Share

ตอนที่ 12 สมบัติไหที่หนึ่ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-23 10:33:13

จันดีเดินไปหยิบจอบมาเพื่อถางหญ้าออกจากโคนต้น และพรวนดินให้ แอบลุ้นในใจว่ากุหลาบพันปีสองต้นนี้มีสีอะไร และไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไรด้วย ตอนทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว เคยไปเที่ยวทางภาคเหนือบ่อย ๆ ได้ชมแปลงดอกไม้หลายที่ ทุกที่ที่ไปล้วนสวยงามตระการตา และเคยแอบฝันว่าอยากปลูกดอกไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ แล้วเปิดให้คนเข้ามาเที่ยวชม เก็บค่าเช่าไม่แพงมาก แต่ตอนนี้ความฝันของเธอมันช่างริบหรี่นัก เธอจะเอาเงินจากที่ใดมาลงทุนกันเล่า ถ้าจ่ายค่าบ้านครบ และใช้เงินไปด้วยทุกวัน เงินที่เหลืออยู่ก็มีไม่ถึงสองหมื่นแล้ว เธอต้องรีบหาทางทำเงินให้เร็วที่สุด

ขอให้ข้าพเจ้าคิดหาอาชีพทำเงินเลี้ยงลูกได้โดยเร็วด้วยเถิด คิดแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้ ลูกทั้งสองมองหน้ากันแบบงง ๆ ที่เห็นแม่ทำเช่นนั้น

จันดีใช้จอบถางหญ้าออกจากโคนต้นกุหลาบพันปี โดยมีลูกนั่งเล่นขายของอยู่ใต้ต้นไม้ห่างจากแม่หลายเมตร เพียงแค่ปลายจอบแตะถึงพื้นดินกระพรวนสีทองร้อยด้วยเชือกไหมสีแดงที่ห้อยอยู่บนคอก็ส่งเสียงดังกระหึ่มก้องอยู่ในหู เธอดึงกระพรวนออกมาจากเสื้อแล้วเพ่งมองมัน หันไปมองลูกทั้งสอง พวกเขายังนั่งเล่นโดยไม่ได้สนใจแม่ จันดีขมวดคิ้ว หรือลูกของเธอจะ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 14 ตกต้นไม้

    ฉายระวีแหงนหน้าขึ้นไปบนต้นมะม่วง มือน้อย ๆ ชี้บอกแม่ “แม่คะลูกนั้นด้วยค่ะ” “ไหน” “นั่นไงคะอยู่ใกล้ ๆ มือแม่ไง” “อีกลูกนึงอยู่บนหัวแม่” ฉัตรกุล จันดีเก็บมะม่วงโยนลงพื้นให้ลูก เพราะลูกร้องอยากกินมะม่วง แต่หาไม้สอยไม่เจอจึงปีนขึ้นมาเอง “พอรึยัง” “พอแล้วครับ” ได้มะม่วงมาห้าหกลูกแล้ว จันดีจึงค่อย ๆ ไต่ต้นมะม่วงลงมา มันไม่ได้สูงมากแต่เธอก็ยังขาสั่นมือสั่น เกิดมาเธอเคยปีนต้นไม้เมื่อไรกัน ในที่สุดจันดีก็ตกต้นมะม่วงก่อนจะถึงพื้นเพียงหนึ่งเมตร ตุบ! “โอ๊ย” “แม่!” ฉัตรกุลกับฉายระวีวิ่งไปประคองแม่ยืนขึ้น แต่จันดีลุกไม่ไหว อีกทั้งเด็กทั้งสองยังตัวเล็กมีแรงไม่มากพอ สุริยารีบวิ่งมาที่ต้นมะม่วงรีบถามออกไป “ลุกไหวไหม” “ไหวค่ะ” ตอบไหวแต่ใบหน้าบิดนิ่ว รู้สึกปวดร้าวสะโพกไปหมด จันดียืดกายขึ้นพยายามจะลุกหลายครั้งแต่ก็ลุกไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจไปช่วยพยุงขึ้น สุริยาหันไปบอกเด็กชาย “ฉัตรหิ้วกระติกน้ำตามลุงไปนะ ส่วนฉายถือถุงมะม่วงตามลุงมานะ” “ครับ/ค่ะ”

