Share

ตอนที่ 12 ผู้อาศัย

last update Last Updated: 2025-12-08 20:32:20

เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำงานปลุกให้คนที่นั่งอมยิ้มปรับสีหน้าให้เป็นปกติทันทีจากการดูภาพถ่ายของตัวเองกับลูกชาย และภาพที่แอบถ่ายแม่ของลูกก่อนหย่อนโทรศัพท์มือถือเข้าเก็บในกระเป๋ากางเกง

“วินนี่โทรหาคุณหลายครั้งแล้วแต่เทวาบอกว่าคุณยุ่งอยู่วินนี่ก็เลยแวะมารอค่ะ”

วนิดา ที่กำลังตกเป็นข่าวซุบซิบในแวดวงไฮโซว่าเธอคือหญิงสาวที่กำลังคบหาดูใจกับภูวดลอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่เธอสร้างขึ้นและกระจายข่าวออกไปเท่านั้น สำหรับเธอเองที่ยังรอคอยสถานะจากภูวดลอยู่ และไม่มีทีท่าว่าเขาจะให้ความชัดเจนกับเธอเลยสักครั้ง ยังคลุมเครืออยู่อย่างนั้น แต่เธอก็ไม่ท้อใจในการวิ่งตามความรู้สึกของตัวเอง

“ผมเพิ่งออกห้องประชุมเห็นเบอร์คุณแล้วแต่ยังไม่ได้โทรกลับ”

“คุณมีอะไรด่วนหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะ วินนี่แค่มาชวนคุณไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน”

“ไปนะคะ” ส่งยิ้มให้และรอคำตอบ

อยากจะปฏิเสธแต่ก็นึกเห็นใจหล่อนที่อุตส่าห์นั่งรอเขาอยู่นานจนกระทั่งประชุมเสร็จ ไหน ๆ ก็เป็นคนคุ้นเคยก็แค่ออกไปกินข้าวกลางวันเท่านั้น จึงตกปากรับคำไป แต่ในใจกลับคิดถึงสองแม่ลุกขึ้นมาเสียอย่างนั้น

มุกดานั่งมองคนหน้าเศร้าที่ต่อจิ๊กซอว์คนเดียวรอพ่อจนดึกดื่นอย่างเหงา ๆ อีกทั้งสายตาคอยมองไปที่หน้าบ้านทุกครั้งที่มีเสียงรถยนต์วิ่งผ่าน เพียงไม่นานที่พ่อกับลูกได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันและสร้างความคุ้นเคยต่อกันได้อย่างง่ายดาย เพียงพ่อหายไปแค่วันเดียวเจ้าตัวเล็กถึงกับออกอาการหงอยอย่างเห็นได้ชัด

ครั้นจะต้องให้มานั่งเล่นกับลูกตลอดเวลาก็คงไม่ได้ เพราะงานบ้านจุกจิกไม่ใช่จะน้อยเสียเมื่อไหร่ ไหนจะทำความสะอาดบ้าน ซักผ้ารีดผ้า ทำกับข้าว หลังจากเลิกงานก็แทบไม่มีเวลาว่างแล้ว แต่กระนั้นก็แบ่งเวลาสำหรับลูกเสมอแต่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอสำหรับเด็กผู้ชายอย่างภูวภัส และรู้สึกสารเจ้าตัวเล็กจับใจ

“ภูไม่ต้องรอพ่อแล้วลูกดึกแล้วนะครับ วันนี้พ่อดลมีงานด่วนไว้วันหลังพ่อมาแล้วค่อยต่อใหม่นะ”

“แต่วันนี้พ่อดลสัญญากับภูไว้แล้วนะครับ” เด็กน้อยอ้างสัญญาที่พ่อให้ไว้กับเขา

“ฟังแม่นะลูก”

“พ่อดลต้องทำงาน พ่อดลส่งข้อความมาบอกแม่ว่างานยังไม่เสร็จ และฝากขอโทษภูด้วย ถ้าไม่ทำงานจะเอาตังค์ที่ไหนพาภูไปเที่ยวล่ะครับ” เธอลุกมานั่งที่พื้นตรงหน้าลูก

