่อเถอะ”

องค์หญิงน้อยรู้สึกตัวสั่นระริกอย่างสุดที่จะพรรณนา

หันไปมองอีกที กลับไม่เห็นผู้ใดอยู่ในห้องโถงด้านข้างเลย

หารู้ไม่ว่า หลังจากที่นางกับรุ่ยอ๋องเดินจากไป หรงเฟยมายืนอยู่ริมหน้าต่าง พลางจ้องมองไปที่นางอย่างเย็นชา

หรงเฟยถูกรุ่ยอ๋องปฏิเสธ

หัวใจของนางดั่งถูกไฟแผดเผา

ครั้นได้เห็นองค์หญิงน้อย ทำให้นางหวนนึกถึงอดีต

ในสมัยนั้น องค์หญิงน้อยมีอายุเพียงหนึ่งหรือสองขวบ และฝ่าบาททรงรักเอ็นดูเด็กน้อยผู้นี้ยิ่งนัก

นังเด็กสารเลว ยังอยู่ในวัยแบเบาะ ก็รู้วิธีดึงดูดความสนใจจากบุรุษเสียแล้ว

ตอนนี้ ข้างพระวรกายของฝ่าบาทพลันมีซูฮ่วนโผล่มาอีกคน

ผู้ใดที่กล้าแย่งชิงความสนใจของฝ่าบาทไป ล้วนสมควรตาย!

หรงเฟยยกยิ้มมุมปาก ดูอ่อนโยนและสงบนิ่ง

……

เมื่อเซียวอวี้จัดการเรื่องนักฆ่าเสร็จแล้ว ก็ได้เขียนจดหมายแจ้งข่าวถึงเฟิ่งจิ่วเหยียน

ในขณะนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนกับตงฟางซื่อกำลังสืบเรื่องของหร่านชิว

พวกเขาพบว่า บิดาของหร่านชิวเป็นหนึ่งในเก้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
SomoWanwipa Photisen
เด็กก็ไม่เว้น
goodnovel comment avatar
Sakon Jindanin
อุ๊ยย สามีใครกัน อิอิ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 702

    เซียวอวี้มองดูคนตรงหน้าด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง คนผู้นั้นถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย... “อะไรกัน จำข้าไม่ได้แล้วหรือเพคะ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนยกโค้งมุมปากอย่างสงบ ดูเหมือนยิ้ม ทว่าก็เหมือนตำหนิเช่นกัน นางสวมชุดดำพรางตัว รัดกุมแน่นหนา เส้นผมดำขลับถูกรวบมัดสูง ดูสง่างามดุจวีรบุรุษ ใบหน้าเจือด้วยความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง ทว่ารอยยิ้มเล็ก ๆ นั้น ดุจบุปผากลางทะเลทราย ที่มีชีวิตชีวายิ่งนัก และทำให้เซียวอวี้ยิ่งรู้สึกคาดไม่ถึง เขาลุกขึ้นยืนทันที คว้าเสื้อคลุมมาใส่อย่างลวก ๆ และก้าวเดินไปหานางอย่างรวดเร็ว เฟิ่งจิ่วเหยียนถอยหลังไปสองก้าว พลางเตือนเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เนื้อตัวของข้ามีแต่ฝุ่นเพคะ” ดวงตาที่เย็นชาของเซียวอวี้กลายเป็นแย้มยิ้มอ่อนโยน ไม่สนใจที่นางจะหลบเลี่ยง ก็ดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนทันที จากนั้นจุมพิตหน้าผากของนาง และจูบสัมผัสมุมปากของนางอีกครั้ง “ไยถึงกลับมาไม่บอกกล่าวกันเล่า? เรื่องนั้นจบแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายศีรษะ “ยังเพคะ “มารดาผู้ให้กำเนิดของหร่านชิวอยู่ที่อารามวั่งเฉินในเมืองอาน ข้ากับตงฟางซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 703

