LOGIN08 เลิกเล่นละคร
@หลายวันต่อมา เสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์หลายคนก้าวเข้ามาภายในบ้านก่อนที่ชายชรารูปร่างผอมโซค่อยๆก้าวเท้าลงมาจากรถตู้ โดยมีลูกน้องคนสนิทช่วยประครองร่างเอาไว้ เหตุผลที่ร่างกายของเขาผอมโซ เป็นเพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กจนตรอมใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเกือบสองปีแล้ว แต่ความแค้นของคนเป็นพ่อยังฝังลึกอยู่ในใจ “ความจริงพ่อไม่ต้องมาก็ได้นะครับ ฮ่องกงอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปก็ได้” “ที่พ่อมาเพราะพ่ออยากมาดูให้เห็นกับตาว่าแผนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” อีวานค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหรูภายในบ้านหลังใหญ่ที่อีริคเป็นคนซื้อเอาไว้ แม้กระทั่งเมริษาเองก็ไม่รู้ว่าเขามีบ้านที่เมืองไทย เพราะเขาตั้งใจให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น “ก็เหมือนที่ผมรายงานพ่อทุกวันนั่นแหละครับ” “แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วนะ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบๆทำให้จบแล้วรีบกลับฮ่องกงซะ” “ผมพยายามแล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมพาผมไปเจอที่บ้านสักที” ที่เขาคะยั้นคะยออยากให้เมริษาพาไปเปิดตัวกับที่บ้านเพราะเขาจะได้ถือโอกาสนี้ตามสืบว่าเงินทั้งหมดที่พวกมันสูบจากอาร์เธอร์ไป อยู่ที่ไหน “ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังติดใจแม่นั่นอยู่หรอกนะ” อีวานหรี่ตามองลูกชายคนโตด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ปกติคนอย่างอีริคไม่เคยอดทนกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักนานขนาดนี้ กลัวว่าอีริคจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงไทยอีกคน บอกตรงๆว่าเขาไม่มีทางเลือกลูกสะใภ้ที่มาจากตระกูลวรโชติเมธีแน่นอน “ผมแค่กำลังทำตามแผนอยู่ครับ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอะไรน่าพิศวาทเลยด้วยซ้ำ” “ให้มันจริงเถอะ พ่อกลัวว่าเจ้าจะเป็นเหมือนน้องอีกคน” “พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกับอาร์เธอร์ไม่เหมือนกัน ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ไม่เคยรัก และจะไม่มีวันรักเด็ดขาด” อีริคเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เมริษาเป็นได้แค่ทางผ่าน พอหมดผลประโยชน์ก็คงไม่ต่างอะไรจากหมาตัวหนึ่ง “พูดแบบนี้พ่อค่อยสบายใจหน่อย” อีวานกระตุกยิ้มมุมปาก ตอนแรกคิดว่าอีริคจะโดนแม่นั่นหว่านมนต์เสน่ห์ใส่แล้วซะอีก “พ่อจะไม่มีวันรับลูกสะใภ้จากตระกูลเห็บไรนี้เด็ดขาด ใครก็ได้…ที่ไม่ใช่คนพวกนี้” “ครับพ่อ” อีริคขานรับเบาๆ “แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ พ่อไม่ได้มีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นนะ พ่ออยากให้นังเสรเลวนั่นได้รับกรรมที่มันทำสักที” “อีกไม่นานเกินรอหรอกครับ ผู้หญิงที่ชื่ออามีนาจะกลับเมืองไทยอาทิตย์หน้า” มุมปากหยักของอีริคแสยะยิ้มเบาๆ ถึงเวลาที่เขาต้องเผยธาตุแท้ออกมาสักที ถือว่าเขาอดทนเล่นละครมาตั้งนานแต่เมริษาก็ยังไม่เคยพาเขาเข้าบ้านสักที