คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
Lihat lebih banyakณ เมืองลอสแอนเจลิส (L.A.) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในย่านใจกลางเมืองมีตึกไอทีที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันอับต้นๆในแถบยุโรปอยู่ นั่นก็คือบริษัท ไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ป ที่มีผู้บริหารสุดหล่ออย่าง คาเรน เซนโดริก เป็นผู้สืบทอดบริษัทนี้ต่อจากบิดาและมารดาที่เสียชีวิตไป ตั้งแต่เขาอายุยี่สิบสองปี จนเขาสามารถนำพาบริษัทให้ก้าวหน้าจนมีสาขาในประเทศต่างๆกว่าสิบประเทศ จนตอนนี้เขาก็อายุสามสิบสองปีแล้ว เขากลายเป็นนักธุรกิจที่ทรงอำนาจในแวดวงธุรกิจ และที่หลายคนยังไม่รู้ก็คงจะเป็นเรื่องที่เขาเป็นหลานชายคนโตของท่านลาฮิม ซามัสเซล มหาเศรษฐีในนครดูไบ ที่รวยติดอันต้นๆของโลก เพราะทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อน้ำมัน และผลิตรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อดัง รวมไปถึงธุรกิจต่างๆในนครดูไบและอาบูดาบี แต่เพราะพ่อของเขาตัดสินใจแต่งงานกับแม่ของเขาซึ่งเป็นชาวต่างชาติ จึงถูกตัดจากการเป็นทายาทของตระกูล ซามัสเซล แต่เขาก็มีบริษัทด้านไอทีของแม่ให้ดูแล โดยมีท่านลาฮิมคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไป
“นายครับ ท่านลาฮิมต้องการคุยกับนายด่วนครับ” บาคัส ลูกน้องหนุ่มในวัยสามสิบปีเอ่ยบอกเจ้านายของตัวเอง พร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือให้
“อืม” คาเรนรับโทรศัพท์ถือมาก็ถอนหายใจ ก่อนจะเอามาแนบที่ข้างหูซ้าย
“สวัสดีครับคุณปู่” คาเรนพูดออกไปด้วยเสียงเรียบ ก่อนจะพิงเก้าอี้ไปด้านหลังอย่างผ่อนคลาย
“ได้ข่าวว่าหลานจะจัดงานรวมตัวงั้นเหรอคาเรน” ลาฮิมเอ่ยถามหลานชายคนโตออกไป เพราะเขาพึ่งได้รู้ข่าวจากคามีลหลานชายคนรอง
“คามีลมันบอกอีกแล้วล่ะสิครับ ไอ้นี่มันปากไม่ดีจริงๆ” ราเคนเอ่ยต่อว่าคามีล ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่ตอนนี้เป็นทายาทของตระกูลซามัสเซล ส่วนเขาใช้นามสกุลของแม่มาตั้งแต่แรก จึงขอใช้ต่อไปเพื่อจะได้มีคนสืบสกุลทางฝั่งมารดา
“ลองคามีลมันไม่บอกปู่สิ ปู่จะโกธรทั้งคู่เลย” ลาฮิมเอ่ยบอกหลานชายที่เขารักออกไป เขาพยายามดูแลคาเรนให้เหมือนคามีล ถึงแม้ว่าเขาจะเอ่ยบอกว่าคามีลคือทายาทคนเดียว แต่นั่นมันก่อนที่ลูกชายของเขาจะเสียชีวิตไป ตั้งแต่นั้นเขาก็รู้ว่าสมบัติที่เขามี มันไม่เท่ากับความสุขที่เขาได้มีร่วมกับลูกหลานของตัวเอง เขาจึงอยากจะคาเรนให้กลับมาเป็นทายาทอีกคน แทนพ่อของคาเรนที่เสียไป แต่มันก็สายเกินไป เมื่อคาเรนก็ไม่ยอมรับอะไรจากเขาทั้งสิ้น แถมยังบอกจะดูแลบริษัทเอง แต่ด้วยความที่ตอนนั้นคาเรนยังเด็ก