Share

แม่นางไก่ทอด
แม่นางไก่ทอด
Author: นักเดินทางในโลกมายา

ปลาย่าง

last update Last Updated: 2025-09-06 19:36:27

“โอ้ย! เจ็บตัวไปหมดเลยโว้ย ไก่จ้า ไก่ทอด อยู่หนายย หื้ม...เดียวน่ะ” มีมี่พูดกับตัวเองแล้วยันตัวขึ้นนั่ง จากนั้นค่อยๆ มองไปรอบๆ

“ตายล่ะอยู่ไหนกันกันล่ะ กะ กลิ่นอะไรเน่าๆ” มีมี่พยายามดมหาจนมาถึงเสื้อของตัวเอง

“กลิ่นเกินจะทนแล้วไหนจะกองเลือดนี่อีก เจ้าของร่างเดิมไปทำอะไรมาเนี่ย ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเหม็นมาก”

มีมี่พยายามค้นหาเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำเมื่อได้มาแล้วก็รีบตรงไปที่ลำธารหลังบ้านทันทีเพื่อหาบน้ำมาใส่โอ่งที่มีน้ำเพียงน้อยนิด นางขนอยู่นานจนน้ำเต็ม แต่พอเปลืองผ้าออกเตรียมอาบก็ถึงกับผงะไป

“น่ะ นี่มันสาวงามกับภูเขาลูกใหญ่ชัดๆ อื้ม คงต้องลดหุ่นหน่อยแล้วล่ะ”

มีมี่ตัดสินใจอาบน้ำก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันเพราะสุดจะทนกับกลิ่นที่เหม็นเกินบรรยาย นางจัดการเอาสบู่ยาสระผมออกมาจากมิติที่ได้รับการชดเชยมาจากเทพขี้เมา

“เห้อ เสร็จซ่ะทีแล้วเอาไงต่อล่ะทีนี้ ก่อนอื่นต้องทวนความจำก่อนว่าเป็นใคร แล้วอยู่ไหน” เมื่อคิดได้แล้วก็เริ่มทำทันที

“จินเชียง นักฆ่าจากเปอร์เซีย อื้ม~ เกษียณตัวเองตัวอายุ 25 เพื่อออกมาใช้ชีวิตแบบสบายๆ แล้วใครกันที่ฆ่านาง” มีมี่คิดไปคิดมาก็ได้ข้อสรุปที่ว่านางตายเพราะป่วยด้วยพิษไข้ป่า

“เห้อ~ คนเราช่างตายได้ง่ายดายแท้ แต่ไม่ต้องห่วงน่ะ เราจะใช้ชีวิตต่อให้เอง” ในตอนนั้นเองก็มีสายลมพัดผ่านพร้อมเสียงขอบคุณและกระซิบว่าให้ใช้ชีวิตตามสบาย ‘แน่นนอนความแค้นช่างมันซิ’

มีมี่หรือจินเชียง ตัดสินใจรีบทำความสะอาดบ้านก่อน ด้วยร่างนี้เป็นคนที่มีพละกำลังมหาศาลเวลาทำสิ่งใดจึงเป็นเรื่องง่ายไม่ว่าหาบน้ำหรือล่าหมี

“บ้านไม่ใหญ่มาก 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น ถึงดูแล้วจะเป็นแค่กระท่อมก็เถอะแต่ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับอยู่คนเดียว” และเสียงท้องเจ้ากรรมก็ดังขึ้น ของกินก็ไม่มีเงินก็โดนเอาไปจนหมด

นางจึงตัดสินใจเดินไปลำธารหลังบ้านเพื่อจับปลามาทำอาหาร

‘ติ๊ง จับปลา 5 ตัว มาทำปลาย่างแสนอร่อย ระบมีเกลือและพริกไทยให้ยืม’

“ปลาย่างก็ปลาย่าง”

ถอนหายใจดังๆ ก่อนจะเดินไปที่ลำธารหลังบ้างที่เต็มไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา ในมือมีเพียงธนูที่ตกอยู่ในบ้าน ได้แต่มองและถอนหายใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะยิงได้ไหม