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 13 อยากมีพื้นในการเพาะปลูก

    จันดีตกลงจ้างเหมาสุริยาให้ตัดหญ้าและตัดกิ่งไม้รอบบ้านเป็นเงินหนึ่งหมื่นบาท ถึงสุริยาไม่อยากได้มากขนาดนั้น แต่จันดีก็ยืนยันที่จะจ้างด้วยเงินจำนวนนี้ จากนั้นเขาก็เริ่มทำงานทันที โดยเริ่มจากใช้เครื่องตัดหญ้าตัดหญ้าในบริเวณบ้านให้เธอก่อน ก่อนเดินจากไปจันดียังกำชับกับเขาว่า “พี่แสงระวังต้นดอกไม้ด้วยนะคะ ไม่ต้องตัดใกล้ต้นมันมากก็ได้ เดี๋ยวฉันเอาจอบมาถางหญ้าออกเองค่ะ” เธอต้องรักษาดอกไม้ของผู้มีพระคุณไว้ให้มากที่สุด “ครับ” ภายในบริเวณบ้านมีหินเล็กหินน้อยอยู่มาก การตัดหญ้าคงใช้เวลาอยู่สักหน่อย สุริยาต้องสวมรองเท้าบูทและแว่นตากันเศษหินเศษกิ่งไม้เข้าตาเป็นอย่างดีส่วนจันดีกับลูกปลีกตัวไปทำปลาที่ซื้อมาจากเขาเสียก่อน ถึงจะมีตู้เย็นแต่เธอก็ไม่อยากแช่ไว้นาน อีกทั้งทำปลาตากแห้งไว้ เย็นนี้จะได้ทำอาหารกินได้เลย “แม่คะ ลุงคนนั้นเขามาตัดหญ้าช่วยเราเหรอคะ” “เรียกลุงแสงสิลูก” “ค่ะ ลุงแสงมาช่วยเราเหรอคะ” “แม่จ้างเขามาตัดจ้ะ แม่ทำคนเดียวไม่ไหว” อีกทั้งไม่อยากรบกวนครอบครัวป้าด้วย เธอได้ยินพี่สะใภ้บอกว่าเขาต้องการใช้เงิน และเธอ

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 12 สมบัติไหที่หนึ่ง

    จันดีเดินไปหยิบจอบมาเพื่อถางหญ้าออกจากโคนต้น และพรวนดินให้ แอบลุ้นในใจว่ากุหลาบพันปีสองต้นนี้มีสีอะไร และไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไรด้วย ตอนทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว เคยไปเที่ยวทางภาคเหนือบ่อย ๆ ได้ชมแปลงดอกไม้หลายที่ ทุกที่ที่ไปล้วนสวยงามตระการตา และเคยแอบฝันว่าอยากปลูกดอกไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ แล้วเปิดให้คนเข้ามาเที่ยวชม เก็บค่าเช่าไม่แพงมาก แต่ตอนนี้ความฝันของเธอมันช่างริบหรี่นัก เธอจะเอาเงินจากที่ใดมาลงทุนกันเล่า ถ้าจ่ายค่าบ้านครบ และใช้เงินไปด้วยทุกวัน เงินที่เหลืออยู่ก็มีไม่ถึงสองหมื่นแล้ว เธอต้องรีบหาทางทำเงินให้เร็วที่สุดขอให้ข้าพเจ้าคิดหาอาชีพทำเงินเลี้ยงลูกได้โดยเร็วด้วยเถิด คิดแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้ ลูกทั้งสองมองหน้ากันแบบงง ๆ ที่เห็นแม่ทำเช่นนั้น จันดีใช้จอบถางหญ้าออกจากโคนต้นกุหลาบพันปี โดยมีลูกนั่งเล่นขายของอยู่ใต้ต้นไม้ห่างจากแม่หลายเมตร เพียงแค่ปลายจอบแตะถึงพื้นดินกระพรวนสีทองร้อยด้วยเชือกไหมสีแดงที่ห้อยอยู่บนคอก็ส่งเสียงดังกระหึ่มก้องอยู่ในหู เธอดึงกระพรวนออกมาจากเสื้อแล้วเพ่งมองมัน หันไปมองลูกทั้งสอง พวกเขายังนั่งเล่นโดยไม่ได้สนใจแม่ จันดีขมวดคิ้ว หรือลูกของเธอจะ

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 11 ขอเช่าบ้าน

    สุริยาตื่นขึ้นมาแล้ว เขาบิดขี้เกียจไปมา ไม่ได้รีบร้อนอะไร ทำตัวตามสบายเหมือนที่ทำอยู่ทุกวัน พับผ้าห่มเก็บหมอน เก็บมุ้ง ขายาวก้าวเท้าลงจากกระท่อม มุ่งหน้าไปยังทางหมาลอดดังเดิม ป่านนี้ทุกคนในบ้านคงยังไม่ตื่น หรือถ้าตื่นพวกเขาก็คงคิดว่าสุริยาไปนอนบ้านเพื่อน แทนที่แม่เลี้ยงจะกังวล เธอกลับดีใจด้วยซ้ำที่ไม่มีเขาคอยขวางหูขวางตา มาถึงทางหมาลอดสุริยาก้มลงผลักหินก้อนใหญ่นั้นออก มือทั้งสองชะงักเมื่อด้านข้างคล้ายมีดวงตาของใครบางคนมองอยู่หรือจะเป็นผีเจ้าของบ้าน!เขาเหลือบมองไปทางซ้ายมือที่คิดว่ามีใครยืนอยู่ตรงนั้น “อุ้ย!” สุริยาสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ห่างจากเขาเกือบสิบเมตร และเขาก็จำได้ในทันทีว่าเธอคือญาติผู้น้องของไอ้ยุตเพื่อนของเขา สุริยายืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง ซึ่งน่าจะราว ๆ หนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตร คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ไม่นานจึงคิดถึงคำพูดของเฉิดฉันขึ้นมาได้ว่าญาติคนนี้จะย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านนี้ หลายอึดใจกว่าจันดีจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วถามเขาว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่แต่เช้าคะ” พร้อมทั้งก้าวเท้าเดินช้า ๆ เข้ามาหาคนที่บุกรุกบ้านของเธอต