    หร่านชิวฝึกตนอยู่ในถ้ำด้านข้าง เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีของนางได้บรรลุขั้นที่สองแล้ว มันราบรื่นกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้เสียอีก ดูเหมือนว่า เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนี้เหมาะสมกับพื้นฐานร่างกายของสตรีมากกว่าจริง ๆ นางอาจจะสามารถฝึกฝนได้เร็วกว่าหยางเหลียนซั่ว และดีกว่าด้วยซ้ำ! ขอเพียงนางประสบความสำเร็จ ก็จะกลายเป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพ ในตอนนั้น จักไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของนาง! ทั่วทั้งยุทธภพจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของนาง ไม่เว้นแม้แต่ซูฮ่วน และตงฟางซื่อ! ดวงตาของหร่านชิวเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะไม่ลดน้อยลง คนที่นางอยากจะกำจัดมากที่สุด ยังคงเป็นหยางเหลียนซั่ว จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของเขา ตราบใดที่เขายังไม่ตาย นางจะต้องซ่อนตัวฝึกตนต่อไป หารู้ไม่ว่า ในขณะนี้หยางเหลียนซั่วอยู่ที่เป่ยเยี่ยน ณ เป่ยเยี่ยน ในพระราชวังหยางเหลียนซั่วได้รับการแนะนำโดยราชครูเป่ยเยี่ยน และได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้เยี่ยนในที่สุด ดวงตาของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าขาว จอนผมทั้งสองข้างกลายเป็นสีเทา บนบัลลังก์สูง ฮ่องเต้เยี่ยนมองดู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 704

    รุ่ยอ๋องมองดูสตรีที่อยู่ตรงหน้า แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่นและสงบนิ่งเช่นเคย “มู่หรงหลัน เจ้าหมดหนทางจะเยียวยาแล้วจริง ๆ !” เขาพลันหันหลังให้นาง ไม่อยากจะมองนางมากนัก มู่หรงหลันถอดอาภรณ์ชั้นนอกออกเหลือเพียงเสื้อชั้นในเท่านั้น ก้าวมาข้างหน้า และสวมกอดเขาจากด้านหลัง ทว่าถูกเขาต่อต้านอย่างรุนแรงและผละตัวออกห่าง “ออกไป! อย่ามาแตะต้องข้า!” มู่หรงหลันจ้องมองแผ่นหลังของเขา พลางหัวเราะเบา ๆ “ในสมัยนั้น ท่านกักขังข้าไว้ บอกว่าต้องการรักษาข้า และทำให้ข้ากลายเป็นคนปกติ แนะนำให้ข้าอย่าปิดบังความเจ็บป่วยและปฏิเสธการรักษา “วันนี้ข้าอยากรักษาให้ท่าน ไยท่านกลับปฏิเสธด้วยเล่า?” รุ่ยอ๋องขบกรามแน่นขึ้น ใบหน้าเขียวคล้ำ มู่หรงหลันเห็นว่าเขาเพิกเฉยต่อตนเอง จึงเดินอ้อมไปหยุดข้างหน้าของเขา แววตาของนางอ่อนโยน ทว่าแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า “เหตุใดจึงไม่ช่วยข้า? “หรือว่า ท่านคิดจะกำจัดข้าไปตั้งนานแล้ว เช่นนั้นข้างกายของฝ่าบาทก็จะได้เหลือท่านเพียงคนเดียว?” ดวงตาของรุ่ยอ๋องเย็นชา “ข้าไม่เหมือนเจ้า” นางเสียสติไปนานแล้ว “มู่หรงหลัน หากมิใช่เพราะมิตรภาพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 705