“เจ้าป่าเจ้าเขาขอให้ลูกยิงธนูได้ด้วยเถิดดด” และมีเสียงลอยตามลมมา ‘ก็ยิงเป็นอยู่แล้วขอทำไม’

“……..” กวนตรีน

สุดท้ายก็ขี้เกียจทะเลาะกับลมจึงรีบเดินไปที่ลำธาร มองหาปลาอยู่ไม่นานก็ยกธนูขึ้นมาง้าง ‘ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว’ ลูกธนูพุ่งเข้าหาปลาตัวใหญ่ๆ ที่ดูแลใกล้หมดอายุขัยตายภายในดอกเดียว

“ปลาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย” จินเซียงรีบเก็บปลาไปทำความสะอาดเพื่อที่จะเอามาทำอาหาร ในตอนที่กำลังล้างปลาอยู่นั้น “ทำไมล้างเท่าไหร่เลือดก็ไม่หมดซักทีน่ะ” จินเซียงก็ออกแรงล้างต่อไป

จินเซียงมองตามไปที่ต้นทางของสายเลือดที่ไหลมาตามน้ำ “เวรแล้วนี่มันเลือดคน”

ปลาถูกเก็บลงมิติก่อนจะรีบเดินตามลอยเลือดไปที่ต้นน้ำ ปลายทางที่เดินมาถึงนั้นเต็มไปด้วยซากศพที่เกิดจากการต่อสู้ แต่โชคดีที่ดูเหมือนจะมีบางคนที่ยังไม่ตาย คนผู้นั้นสวมหมวกปิดบังใบหน้าในมือกำดาบแน่น และมีหญิงสาวอีกคนหลบอยู่ด้านหลัง

“เฮ้! พวกท่าน” จินเซียงเดินเข้าไปหาทั้งสอง

“ฝากคุณหนูด้วย ฟุบ!” คนผู้นั้นก็ล้มลงแม้ตอนแรกจะมีท่าทีระแวง

“เช่นนั้นไปบ้านข้าก่อน อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้”

“แล้วนางตายแล้วรึ” หญิงสาวถาม จินเซียงก็เลยจับชีพจรดู

“ยังไม่ตาย แต่ต้องรีบรักษา มาเถอะรีบไปจากที่นี่กัน”

“อื้ม” หญิงสาวรีบเก็บข้าวของจำเป็นแล้ววิ่งตามหญิงสาวชาวบ้านที่แบกเอาคนคุ้มกันที่บาดเจ็บขึ้นพาดบ่าแล้วเดินนำออกไปก่อน

จินเซียงเดินลงไปในลำธารเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เดินไม่นานก็มาถึงบ้านหลังน้อยใกล้ลำธารที่มีอุปกรณ์จับปลาวางอยู่หน้าบ้านแล้วพาทั้งคู่เข้าไปในบ้านก่อนจะทำแผลและเปลี่ยนผ้าให้คนเจ็บรวมถึงตรวจดูอาการให้หญิงสาวที่มาด้วยกัน

“ท่านเป็นใครกัน เหตุใดถึงรู้วิชาแพทย์ได้”

“เจ้าควรแนะนำตัวก่อนที่จะถามคนอื่นน่ะ”

“แซ่ถัง ชื่ออี้ ชื่อรองหลัน ถังอี้หลัน ส่วนนางเป็นคนสนิทข้าเองถิงถิง”

“จินเซียง พวกเจ้าพักก่อน ข้าทำแผลให้แล้วเดี๋ยวขอตัวไปย่างปลาก่อนมีอะไรก็เรียกน่ะ” 

“ขอบใจเจ้ามากน่ะ”

“อื้ม” พูดจบจินเซียงก็เดินออกไป

จินเซียงเดินไปที่กองกิ่งไม้ที่เตรียมไว้ก่อนจะจุดไฟและปรุงรสปลานิดหน่อยก่อนจะเสียบไม้ที่เตรียมไว้แล้วเอาไปปักไว้รอบๆ กองไฟ กลิ่นปลาย่างอ่อนๆ ลอยตามสายลมไปในอากาศ มันได้ปลุกคนเจ็บที่เกือบตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ ถิงถิงที่รู้สึกตัวเพราะความหิวก็ลืมตาขึ้นนก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ

“คุณหนู พวกเราอยู่ที่ไหนเจ้าค่ะ”

“บ้านสตรีชาวบ้านน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าพักเถอะเดี๋ยวถ้าปลาย่างเสร็จแล้วนางก็คงมาเรียกเอง”

“เจ้าค่ะ”

'ก๊อก ก๊อก' เสียงจินเซียงเคาะประตู

“เข้ามาเถอะ” อี้หลันบอกคนหลังประตู

“ข้ามาตามพวกเจ้าไปกินข้าว”

“ขอบใจมากน่ะ”

จินเซียงเอาอาหารจัดวางบนโต๊ะกลางห้อง สองนายบ่าวที่เห็นอาหารก็พากันกลื่นน้ำลายเพราะกลิ่นของมันที่หอมจนลืมตัวซัดอาหารทั้งโต๊ะหมดลงเหมือนไม่เคยมีอยู่

“จินเซียง เจ้าย่างปลาได้อร่อยยิ่งนัก” หยางอี้หลันเอามือตบท้องตัวเองเบาๆ

“ขอบคุณที่ชม แล้วพวกเจ้าทำอย่างไรต่อล่ะ”

“คงจะพักซักระยะแล้วค่อยกลับตระกูล ไม่ต้องห่วงข้าตอบแทนเจ้าแน่”

“อื้ม เช่นนั้นก็พักเถอะ เดี๋ยวเก็บของแล้วข้าจะไปอาบน้ำและจะกลับมานอน”

“จินเซียงนี่ยังไม่เย็นเลยนะ” เจ้าของชื่อหันกลับมามองคนถาม

“อี้หลันดูนอกหน้าต่างด้วย พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว” อี้หลันมองไปนอกหน้าต่างก็เห็นจริงดังว่า

“แล้วบ้านเจ้ามีกี่ห้องกัน” อี้หลันถาม

“หนึ่ง” พูดจบก็ยกอาหารที่ทานหมดแล้วออกไป

ไม่นานจินเซียงก็กลับมาพร้อมผ้าสำหรับปูนอน สองสาวมองเจ้าของบ้านเอาผ้าปูบนพื้นพร้อมจัดที่หลับที่นอนและล้มตัวลงนอน

“พวกเจ้าไม่นอนหรอ นี่ก็ดึกมากแล้วน่ะรีบนอนเถอะข้าคิดว่าอีกไม่กี่วันพวกนักฆ่าจะต้องหาที่นี่เจอแน่”

“นั่นซิน่ะ แล้วที่นี่คือที่ไหน”

“นอนเถอะ ฝันดี” จินเซียงไม่ตอบแต่หลับแทน

“อย่างงี้ก็ได้หรอ” สองสาวมองหน้ากันแล้วก็หลับพักผ่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่นางไก่ทอด   อดีต

    จินเซียงมองคนรักนั่งเงียบมาซักพักตั้งแต่ได้ฟังเรื่องที่เอมิลเล่า เรื่องของคนรักเก่าที่ตายจากไปไม่หวนกลับ ทั้งคู่มีหลายอย่างที่เหมือนกันอย่างแยกไม่ออกแตกต่างกันก็แค่สีผม “เจ้าก็คือเจ้า ข้ารักเจ้าด้วยใจจริง”“ท่านคงไม่คิดว่าข้าเป็นตัวแทนนางใช่รึไม่” “อดีตก็คืออดีตไม่อาจย้อนกลับได้อีก ความผิดพลาดครั้งนั้นเป็นบทเรียนให้ข้าว่าข้าจะต้องไม่ผิดพลาดอีกซ้ำสอง” “ท่านอย่าได้โทษตัวเองเลย” “นั่นซิน่ะ มาเถอะไปดูคนอื่นๆ ทำงานกัน” “เจ้าค่ะ” ทั้งคู่เดินออกนอกห้องทำงานตรงไปที่ท้ายจวนติดท่าเรือ โรงหลอมนั้นกำลังถูกสร้างอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ส่วนพื้นที่ด้านข้างและจวนหลังนั้นก็กำลังมีการปรับปรุงโดยใช้แผ่นไม้มาล้อมส่วนติดถนนไว้เพื่อไม่ให้คนเห็นว่าทำอะไรก่อนที่กำแพงจะสร้างเสร็จแต่เรื่องการเตรียมตัวสำหรับวัตถุดิบนั้นก็ได้คนจากตระกูลหวังที่ครอบครองการค้าเหล็กและแร่หลายชนิดมาช่วยในการจัดหา ทำให้เรื่องวัตถุดิบง่ายขึ้นมามาก เจ็ดวันต่อมาโรงหลอมก็สร้างเสร็จ ฮ่องเต้ทรงมาดูงานด้วยตัวเองเพราะอยากรู้ว่าการหล่อปืนใหญ่จะเหมือนตีดาบรึไม่ หลังจากที่โหรหลวงมาถึงก็เริ่มทำพิธีบูชาดินฟ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล ฮ่