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 10 กระพรวนสมบัติ

    วันต่อมาจันดีก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว ทั้งที่ยังถางหญ้าไม่เสร็จ แต่เธอรู้สึกเกรงใจลุงกับป้า จึงรีบย้ายออก และคิดว่าจะทำความสะอาดไปทุกวัน ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์บ้านก็คงน่าอยู่มากแล้ว เฉิดฉันเตรียมเสื่อกก ผ้าห่ม ที่นอน หมอนมุ้งผืนใหม่ให้หลานสาวหลายชุด อีกทั้งยังเตรียมพริก เกลือ ปลาร้า และข้าวสารให้หลานสาวอีกด้วย ส่วนเครื่องครัวจันดีบอกป้าว่าจะเข้าไปซื้อในตลาดเอง เย็นวันนั้นจันดีกำลังถางหญ้าอยู่ข้างกำแพง พลันได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างถึงพริกถึงขิง “เมื่อไรแกจะหาเงินไปใช้หนี้ครูถาสักที วันนี้เมียเขามาทวงหนี้ฉันอีกแล้วนะ” “ผมก็หาอยู่นี่ไง แม่ไม่เห็นเหรอ แม่ก็รู้ว่าผมไม่เคยอยู่นิ่งสักวัน วัน ๆ เอาแต่ทำงานงก ๆ แม่เคยเห็นผมพักบ้างไหม” แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟังเหตุผล “ถ้าแกไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ แกก็ตัดสินใจแต่งงานกับยัยรินซะ” “ผมไม่แต่ง และจะไม่มีวันแต่งด้วย” จันดีจำได้ว่าเสียงที่ตวาดประโยคสุดท้ายนั้นเป็นเสียงของคนที่ชื่อแสงเพื่อนของชยุต และเขาคงทะเลาะอยู่กับแม่ของตน เธอถอนหายใจคล้ายปลงตก ไม่ว่าครอบคร

  • แม่ม่ายจำยอมพร้อมกับกระพรวนสมบัติ    ตอนที่ 9 ทำความสะอาดบ้าน

    หลังมื้ออาหารเย็นฉัตรกุลกับฉายระวียอมนั่งเล่นกับคุณภัทรลูกชายของลุงอย่างว่าง่าย จันดีจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนฟัง เล่าเหมือนกับเล่าให้เฉิดฉันและเบญญาฟัง คือเธอกับสามีเลิกกันตั้งแต่เด็กสองคนนี้ยังไม่เกิด และต่างคนต่างแยกย้ายกันไปโดยไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ถึงจะมีบางอย่างที่เป็นเหมือนช่องโหว่ในเรื่องราวที่จันดีเล่า แต่ทุกคนก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน เพราะไม่อยากคาดคั้นเธอมาก บางครั้งกว่าจันดีจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ เธออาจจะบอบช้ำมามากแล้วก็เป็นได้ แต่ทุกคนก็ยังเป็นห่วงเรื่องที่จันดีซื้อบ้านหลังนั้น “แต่บ้านหลังนั้นน่ากลัวมากเลยนะจันดี มีคนที่อยากซื้อบ้านหลังนั้นหลายคน แต่ก่อนถึงวันจ่ายเงินก็ต้องมีอันเป็นไปทุกราย” นอบเอ่ยขึ้นกับหลาน “แต่วันนี้ฉันจ่ายเงินมัดจำไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นนี่คะ” นอบหันมาสบตากับภรรยา เฉิดฉันจึงยืนยันอีกเสียง “ใช่จ้ะพี่ ฉันคิดว่าเจ้าของบ้านอาจจะอยากให้จันดีไปอยู่บ้านหลังนั้นก็ได้” “ฉันก็คิดเช่นนั้นค่ะ” จันดีว่าเสริมขึ้นอีก “ถ้าคิดอย่างนั้นฉันก็คงไม่ขัดข้องอะไร” นอบกล่าว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status