Beranda / รักโบราณ / แม่หม้ายแฝดสาม / ประกาศรับสมัครแม่ครัว

Share

ประกาศรับสมัครแม่ครัว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-16 04:46:47

เป้าหมายใหม่ของมารดา

ซูหนิงเหยียนมองหวังซื่อที่ยิ้มอย่างจริงใจ นางเข้าใจดีว่าการมีโอกาสได้ทำอาหารขายในร้านเป็นเรื่องที่ดี แต่...

นั่นไม่ใช่เป้าหมายของนาง

นางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลูก ๆ ทั้งสามที่นั่งมองมาอย่างสงสัย ดวงตาไร้เดียงสาของพวกเขาทำให้หัวใจของนางอบอุ่น

"ข้าขอบคุณในความหวังดีของแม่นางหวัง แต่ข้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"

หวังซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย "เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น? เจ้าหมายถึงอะไร?"

ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ นางคิดถึงป้ายประกาศที่เห็นในตลาด 'ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง'

"ข้า… ตั้งใจจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง"

"ว่าอย่างไรนะ!?"

หวังซื่อตาโตด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่นาง ลูก ๆ ของซูหนิงเหยียนเองก็เบิกตากว้าง

"ท่านแม่… ท่านแม่จะเข้าไปในวังหรือเจ้าคะ?" เด็กหญิงฝาแฝดถามเสียงเบา

"ใช่" ซูหนิงเหยียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "ข้าต้องการให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น หากข้าได้เป็นแม่ครัวในวังหลวง พวกเจ้าก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนในวัง ข้าอยากให้พวกเจ้ามีอนาคตที่ดีกว่าเดิม"

เด็กทั้งสามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กชายคนโตจะกำมือแน่น ดวงตาของเขามีประกายมุ่งมั่น

"ท่านแม่ ข้าจะเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน หากข้ามีโอกาสเข้าไปศึกษาในวัง ข้าจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง!"

"ข้าด้วยเจ้าค่ะ!"

"ข้าก็เช่นกัน!"

ฝาแฝดหญิงรีบพยักหน้าตามกัน ดวงตาของพวกนางเปล่งประกายด้วยความหวัง

หวังซื่อที่ยืนฟังอยู่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้า "ข้าชื่นชมในความตั้งใจของเจ้ามาก แต่เจ้ามั่นใจหรือว่าจะสอบผ่าน? ได้ยินมาว่าการคัดเลือกแม่ครัวในวังหลวงนั้นยากยิ่งนัก"

ซูหนิงเหยียนยิ้ม "ข้าย่อมต้องลองดู หากไม่พยายาม ข้าก็ไม่มีวันรู้ว่าตัวเองทำได้หรือไม่"

หวังซื่อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะ "ดี! ในเมื่อเจ้ามีความมุ่งมั่นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้าหรอก หวังว่าเจ้าจะสมหวังนะ!"

ซูหนิงเหยียนยิ้มรับ "ขอบคุณ"

นางหันไปมองลูก ๆ อีกครั้ง จากนี้ไป นางจะต้องพยายามให้มากขึ้น เพื่ออนาคตของพวกเขา!

ถ่ายทอดวิชาอาหาร

หลังจากตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะสมัครเป็นแม่ครัวในวังหลวง ซูหนิงเหยียนก็เริ่มเตรียมตัวอย่างจริงจัง

แต่ในขณะเดียวกัน นางก็สังเกตเห็นว่า หวังซื่อ แม่นางข้างเรือนนั้นเป็นคนดีและมีน้ำใจ ถึงแม้จะเป็นแม่หม้ายแต่ก็ดูแลลูกของตนเองอย่างขยันขันแข็ง

ทว่า… การเงินของนางก็ดูจะฝืดเคืองไม่น้อย

วันหนึ่ง หลังจากมื้อเช้า ซูหนิงเหยียนจึงตัดสินใจเดินไปเคาะประตูเรือนของหวังซื่อ

เคาะ! เคาะ! เคาะ!

“แม่นางซู?” หวังซื่อเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้างุนงง “มีเรื่องอันใดหรือ?”

ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ข้าอยากชวนเจ้ามาลองเรียนทำอาหารกับข้าสักหน่อย”

หวังซื่อตาโตขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เรียนทำอาหาร?”