  • แม่นางไก่ทอด   ประมูลทาส

    หลายวันต่อมาจินเซียงเข้าวังพร้อมโจวกุ้ยเฟยและตรงไปที่ตำหนักใหญ่ของฮองเฮาเพื่อส่งอาหารตามที่พระองค์เคยขอ “ถวายบังคมฝ่าบาท” “ตามสบายเถอะหลานข้า ว่าแต่ลมอะไรหอบเจ้ามาพร้อมนางกัน” พระนางมองไปที่โจวกุ้ยเฟย เมื่อเห็นไม่สะดวกพูดจึงไล่คนอื่นๆ ออกไปก่อน“เอาล่ะตอบมา” “เมื่อคืนกุ้ยเฟยไปที่จวนเพค่ะ เลยมาพร้อมกัน” “เรื่องนั้นซิน่ะ” “เพค่ะพี่หญิง” “เฮ้อ...พี่บอกแล้วว่าอย่าไปตามใจเยอะ ไม่เช่นนั้นจะเสียคนแล้วเป็นไงล่ะ” “ถ้าไม่ติดว่าการทำร้ายองค์ชายเท่ากับทำร้านสายเลือดมังกรน่ะ น้องจะตบแม่งหัวทิ่มไปเลย” โจวกุ้ยเฟยพูดพร้อมแสดงท่าทาง จินเซียงได้แต่ยืนยิ้ม“พอเลย...ข้าคนว่าเจ้าเข้าวังแล้วจะสงบลงแต่ที่ไหนได้” “พวกท่านใจเย็นก่อนแล้วรีบมาทานอาหารก่อนที่จะ...อ่าว!...หายไปไหน!” จินเซียงมองหากล่องอาหารที่เอามาด้วย “ง่ำๆ อาย่อยมากน้องรอง” “ชู่~ เงียบๆ หน่อย นางหูดีมาก” “เอ่ออ~ พี่รอง น้องว่า~” “อะฮึม!...แม่ว่า…แม่สอนพวกเจ้ามาดีน่ะ สอนทั้งอบรมมารยาทสตรีหรือว่าต้องให้แม่นมทบทวนความจำให้!” ฮองเฮายืนท้าวเอวมองลูกสาวของตน“ถะ...ถวายพระพรเสด็จแม่เพค่ะ” ฉางหรูยิ้มแล้วรีบเอากล่องอาหารซ่อนไว้หลังม่านอย่าง

