มันอาจจะมีเส้นขั้นบางๆ ระหว่างคำว่าใจดีกับโง่งม และเส้นบางๆ ที่ว่านั่นมันทำให้เขาคิดไปในทางโง่งมมากกว่า..
จะมีสตรีที่ไหนใจดีถึงเพียงนั้น..หรือในบางทีเจตนาของเอโลอีสอาจเป็นการซื้อตัวเขาเพื่อนอนกับนางก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นมิใช่ว่าจุดประสงค์ของเราทั้งคู่นั้นกำลังตรงกัน เธอและเขาต่างกำลังวาดฝันถึงท่วงท่าต่างๆ ที่เราจะกระทำกันบนเตียงนอน.. “ข้าจะรับเงินทองมากมายจากเลดี้ได้อย่างไรกันครับ..ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก” เขาพยายามจะยื่นเงินคืนเธอแต่ทว่าเอโลอีสกลับกุมมือของเขาเอาไว้ “เงินจำนวนนี้ ข้าให้ท่านลูเซียนด้วยความเต็มใจนะคะ อีกทั้งข้าไม่ได้เดือดร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว และนี่คือเงินส่วนตัวของข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับเงินของตระกูล ท่านลูเซียนสบายใจได้เลยนะคะ เพราะจะไม่มีใครตามมาทวงเงินจำนวนนี้กับท่านในภายหลังอย่างแน่นอน” ลูตินอยากจะหัวเราะออกมาเหลือเกินแต่ทว่าเขาต้องกลั้นรอยยิ้มนั้นเอาไว้ “ข้าไม่ได้กังวลในเรื่องนั้น เพราะว่าข้าเชื่อใจในตัวของเลดี้อยู่แล้วครับ แต่สำหรับข้าแล้วจะเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้ ข้าควรจะตอบแทนเลดี้ด้วย..คนอย่างข้าก็มีเพียงร่างกายนี้เท่านั้นที่จะตอบแทนท่านได้..” มือของเขาสัมผัสที่เอวของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้ไปตามส่วนโค้งเว้าอย่างแผ่วเบาเพื่อเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะพาเธอเข้าไปในห้องที่มีแค่เราเท่านั้น ความสุขสมที่เธอต้องการและปรารถนา เขาจะส่งมอบมันให้เธออย่างตราตรึงใจเลยทีเดียว ลูติน อยากจะเอื้อมมือไปคว้าดาวและคว้าเดือนมาให้เธอเลยด้วยซ้ำหากว่าเอโลอีสต้องการในคืนนี้น่ะ เธอรู้สึกได้ถึงทุกสัมผัสที่เขาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธออย่างนุ่มนวล สัมผัสนั้นมันแฝงไปด้วยความปรารถนาที่ซ่อนอยู่และ..ให้ตายสิ ดูเหมือนว่าเธอจะหลงเขาไปแล้วอย่างจัง ทว่าถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกต้องการเขามากแค่ไหนแต่เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเรานั้นมันจบลงและสิ้นสุดลงเพียงแค่การนอนร่วมเตียง “อย่างนั้นเองสินะคะ เช่นนั้นในวันพรุ่งนี้ท่านลูเซียนว่างไหมคะ หากท่านจะจ่ายเป็นร่างกายเช่นนั้นท่านช่วยไปเป็นคู่ควงให้ข้าในงานเลี้ยงที่พระราชวังได้ไหมคะ” วันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงเล็กๆ ที่ถูกจัดขึ้นในพระราชวังเป็นงานวันเกิดขององค์หญิงเล็กซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอนาอีสนางเอกของเรื่องนี้ วันเกิดขององค์หญิงจะมีอีเว้นใหญ่นั่นก็คือพระเอกและนางเอกของเรื่องนี้จะได้พบเจอกันเป็นครั้งแรก ตัวประกอบอย่างเธอก็อยากจะไปเกาะขอบหน้าเวทีเพื่อเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยงเช่นนั้นเหมือนกัน.. “อา..งานเลี้ยงของพระราชวังอย่างนั้นหรือครับ?” เขาจะไปเป็นคู่ควงให้เธอได้ที่ไหนกัน หากเขาปรากฏตัวที่งานเลี้ยงพร้อมกับเอโลอีสแล้วละก็ สตรีมากมายคงวิ่งเข้ามาหาเขาเพื่อเอ่ยถามถึงความสัมพันธ์ของเขาและเธออย่างแน่นอน.. “ค่ะ ข้าได้รับบัตรเชิญมาและข้ายังไม่มีคู่ควงเลย..