หลังจากนี้เขาคงไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเธอแล้วแหละ เพราะอามีนากำลังจะกลับมา! “ถึงเวลาที่ผมต้องเลิกเล่นละครตบตาผู้หญิงหน้าโง่สักที” “ดีแล้ว ถ้าเป้าหมายกลับมาก็เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นซะ พ่อไม่อยากให้ลูกเอาตัวเข้าไปพัวพันนาน” “ไม่ต้องห่วงครับ อะไรก็ตามที่พอหมดผลประโยชน์ก็จะดูไร้ค่าทันที ผมเองก็รู้สึกเบื่อๆแล้วเหมือนกัน ถือว่าผมมีความอดทนมากที่ทนผู้หญิงคนนั้นมาได้ตั้งหลายเดือน” “เจ้าจงจำคำของพ่อเอาไว้นะอีริค อย่าหลงละเลยจนลืมความเจ็บปวดของน้องเด็ดขาด รีบจบเรื่องนี้แล้วรีบกลับบ้านซะ ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป” อีวานเตือนลูกชายด้วยความเป็นห่วง ขึ้นชื่อว่ามารยาหญิงต่อให้แข็งแกร่งมาจากไหนสุดท้ายก็พ่ายแพ้ได้อยู่ดี ดังนั้นอีริคต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด! อีกฟากหนึ่ง... พอสอบวิชาสุดท้ายเสร็จเพื่อนๆในกลุ่มนัดเลี้ยงฉลองหลังเรียนจบที่ไนท์คลับหรูใจกลางเมือง แต่เมริษาก็เลือกปฏิเสธเพื่อนๆไปเพราะไม่อยากเที่ยวกลางคืน กลัวว่าอีริคจะไม่ชอบ แต่วันนี้รู้สึกแปลกๆเธอโทรหาอีริคตั้งแต่เช้า แต่ก็ติดต่อไม่ได้สักที หลังสอบเสร็จคิดว่าเขาจะส่งข้อความกลับมา ปรากฏว่าก็ยังเงียบกริบ หรือว่าวันนี้เขางานยุ่ง? “หายไปไหนกันนะ” เมริษาหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่มอีกรอบ แต่โทรยังไงก็โทรไม่ติด สงสัยวันนี้เขาคงติดงานด่วนตั้งแต่เช้า เธอจึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับบ้านโดยไม่ได้รอให้อีกฝ่ายมารับ แต่หารู้ไม่ว่าแฟนหนุ่มของเธอจงใจปิดเครื่อง เพื่อไม่ให้เธอติดต่อได้ และกลางดึกของคืนนั้นกลุ่มเพื่อนก็มารวมตัวกันที่ไนท์คลับหรูใจกลางเมืองโดยไม่มีเมริษามาด้วย “แกโทรชวยยัยเมษาหรือยังพิมพ์” วาสิตาเอ่ยถามพิมผกาเพราะคิดว่าอีกฝ่ายโทรชวนเมริษาแล้ว “ฉันชวนตั้งแต่หลังสอบเสร็จแล้ว แต่เมษาปฏิเสธ สงสัยกลัวแฟนว่า” “นี่แหละหนาคนมีแฟน จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้ไป” วาสิตาเบ้ปากด้วยสีหน้าเหม็นบูด ส่วนคนโสดอย่างเธอก็ต้องทำใจต่อไป ไม่มีคนคอยหึงหวงเหมือนคนมีแฟน “เมษาก็เป็นแบบนี้แหละ กลัวพี่อีริคไม่ชอบ กลัวพี่อีริคโกรธ พูดแบบนี้ทุกวัน” “เอาน่าพิมพ์ ตอนนี้เมษากำลังถูกความรักบังตา โลกทั้งใบมีคงแต่สีชมพู ส่วนคนโสดๆอย่างเราไปหาคู่เอาข้างหน้าดีกว่าเนอะ หวังว่าวันนี้จะเจอผู้งานดีนะ” วาสิตาโอบไหล่พิมผกาแล้วเดินตามกลุ่มเพื่อนเข้าไปในร้าน ตั้งแต่เมริษามีแฟนเธอก็เริ่มแยกตัวออกจากกลุ่ม ไปค่อยไปไหนมาไหนกับเพื่อน คอยดูเถอะ! อกหักเมื่อไหร่แม่จะซ้ำเติมซะให้เข็ดเลย แต่ในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังเลือกโต๊ะกันอยู่นั้น จู่ๆหางตาของวาสิตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีลักษณะคุ้นหน้าคุ้นตาคล้ายๆแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท กำลังนั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายโดยมีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่ข้างกาย “เดี๋ยวก่อนยัยพิมพ์! นะ…นั่นคุณอีริคแฟนยัยเมษาปะ” วาสิตาชี้ไปยังผู้ชายชุดดำที่นั่งอยู่ในมุมมืด “ใช่! นั่นคุณอีริคแฟนยัยเมษาจริงๆด้วย