    ตงฟางซื่อถูกปลุกขึ้นมากลางดึก ใบหน้าเต็มไปด้วยอาการง่วงงุน “ซูฮ่วน เจ้าควรจะมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่สุด ๆ ...” เฟิ่งจิ่วเหยียนคว้าไหล่ของเขา และเขย่าแรง ๆ สองครั้ง เพื่อสลัดความง่วงงุนไร้สติของเขาออกไป “ฟังนะ! หร่านชิวเป็นลูกสาวนอกสมรสของหยางเหลียนซั่ว” ทันทีที่พูดจบ ตายิ้มดวงเล็ก ๆ ของตงฟางซื่อ พลันเบิกกว้าง จนกลมโต “นางเป็นลูกสาวของหยางเหลียนซั่ว?! เช่นนั้นฮูหยินหร่าน...ก็มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหยางเหลียนซั่ว?” เขาตกตะลึงและเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ฮูหยินหร่านดูเมตตาอ่อนโยนขนาดนั้น จักทำเรื่องพรรค์นั้นได้ “ซูฮ่วน แท้จริงเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่?” ตอนนี้ ตงฟางซื่อไม่ง่วงนอนอีกแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดปากเอ่ย “เมื่อฮูหยินหร่านรู้ว่าหร่านชิวกำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถี โดยเฉพาะหลังจากที่รู้ว่านางฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย จึงไม่อยากเห็นนางทำชั่วอีกต่อไป นางมีวิธีติดต่อกับหร่านชิว และพวกเราจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้” หลังจากตงฟางซื่อครุ่นคิดอยู่สองสามอึดใจ พลันค่อย ๆ เอ่ย “ซูฮ่วน เจ้าลองคิดดู นางตั้งใจเอ่ยเช่นนี้หรือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 706

    ตงฟางซื่อผุดลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้านั้นสงบและจริงจัง “ซูฮ่วน ข้าไม่เห็นด้วย “ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจอยากตามหาหยางเหลียนซั่วให้พบ ทว่าเจ้าควรเชื่อใจในเหล่าพันธมิตรของเจ้า พวกเหล่าฝานกำลังค้นหาที่อยู่ของหยางเหลียนซั่วในเป่ยเยี่ยน ย่อมไม่จำเป็นจะต้องใช้หร่านชิว “เพียงเพื่อล่อหยางเหลียนซั่วออกมา เจ้ากลับปล่อยหร่านชิวตัวหายนะไว้ หากปล่อยให้วิชามารของนางทวีความแข็งแกร่ง ก็จะได้ไม่คุ้มเสียเท่านั้น” ครั้นเอ่ยถึงตรงนี้ เขาหยุดไปครู่หนึ่ง นัยน์ตามีความโกรธเจืออยู่ “ยิ่งกว่านั้น เจ้าไว้ชีวิตนางแล้วไซร้ จักไม่ทำให้วิญญาณของสหายชาวยุทธที่ถูกนางสังหารต้องผิดหวังหรือ? พวกเราได้ไล่ตามนางมาถึงจุดนี้ ก็เพื่อกำจัดนางมิใช่รึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนรอให้เขาพูดจบก่อน ค่อยเอ่ยอย่างใจเย็น “คนเหล่านั้นล้วนตายไปแล้ว “หร่านชิวได้บรรลุวิชาดาราโรยหมื่นวิถีขั้นสองแล้ว ต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องจับกุมคนเพื่อฝึกวิชาอีก “ตงฟางซื่อ พวกเราต้องยอมรับ ความจริงข้อหนึ่ง——พวกเรามาช้าเกินไป” ตงฟางซื่อคาดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยเช่นนี้ “ยังไม่สายเกินไป ขอเพียงสังหารหร่านชิวได้ ก็จะไม่สายเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 707

    ยามบ่าย เฟิ่งจิ่วเหยียนและคณะได้ออกเดินทาง ไปทางเหนือเพื่อตามหาหร่านชิว ตงฟางซื่อคำนวณเวลาระหว่างทาง และเอ่ย “เมื่อเรายังไม่ฆ่าหร่านชิวในขณะนี้ ให้ข้าไปหารือแผนการที่จะกำจัดหยางเหลียนซั่วกับนางคนเดียว ก็เพียงพอแล้ว “น้องสาวของเจ้ากำลังจะแต่งงานในเดือนสิบเอ็ด นี่ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนสิบแล้ว เจ้าจะกลับไปที่ชายแดนเหนือก่อนดีหรือไม่?” เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือน ก็จะถึงงานแต่งงานของเวยเฉียงในปลายเดือนสิบเอ็ด เฟิ่งจิ่วเหยียนลังเลใจบ้าง ดังที่ตงฟางซื่อเอ่ย เรื่องของหร่านชิว ไม่จำเป็นต้องให้นางร่วมเดินทางไปด้วยตลอด ในขณะนี้ หยิ่นลิ่วผู้คุ้นเคยกับการเดินทางในความมืดก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเอ่ยเตือนเฟิ่งจิ่วเหยียน “คุณชายซู ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทเขียนจดหมายส่งมา แจ้งว่าต้องตัดเย็บชุดแต่งงานของท่านโดยเร็วที่สุด เหตุใดท่านไม่กลับไปวัดตัวที่เมืองหลวงก่อนเล่าขอรับ?” ตงฟางซื่อยิ้มจนตาหยี เอ่ยหยอกล้อ “ซูฮ่วน เจ้ายุ่งมากเชียว งานหนึ่งอยู่ทางเหนือ อีกงานอยู่ทางใต้ ขึ้นอยู่กับเจ้าจะเลือกทางใดแล้ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยอย่างเด็ดขาด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 708