ไม่ทราบว่าท่านลูเซียนสะดวกไปเป็นคู่ควงของข้าไหมนะ” เธอกำลังเอ่ยถามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ความหวังนั้นกำลังพังทลายลงมาเมื่อเขาเอ่ยปฏิเสธเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ข้าเองก็อยากไปนะครับ แต่ที่พระราชวังนั้นไม่เหมาะสมกับคนอย่างข้าหรอก ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้จักชื่อตระกูลของเลดี้แต่ทว่าข้าก็พอจะรู้ว่าเลดี้จะต้องเป็นสตรีที่เกิดมาจากตระกูลขุนนางที่สูงส่งแน่ๆ ..ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเลดี้จะให้ข้าทำลายเกียรติของเลดี้ด้วยการไปเป็นคู่ควงของท่านได้อย่างไรกันครับ ข้าไม่กล้าทำให้ท่านอับอายหรอก..” เมื่อเห็นดวงตาที่สลดลงของเขาแล้ว เอโลอีสก็ไม่อยากจะคาดคั้นเขาต่อไปอีก เธอยื่นมือไปกุมมือของเขาเอาไว้ “ไม่ทราบว่าท่านสะดวกพบเจอกันที่อื่นบ้างไหมคะ ที่ไม่ใช่งานเลี้ยงหน้ากากนี้” เธอกำลังพยายามเดินก้าวเข้ามาในเส้นที่เขาขีดเอาไว้..เอโลอีสผู้แสนงดงาม ข้าจะจับจูบมือของเจ้าเข้าไปในย่านการค้าได้อย่างไรกัน หากมีผู้ที่จดจำข้าได้ในฐานะของแกรนด์ดยุค..เรื่องที่ข้าปกปิดเอาไว้จะไม่ถูกเปิดโปงออกมาอย่างนั้นหรือ “ขออภัยด้วยที่ข้าต้องตอบว่าตอนกลางวันข้าทำงานครับ..ข้ามีน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ เพราะอย่างนั้นในฐานะของหัวหน้าครอบครัวข้าจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสียน้องชาย มีเพียงเวลาหลังเลิกงานเท่านั้นที่ข้าจะมาพบเจอเลดี้ได้..และแน่นอนว่าหากเลดี้เบื่อข้าเมื่อไหร่ ท่านสามารถบอกได้เลยนะครับ ข้าเข้าใจว่าสังคมที่เรายืนนั้นมันต่างกัน..” ไม่ง่ายเลยแฮะสำหรับการมีความรักครั้งแรก แต่เอโลอีสมองว่าการที่เขาบอกกล่าวเรื่องทางบ้านของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือคนที่จริงใจ.. “ไม่เป็นไรค่ะ ข้ายังอยากพบเจอและพูดคุยกับท่านลูเซียนอีก เพียงแต่พรุ่งนี้ข้าอาจจะไม่ได้มาที่นี่เพราะข้าต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงที่พระราชวัง..” ปลายนิ้วของลูตินลากผ่านแผ่นหลังของเธอเบาๆ ราวกับต้องการสัมผัสทุกอณูของร่างกายเธอ “ไม่เป็นไรครับ..ต่อให้คิดถึงมากแค่ไหนแต่ว่าข้าจะรอนะครับ..รอวันที่เราได้พบเจอกันอีก” ริมฝีปากของเอโลอีสยกสูงขึ้น เธอส่งยิ้มที่ผลิลายราวกับกลีบดอกไม้ให้เขาและเมื่อลูตินเห็นรอยยิ้มนั้นเขาก็ขยับใบหน้าเข้าไปหาเธอในทันที “ในเมื่อจะไม่ได้พบเจอกันตั้งหนึ่งวัน เช่นนั้นข้าขอ..ทำอะไรที่ทำให้ข้าพอจะหายคิดถึงเลดี้หน่อยได้ไหมครับ” คำว่าทำอะไรของเขานั้น มันหมายความว่าอะไรกันนะ..และในวินาทีที่เอโลอีสกำลังคาดเดาการกระทำของท่านลูเซียน ริมฝีปากของเขาก็แตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล เหมือนน้ำค้างที่หล่นลงบนกลีบดอกไม้ยามเช้า.. นี่เป็นจูบแรกของเธอเลย..ให้ตายสิตอนนี้เอโลอีสไม่รู้ว่าควรจะกระทำเช่นไรดี..เธอกำลังประหม่าอย่างบอกไม่ถูก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับลูตินเลย..เพราะเขาเก่งกาจในเรื่องการสอนสตรีที่ไร้เดียงสามากเลยล่ะ จูบของเขาแผ่วเบาราวกับสายลมที่พัดอ่อนๆ มันเป็นสัมผัสที่สร้างความสั่นสะเทือนเบาๆ ในหัวใจของเธอ ลิ้นร้อนนั้นละเลียดลงไปบนกลีบปากก่อนที่มันจะสอดลึกเข้ามาอย่างเชื่องช้า เขาค่อยๆไล้ปลายลิ้นไปทุกส่วนในโพรงปาก เธอทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้นมาแล้ววางลงบนไหล่ของเขา..การจูบที่เชื่องช้าและลึกซึ้งเหมือนกับการลิ้มรสไวน์ชั้นดีนี้ ทำให้เธอสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย ทุกสัมผัสที่ถูกปล่อยออกมามันละเมียดละไมจนเกินกว่าที่หัวใจจะต้านทานไหว นี่มัน..