เขามาทำอะไรที่นี่” “ก็มาดื่มสิถามได้ แล้วนี่ยัยเมษารู้หรือเปล่าว่าแฟนแอบมาเที่ยว” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยัยเมษาเคยบอกฉันนะว่าคุณอีริคเป็นคนบ้างาน ไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แล้วที่เห็นอยู่ตรงนั้นคืออะไร” สองสาวหันมามองหน้ากันแล้วเกิดความสงสัย เพราะอีริคดูสนิทกับพนักงานในร้านเหลือเกิน แสดงว่าเขาต้องมาที่นี่บ่อยมากแน่ๆ วาสิตาหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายแล้วส่งไปให้เพื่อนสนิทดู ให้เห็นถึงพฤติกรรมของแฟนหนุ่มว่าเขาร้ายกาจกว่าที่คิด “บอกแล้วว่าฉันดูคนไม่ผิด คราวนี้ยัยเมษาได้ตาสว่างแน่!” ——————09 เปลี่ยนไปทางด้านเมริษาเริ่มกระวนกระวายใจเข้าไปทุกทีเพราะเธอติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า“หายไปไหนนะ” เมริษาโทรย้ำอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะติดต่อได้สักที ตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าจะไปตามแฟนหนุ่มที่คอนโดดีไหมเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับเขาจะได้ช่วยทันและในจังหวะที่เธอกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดี ก็มีข้อความจากวาสิตาส่งเข้ามา แต่พอเปิดเข้าไปแล้วเจอภาพนั้น มือถือเครื่องเล็กก็ร่วงหล่นบนพื้นทันทีอีริคอยู่ในผับกับผู้หญิง!“มะ…ไม่จริง” เธอส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่เชื่อสายตาว่าภาพนั้นคืออีริค เขาเคยบอกว่าไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แล้วภาพนั้นคืออะไร “พะ…พี่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ต้องไม่ใช่พี่แน่นอน พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”อาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้ เธอเชื่อว่าอีริคไม่ใช่คนแบบนั้น คนบ้างานอย่างเขาไม่มีทางอยู่ในสถานที่แบบนั้นหรอกติ้ง!!ครั้งนี้วาสิตาส่งเป็นวีดิโอมาพร้อมกับซูมเข้าไป แต่พอเห็นสร้อยที่ผู้ชายคนนั้นสวมอยู่ มันคือสร้อยเส้นเดียวกับที่อีริคชอบใส่“ไม่จริง!!” เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก อีริคหายไปทั้งวันแต
08 เลิกเล่นละคร@หลายวันต่อมาเสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์หลายคนก้าวเข้ามาภายในบ้านก่อนที่ชายชรารูปร่างผอมโซค่อยๆก้าวเท้าลงมาจากรถตู้ โดยมีลูกน้องคนสนิทช่วยประครองร่างเอาไว้ เหตุผลที่ร่างกายของเขาผอมโซ เป็นเพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กจนตรอมใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเกือบสองปีแล้ว แต่ความแค้นของคนเป็นพ่อยังฝังลึกอยู่ในใจ“ความจริงพ่อไม่ต้องมาก็ได้นะครับ ฮ่องกงอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปก็ได้”“ที่พ่อมาเพราะพ่ออยากมาดูให้เห็นกับตาว่าแผนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” อีวานค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหรูภายในบ้านหลังใหญ่ที่อีริคเป็นคนซื้อเอาไว้ แม้กระทั่งเมริษาเองก็ไม่รู้ว่าเขามีบ้านที่เมืองไทย เพราะเขาตั้งใจให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น“ก็เหมือนที่ผมรายงานพ่อทุกวันนั่นแหละครับ”“แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วนะ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบๆทำให้จบแล้วรีบกลับฮ่องกงซะ”“ผมพยายามแล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมพาผมไปเจอที่บ้านสักที” ที่เขาคะยั้นคะยออยากให้เมริษาพาไปเปิดตัวกับที่บ้านเพราะเขาจะได้ถือโอกาสนี้ตามสืบว่าเงินทั้งหมดที่พวกมันสูบจากอาร์เธอร์ไป อยู่ที่ไหน“ไม่ใช่ว่
