[3]
แผนพิศวาส
___________
ตึก GB ค่ำวันถัดมา
เกล็ดมุกกวาดตามองไปรอบกาย ห้องชุดสุดหรูดูช่างเงียบงันเมื่อไร้วี่แววเจ้าของ ปกติวาคิมจะนั่งเช็กอีเมลอยู่หน้าโน้ตบุ๊กที่เก้าอี้ตัวนั้น บางทีตอนนี้เขาอาจจะอยู่กับคนพิเศษเขาก็เป็นได้ แค่คิดหัวใจเจ้ากรรมก็ปวดหนึบ น้ำตาพานจะไหล หากว่าอ้อมแขนที่คุ้นเคยจะไม่สวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
“คุณวา อย่าแกล้งสิคะ ให้มุกอาบน้ำก่อน เหนียวตัวจะแย่”
เธอคัดค้านการรุกรานของเขา ผลักร่างหนาออกจากตัวด้วยแรงที่มี แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อคนตัวโตส่งสายตาเว้าวอนอย่างที่เธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร
“คุณขึ้นมาตอนไหนคะไม่ยักเห็น นึกว่าติดประชุม...อยู่...ซะอีก” ท้ายประโยคขาดเป็นห้วงๆ เพราะต้องอดทนต่อการปลุกเร้าอารมณ์อย่างช่ำชองของวาคิม
“อย่าเพิ่งถามได้ไหม รู้หรือเปล่าว่าฉันอยากทำอย่างนี้กับเธอตั้งแต่เมื่อคืน เธอมันแม่มดตัวร้ายที่คอยตามรังควานฉันแม้แต่ในความฝัน” เขาว่าพลางถลกกระโปรงตัวสวยให้ขึ้นมากองอยู่รอบเอวบาง แล้วล้วงมือเข้าไปดึงชั้นในชิ้นล่างออกจากขาหล่อน ถ้าไม่ติดว่าต้องรับรองลูกค้าคนสำคัญ คงได้ทำอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อเช้า
โต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่ถูกใช้เป็นสนามรักชั่วคราว เพราะขุนศึกผู้หล่อเหลาใจร้อนเกินกว่าจะนำพาคู่อริที่รักไปถึงเตียงนอนหนานุ่มที่ใช้โรมรันกันเหมือนทุกครา แรงดึงทึ้งจากฝ่ามือร้อนๆ ส่งผลให้สูทแบบสตรีตัวสวย กระดุมหลุดออกจากรังกว่าสี่เม็ด เปิดเผยเกาะอกผ้านิ่มให้ประจักษ์ต่อสายตาเขา
ชายหนุ่มรูดมันลงไปกองรวมกับกระโปรงในคราวเดียว
เกล็ดมุกใบหน้าแดงเถือกด้วยไฟสวาทที่วาคิมเป็นผู้ก่อ มันลามเลียไปทั่วเรือนร่างนาฬิกาทรายโค้งเว้า
เขาไม่ยอมปลดตะขอบราให้เสียเวลา แต่ควักเจ้าก้อนเนื้อฝาแฝดนุ่มหยุ่นที่เบียดกันอยู่ในนั้นให้ออกมาลอยเด่นอร้าอร่ามอยู่ตรงหน้า แล้วใช้ปลายลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียที่ปลายยอดอย่างหิวกระหาย
เกล็ดมุกครางไม่ได้ศัพท์ ยามนี้เขาช่างเหมือนทารกที่อดอยาก เพียรดูดดึงลิ้มรสสองเต้าเต่งตึงนั้นมิหยุดหย่อน เสียงหัวเข็มขัดกระทบพื้นมิได้ทำให้สองร่างหยุดชะงัก ตรงกันข้ามมันกลับเร่งเร้าให้เพลิงพิศวาสโหมกระพือยิ่งขึ้น เสื้อสูทตัวใหญ่ถูกมือหนาเหวี่ยงไปไม่รู้ทิศทาง ก่อนที่เชิ้ตตัวในและเนกไทจะปลิวตามไป
ขาเรียวของเกล็ดมุกตั้งชันขึ้นโดยอัตโนมัติ พร้อมขยับเข้าไปใกล้ขอบโต๊ะเมื่อเห็นเขานั่งคุกเข่าในท่าเตรียมพร้อม มือเขาจับบั้นท้ายเธอไว้มั่น บีบมันราวกับมันเขี้ยวนักหนา ก่อนที่ใบหน้าเขาจะขยับเข้ามาใกล้หว่างขาของเธอ แล้วแลบลิ้นไล้เลียในส่วนที่มิควรเอ่ยถึง
“คุณ...วา...ขา มุก...มุก”
เกล็ดมุกบิดวนสะโพกสวยเมื่อเขารุกล้ำแหล่งเสบียงของทหารกล้า น้ำหวานที่ซึมเอ่อออกจากแหล่งเสบียงช่างหวานล้ำราวรวงผึ้งป่า ขุนศึกไม่รอช้าเข้าตักตวงลิดรอนเสบียงของฝ่ายตรงข้าม เรียวลิ้นร้อนๆ ชำแรกแทรกกลาง เก็บเกี่ยวหยาดน้ำผึ้งรวงมาดื่มกินอย่างตะกละตะกราม แต่กระนั้นเสบียงของข้าศึกก็ยังไม่ยอมลดหย่อน มีแต่จะซึมเอ่อออกมาเมื่อยามที่ขุนศึกเข้าประหัตประหารด้วยเรียวลิ้นอันช่ำชองของเขา
“อา...คุณวาช่วยมุกด้วย ช่วย...มุกที!”