“ไปนอนนะคนเก่ง”

“ก็ได้ครับ”

ภูวภัสลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่ายแม้สีหน้าจะมีแววหม่นอยู่ จูงมือเด็กชายเข้าไปในห้องนอน ภูวภัสปีนขึ้นเตียงและเอนตัวลงนอนด้วยสีหน้าเศร้า ผู้เป็นแม่ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวกดจมูกลงที่แก้มนุ่มนิ่มฟอดใหญ่

“แม่รักภูนะครับ”

“ภูก็รักแม่ครับ”

“นอนนะ แม่ขออาบน้ำก่อนจะได้มานอนกอดคนเก่งของแม่”

ลุกมาปิดสวิตช์ไฟเหลือไว้เพียงแค่โคมไฟหัวเตียงเท่านั้น เดินออกเก็บของในห้องนั่งเล่นแต่เว้นจิ๊กซอว์ที่เจ้าตัวเล็กต่อค้างไว้ จัดเตรียมเสื้อผ้าที่เพิ่งรีดเสร็จของนักเรียนสำหรับวันพรุ่งนี้ และต่อด้วยความเรียบร้อยในห้องครัว

เสียงรถจอดหน้าบ้านเธอเงียบเงี่ยหูฟังอยู่ชั่วครู่ แต่ไม่มีเสียงเรียกหรือเสียงเคาะประตูใดๆ แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

(“คุณมุกเปิดประตูให้หน่อยครับ”) เสียงปลายสายจากเทวา

มุกดาเดินไปแง้มผ้าม่านหน้าต่างเปิดดูเพื่อความมั่นใจเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน

“คุณเทวา”

“ผมมาส่งบอสครับ” มุกดาย่นคิ้วและมองตามเขาที่เดินกลับไปที่รถและเปิดประตู

“บอสครับถึงแล้วครับ”

“อือ” เสียงในลำคอแต่เปลือกตายังปิดอยู่

และพยุงหิ้วปีกเจ้านายออกมาพร้อมกับกลิ่นที่มากับเจ้าของร่างจนมุกดาต้องย่นจมูก

“ดื่มมาเหรอคะ?”

“นิดหน่อยครับวันนี้มีคุยงานกับลูกค้า” จริง ๆ เธอรู้อยู่แล้วจากที่เขาส่งไลน์มาบอกแต่ไม่คิดว่าจะเมาหนักขนาดนี้ แถมยังกล้ามาโดยไม่คิดว่าลูกจะเห็นตัวเองในสภาพนี้

“บอสยืนยันว่าจะมาให้ได้ครับบอกว่านัดกับน้องภูไว้แล้ว” นัดไว้แล้วแต่ไม่ดูสภาพตัวเองเลย

“พาไปส่งที่บ้านดีกว่ามั้งคะเมาขนาดนี้”

“ให้บอสค้างที่นี่ดีกว่าครับคุณมุก ไม่งั้นพรุ่งนี้ผมแย่แน่”

“นะครับ”

“….”

“ก็ได้ค่ะ”

เทวาพยุงร่างที่ขาอ่อนปวกเปียกไปวางลงที่โซฟา

“บอสจะกลับหลายรอบแล้วครับแต่มีลูกค้าทีมสองตามมาก็เลยยาวครับ”

“ค่ะ”

“ผมฝากบอสด้วยนะครับคุณมุก” ทำอย่างกับปฏิเสธได้อย่างนั้นแหละ

“กลับนะครับ ขอโทษที่มารบกวนตอนดึกนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

มองร่างที่หายใจเข้าออกเสียงดังเหมือนกำลังบริหารรูจมูกและถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยให้คนตัวใหญ่นอนอยู่แบบนั้นและเข้าไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน เมื่อออกมาก็ต้องแปลกใจที่คนหายจากโซฟาไปไหนเสียแล้ว เดินไปเปิดดูในห้องที่เขาเคยนอนกับลูกก็ไร้เงา อย่าบอกนะ…