07 กลัวจะเสียคุณไป ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ดังระงมดังทั่วห้อง ในตอนนี้เมริษาไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครดี เธอไม่อยากเล่าปัญหาทั้งหมดภายในบ้านให้แฟนหนุ่มฟังเพราะกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไปอีกคน เธอไม่เหลือใครแล้วจริงๆ …อีริคคือที่พึ่งทางใจที่สุดท้ายตอนนี้เธอคิดถึงอีริคเหลือเกิน ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆก็คงดี เธอจึงตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่ม“พี่อีริคกลับถึงคอนโดหรือยังคะ”(ครับ พี่เพิ่งถึงเมื่อกี้เลย เสียงดูแปลกๆนะครับ เมย์เป็นอะไรหรือเปล่า) “เปล่าค่ะ” เมริษาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ กลัวเขารู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ แต่สุดท้ายปลายสายก็ยังได้ยินอยู่ดี(นี่เมย์ร้องไห้หรอ ร้องไห้เรื่องอะไรบอกพี่ได้ไหมครับ)“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมย์แค่…คิดถึงพี่)“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะครับคนเก่ง งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยว เผื่อเมย์อารมณ์ดีขึ้น”เมริษานิ่งไปพักนึ่ง ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อ ถ้าหากอีริครู้ว่าบิดาของเธอเรียกค่าสินสอดถึงร้อยล้าน เขายังจะรักเธออยู่หรือเปล่า เธอไม่อยากตีค่าความรักเป็นเงินเลยด้วยซ้ำ เพราะรักที่เธอให้เขามีค่ามากกว่าเงินร้อยล้านเสียอีก “ก็ได้ค่ะ แต่เมย์ข
06 ฝันร้ายยังตามหลอกหลอนนานเท่าไหร่ไม่รู้...เมริษากำลังยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยโพรงหญ้าสูงท่วมหัว มองไปทางไหนก็ไม่เจอใครเลยสักคน จนเกิดความงุนงงว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรและที่นี่คือที่ไหนแต่ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินเพื่อหาที่หลบฝน จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศาลาเก่าๆข้างทาง เธอวิ่งเข้าไปหลบตรงนั้นโดยไม่รู้ว่ามีชายคนนึ่งกำลังนั่งหลบฝนอยู่ข้างในนั้นเช่นกัน“ขอหลบฝนด้วยคนนะคะ” เธอบอกกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่อีกฝั่งของศาลา และทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เธอก็กรีดร้องออกมาสุดเสียง เพราะเขาคือผู้ชายที่เคยไล่ข่มขืนเธอเมื่อต้นปี “กรี๊ดดด!!!”“เจอกันอีกแล้วนะ หึ…หึ” เสียงหัวเราะเยือกเย็นบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ และในวินาทีนั้นมันก็กระโจนเข้ามา ทำให้เธอต้องรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที”ชายคนนั้นวิ่งตามมาติดๆโดยที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าหนี แต่จู่ๆแข้งขากลับอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งเหนื่อย และในที่สุดมันก็ตามมาทันหมับ!!มือหยาบกระชากคอเสื้อจนชุดนักศึกษาขาดหวิ่นก่อนที่มันจะล็อคร่างของเธอแล้วลา