เกล็ดมุกร้องเสียงหลงเมื่อเขาผละจาก ทว่าก็เพียงชั่วครู่เพราะขุนศึกผู้เจนสงครามขยับรุกเร้าเข้าแนบชิดที่หน้าประตูเมือง บดเบียดดุนดันไพร่พลทหารกล้าที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างกล้าแข็ง ให้เปิดประตูเข้าสู่สวรรค์ที่ลึกลับน่าค้นหาราวกับเขาวงกต
สะโพกหนั่นแน่นของชายชาติทหารกระเพื่อมเป็นระลอกถี่ๆ สลับกับเสียงขาโต๊ะครูดกับพื้นมิหยุดหย่อน เขาวกขึ้นมากระหน่ำจุมพิตที่ริมฝีปากของหล่อนอีกครั้ง
เกล็ดมุกหายใจหอบถี่เมื่อวาคิมปล่อยริมฝีปากอวบอิ่มให้เป็นอิสระ แลเห็นเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนใบหน้าขุนศึกผู้หล่อเหลา อริราชที่รักอดใจไม่ไหวเอื้อมมือน้อยที่สั่นน้อยๆ ด้วยแรงกระแทกกระทั้น เข้าเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างแสนรัก
ไม่มีถ้อยคำใดๆ เล็ดลอดออกจากปากของขุนศึกยามโรมรันในตัวหญิงสาว กระทั่งไพร่พลที่กล้าแกร่งของเขาได้รับชนะ ที่ปลายวิมานสวรรค์แลเห็นแสงสว่างอยู่ลิบๆ ขุนศึกปลดปล่อยความเหน็ดเหนื่อยที่เขาฟาดฟันต่อสู้มาร่วมชั่วโมงลงบนผืนดินอันอุดมของอริราชทุกหยาดหยด อริราชไม่กล้าขัดเมื่อตนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพลี่ยงพล้ำเข้าสู่สงครามสวาทที่ขุนศึกเป็นคนเริ่ม หญิงสาวยินยอมกักเก็บเมล็ดพันธุ์ของขุนศึกเอาไว้ด้วยความยินยอมและพร้อมใจ
เกล็ดมุกพ่ายแพ้ต่อใจตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่วาคิมเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องสนองความใคร่แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับมิเคยเคืองโกรธ มีแต่จะจงรักภักดีอยู่ร่ำไป
ร่างสูงใหญ่เดินหายเข้าไปในห้องนอนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจสวาท ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงน้ำดังซู่ๆ ก็แว่วออกมาจากห้องน้ำด้านใน
เกล็ดมุกถอนหายใจครั้งสุดท้ายก่อนรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีปีนลงมาจากโต๊ะ น้ำตาใสๆ หยดร่วงเผาะๆ ยามก้มลงเก็บเศษเสื้อผ้าที่เกลื่อนอยู่ทั่วห้อง อาการน้อยเนื้อต่ำใจผุดความคิดโง่ๆ ขึ้นมาในสมอง หากวันหนึ่งเธอโดนเขาเขี่ยทิ้งอย่างที่พี่ชายเธอว่า เธอจะได้สิ่งใดตอบแทนนอกจากหัวใจที่บอบช้ำ เธอต้องได้อะไรมากกว่านั้นสิ เธอต้องได้มากกว่านั้น!