เปิดสวิตช์ไฟในห้องและภาพที่เห็นคือภูวดลนอนอยู่บนเตียงของเธอและโอบกอดภูวภัสไว้ในอ้อมแขน เธอพลาดแล้วที่เปิดแง้มไว้

“คุณดลคะ” เดินตรงไปที่เตียงนอน

“คุณดล” มือเขย่าหัวไหล่ปลุกให้เขาตื่น

“ลุกขึ้นค่ะ นอนที่นี่ไม่ได้นะคะ”

 ดึงแขนคนตัวหนักให้ลุกขึ้นจากเตียงเหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไว้ซุงที่ไม่มีผลใด ๆ

“โอ๊ย…จะบ้าตาย”

“เหม็นหึ่งขนาดนี้ตื่นมาคงเมาทั้งพ่อทั้งลูกละมั้ง…เฮ้อ”

“คุณดล” ไร้เสียงตอบรับไม่หือไม่อือจากชายหนุ่ม

หรือจะปลุกลูกให้ไปนอนกับเธอที่ห้องของเขาดีนะ กลิ่นไม่โสภาขนาดนี้นอนดมไปคนเดียวก็แล้วกัน หากจะเอาตัวเขาออกไปเธอคงไม่สามารถแล้วในตอนนี้

ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยิบกะละมังใบเล็กใส่น้ำเย็นพร้อมผ้ามาวางข้างเตียง ปลดเนกไทที่หลุดลุ่ยออกจากเสื้อและปลดกระดุมเสื้อลงเพื่อให้เช็ดตัวได้สะดวก หวังแค่ให้กลิ่นแอลกอฮอล์เบาบางลงเท่านั้น

ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามกรอบหน้าและลำคอ ไล่ลงมาตามหน้าอก แขนแข็งแรงก็ไม่เว้น โดยรูดแขนเสื้อขึ้น เช็ดแม้กระทั่งที่มือหนาที่ยกแก้วเหล้าเข้าปากในความคิดของเธอ

“ดูแลลูกไม่พอยังต้องมาดูพ่อตอนเมาอีก”

บ่นพึมพำอยู่คนเดียวมือก็เช็ดไปเรื่อย ดึงตัวเขาให้ออกมาห่างลูก และเดินหายเข้าไปในครัว กลับมาพร้อมกับกล่องยาหม่องและลูกอมในมือ แกะเปลือกลูกอมออกบีบปากคนเมายัดลูกอมเข้าไป อย่างน้อยคงช่วยดับกลิ่นได้บ้าง

“ให้ความร่วมมือด้วยนะคะคุณดล อย่าติดคอตายล่ะฉันไม่อยากติดคุก”

เปิดตลับยาหม่องป้ายลงที่หน้าอกและลำคอให้ช่วยดับกลิ่นอีกแรง ถ้าเป็นเด็กคงอุ้มไปอาบน้ำให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หยิบผ้าห่มมาคลุมสองร่าง พรุ่งนี้คงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งผ้าห่มยกเซทเป็นแน่ ก่อนถอนหายใจและเดินไปปิดไฟ หอบหมอนกับผ้าห่มผืนเล็กออกมานอนที่โซฟา

ทันทีที่ห้องมืดลงภูวดลกลั้นขำหลุดหัวเราะในลำคอกับการแก้ปัญหาของเธอ หากไม่แกล้งเมาวันนี้คงไม่ได้นอนกับลูกเป็นแน่ ก่อนจะพลิกตัวไปหอมแก้มเด็กน้อยที่นอนอยู่ข้าง ๆ

ภูวดลตื่นนานแล้วแต่ไม่ยอมลุกจากที่นอน เพียงเพราะต้องการให้ลูกตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าพ่อและอยากขอโทษที่ผิดสัญญากับลูกเมื่อวาน กลิ่นอาหารหอมฟุ้งโชยมาจากในครัวจากการคาดเดาของชายหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นไข่เจียว เธอคงทำอาหารจานด่วนสำหรับลูกก่อนไปโรงเรียน