  • แม่นางไก่ทอด   เผยอิงกลับมาแล้ว

    หลายวันต่อมาที่จวนใหญ่แห่งหนึ่ง มีใครบางคนกำลังนั่งกลุ้มใจเพราะไม่สามารถทำตามแผ่นได้สำเร็จแต่คนที่ส่งไปนั้นกลับหายสาบสูญไปทุกรายอย่างไม่ทราบสาเหตุ “ให้มันได้แบบนี้ซิ ทำงานกันภาษาอะไรถึงได้หายหัวกันไปหมด” “นายท่านขอรับ พวกเราไปพบร่องรอยบางอย่างขอรับ” ชายชุดดำส่งกระดาษให้ผู้เป็นนาย “ตายหมด! เป็นไปได้ไง” “ขอรับ ดูเหมือนว่าจะมีคนคอยหนุนหลังอยู่” “ท่านพ่อ แบบนี้เหล่าอาหารของเราจะไม่แย่รึขอรับ” “พ่อไม่กลัวเรื่องนั้นแต่ห่วงเรื่องว่ามันจะกระทบงานใหญ่มากกว่า แล้วเรื่องสองตระกูลนั้นเป็นเช่นไรและเรื่องที่ให้ไปสืบได้ความเช่นไร” “ขอรับนายท่าน สองตระกูลนั้นพากันปิดปากเงียบหลังจากที่ตระกูลที่เคยหมั้นหมายต่างพากันขอถอนหมั้น ทำให้หญิงสาวในตระกูลนั้นต่างพากันเก็บตัวขอรับ ส่วนเรื่องที่ให้ไปสืบนั้นได้ความมาว่าแม่ทัพหยางยังนอนไม่ได้สติขอรับ แต่การจะเข้าใกล้เรือนนั้นถือเป็นเรื่องยากมากเพราะมีการคุ้มกันที่แน่นหนาและไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมจนกว่าท่านขุนพลจะกลับมาขอรับ” “หึหึหึ ดีแบบนั้นแหละดี ไปตามนักพรตนั่นมาเราจะใช้นางเป็นตัวประกันให้เจ้านั้นยอมทำตามเงื่อนไขของเรา” “แต่ท่านพ่อ ถ้านางไม่ยอมล่ะขอ

  • แม่นางไก่ทอด   เริ่มกิจการร้านไก่ทอด

    ต้นเดือนเก้าเหล่าอาหารก็สร้างจนเสร็จและกำหนดที่จะเปิดก็คืออีกสามวันซึ่งตรงกับวันที่เก้าพอดี แม้ใจจะรู้ดีว่าไม่ควรจัดงานมงคลในช่วงนี้แต่ด้วยที่ว่าถ้าคนที่นอนอยู่รู้ว่าไม่ยอมเปิดเหล่าอาหารคงไม่ไม่ดีแน่ถ้าตอนที่นางตื่นขึ้นมาแล้วมีคนบอกให้รู้“ท่านพ่อ ท่านแม่” จินเซียงหลังจากอาบน้ำให้คนรักแล้วก็มาหาผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูลที่ห้องโถง“น้องเป็นเช่นไรบ้างลูก” หลอหลันถาม“เจ้าค่ะท่านแม่ ลูกพึ่งอาบน้ำให้นางและป้อนยา”“เจ้าคงไม่ได้ทำอะไรลูกแม่ใช่รึไม่” ชุ่ยหยุนหรือฮูหยินหยางถามจินเซียงได้ยินก็หน้าแดง “ลูกรอนางตื่นก่อนเจ้าค่ะ”“อืม พวกแม่เชื่อเจ้าและหวังว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี” หลอหลันให้กำลังใจลูกสาว แต่ก็ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง ขอให้เผยอิงฟื้นขึ้นมาในเร็ววัน“จริงซิ และชื่อร้านคิดได้รึยัง” ฮูหยินเฒ่าตระกูลถังถาม“เจ้าค่ะ ขุนพลนิทราเจ้าค่ะ” ทั้งห้องเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไร“หลานย่า เจ้าไม่มีชื่ออื่นแล้วรึ” ฮูหยินเฒ่าตระกูลถังรู้สึกอายแทน“ยังเจ้าค่ะ”“แย่แน่แบบนี้ฮ่องเต้ได้บ่นแน่ๆ พระองค์รอทำป้ายร้านให้เจ้าอยู่น่ะ” เอี้ยซ่งบ่นใส่ลูกสาวคนโต ที่นางนั้นมีปัญหาเรื่องการตั้งชื่อ“เซียงอิงขุนพลไก่ทอ