_______________
นาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน แผ่นอกกว้างของคนข้างๆ กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ วาคิมหลับลึกไปนานแล้วทว่าเกล็ดมุกยังลืมตาโพลงในแสงสลัว
หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ควานหาบางอย่างในลิ้นชักข้างเตียง เมื่อพบเจอก็กำมันไว้ในมือแล้วหันมามองเขาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก่อนที่ฝ่าเท้าของเธอจะก้าวลงจากเตียงนอนอย่างแผ่วเบา เดินคลำทางไปยังห้องน้ำด้วยแสงจากโคมไฟดวงน้อยที่ตั้งอยู่ข้างประตูทางเข้า
‘ยาคุมกำเนิด’ ถูกแกะจากแผงแล้วโปรยลงในโถชักโครก เธอต้องกดน้ำซ้ำอีกรอบ เพราะอยากมั่นใจว่ามันจะลงไปข้างล่างทุกเม็ด ก่อนที่แผงยาเปล่าๆ จะถูกโยนลงในถังขยะ
“คุณป๋าขา เฮียเมฆขา หนูเล็กขอโทษอีกครั้ง ถ้าวันหนึ่งที่หนูเล็กต้องกลับบ้านจริงๆ นอกจากหัวใจที่บอบช้ำ หนูเล็กขอลูกน่ารักๆ จากเขาสักคนนะคะ คุณวาขา มุกขอโทษที่ผิดสัญญา แต่มุกขอสาบานว่าจะไม่ร้องขอความรับผิดชอบใดๆ จากคุณเลย” ไม่ใช่แค่สัญญากับตัวเอง แต่ยึดถือเป็นสัจจะว่าต้องทำให้ได้อย่างใจนึก ไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเองแน่นอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านขนมเค้กแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ใบหน้าสดสวยของวารินทร์งอง้ำอย่างขัดใจเมื่อพยายามเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว แต่เพื่อนสาวที่รักยังไร้ร่องรอย เบอร์ที่ยัยเพิร์ลให้ไว้มันติดต่อไม่ได้ สงสัยว่าเจ้าหล่อนคงเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วสมาร์ตโฟนแบรนด์หรูถูกวางลงบนโต๊ะอย่างกระแทกกระทั้น เธออุตส่าห์วางแผนกลับเมืองไทยก่อนกำหนดเพื่อมาเซอร์ไพรส์เพื่อนรัก แต่อีกฝ่ายกลับติดต่อไม่ได้ เธอนึกเคืองสมองกลวงๆ ของตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่ยอมซักถามประวัติแม่เพื่อนรักให้ดี เลยต้องมานั่งอารมณ์เสียอยู่อย่างนี้ใบหน้าสดสวยงอง้ำก็จริงแต่มือเรียวไม่ยอมละเลยเจ้าเค้กสุดโปรดตรงหน้า ยังเพียรตักมันเข้าปากคำแล้วคำเล่า ดวงตาช่างสังเกตกวาดมองไปรอบๆ ร้าน ดีที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด เลยไม่ต้องลำบากแย่งโต๊ะกับพวกเด็กวัยรุ่นที่ชอบมานั่งที่ร้านเค้กแห่งนี้นัยน์ตาสีนิลคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อต้องเพ่งไปยังมุมหนึ่งของร้าน บุรุษร่างหนากำยำ เจ้าของหนวดเครารกรุงรัง เขานั่งนิ่งเป็นรูปสลักราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง ชุดคาวบอยเต็มยศที่เขาสวมมันทำให้เขาแปลกประหลาดจากคนอื่นๆ มันช่างไม่เข้ากับบรรยากาศร้าน