เจ้าตัวเล็กพลิกตัวขาพาดเข้ากับร่างใหญ่ของผู้เป็นพ่อ พร้อมกันกับภูวดลที่แกล้งหลับตาลง

“พ่อดล”

มือที่ถือจานข้าวไข่เจียวชะงักชั่วครู่พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากกับเสียงหัวเราะสองเสียงที่ดังมาจากห้องนอน เธอคงไม่ต้องไปปลุกภูวภัสแล้วกระมัง สักครู่สองพ่อลูกก็เดินออกมา

“ภูอาบน้ำได้แล้วลูก จะได้รีบแต่งตัวเดี๋ยวสาย”

“ครับ”

“วันนี้พ่อไปส่งที่โรงเรียนนะ”

“โอเคครับ” พร้อมเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

“มีกาแฟไหม?”

ภูวดลที่เดินเข้ามาหย่อนก้นลงนั่งที่โต๊ะกินข้าว มุกดาใช้ปากชี้ไปที่มุมกาแฟความหมายคือให้ชงกินเอง ชายหนุ่มถลกแขนเสื้อเชิ้ตตัวเก่าที่ใส่ทำงานและใส่นอนข้ามวันเก้ ๆ กัง ๆ อยู่มุมกาแฟ

“แก้วล่ะใช้อันไหน?”

มุกดาไม่ตอบแต่เดินไปหยิบแก้วมาให้เขา จริงๆ แล้วเขาอยากได้กาแฟสดสักแก้วแต่ไม่ถามก็รู้ว่าไม่มีแน่นอน ภูวดลชำเลืองมองใบหน้าที่แต่งแต้มเรียบร้อยแล้วอย่างอ่อนๆ เธอสวมชุดฟอร์มสำหรับทำงาน มีเพียงผ้ากันเปื้อนที่สวมทับอีกทีเท่านั้น เธอตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอได้นอนวันละกี่ชั่วโมงกัน

“คุณทำเกินข้อตกลงนะคะ” เธอยืนพิงขอบโต๊ะในครัวและเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขานั่งลงเก้าอี้พร้อมแก้วกาแฟ

“อาทิตย์นี้คุณใช้สิทธิ์เกินไปหนึ่งวัน ต่อไปถ้าคุณดื่มแล้วเมามาค้างกับลูกอีกคุณจะโดนตัดสิทธิ์เหลือแค่อาทิตย์ละครั้ง”

“เธออยากตั้งกฎอะไรก็ตั้งตามใจตัวเองอย่างงั้นเหรอ?”

“ใช่ค่ะ” ตอบแบบไม่แยแส

“เพราะที่นี่เป็นบ้านฉัน และฉันไม่ชินกับกลิ่นที่คุณชื่นชอบ ภูก็คงไม่ชินเหมือนกัน และฉันไม่อยากให้ลูกเห็นสภาพของพ่อเค้าแบบเมื่อคืนอีก”

“หรือคุณไม่ซี?” สองสายตาสบกัน ภูวดลที่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ดูหญิงสาวจะเข้ม ดุ และดูจริงจังมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เจ้าระเบียบ จากที่ใช้ชีวิตเหมือนเป็นผู้ขออาศัยอยู่ในบ้านของเธอตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเมื่อก่อนที่เอาแต่หลบหน้าไม่ค่อยกล้าสบตากับเขาสักเท่าไหร่ และคอยเฉมองไปทางอื่นตลอด ตอนนี้จ้องตาไม่มีหลบแววหงอสักนิดก็ไม่มี ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเฉมองไปทางอื่นเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด

“แม่ครับอาบน้ำเสร็จแล้วครับ”

เสียงเจ้าตัวเล็กที่ตะโกนออกมาจากหน้าห้องน้ำ เธอผละเดินออกไปแต่งตัวให้ลูกที่อาบน้ำแปรงฟันแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งบางวันก็งอแงให้แม่อาบให้บางวันก็อาบเอง เธออยากฝึกให้ลูกพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็กแต่คอยสอดส่องอยู่เสมอ ไม่นานสองแม่ลูกก็เดินออกมาที่โต๊ะอาหาร