“ใช่” นางพยักหน้า “ข้าสังเกตเห็นว่าเจ้าก็ดิ้นรนเลี้ยงลูกเช่นเดียวกับข้า หากเจ้ามีฝีมือทำอาหารดีขึ้น บางที… เจ้าจะมีทางหาเงินเพิ่มขึ้นอีกทาง”

หวังซื่ออึ้งไปครู่หนึ่ง นางเป็นแม่หม้ายมานาน มีเพียงงานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นรายได้ การมีทักษะติดตัวเพิ่มขึ้นย่อมเป็นเรื่องดี

“ข้า… จะไม่เป็นการรบกวนเจ้าหรือ?”

“ไม่เลย” ซูหนิงเหยียนหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ต้องฝึกฝีมือของตนเองเช่นกัน สอนเจ้าไปด้วยก็เป็นการทบทวนไปในตัว”

หวังซื่อครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าหนักแน่น “เช่นนั้นข้าขอรบกวนเจ้าแล้ว!”

เริ่มต้นการสอน

วันนั้น ซูหนิงเหยียนจึงให้หวังซื่อมาช่วยนางทำอาหาร โดยเริ่มจากเมนูง่าย ๆ อย่าง ข้าวผัดไข่

“อันดับแรกต้องเลือกข้าวให้ดี” นางอธิบาย “ข้าวที่เหลือจากเมื่อวานจะดีที่สุด เพราะข้าวจะเป็นเม็ดร่วน ไม่แฉะเวลาผัด”

หวังซื่อพยักหน้ารับก่อนจะตั้งใจดูการสาธิตของซูหนิงเหยียน

“จากนั้นก็ตอกไข่ลงไป เจ้าอย่าตีไข่ก่อน ให้เจาะไข่แดงแล้วตีในกระทะเลย ไข่จะเคลือบข้าวได้ทั่วถึง”

หวังซื่อทำตามอย่างตั้งใจ นางเริ่มเข้าใจเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ข้าวผัดไข่อร่อยขึ้น

หลังจากข้าวผัดไข่สำเร็จ ซูหนิงเหยียนก็สอนเมนูถัดไป นั่นคือ ขนมทอดกรอบน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นของหวานที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ

“ข้าไม่เคยทำของหวานมาก่อนเลย” หวังซื่อยิ้มแหย ๆ

“ไม่เป็นไร ค่อย ๆ ฝึกไป” ซูหนิงเหยียนปลอบก่อนจะสอนให้หวังซื่อผสมแป้ง นวดแป้งให้เนียน แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จากนั้นราดด้วยน้ำผึ้งอุ่น ๆ

กลิ่นหอมหวานกระจายไปทั่วเรือน เด็ก ๆ ที่เล่นอยู่ใกล้ ๆ ต่างมามุงดูด้วยตาเป็นประกาย

“หอมจังเลย!”

“ท่านแม่ทำอะไรอยู่หรือ?”

หวังซื่อมองดูขนมที่เพิ่งเสร็จแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อลองชิม นางก็ต้องตกใจ!

"อร่อยมาก!"

ซูหนิงเหยียนยิ้มบาง ๆ “หากเจ้าฝึกฝนอีกหน่อย ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถนำไปขายในตลาดได้แน่นอน”

หวังซื่อกำถ้วยขนมแน่น นางรู้สึกขอบคุณจากใจ

"ขอบคุณมาก แม่นางซู! ข้าจะฝึกฝนให้ดีที่สุด!"

 

ก้าวแรกสู่ตำแหน่งแม่ครัวในวังหลวง

รุ่งเช้าของวันใหม่ ซูหนิงเหยียนปลุกลูก ๆ ทั้งสามแต่เช้าตรู่ นางอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเตรียมเสบียงใส่ห่อผ้าเล็ก ๆ พอให้พวกเขากินระหว่างรอ

“วันนี้ท่านแม่จะไปสมัครเป็นแม่ครัวในวังใช่ไหมเจ้าคะ?” ฝาแฝดหญิงคนหนึ่งถามเสียงใส

“ใช่” ซูหนิงเหยียนลูบศีรษะบุตรสาวอย่างอ่อนโยน “พวกเจ้าไปกับข้าด้วยนะ”

เด็กชายคนโตขมวดคิ้ว “พวกเราจะเข้าไปในวังได้หรือขอรับ?”