    ปัง! ในคืนวันนั้น เจ้าหน้าที่ทหารเข้าปิดล้อมบ้านพักของมู่หรงหลัน พังเปิดประตู และจับกุมนางไว้ ยามนี้มู่หรงหลันได้เข้านอนแล้ว จึงไม่มีเวลาสวมใส่อาภรณ์ให้เรียบร้อย พลันตวาดลั่น “พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาบุกบ้านพักส่วนตัวของข้า!” เจ้าหน้าที่ทหารปิดปากนางไว้ทันที และจับนางยัดเข้าไปในรถม้า จากนั้น นางถูกพาเข้าไปในพระราชวัง และเข้าสู่ห้องทรงพระอักษร รุ่ยอ๋องก็อยู่ในห้องทรงพระอักษรด้วยเช่นกัน มู่หรงหลันถูกบังคับให้คุกเข่าลงกับพื้น สองมือถูกมัดไว้ ไพล่ไปที่ด้านหลัง นางมีน้ำตาคลอหน่วยและตื่นตระหนก พลางจับจ้องมองไปที่ฝ่าบาทด้วยแววตาที่น้อยใจไร้เดียงสา “ฝ่าบาท...” ด้านหลังโต๊ะทรงงาน ฮ่องเต้หนุ่มเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ราวกับถูกเทพสังหารเข้าครอบงำก็มิปาน “มู่หรงหลัน เป็นเจ้าทำร้ายเซียวหย่าใช่หรือไม่?” มู่หรงหลันรีบส่ายศีรษะปฏิเสธทันที “ไม่ใช่เพคะ จักเป็นหม่อมฉันได้อย่างไร? ฝ่าบาท ท่านคงจะเข้าพระทัยผิดไปแล้ว หม่อมฉันพักอยู่ที่จวน...” รุ่ยอ๋องมองดูนาง น้ำเสียงเย็นชาทุ้มลึก “มู่หรงหลัน ยอมรับสารภาพเสีย” เปลือกตาของมู่หรงหลันกระตุก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 709

    วันนี้รุ่ยอ๋องจะต่อสู้กับมู่หรงหลันจนตกตายไปพร้อมกัน เขาจะไม่ทนให้นางมาคอยรบกวนเขาเหมือนคนบ้า และยังชอบปฏิบัติกับเขาอย่างไร้เหตุผลอยู่เสมออีกแล้ว หากยังปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไป เขาแค่กลัวว่าตนเองจะกลายเป็นบ้า “ฝ่าบาท เป็นกระหม่อมเองที่พานางออกจากวัง! “เมื่อกระหม่อมได้ทราบทีหลังว่านางสังหารองค์หญิงน้อย ก็ตระหนักได้ว่านางหมกมุ่นในตัวท่านจนเสียสติ และนางจะทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบกายของท่าน “ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมจะต้องหยุดยั้งพ่ะย่ะค่ะ “ครั้นเมื่อนึกถึงมิตรภาพระหว่างพี่น้องของพวกเราตั้งแต่เยาว์วัย กอปรกับการวินิจฉัยของหมอ บอกว่านางมีอาการป่วยทางจิต และขอเพียงได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็ยังมีโอกาสรักษาหาย “ดังนั้น กระหม่อมจึงขังนางไว้ในจวน และเชิญหมอมารักษาอาการของนางทุกวัน “กระหม่อมหวังว่านางจะกลับมาเป็นคนปกติได้อีกครั้ง ต่อมา อาการของนางก็ดีขึ้นจริง ๆ กระหม่อมจึงค่อย ๆ ผ่อนปรนการควบคุมดูแลนางลง คาดไม่ถึงว่า นางจะฉวยโอกาสตอนที่กระหม่อมออกไปข้างนอก หลอกให้หมอปลดโซ่ตรวน และทำร้ายทั้งหมอทั้งองครักษ์จนบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีออกมาพ่ะย่ะค่ะ” รุ่ยอ๋องทูลอธิบา