“รีบกินเร็วเข้าเดี๋ยวสาย”

“พ่ออาบน้ำแป๊บนึงนะครับ ภูกินข้าวรอไปก่อนนะครับ”

“ครับ”

ภูวภัสที่ตักข้าวเข้าปากเหมือนแมวดมก็รู้สึกอิ่มเสียแล้ว เขี่ยข้าวในจานไปมายิ่งพยายามฝืนกินยิ่งพะอืดพะอม ถึงพูดไปว่าไม่หิวแม่ก็ต้องบังคับให้กินอยู่ดี กับสายตาของมุกดาที่คอยชำเลืองมอง

“ไม่อร่อยเหรอ?” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

“อร่อยครับแต่ภูยังไม่หิว” วางช้อนส้อมลงยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม พลางเล่าเรื่องเพื่อนๆ ที่โรงเรียนให้ฟังระหว่างที่นั่งรอผู้เป็นพ่อที่กำลังอาบน้ำแต่งตัวอยู่ มุกดาเก็บกวาดในครัวรอออกไปพร้อมกันเพื่อที่จะได้ล็อกรั้วบ้านและเก็บกุญแจไว้

“เสร็จแล้วครับไปกัน” ภูวดลออกมาจากห้องชวนเจ้าตัวเล็ก

“ภูอิ่มหรือยัง? หันไปมองจานข้าวที่พร่องไปแค่นิดเดียว

“พ่อดลกินไหมครับภูอิ่มแล้ว” มองตามหลังแม่ที่เดินเข้าห้องน้ำ เด็กน้อยที่คิดว่าถ้าหมดจานคงจะดีหากพ่อช่วยกิน

ภูวดลที่นั่งลงข้างลูกขยับจานข้าวมาตรงหน้าและตักใส่ปากคำโตๆ ไม่กี่คำก็เกลี้ยงจาน รินน้ำใส่แก้วยกขึ้นดื่มรวดเดียว จริงๆ เขาหิวมากตั้งแต่เมื่อคืนที่เอาแต่ดื่มโดยไม่แตะอาหารเลย ไปถึงที่ทำงานก็คงไม่มีเวลากินดูจากตารางงานของวันนี้ที่เทวาส่งให้

“เรียบร้อย ไปกันเถอะ” แค่อาหารไม่กี่คำก็สบายท้องขึ้นมาทันที

“คุณครูบอกอาทิตย์หน้าก็ปิดเทอมแล้วนะครับพ่อดล”

“ภูอยากไปเที่ยวสวนสนุกพ่อดลพาไปได้ไหมครับ”

“ได้อยู่แล้ว”

“เย้”

มุกดาที่ยืนมองอยู่ด้านหลัง และเดินตามสองพ่อลูกออกไป ก่อนแยกย้ายกันขึ้นรถคนละคันและเจ้าตัวเล็กที่โบกมือให้ผู้เป็นแม่ขณะที่พ่อขับรถเคลื่อนออกไป

ดูเหมือนวันเวลาในการใช้ชีวิตของรูปแบบครอบครัวจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์มากนักของพ่อแม่ลูกบ้านนี้ แต่คนที่มีความสุขที่สุดอย่างเห็นได้ชัดคือภูวภัสผู้เป็นลูก ส่วนคุณพ่อและคุณแม่ที่ยังต้องปรับตัวเข้าหากันอยู่เสมอเพราะยังไม่ชินกับสถานะของอีกฝ่าย แต่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันให้ลงตัวที่สุด เพื่อความสุขของลูกในความคิดของเขาและเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 14 เตียงเดียวกัน

    หลังจากทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็อาบน้ำเดินเข้าห้อง วันหยุดที่แสนจะเหนื่อยล้าจากการเดินจนขาลาก เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ปลายสายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ส่งข้อความจะโทรมาเม้าท์มอยเรื่องงาน เอนตัวลงบนเตียงนอนคุยโทรศัพท์นานสองนานกว่าจะวางสายไป รอยยิ้มที่มีความสุขของลูกในวันนี้ผุดขึ้นมาในหัวทำให้เผลอยิ้มคนเดียว หลับตาผ่อนคลายเบาๆ ด้วยความอ่อนเพลียทำให้เผลอหลับไปสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกฝ่าเท้าเล็กๆ ถีบเข้าที่สะโพก เธองัวเงียลุกขึ้น ไฟในห้องถูกปิดแล้ว ตอนไหนกัน นี่เธอกลายเป็นคนนอนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงไม่รู้สึกตัวได้ขนาดนี้ และที่สำคัญสองพ่อลูกนอนอยู่ข้างเธอ บนเตียงเดียวกัน ลุกพรวดขึ้นมาทันที กำลังอ้าปากจะวีนเขา“ชู่ว” ภูวดลที่ส่งสัญญาณห้ามใช้เสียง นิ้วชี้วางทับที่ริมฝีปากและชี้ที่เจ้าตัวเล็กที่กอดพ่อแน่นและกำลังหลับอย่างสบายใจ“กลับห้องคุณเลย” เธอกระซิบเสียงเบาเขาชี้นิ้วบอกต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้กลับห้องที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ตอนนี้ มุกดาโน้มตัวลงไป เอื้อมมือคว้าแขนเจ้าตัวเล็กออกจากอกพ่อ และทันทีที่ภูวภัสพลิกตัวเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วและฟาดแขนลงที่แขนพับของแม่อย่างกะทันหันโดยไ

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 13 สวนสนุก

    ทุกสายตาแอบชำเลืองมองสองร่างที่เดินเข้าสำนักงาน ผู้เป็นพ่อที่จูงมือลูกชายเดินผ่านหน้าประชาสัมพันธ์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ผิดกับเจ้าตัวเล็กที่กวาดสายตามองรอบบริเวณอย่างตื่นเต้นถึงแม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มานั่งเล่นในห้องทำงานของพ่อระหว่างที่รอให้แม่กลับถึงบ้าน พนักงานสาวต่างสุมหัวซุบซิบหลังจากเจ้านายหนุ่มเดินลับตาไป ครั้นจะหาคำตอบจากคนสนิทอย่างเทวาก็คว้าน้ำเหลว“อยากรู้ก็ถามบอสเองสิครับ?”“ลูกบอสหรือเปล่า?“แต่บอสยังไม่ได้แต่งงานนี่นา”“โอ๊ย…ไม่แต่งงานก็มีลูกได้”“แล้วแม่เด็กล่ะ มีใครเคยเจอสักครั้งหรือยัง?”“ไม่เคยนะ”“ทำไมไม่ลองถามเด็กดูล่ะ”“เธอก็เดินเข้าไปถามสิในห้องบอสน่ะ”“พูดเป็นเล่น” และต่างเดากันไปต่างๆ นานาอย่างสนุกปากและแน่นอนว่าเรื่องนี้ถึงหูลลิตาอยู่แล้วจากที่ผูกมิตรกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไว้ขอให้ส่งข่าวหากมีความเคลื่อนไหวของภูวดลเจ้าหน้าที่การเงินวางแฟ้มรายงานการเบิกจ่ายประจำเดือนที่สูงผิดปกติบนโต๊ะทำงานประธานหนุ่ม พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดคร่าว ๆ ที่อยู่ในแฟ้มให้เจ้านายฟัง“พ่อครับ”“ภูต่อเสร็จแล้วนะครับ พ่อมาดูเร็ว”เสียงที่กำลังรายงานเจ้านายอยู่สะดุดทันที และหัน