“ไม่ได้เข้าไปข้างในหรอก” นางยิ้มบาง ๆ “แต่ข้าจะให้พวกเจ้าไปรออยู่ที่จุดพักม้าใกล้ประตูวัง”

เด็ก ๆ พยักหน้ารับ แม้จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็เต็มใจติดตามมารดา

การเดินทางสู่วังหลวง

ซูหนิงเหยียนพาลูก ๆ ออกจากเรือนตั้งแต่เช้าตรู่ ระหว่างทาง หวังซื่อที่ทราบข่าวก็เข้ามาส่งด้วยรอยยิ้ม

“ขอให้เจ้าผ่านการคัดเลือกนะ!”

“ขอบคุณ ข้าจะทำให้ดีที่สุด” ซูหนิงเหยียนตอบก่อนจะก้าวเดินต่อไป

พวกนางใช้เวลาหลายชั่วยามกว่าจะมาถึงบริเวณใกล้วังหลวง ประตูเมืองใหญ่ตั้งตระหง่าน เบื้องหน้ามีคนเดินเข้าออกขวักไขว่ ส่วนจุดที่มีการคัดเลือกแม่ครัวนั้นอยู่ลึกเข้าไปในลานกว้างข้างประตูวัง

“เด็ก ๆ พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนนะ” ซูหนิงเหยียนบอกก่อนจะก้มลงจัดเสื้อผ้าลูก ๆ ให้เรียบร้อย “อย่าไปไหนไกล รอท่านแม่กลับมานะ”

เด็กทั้งสามพยักหน้าหงึกหงัก “พวกเราจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ/ขอรับ!”

เมื่อแน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ในที่ปลอดภัย ซูหนิงเหยียนจึงก้าวเดินไปยังสถานที่คัดเลือกแม่ครัว

การคัดเลือกอันเข้มข้น

หน้าลานกว้างเต็มไปด้วยหญิงสาวและสตรีวัยกลางคนที่มายืนรอการคัดเลือก ทุกคนถือห่อเสบียงติดตัวมา พร้อมแสดงฝีมือเมื่อถึงเวลา

ขันทีผู้ดูแลการคัดเลือกยืนอยู่ด้านหน้า เขามองกลุ่มผู้สมัครก่อนจะประกาศเสียงดัง

“การคัดเลือกแม่ครัววังหลวงมีสามรอบ!

รอบแรก: ทดสอบความสามารถด้านอาหารพื้นฐาน

รอบที่สอง: ทดสอบทักษะการใช้วัตถุดิบในวัง

รอบสุดท้าย: ทำอาหารให้ขุนนางชิม”

เสียงพึมพำดังขึ้นจากกลุ่มผู้สมัคร ซูหนิงเหยียนมองไปรอบ ๆ นางรู้ว่าต้องแข่งขันกับหญิงสาวมากมาย แต่ก็ไม่ได้หวาดหวั่น

‘เพื่ออนาคตของลูก ๆ ข้าจะต้องผ่านไปให้ได้!’

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แม่หม้ายแฝดสาม   จบ

    ทุกสิ่งเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากการเปิดเผยความจริงนั้น ทุกคนในราชวงศ์ต่างจับตามองการดำเนินการของลู่เหรินเจ๋อและซูหนิงเหยียน เมื่อมีการเตรียมการทางการทหารและการเมืองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามใหม่ที่เกิดขึ้น ลู่เหรินเจ๋อและซูหนิงเหยียนเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่อาจจะเข้ามาโจมตีได้ทุกเมื่อ ทั้งสองมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถทำลายแผนการของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว หากพวกเขาทำงานร่วมกันและสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ ลู่เหรินเจ๋อ "ตอนนี้เราไม่สามารถถอยหลังได้แล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเราต้องเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ" ซูหนิงเหยียน: "เราจะไม่ยอมให้ทุกสิ่งที่เรารักถูกทำลาย เราจะสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับราชวงศ์นี้" ทั้งสองมองไปข้างหน้า ด้วยความมั่นใจและความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลายเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความมุ่งมั่นที่ลู่เหรินเจ๋อและซูหนิงเหยียนได้พยายามกันมาเริ่มเห็นผล ความรักและการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองฝ่าย ทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับอุปสรรคและอันตรายต่างๆ ได้อย่างมั่นคงทั้งสองได้ร่วมมือกันหาวิธีป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ความรัก