05 หลอกให้ตายใจ@คอนโดหรูของอีริคทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ร่างบางก็ถูกผลักลงบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตามด้วยร่างหนาของอีริคขึ้นมาคร่อมทับเอาไว้“พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่ขอทำเลยนะ”“เดี๋ยวก่อนสิคะ” เมริษายกมือดันร่างสูงเอาไว้ “อาบน้ำก่อนนะคะ”"ไม่ทันแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว เรามีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ห้าชั่วโมงเองนะ” อีริคแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทั้งๆที่ตอนนี้เขาอยากจับเจ้าหล่อนกระแทกเต็มทน ไม่รู้จะเล่นตัวอะไรนักหนาบางครั้งเขาเองก็เริ่มหงุดหงิดที่เธอไม่ค่อยได้ดั่งใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเล่นละครต่อไปเพราะถึงอย่างไรเป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่เมริษาอยู่แล้ว “เมย์ไม่เห็นใจพี่หรอ เราไม่เคยค้างคืนด้วยกันเลยนะ”“เมย์ก็อยากทำแบบนั้นนะคะ แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ เมย์กลัวที่บ้านเป็นห่วง”“เมย์ก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ที่บ้านจะหวงอะไรนักหนา” ไม่พูดเปล่า มือร้อนเคลื่อนเข้าไปใต้ร่าง ใช้นิ้วใหญ่เกี่ยวปลดตะขอชุดชั้นในอย่างชำนาญ “เมย์ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงค่ะ อ้ะ!” หญิงสาวเผลอเปล่งเสียงออกมาด้วยความกระสันเมื่อถูกนิ้วใหญ่บีบขยี้ยอดหน้าอก ทำให้ความต้องการพุ่งทะยานขึ้นมาทันที“อยู่กับพี่ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น” เขาไม่พูดเปล่
04 หลงเชื่อจนสนิทใจหลังสอบเสร็จอีริคขับรถมารับเมริษาที่มหาวิทยาลัยแต่เขาไม่ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เส้นทางที่เขาไปก็คือคอนโดหรูของเขานั่นเอง“พี่อีริคคะ วันนี้เมย์ขอไม่ไปคอนโดพี่ได้ไหมคะ”“อ่าว ทำไมล่ะ” อีริคหันมาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทุกวันหลังเลิกเรียนเขามักขับรถมารับเมริษาแล้วพาไปที่คอนโด“คือว่าช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่งค่ะ เมย์ต้องรีบกลับไปเคลียร์งานช่วยคุณพ่อค่ะ” แต่ความจริงบิดาของเธอเริ่มสงสัยแล้วต่างหากว่าทำไมพักนี้ถึงกลับบ้านดึก ทั้งๆที่ช่วงนี้คือช่วงสอบ เข้าใจว่าอีริคคงใช้เวลาด้วยกันกับแฟน แต่ที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าเธอมีแฟนและเธอก็ยังไม่กล้าบอกใคร“แต่เมย์เพิ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ กลับไปทำงานแบบนี้ เดี๋ยวจะเครียดเอานะ” ชายหนุ่มที่อยากใช้เวลาส่วนตัวกับสาวน้อย หว่านล้อมทุกวิถีทางเพราะเขาเชื่อว่ายังไงเมริษาก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน “เมย์แค่ไม่อยากให้พ่อทำงานเยอะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสบายค่ะ”“เอางี้ งั้นพี่จะไปส่งเมย์ก่อนสองทุ่ม ตกลงไหม”เมริษาปรายตามองนาฬิกาดิจิตอลที่โชว์อยู่บนคอนโซลรถ บอกเวลาบ่ายสามนิดๆนั่นก็เท่ากับว่าเธอมีเวลาอยู่กับแฟนหนุ่มราวๆห้าชั่วโมง ด้วยความที่เธอเองก็ต