อันตรายแล้วละสิถ้อยคำที่เคาน์มาเอลทิ้งท้ายเอาไว้ ทำให้ซีโมนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก“ซีโมน..เท่าที่ข้ารู้ครอบครัวของมาเอลล้มหายตายจากไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งมารดา บิดาและญาติพี่น้องล้วนแล้วแต่เสียชีวิตไปหมดแล้วทั้งสิ้น..”ลูตินเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นยะเยือก และนั่นทำให้ซีโมนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเบาๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่..”“เช่นนั้นหากหมอนั่นตายไปอีกคนเขาก็จะได้พบเจอกับครอบครัวใช่หรือไม่ ข้าควร..ทำให้เพื่อนรักได้พบเจอครอบครัวในเร็ววันอย่างนั้นสินะ”ซีโมนส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับลูติน เขาอยากจะบอกกล่าวออกไปเหลือเกินว่านั่นเพื่อนนะโว้ย แค่สตรีนางเดียวถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยงั้นเรอะ!!“ลูติน..มาเอลก็แค่ล้อเล่น เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลยน่า..ตอนนี้หากเจ้าอยากจะเข้าหาเลดี้อแลงจริงๆ คนที่เจ้าควรกังวลคือเซอร์ลาเบนผู้นั้นต่างหาก”เมื่อลูตินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ปรายสายตาไปมองที่เอโลอีส สิ่งที่เขาพบเห็นคือเธอกำลังแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น และบุรุษที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอคือเซอร์ลาเบน..เพื่อนวัยเด็กนี่มันช่างน่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย!!หรือว่าเซอร์ลาเบนคือสามีในอนาคตของเอโลอีส ส่วนเขา..เ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า“นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..”นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน“เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ”ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้“..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ”ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ“เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า”คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึ
เอโลอีสลืมตาขึ้นมาในกลางดึก เธอผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นท่านลูเซียนนอนอยู่ข้างกายเสียแล้ว..ในใจเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่อัดแน่นอยู่ในนั้น..หรือว่าที่เขาจากไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการบอกกล่าวเป็นนัยๆ ถึงจุดจบของความสัมพันธ์เธอและเขาเมื่อได้บทสรุปเช่นนั้นอยู่ๆ น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดไปมันก็รินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบชุดเดรสที่แขวนอยู่มาสวม เอโลอีสใช้หลังมือในการเช็ดน้ำตาเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นนั้นให้มันจบลงเร็วๆ ก็ดีแล้วล่ะเธอจัดการยืนสงบสติอารมณ์อีกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่..เธอไม่ควรกลับไปที่คฤหาสน์ในยามนี้ เพราะอย่างนั้นเอโลอีสจึงเลือกที่จะไปหาเฟมที่คฤหาสน์ ความเจ็บปวดจากตรงส่วนนั้นส่งผลให้การเดินนั้นยากลำบากมากพอสมควร..เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับดึงสติของตัวเองกลับมา..ไม่เป็นไร..เธอจะผ่านความเจ็บปวดนี้ได้ และเธอจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเร็ววัน..“ดูสภาพเจ้าสิ..ให้ตายเถอะไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าคงจะพบเจอกับความสัมพันธ์ที่มันไม่สวยหรูเท่าไหร่ใช่ไหม..เอโลอีสไม่ต้อ