    ในห้องที่เงียบสงบของตำหนักหลังใหญ่แห่งนี้ ทั้งพระเอกและซูหนิงเหยียนนั่งอยู่ข้างกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายวันมานี้ แม้ภายนอกจะดูสงบ แต่ทั้งสองคนรู้ดีว่าความจริงนั้นแฝงไปด้วยความซับซ้อนและอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา“ข้ารู้ดีว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร...” องค์ชายเจ็ดกล่าวเสียงแหบต่ำ รู้สึกถึงน้ำหนักของคำพูดนั้นอย่างมาก ขณะที่สายตาของเขาจ้องไปยังนางเอกซูหญิงเหยียนมองกลับไปด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและไม่หวั่นไหว “สิ่งที่เราเผชิญนั้นยากลำบากแน่นอน แต่เราก็ต้องยืนหยัดและเผชิญมันไปพร้อมกัน ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากสิ่งที่เรามีไป”คำพูดของซูหนิงเหยียนนั้นจริงจังและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มันเหมือนการบอกกับองค์ชายเจ็ดว่า นางพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ว่าจะเป็นอันตรายแค่ไหน แต่เธอเชื่อมั่นว่า ถ้าทั้งสองคนร่วมมือกัน ก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะเอาชนะไม่ได้องค์ชายเจ็ดพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้มบางๆ “ข้าเองก็เช่นกัน ถ้าเราทำทุกอย่างไปด้วยกัน ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว”ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังขึ้นที่หน้าประตูห้อ

  • แม่หม้ายแฝดสาม   วางแผน

    ความมืดของค่ำคืนไม่สามารถหยุดยั้งความมุ่งมั่นของทั้งองค์ชายเจ็ดและซูหนิงเหยียนได้ ความจริงที่พวกเขาค้นพบในค่ายทหารทำให้พวกเขาตระหนักถึงความร้ายแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นในราชสำนัก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มขุนนางที่มีอำนาจและวางแผนลับเหล่านั้นระหว่างการเดินทางกลับที่ตำหนักหลวง องค์ชายเจ็ดหันไปมองซูหนิงเหยียนและกล่าวเสียงต่ำ “เราอาจต้องใช้วิธีที่ไม่เป็นทางการในการหาความจริง อาจจะต้องทำให้พวกขุนนางเหล่านั้นเชื่อว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกัน”ซูหนิงเหยียนนิ่งเงียบก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงเรียบ “ข้ารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ข้าไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อของการสมคบคิดนี้อีก”เมื่อกลับถึงตำหนัก หลายสิ่งที่พวกเขาต้องทำยังคงรออยู่ การเตรียมการเพื่อเข้าร่วมในวงการขุนนางนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การได้รู้จักและชักชวนผู้อื่นให้ร่วมมือกับพวกเขาจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากองค์ชายเจ็ดจึงเริ่มพิจารณาแผนการที่จะต้องใช้ในการเข้าใกล้กลุ่มขุนนางเหล่านั้น ทันทีที่คิดได้ เขาก็ส่งสัญญาณให้ทหารผู้ไว้ใจและผู้ที่ทำงานในตำหนักมาร่วมช่วยกันสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มขุนนางในราชสำนัก“เราไม่สา

  • แม่หม้ายแฝดสาม   เงามืด

    ความมืดของคืนนี้ยังคงปกคลุมไปทั่วเมืองหลวง ขณะที่องค์ชายและนางเอกยืนอยู่ตรงหน้าฝ่าบาทที่ถูกลักพาตัวไป พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ความลับที่ซ่อนอยู่ภายในตำหนักและความเคลื่อนไหวของขุนนางที่ไม่ชัดเจนทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้นฝ่าบาทที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ท่ามกลางความมืดพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบาและจริงจัง“ทุกอย่างมันซับซ้อนมากกว่าที่เจ้าทั้งสองคิด ความขัดแย้งในราชวงศ์นี้ไม่ได้เกิดจากคนภายนอก แต่มันมาจากภายใน เหล่าขุนนางบางกลุ่มกำลังวางแผนที่จะทำให้การปกครองของข้าอ่อนแอลง”องค์ชายมองไปที่ฝ่าบาทด้วยความตระหนัก เขารู้ว่าแผนการของศัตรูในราชวงศ์นั้นซับซ้อนยิ่งกว่าแค่การลักพาตัวฝ่าบาทเพียงอย่างเดียว“หมายความว่า...การลักพาตัวครั้งนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น?” พระเอกถามเสียงต่ำ พร้อมจับตามองฝ่าบาทด้วยท่าทีที่จริงจังฝ่าบาทพยักหน้า “ใช่ การลักพาตัวของข้าเป็นแค่การทดสอบความพร้อมของฝ่ายขุนนางบางกลุ่ม พวกเขากำลังจับตาดูข้าและคอยหาจังหวะที่ข้าอ่อนแอเพื่อลงมือทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่”ซูหนิงเหยียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฟังแล้วรู้สึกกังวลใจ เธอรู้ดีว่าการต่อสู้ทางการเมืองในรา