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 12 ผู้อาศัย

    เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำงานปลุกให้คนที่นั่งอมยิ้มปรับสีหน้าให้เป็นปกติทันทีจากการดูภาพถ่ายของตัวเองกับลูกชาย และภาพที่แอบถ่ายแม่ของลูกก่อนหย่อนโทรศัพท์มือถือเข้าเก็บในกระเป๋ากางเกง“วินนี่โทรหาคุณหลายครั้งแล้วแต่เทวาบอกว่าคุณยุ่งอยู่วินนี่ก็เลยแวะมารอค่ะ”วนิดา ที่กำลังตกเป็นข่าวซุบซิบในแวดวงไฮโซว่าเธอคือหญิงสาวที่กำลังคบหาดูใจกับภูวดลอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่เธอสร้างขึ้นและกระจายข่าวออกไปเท่านั้น สำหรับเธอเองที่ยังรอคอยสถานะจากภูวดลอยู่ และไม่มีทีท่าว่าเขาจะให้ความชัดเจนกับเธอเลยสักครั้ง ยังคลุมเครืออยู่อย่างนั้น แต่เธอก็ไม่ท้อใจในการวิ่งตามความรู้สึกของตัวเอง“ผมเพิ่งออกห้องประชุมเห็นเบอร์คุณแล้วแต่ยังไม่ได้โทรกลับ”“คุณมีอะไรด่วนหรือเปล่า?”“ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะ วินนี่แค่มาชวนคุณไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน”“ไปนะคะ” ส่งยิ้มให้และรอคำตอบอยากจะปฏิเสธแต่ก็นึกเห็นใจหล่อนที่อุตส่าห์นั่งรอเขาอยู่นานจนกระทั่งประชุมเสร็จ ไหน ๆ ก็เป็นคนคุ้นเคยก็แค่ออกไปกินข้าวกลางวันเท่านั้น จึงตกปากรับคำไป แต่ในใจกลับคิดถึงสองแม่ลุกขึ้นมาเสียอย่างนั้นมุกดานั่งมองคนหน้าเศร้าที่ต่อจิ๊กซอว์คนเดี

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 11 ติดลูก

    ภูวดลเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าใบใหญ่ ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น พร้อมชุดทำงาน ลากลงมาจากชั้นบนพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของขนุนที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“คุณดลจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ?”“เปล่า?”ขนุนกะพริบตาปริบๆ เพียงแค่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าถามต่อ หลังจากที่คุณท่านเสียเจ้านายคนเล็กก็กลับมาอยู่ที่บ้าน นานๆ จะกลับไปค้างที่คอนโดสักครั้งแต่วันนี้จัดกระเป๋าเองและไม่ได้ไปต่างประเทศ แล้วจะไปไหน ได้แค่สงสัยเท่านั้น“ตอนเย็นไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อฉันนะ”“วันนี้ไม่กลับบ้าน” บอกอย่างอารมณ์ดี“ค่ะคุณดล”ภูวดลจอดรถที่หน้าโรงเรียนรอรับภูวภัสหลังเลิกเรียนซึ่งชั้นอนุบาลคุณครูจะปล่อยเด็กกลับบ้านเร็วกว่ารุ่นพี่ชั้นปฐม แต่เนื่องจากต้องรอแม่มารับหลังเลิกงานทุกวันเด็กชายจึงค่อนข้างแปลกใจที่คุณครูบอกว่าผู้ปกครองมารอรับเด็กชายภูวภัสแล้วไม่แค่เพียงภูวภัสเท่านั้นที่รู้สึกแปลกใจ คุณครูประจำชั้นอนุบาลที่รู้สึกคุ้นหน้ากับคุณพ่อของเด็กน้อยที่ดูยังไงก็เหมือนประธานบริษัทแขกคนสำคัญของทางโรงเรียน ที่นำของมาบริจาคให้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา“พ่อดล”เมื่อมั่นใจว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนจริงคุณครูก็อนุญาตให้กลับได้ ภู