[3]แผนพิศวาส___________ตึก GB ค่ำวันถัดมาเกล็ดมุกกวาดตามองไปรอบกาย ห้องชุดสุดหรูดูช่างเงียบงันเมื่อไร้วี่แววเจ้าของ ปกติวาคิมจะนั่งเช็กอีเมลอยู่หน้าโน้ตบุ๊กที่เก้าอี้ตัวนั้น บางทีตอนนี้เขาอาจจะอยู่กับคนพิเศษเขาก็เป็นได้ แค่คิดหัวใจเจ้ากรรมก็ปวดหนึบ น้ำตาพานจะไหล หากว่าอ้อมแขนที่คุ้นเคยจะไม่สวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ“คุณวา อย่าแกล้งสิคะ ให้มุกอาบน้ำก่อน เหนียวตัวจะแย่”เธอคัดค้านการรุกรานของเขา ผลักร่างหนาออกจากตัวด้วยแรงที่มี แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อคนตัวโตส่งสายตาเว้าวอนอย่างที่เธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร“คุณขึ้นมาตอนไหนคะไม่ยักเห็น นึกว่าติดประชุม...อยู่...ซะอีก” ท้ายประโยคขาดเป็นห้วงๆ เพราะต้องอดทนต่อการปลุกเร้าอารมณ์อย่างช่ำชองของวาคิม“อย่าเพิ่งถามได้ไหม รู้หรือเปล่าว่าฉันอยากทำอย่างนี้กับเธอตั้งแต่เมื่อคืน เธอมันแม่มดตัวร้ายที่คอยตามรังควานฉันแม้แต่ในความฝัน” เขาว่าพลางถลกกระโปรงตัวสวยให้ขึ้นมากองอยู่รอบเอว
ความเงียบงันครอบคลุมภายในรถยนต์คันงาม ราวกับว่ามันได้สิงสถิตในนั้น กระทั่งเข้าเขตเมือง หญิงสาวจึงขยับยืดตัวตรงแล้วกล่าวกับเขาในที่สุด“จอดหน้าห้างก็ได้ค่ะ” เธอบอกสั้นๆ หยิบกระเป๋าถือมาแนบกาย ไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อยวาคิมจอดรถตามคำขอ นึกสงสัยว่าบ้านของหล่อนอยู่แถวนี้หรืออย่างไร ในประวัติของพนักงานบอกว่าไม่ใช่แถวนี้นี่นา เขาไม่ได้เอ่ยถามในสิ่งที่ข้องใจ เมื่อหล่อนลงจากรถ เขาก็หมุนพวงมาลัย ขับรถต่อไปในทันทีเกล็ดมุกถอนใจเฮือกใหญ่ เธออยากให้เขาออกปากว่าจะไปส่ง แต่ว่าคงฝันเฟื่องเกินไป เธอหันซ้ายแลขวา ก่อนจะเดินเข้าไปหลบแดดใต้ต้นไม้ใกล้ๆ มือเรียวล้วงเอาสมาร์ตโฟนออกมากดเบอร์ที่บ้าน ไม่นานนักรถยุโรปคันหรูก็วิ่งมาเทียบริมฟุตบาทเกล็ดมุกก้าวขึ้นไปนั่งด้วยท่าทีของนางพญา บ่าตั้งหลังตรง ใบหน้าเนียนเชิดน้อยๆ ไม่ได้ใกล้เคียงท่าทางของเกล็ดมุกคนเมื่อสักครู่สักกระผีก และหากใครทันสังเกตก็จะเห็นว่าที่ด้านข้างของตัวรถนั้น มีสัญลักษณ์อย่างหนึ่งสามารถการันตีฐานะความมั่งคั่งของคนที่เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี ‘เพิร์ล’ 
[2]เพราะรักจึงยอม________________เกล็ดมุกตื่นแต่เช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ คือเสื้อโปโลสีครีมอ่อนกับกางเกงผ้านิ่มสีเดียวกัน มันถูกคาดทับด้วยเข็มขัดหนังริ้วเล็กๆ สานจนเป็นเส้นโต เส้นผมสีนิลสนิทเป็นลอนสวยถูกเจ้าของจับยกช่อขึ้นไปลวกๆ ลูกผมบางส่วนเลยคลอเคลียที่ลำคอเรียวระหงวาคิมยืนนิ่งที่หน้าประตู นัยน์ตาสีนิลของเขาถูกตรึงไว้ด้วยวงหน้าหวานหยดและเรือนร่างนาฬิกาทรายตรงหน้า ใบหน้าเนียนใสของหล่อนเกลี้ยงเกลาดุจสาวรุ่น จมูกโด่งรั้นได้รูป พวงแก้มแดงระเรื่อน่าดมดอม และท้ายสุดริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบสีชมพูเหลือบมุกมันวาว มันช่างน่าจุมพิตหนักๆ ให้หนำใจสักที“เธอจะไปไหน”เสียงเรียบเย็นเอ่ยขึ้นเมื่อได้สติ ความน่ารักน่าใคร่ของหล่อนกำลังปลุกบางส่วนในร่างกายเขาให้ตื่นเพริดพร้อมรบเกล็ดมุกสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกไป“ไป...ไปวัดค่ะ ไปทำบุญวันเกิด”เขาพยักหน้ารับรู้ เกล็ดมุกลอบถอนหายใจ หันไปจัดการกับสำรับอาหารที่เตรียมไปใ