  • แม่หม้ายแฝดสาม   ศาลาใต้ดิน

    ลู่เหรินเจ๋อและซูหนิงเหยียนเดินมาถึงศาลาใต้ดินที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของตำหนัก ศาลานี้เป็นที่เก็บข้อมูลลับที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด โดยมีเพียงไม่กี่คนในราชวงศ์ที่รู้ว่ามันมีอยู่ ซูหนิงเหยียนหยิบคัมภีร์เก่าขึ้นมาเล่มหนึ่งที่พระเอกเพิ่งจัดการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเงามืดในราชวงศ์“หากเราไม่หาข้อมูลจากที่นี่ เราจะไม่สามารถรู้ทันศัตรูได้” บู่เหรินเจ๋อพูดขึ้นขณะที่นางเอกกำลังอ่านข้อความในคัมภีร์“เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป... ข้าไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะหยุดแค่การโจมตีครั้งนี้” นางเอกกล่าวด้วยความกังวลในใจลู่เหรินเจ๋อหันมามองซูหนิงเหยียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ข้ารู้ แต่ข้าคิดว่าเราควรตั้งรับและโจมตีพวกเขาก่อน พวกเขากำลังรวบรวมอำนาจในทุกๆ ด้าน หากเราช้าเกินไป เราจะถูกซ้อนเร้นและถูกทำลาย”ลู่เหรินเจ๋อมองไปยังแผนที่ที่วางอยู่บนโต๊ะ โดยมีสัญลักษณ์ของหน่วยต่างๆ ในราชวงศ์ที่พยายามวางแผนการคุมเมืองและเสริมอำนาจให้มากขึ้น“เราต้องกระชับทุกสิ่งในมือไว้ เราต้องรู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของพวกเขา” ลู่เหรินเจ๋อกล่าวต่อขณะที่พระเอกพูดอยู่นั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่มาจากทางด้า

  • แม่หม้ายแฝดสาม   สนใจ

    เสียงกรีดร้องจากด้านนอกทำให้นางเอกสะดุ้ง เธอไม่รอช้า รีบหยิบมีดครัวในมือเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทันทีที่เธอก้าวออกจากครัวไป ก็เห็นเงาร่างของคนหลายคนวิ่งข้ามประตูเข้ามาในตำหนักของตน“มีคนบุกเข้ามา!” นางตะโกนออกไปอย่างรวดเร็วลู่เหรินเจ๋อที่ยืนอยู่ข้างนางก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะสั่งการให้บ่าวรับใช้จัดการกับการป้องกันรอบตำหนักอย่างเร่งด่วน "อย่าปล่อยให้ใครเข้ามาใกล้!"ทันทีที่คำสั่งถูกออกมา คนในตำหนักก็เริ่มกระจายไปยังจุดต่างๆ ของวังหลวงเพื่อปิดทางและป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้าถึงตัวซูหนิงเหยียนขณะที่เสียงดังอึกทึกจากการต่อสู้ดังขึ้น เสียงของลู่เหรินเจ๋อก็ดังตามมา "ห้ามทำร้ายใคร!" ลู่เหรินเจ๋อก้าวเข้ามาด้วยท่าทางมั่นคงและดวงตาแสดงออกถึงความตั้งใจที่จะปกป้องซูหนิงเหยียนอย่างสุดความสามารถศัตรูที่บุกเข้ามาคือกลุ่มผู้คนที่ได้รับการว่าจ้างจากพระสนมเหมยฮวาเพื่อทำลายความเชื่อถือของซูหนิงเหยียนและสร้างความสับสนให้กับคนในวังหลวง แต่เมื่อเห็นลู่เหรินเจ๋อเข้ามา ทุกคนก็ลังเลและหยุดชะงัก"พระองค์จะทำอะไร?" หนึ่งในคนร้ายถามด้วยเสียงที่สั่นลู่เหรอนเจ๋อยิ้มเย็น "ไม่ต้องถามคำถามที่รู้คำตอบ" เข

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status