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 10 ปรับตัว

    ภูวภัสตื่นแต่เช้าตรู่เพื่ออาบน้ำพร้อมกับเสียงเพลงจากปากเจ้าตัวเล็กที่ร้องดังจนก้องห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี แต่งตัวรอพ่อมารับอย่างตื่นเต้น มุกดาที่มองภาพเด็กชายพร้อมความเศร้าที่ผุดขึ้นมาในใจรู้สึกผิดต่อลูกจนใจหวิว เขาคงดีใจมากที่มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ลูกถามเธอก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดเสียงรถจอดหน้าบ้านพร้อมกับร่างเจ้าตัวน้อยที่วิ่งพรวดพราดออกไปดูทันที“พ่อดลมาแล้ว” เปิดประตูรั้ววิ่งออกไปหาผู้เป็นพ่อที่อยู่หน้าบ้าน“รอพ่อนานไหมครับ?” อุ้มลูกขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด“นานมาก….” ลากเสียงยาว“ยังไม่ถึงเวลานัดเลย พ่อมาก่อนเวลาด้วยนะโกหกหรือเปล่า?”พร้อมเสียงหัวเราะสองพ่อลูกที่ดังประสานกันสองผู้สูงวัย ยายดวงใจ และตาทวี ที่กำลังตัดแต่งกิ่งดอกกุหลาบในกระถางหน้าบ้านส่งสายตาข้ามกำแพงรั้วที่สูงแค่อก กั้นอาณาเขตบ้านสองหลังอยู่ มองภาพผู้มาเยือนที่ไม่คุ้นหน้าแต่ท่าทางสนิทสนมกับภูวภัส ก่อนจะเอ่ยปากถามเด็กชาย“น้องภูจะไปเที่ยวไหนจ๊ะแต่งตัวเท่เชียว” คำถามจากยายดวงใจ“ไปซื้อของครับยายดวง”“พ่อมารับครับ” เด็กน้อยอวดว่าเขามีพ่อแล้วอย่างมีความสุข“พ่อ?” ยายดวงทวนคำพูดของเด็กน้อยในใจ“สวัสดีครับ”ภูวดลท

  • โซ่รักกับดักหัวใจ   ตอนที่ 9 คำขู่

    ความเงียบเข้าครอบคลุมการสนทนาชั่วขณะ พร้อมกับหัวใจของมุกดาที่หล่นวูบลงเช่นกัน ก่อนเรียกสติกลับคืนมา“คุณพูดอะไร?”“ฉันรู้ภูเป็นลูกฉัน”มุกดาที่แววตาไหวระริกกับคำพูดของเขา ใจเต้นแรงพร้อมใบหน้าที่ร้อนวูบวาบแต่ยังคุมอาการได้อยู่แม้จะหวิว ๆ ในใจ พร้อมหลากหลายคำถามและคำตอบวิ่งวนปั่นป่วนในหัวไปหมด เขารู้แล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ เขารู้ได้ยังไง หรือเขาแค่ลองหยั่งเชิงเธอดูเท่านั้น“เธอไม่คิดจะให้พ่อลูกเขาเจอกันเลยหรือยังไง?“ถ้าฉันไม่บังเอิญเจอลูกเองก็คงไม่รู้”“ใจดำไปนะ”มองใบหน้าสวยด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ยาก“ใครบอกคุณคะว่าภูเป็นลูกคุณ?”พลันคำพูดของเด็กน้อยในวันนั้นที่แวบเข้ามาในความจำว่าลุงดลตัดเล็บให้ เขาเอาไปตรวจดีเอนเอแล้วหรือเปล่านะ ถึงได้พูดแบบนี้ แต่เธอต้องนิ่งเข้าไว้ภูวดลยื่นซองเอกสารส่งให้เธอดู มุกดารับมาอ่านและวางลงดังเดิมควบคุมปฏิกิริยาตัวเองทั้งสีหน้าและอารมณ์ให้คงที่ บอกตัวเองว่าเธอไม่ใช่เด็กในบ้านเขาแล้ว ไม่ใช่พนักงานในบริษัทของเขาที่ยังรับเงินเดือนจากเขา ไม่มีอะไรที่ต้องเกรงกลัวเลยสักนิด แม้ในใจจะหวั่น ๆและแล้ววันที่เธอกลัวมาตลอดก็มาถึงจนได้ วันที่เขาเจอเธอและลูก ที่สำคัญเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status