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1218

    องค์ชายเจ็ดทรงนำทัพออกศึกแล้ว ยามดึกเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปค้นหาที่จวนขององค์ชาย ก็ไม่มีองครักษ์เฝ้าอยู่มากนักค้นหาติดต่อกันสามคืนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสใดเลยพวกอู๋ไป๋ก็ไปค้นหาที่จวนขององค์ชายองค์อื่น ๆ ทว่าก็ไม่มีข่าวดีเช่นเดียวกันทางด้านวังหลวงจนถึงตอนนี้ก็ยังสืบหาไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมกับการคุมขังคนหยิ่นลิ่วไปสืบหาในจวนองค์ชายสี่ ก็แอบได้ยินองค์ชายสี่ทรงเอ่ยตัดพ้อกับที่ปรึกษา“เสด็จพ่อทรงโปรดปรานน้องเจ็ด ข้าจะแย่งชิงได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ยังมีฮ่องเต้ฉีคอยแนะนำข้า ตอนนี้แม้แต่จะพบฮ่องเต้ฉีก็ยังไม่อาจทำได้เลย!”หยิ่นลิ่วจับจุดสำคัญนี้ได้ จึงรีบกลับไปที่โรงพักแรมเพื่อทูลรายงาน“ฮองเฮา มิต้องสงสัยเลยว่า องค์ชายสี่ผู้นี้จะต้องทราบว่าฝ่าบาททรงถูกขังอยู่ที่ใด!”เมื่อเทียบกับหยิ่นลิ่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นยิ่งกว่านางต้องการยืนยันอีกครั้ง “องค์ชายสี่ทรงเอ่ยคำพูดเช่นนี้จริงหรือ”หยิ่นลิ่วมั่นใจอย่างยิ่งอู๋ไป๋เริ่มรู้สึกร้อนใจ“นายท่าน ข้าน้อยจะไปจับตัวองค์ชายสี่ และสอบสวนอย่างลับ ๆ !”ด้วยการทรมานอย่างหนัก องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนไม่มีทางที่จะไม่บอกความจริงเฟิ่งจิ่วเหยียนยกม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1217

    ช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ กองทัพเยี่ยนเคลื่อนเข้ามาใกล้ชายแดน เหล่าทหารมีจิตใจที่ฮึกเหิม ใช้การยึดคืนเมืองที่เสียไปเป็นเป้าหมาย และแย่งกรูกันเข้าไปทางเมืองชายแดนของหนานฉีองค์ชายเจ็ดของเป่ยเยี่ยนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ ควบคุมทั้งสามกองทัพในการรบครั้งนี้ ฮ่องเต้เยี่ยนทรงคาดหวังต่อเขาอย่างมาก ก่อนออกรบทรงตักเตือนและกำชับไว้มากมาย“เจ้าเจ็ด หากชนะสงครามครั้งนี้ ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิ ก็ต้องเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว! เหล่าพี่น้องของเจ้าก็จะยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งเช่นกัน!”องค์ชายเจ็ดพยักหน้าอย่างนอบน้อม“กระหม่อมจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง”ฮ่องเต้เยี่ยนมองบุตรชายด้วยความพึงพอใจ ในบรรดาเหล่าองค์ชายที่เหลืออยู่ มีเพียงองค์ชายเจ็ดที่มีลักษณะของความเป็นจักรพรรดิมากที่สุดองค์ชายสี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองดูฉากเหตุการณ์นั้นด้วยสายตาอันคมกริบฮ่องเต้ฉีเอ่ยไว้ถูกต้องจริง ๆ เสด็จพ่อดีต่อน้องเจ็ดเหลือเกิน!ขอเพียงทหารสามารถรบชนะ ไม่ว่าใครจะเป็นแม่ทัพใหญ่ ก็จะได้รับความดีความชอบไปด้วยชัดเจนว่าเสด็จพ่อทรงให้โอกาสกับน้องเจ็ดแล้วเขาเล่า? เขาเป็นองค์ชายสี่นะ?เหตุใดเสด็จพ่อทรงมองไม่เห็นเข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1216