เอโลอีสปรือตามองหน้าเขา..มันน่าตกใจที่เขาจับจูงมือเธอเดินมาจนถึงขั้นนี้ แต่ทว่าเมื่อได้ลองคิดดูดีๆ เป็นเธอที่เรียกร้องให้เขากระทำเช่นนี้เอง เธอเป็นคนเริ่มมันมาเองเพราะอย่างนั้นในยามนี้สิ่งที่เอโลอีสกำลังทำคือการรับผิดชอบคำพูดของตัวเองขาทั้งคู่ถูกแยกออกจากกัน มือใหญ่ช้อนใต้เข่าเพื่อรั้งเรียวขายกขึ้นจนถึงไหล่ แรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสะท้านไหว จริงอยู่ที่ในครั้งแรกนั้นมันมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่ฉายชัดเข้ามาในร่างกาย แต่ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายความรู้สึกสั่นไหวก็เข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ช่องทางนุ่มๆ ถูกเสียบด้วยความแข็งตึงนั้นความสุขสมอย่างรุนแรงก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งร่างดวงตาของลูตินไม่ละไปจากใบหน้าของเอโออีสเลย เขาจ้องมองเธอตลอดเวลา คอยมองดูใบหน้าที่งดงามนั้นอย่างไม่คาดสายตาว่าเธอจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน“อา..ลึกไปแล้วค่ะ”เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอ“แล้วไม่ชอบรึไง..แบบนี้เสียวกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”ต้นขาด้านในสั่นสะท้าน เอโลอีสได้แต่บิดตัวเร่าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ..จะกล่าวออกไปว่าชอบมากมันก็ช่างน่า
นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!”สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้“อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส”เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา“โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง”สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแ
เอโลอีสรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังจะยืนไม่อยู่ ขาแข้งสั่นเทาไปหมด และคาดว่าอีกไม่นานเธอจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ลูตินหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง “พอไม่ได้สิ..ตรงนี้จะเจ็บมากแน่ๆ หากว่าข้าใส่เข้าไปน่ะ เอโลอีสเพราะว่านี่คือครั้งแรกของเจ้า..ฉะนั้นแล้วจงรับรู้เอาไว้เลยว่าในวันนี้ข้ากำลังพยายามหักห้ามใจของตัวเองอย่างถึงที่สุด” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกางขาเธอออกแล้วกดแทรกมันเข้าไปด้วยความต้องการทั้งหมดที่มีไปแล้วล่ะ “หากไม่อยากเจ็บก็อย่าบอกให้ข้าพอเลยเอโลอีส” เธอหน้าชาวาบเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วอ้ากลีบดอกไม้ของเธอออก..เขาจูบตรงปากทางเข้าก่อนที่ปลายลิ้นร้อนผ่าวจะแทรกเข้ามา “อ๊า!!” ของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาตามจังหวะของการขยับปลายลิ้น ลูตินละใบหน้าออกจากตรงนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางเข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดแทรกมันเข้าไปตรงส่วนที่เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม สะโพกของเธอลอยขึ้นในทันทีที่ได้รับสัมผัสอันแสนแปลกใหม่ “อื้อ!..ทะ..ท่านลูเซียนคะ ข้าขอพัก..ขอพักก่อน” ปลายนิ้วของเขาขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วแล้วเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำๆ ราวกับเสียงอ้อนวอนแสนหวานของเอโลอีสเป็นเพีย