เขาจึงช่วยประคับประคองบริษัทของลูกสะใภ้ที่เขาไม่ชอบไว้ เพราะต้องการให้หลานชายได้รักษาบริษัทที่พ่อแม่ของเขารักเอาไว้ โดยการซื้อหุ้นของบริษัทจากนักลงทุนคนอื่นๆมาทั้งหมด เพราะเขาอยากจะให้บริษัทนี้เป็นของคาเรนทั้งหมด แต่คาเรนไม่ยอมจนพยายามพัฒนาบริษัท และในที่สุดคาเรนสามารถซื้อหุ่นจากปู่แบบเขาคืนไปได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่15 %เท่านั้นที่เขาขอคาเรนเก็บไว้
“ปู่มีอะไรกับผมรึเปล่า” คาเรนเอ่ยถามไปตรงๆ เพราะปู่ของเขาคงไม่มีทางโทรมา เพื่อพูดเรื่องแค่นี้กับเขาแน่นอน
“ปู่อยากให้เรามาจัดงามที่ดูไบ ปู่อยากจะให้คนอื่นรู้ว่าปู่ก็มีหลายอีกคน”ลาฮิมเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเศร้า เพราะเขาขอร้องคาเรนมาหลายครั้ง แต่คาเรนก็ไม่ยอม ขนาดให้คามีลกับเคียร่าหลานสาวอีกคนไปพูดโน้มน้าวใจ แต่หลานชายคนนี้ก็ใจแข็งเหลือเกิน
“ผมไปจัดงานที่นั่นได้ แต่ผมไม่อยากเปิดตัวอะไรทั้งนั้นครับปู่ แค่ปู่รักแล้วดูแลผมแบบนี้ ผมก็ว่ามันเกินไปแล้วด้วยซ้ำ” คาเรนเอ่ยบอกไปตามตรง เพราะเขาไม่อยากจะให้ความหวังของปู่ตัวเอง เขารู้ว่าปู่ของเขาพยายามไถ่โทษกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา แต่ภาพที่ปู่เกลียดชังแม่ของเขา มันยังคงวนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา
“คาเรน แกก็รู้ว่าสำหรับแก ปู่ทำได้ทุกอย่าง” ลาฮิมพูดไปอย่างท้อๆ เมื่อคาเรนดูเหมือนจะไม่สนใจเขา
“เอาเป็นว่าผมจะจัดงานที่ดูไบก็แล้วกันครับ แต่อย่างอื่นค่อยว่ากัน” คาเรนเอ่ยบอกไป เพราะเขาก็ไม่อยากให้ปู่ของเขาเสียใจ แต่เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้
“แค่นี้ปู่ก็ดีใจแล้ว ปู่จะรอแกนะคาเรน” ลาฮิมเอ่ยพูดบอกไปก็กดวางสายไป ส่วนคาเรนก็ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยบอกลูกน้องที่อยู่ข้างๆ
“บาคัส เปลี่ยนไปจัดงานที่ดูไบ แล้วติดต่อคามีลให้จัดการเรื่องที่พักให้คนของเราด้วย” คาเรนเอ่ยบอกออกไป เพราเขาต้องจัดงานประชุมงบรายได้และหลายๆอย่าง ร่วมกับษริษัทลูกกว่า 10 สาขาทั่วโลก
“กี่ท่านครับนาย” บาคัสถามออกไป เพราะแต่ละสาขาจะต้องมีคนมามากกว่าห้าคน
“เพิ่มจากห้าคน เป็นหกคนก็แล้วกัน ให้มีคนพูดภาษาอาหรับได้ยิ่งดี เพราะปู่ฉันคงจะต้องมายุ่งด้วยแน่” คาเรนเอ่ยบอกไป เพราะอย่างน้อยปู่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นประธานใหญ่ของบริษัทนี้มาก่อน
“ครับนาย งั้นผมจะแบ่งงานเป็นสองอาทิตย์นะครับ จะได้รวบเวลาด้วย” บาคัสเอ่ยบอกไปแล้วจดจำรายระเอียดต่างๆลงในโทรศัพท์
“อืม แค่นี้ก็พอ ส่วนเย็นนี้นายไปเรียกฮาน่ามาหาฉันด้วย” คาเรนเอ่ยบอกไปก็ปัดมือไล่ให้บาคัสออกไป ก่อนจะมองที่หน้าต่างอย่างใช้ความคิด