    อาจือถูกส่งเข้าวังมาตั้งแต่เล็ก และคอยรับใช้ข้างกายองค์หญิงเซี่ยนอี๋ที่จริงนางถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะและชื่อเสียง ทว่าคนในตระกูลทำผิด จึงกลายมาอยู่ในสถานะต่ำต้อยอาจือคอยติดตามรับใช้องค์หญิง ทว่ากลับมองตนเองว่าพิเศษกว่าคนทั่วไปอาจารย์สอนศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับองค์หญิง ไม่ว่าทำอย่างไรองค์หญิงก็ทรงร่ำเรียนไม่สำเร็จ ส่วนนางเรียนรู้ไม่นานก็ทำได้หมัวมัวในวังก็มักจะมองนางด้วยความเสียดาย---อาจือ หากเจ้าไม่อยู่ในสถานะต่ำต้อย ก็คงมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์กว่าองค์หญิงเป็นแน่ทว่า คนที่อยู่ในสถานการณ์มักจะมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจนอาจือฉลาดก็จริง ทว่าไม่ถือว่าฉลาดถึงขั้นสุดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอย่างเซียวอวี้ จึงกลายเป็นคนฉลาดเพียงเล็กน้อยคนที่มีทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลับมั่นใจเกินไป เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็นกลับจมน้ำอาจือก็มีจุดอ่อนที่อันตรายถึงแก่ชีวิตเช่นกันนางเข้าใจว่าตนเองพูดไม่กี่คำ ก็สามารถได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ฉีแล้ว กลับไม่รู้ว่า อีกฝ่ายวางแผนลวงไว้ตั้งแต่แรกแล้วเมื่อมองจักรพรรดิรูปงามที่อยู่เบื้องหน้า ในใจอาจือเริ่มว้าวุ่นเมื่อใจเริ่มว้าวุ่น แม้จะมีความฉลาดอยู่เล็กน้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1215

    ณ เป่ยเยี่ยนจวนขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับพระราชทานแล้ว นางไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปจึงย้ายเข้าไปในเรือนหลังใหม่มิใช่ว่าองค์หญิงทุกพระองค์จะสามารถเปิดจวนได้ นี่เป็นความโปรดปรานที่เสด็จพ่อมีต่อนางเป็นพิเศษและสิ่งที่นางยินดีเป็นอย่างยิ่งคือ ฮ่องเต้ฉีก็ถูกส่งมาที่จวนของนางด้วยเช่นกันถึงแม้เสด็จพ่อจะส่งคนมาคุ้มกัน ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกห้องลับที่คุมขังฮ่องเต้ฉีตามอำเภอใจ ทว่า นี่คือจวนของนาง นางย่อมต้องหาโอกาสได้จากคุกลับมาที่จวนองค์หญิง เซียวอวี้ถูกคนคลุมศีรษะมาตลอดทางบวกกับเป็นเวลาค่ำคืน ก็ยิ่งไม่มีผู้ใดรู้องค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง โดยยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องลับ ราวกับเชื้อเชิญให้เข้ามาติดกับ และยิ่งเหมือนนายพรานที่สร้างกรงขัง กำลังมองดูเหยื่อเดินเข้ามาในกรงด้วยความพอใจขณะที่เซียวอวี้เดินผ่านตัวนาง นางก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดี“ฮ่องเต้ฉี พวกเรายังมีอนาคตร่วมกันอีกยาวไกล”เซียวอวี้มีท่าทีเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าเป็นมิตรแม้แต่น้อยทว่านางก็ชอบท่าทางดื้อรั้นเช่นนี้ของเขาและว่ากันตามตรง ห้องลับก็ดูสะอาดกว่าคุกลับองค์หญิงเซี่ยนอี๋ทรงเกเรเอาแต่ใจ ทว่าก็มีความจริงใจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status