  • แม่นางไก่ทอด   สิ้นสุดสงคราม

    ทุกคนมองเป็นทางคนผู้นั้นแล้วก็มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ยิ่งอาวุโสถังผู้เป็นปู่ที่มองหน้าหลานไม่แท้อย่างตั้งคำถาม แต่คนที่ตกใจที่สุดนั้นคือพระชายาทั้งสองของรัชทายาท “พวกเจ้ารู้จักนางรึ” “พะ เพค่ะ นางคือคนที่ช่วยพวกเราไว้จากกลุ่มโจรเมื่อหลายปีก่อนเพค่ะ ตอนที่พวกเราตามเสด็จไปล่าสัตว์เพค่ะ” “เพค่ะ ตอนที่พานางมาพักรักษาตัวท่านก็น่าจะเคยเห็น รวมถึงยังเคยช่วยองค์หญิงจากการถูกลักพาด้วยน่ะเพค่ะ” “เจ้าเป็นคนช่วยลูกของเราเมื่อตอนนั้นรึ” “ข้าเองก็จำอะไรได้ไม่ค่อยมาเพราะเมื่อหลายเดือนก่อนเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้ความจำบางส่วนหายไป ต้องขอโทษด้วย” จินเซียงพูดแก้ตัว เพราะจำไม่ได้จริงๆ“เช่นนั้นเรื่องการเจรจาสงบศึกข้าจะช่วยพูดให้ส่วนเรื่องการแต่งงานคงมิอาจช่วยได้” พระมเหสีสูงสุดแห่งเหลียวหรือจะเรียกว่าฮองเฮาก็ได้ตามความคุ้นเคยของผู้มาจากภาคกลาง พระนางรับปากเรื่องเจรจาแต่อีกเรื่องไม่รับปาก“ท่านวางใจเถอะ ข้าไม่คิดจะจับใครแต่งงาน แต่ถ้าท่านข่านเสนอมา ทางเราก็คงยากจะปฏิเสธนอกเสียจาก” “นอกเสียจากอะไรกัน” “นอกเสียจากจะมีใครเสียตัวในคืนนี้แล้วข้าจะรีบเขียนสารด่วนกลับไปขออนุญาตเรื่องการแต่งงานเจริญสั

  • แม่นางไก่ทอด   ไร้ความช่วยเหลือ

    เช้าวันต่อมาเสียงกลองรบดังสนั่นทั่วเมือง ชาวบ้านชาวเมืองต่างพากันสวดมนต์ขอพรให้กองทัพมีชัยเหนือศัตรูผู้รุกรานถึงแม้จะมีหวังน้อยเต็มทีแต่ก็ยังมีแสงสว่างอยู่ในคือสองแม่ทัพที่ตอนนี้ยืนคู่กันอยู่บนกำแพงเมือง “อันเตรียย่าข้าว่ามันสวยจริงๆ ถ้าเทียบกับกองทัพของอัศวินแล้ว” “นั่นซิ แม้จะอยู่ในสงครามมาหลายสิบปีก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้” “ท่านพี่ ที่นั่นเป็นเช่นไร” เผยอิงถาม “ที่นั่นเรารบกันด้วยความเชื่อและศรัทธา บ้างก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป กองทัพนั้นอืม จะว่าไงดีล่ะ พี่ว่าดาบที่อัศวินใช้คงจะฟันพวกทหารเหลียวไม่เข้าแน่ๆ” “ใช่แล้วน้องสะใภ้ ดาบพวกนั้นมันอาศัยน้ำหนักอย่างเดียว ส่วนดาบที่เบาก็เบาเกินไปทำให้สู้กับพวกใส่เกราะเหล็กไม่ได้” “ข้าชอบดาบวงพระจันทร์ กับดาบใหญ่อันนี้มากกว่า” จินเซียงมองดาบคู่ใจในมือ ความสมดุลของดาบทั้งสองนั้นดีมาก“ข้าอยากถามมานานแล้วว่าทำไมท่านถึงพกอาวุธไว้เยอะแยะ”“ไม่รู้ซิ มันชินแล้ว” จินเซียงตอบคนรักแล้วหันไปมองที่สนามรบที่ตอนนี้ทหารเหลียวได้ลากหอตีเมืองมารอพร้อม“สั่งยิงได้เลย เราไม่จำเป็นต้องให้เกียรติพวกมันเพราะพวกมันเหยียบย่ำและฉีกสัญญาของพวกเราก่อน” จินเซียงหันไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status