อีกด้านหนึ่งของโลก ณ ประเทศไทย
รินลดา ชลวัตร หรือทับทิม สาวน้อยหน้าหวานใส่แว่นหนาเตอะที่ใครๆก็เรียกว่าป้า กำลังเดินเข้าไปในบริษัทใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านเศรษฐกิจด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เพราะเธอนอนหลับก็ตีหนึ่งตีสองทุกวัน พอตื่นมาก็ต้องมาทำงานเวลา 8โมงกว่า โชคดีที่คอนโดของเธออยู่ใกล้ๆกับที่ทำงาน เธอจึงไปสายกว่าคนอื่นๆได้ เพราะยังไงเธอก็ไปทัน 8โมงครึ่งอยู่ดี พอมาถึงบริษัทเธอก็ยิ้มทักทายทุกคน จนมาถึงแผนกของตัวเอง
“ยัยทับทิมมาสักทีนะแก แกรู้ไหมวันนี้คุณศิวะเขาจะมาคัดเลือกให้พวกแก ร่วมเดินทางไปดูงานที่ดูไบด้วยแหละ แกต้องไปให้ได้นะ ฉันจะได้มีเพื่อนไปด้วยงานนี้ฟรีตลอดทริปนะยะ” ไอรินที่มารอเพื่อนสาวก็เอ่ยกระซิบบอกออกไปเบาๆอย่างดี้ด้า ที่เธอจะได้ไปดูงานที่ดูไบร่วมกับบริษัทอีกหลายสาขาทั่วโลกของบริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปที่พวกเธอทำงานอยู่ เพราะปีนี้ลงทุนจัดงานที่นครดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เลยทีเดียว
“จริงเหรอแก แล้วฉันจะไปได้ยังไงเล่า แกอย่าลืมสิว่ายัยชมพู่นางฟาดเรียบไปทุกงาน แล้วฉันคงจะได้ไปกับแกหรอก” รินลดาเอ่ยบอกแล้ว มองไปที่สาวสวยประจำแผนกที่เคยแย่งแฟนของเธอไป
“โอ้ยทับทิม งานนี้แกได้ชัวร์เพราะเขาจะเอาภาษาอาหรับย่ะ ยัยนั่นไม่ได้แน่ ฉันไปก่อนล่ะแกก็เตรียมตัวไว้ล่ะ เดี๋ยวจะได้เข้าห้องประชุมแล้ว” ไอรินเอ่ยบอกเพื่อนสาว แล้วรีบเดินกลับไปทำงานของตัวเองทันที ยังไงงานนี้เพื่อนของเธอไม่พลาดแน่นอน
“เฮ้อ ขอให้ได้ทีเถอะ สาธุ” รินลดาเอ่ยบอกพร้อมกับยกมือไหว้ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“มาสายตลอดแบบนี้ ระวังสักวันจะโดนไล่ออกนะจ้ะทับทิม” ชมพูนุชที่เห็นรินลดามานั่งที่โต๊ะก็เอ่ยแขวะทันที เพราะเธอและรินลดาไม่ถูกกันตั้งแต่เรื่องที่เธอไปแย่งแฟนของรินลดาเมื่อสองปีก่อน นั่นก็คือกวินทร์หนุ่มหล่อแผนกพัฒนาไอทีที่เธอกำลังคบหาอยู่ตอนนี้
“ถ้าฉันจะโดนไล่ ฉันก็คงโดนไปนานแล้วล่ะชมพู่ ฉันว่าเธอสนใจแต่เรื่องของเธอดีกว่าไหม ระวังสักวันกรรมจะตามสนอง” รินลดาเอยพูดแล้วจัดเอกสารบนโต๊ะทำงานโดยไม่ใส่ใจชมพูนุช ที่เอาแต่จิกกัดกับเธอทุกวัน
ด้านรินลดาที่เดินออกมานั่งที่สวนด้านหลังก็เล่าให้น้องสาวฟังกับเรื่องที่เธอนั้นโมโหคาเรนมาอย่างอัดอั้น เพราะเธอไม่รู้จะไประบายกับใครแล้ว ก็มีแค่วาสิตานี่แหละที่จะช่วยรับฟังเธอได้“พี่ทับทับก็ให้เวลาพี่คาเรนเขาหน่อยสิคะ นี่พี่จะเอาลูกพี่ก็จะเอาปุ๊บปับเลยแบบนี้ เขาก็คงจะยังไม่พร้อมมั้งคะ” วาสิตาพูดไปอย่างไม่รู้จะช่วยพูดยังไงดี เพราะก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองดีว่าต่างฝ่ายต่างก้มีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน“ไม่พร้อมอะไรกัน นี่ไม่ใช่ลูกคนแรกสักหน่อย เฮ้อ...