ที่ออฟฟิศชั้นล่าง แม้ยังเช้าอยู่ แต่พนักงานบางก็ส่วนเริ่มมาทำงานกันบ้างแล้ว“มาแต่เช้าเชียวหนูมุก”เสียงทุ้มนุ่มเย็นอย่างผู้ใหญ่ใจดีของวัลลภ ผู้รับผิดชอบด้านบัญชีของ GB เอ่ยทักเลขารุ่นลูกอย่างเป็นกันเอง“ถ้ามาเช้าจริงๆ คุณอาคงไม่ต้องเดินออกมาชงกาแฟดื่มเองอย่างนี้หรอกค่ะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆ จากบุรุษวัยใกล้เกษียณ เมื่อรู้ว่าถูกเลขาสาวย้อนเข้าให้“ฮ่าๆๆ จริงๆ เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆ เราก็มาเช้ากว่าพนักงานคนอื่น และขยันๆ อย่างหนูมุกนี่ ลูกชายคนแรกยกให้เลยเอาไหม จะได้มาเป็นลูกสะใภ้ของอาไง”“ขอบคุณล่วงหน้าเลยแล้วกันค่ะ แต่ถ้าจะให้รอน้องนนท์ มุกคงแก่หง่อมก่อนพอดี” เธอนึกถึงใบหน้าขาวๆ แก้มยุ้ยๆ ของน้องนนท์แล้วก็ต้องอมยิ้ม น้องนนท์ของคุณอาเพิ่งจะสิบขวบเท่านั้นเอง“ท่าจะจริงอย่างที่หนูมุกว่า ทำไงได้ล่ะ เพิ่งมามีลูกหลงเอาตอนแก่ก็อย่างนี้แหละ ชาตินี้จะได้อุ้มหลานหรือเปล่าก็ไม่รู้”“โธ่คุณอาละก็ ไม่จริงหรอกค่ะ คุณอายังหล่อเฟี้ยวขนาดนี้มีน้องให้น้องนนท์อีกคนสองคนยังไหวค่า”“ฮ่าๆๆ ขอให้จริงเถอะหนูมุก ขอให้จริง”วัลลภเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนจะเดินเข้าห้องด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงคำยกยอของเล
แรงรักทวงแค้น[1]เพราะรัก_____________ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยของ วาคิม กิติบวร ยืนนิ่งตรง สองมือไขว้หลัง สายตาคู่คมทอดลงสู่ผืนแม่น้ำเจ้าพระยาเบื้องล่าง จากชั้นสูงสุดของตึก GB ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำสายนี้ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อสมองทบทวนเรื่องที่มารดาฝากฝังเอาไว้ ท่านอยากให้เขากับนางแบบสาวอย่างแพรวรุ้งลงเลยกันเสียที ความจริงการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ มันก็มีแต่ผลกำไรจะเพิ่มพูน เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังไม่คิดหาห่วงมาผูกคอ และแม้ว่า GB ที่เขาเพียรสร้างมาจะไม่รวมนามสกุลกับตระกูลไหนๆ ผลกำไรที่ได้ในแต่ละปี มันก็มากจนมารดาไม่กล้าทักท้วงคำปฏิเสธของเขาเมื่อเย็นวานนี้“อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”เสียงหวานใสดังมาก่อนตัว หญิงสาวร่างบอบบางเดินยิ้มสดใสออกมาจากห้องครัว พร้อมกับอาหารเช้าในจานสวยเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน หล่อนอาจเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากแต่งงาน ไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามั่นใจว่า ‘เงิน’ สามารถบันดาลได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งคำว่ารัก โดยไม่สำคัญว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วเขาจะดิ้นรนหาความรักและการแต่งงานไปทำไม ในเมื่อเงินทองที่เขามี