พี่ว่าเขาไม่ได้รักพี่จริงๆหรอก” รินลดาคิดไปแบบน้อยใจ“ถ้าพี่คาเรนไม่ได้รักพี่จริงๆ เขาจะตามไปง้อพี่ถึงไทยจนได้แต่งงานมีครอบครัวแบบนี้เหรอคะ พี่ทับทิมอย่าน้อยใจไปเลยค่ะ เดี๋ยวพี่คาเรนเขาก็ยอมมีลูกอีกคนกับพี่เองแหละ...”วาสิตาพูดไปแบบมั่นใจ เพราะคาเรนตามใจพี่สาวของเธอจะตายไป เธอว่ายังไงเรื่องนี้เขาก็ต้องตามใจพี่สาวเธอแน่ๆ“จะยอมเหรอ เขาเอาแต่อ้างว่ากลัวพี่เจ็บอยู่นั่นแหละ ตัวก็ตัวพี่ พี่เจ็บของพี่ได้ พี่ก็ทนได้ไหมล่ะ เขาจะมากลัวพี่เจ็บทำไมกัน...พูดแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดอ่ะ เดี๋ยวก็หาผัวใหม่ซะเลย..” รินลดาพูดไปแบบอดไม่ได้“หาใหม่ก็ไม่ได้แบบนี้แล้วนะ
“อ่าส์...ซี๊ด...คุณก็อดทนไว้สิ เหมือที่คุณบอกกับผมไงที่รัก....อ่าส์...” คาเรนพูดบอกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เพราะทีนี้เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าเขาทรมานยังไงที่จะเสร็จแต่ได้เสร็จน่ะ“อ้ะ...คุณอย่ามาแกล้งกันแบบนี้สิคะ อ้ะ อ้ะ ...มันเสียวนะคะ...อื้อ...ฉันไม่ไหวแล้ว...อ้ะ อ้ะ...ซี๊ด...” รินลดาบอกไปยังไม่ทันจบร่างกายของเธอก็เกร็งกระตุกอย่างเสียวกระสันเลย เพราะถูกเขากระแทกรัวๆแบบไม่พักแบบนั้น“โอว์....ฟัก....ตอดโคตรแน่นเลย...อื้อ....ซี๊ด....” คาเรนพูดด้วยเสียงกระเส่า เมื่อร่องสาวของเมียรักตอดขมิบท่อนเอ็นของเขาจนแน่น ทำให้เขานั้นเอามือดันตัวเธอขึ้นแล้วดึงท่อนเอ็นออกมา เพราะเขาเองก็จะน้ำแตกแล้วเช่นกัน“พรึบ...อ้ะ...อย่ามาเนียนนะคะ คุณต้องแตกในตัวฉัน อ้ะ...อ้ะ อ้ะ...” รินลดารู้ทันเกมส์ของเขา เธอเอามือไปจับท่อนเอ็นของเขาแล้วเสียบใส่ร่องสาวของเธออีกครั้ง แล้วเธอก็ขย่มท่อนเอ็นของเขาไปแบบแรงๆ แบบขึ้นสุดลงสุดอย่างสะใจเลย“โอว์....ที่รัก....อื้อ....อย่า....อ้ะ....ซี๊ด....อื้อ....” คาเรนทำหน้าจุกๆออกมาแล้วเขาก็กัดฟันแน่นแล้วเขาก็พยายามอดทนไม่ให้ตัวเองแตกในร่องสาวของเธอ แต่ให้ตายเถอะ ร่องสาวของเธอมันโคตรเย
“ไอ้นี่ เหลนฉันยังไม่ทันโตเลยก็คิดจะจับเหลนฉันกับเหลนแกแล้วเหรอวะ...ไม่เอาๆ ฉันไม่อยากจะตกลงกับแกเลย เดี๋ยวคาเรนกับคามีลมันรู้ มันก็มาด่าฉันอีกที่ไปจับคู่ให้ลูกๆมันน่ะ...รอให้เด็กๆโตแล้วค่อยว่ากันก็แล้วกัน...” ลาฮิมปฎิเสธไปทันที เพราะเขาไม่อยากจะมีปัญหากับหลานของเขา มันหวงลูกพวกมันขนาดนั้น เขาจะกล้าตอบรับยังไงล่ะ“ฮ่าๆ...ตอนนี้กลัวหลานแล้วเหรอวะ แกนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ...” ซูรัสพูดไปด้วยรอยยิ้มขำๆ“ไม่ได้กลัวโว้ย ฉันแค่เคารพการตัดสินใจของหลานและเหลนฉันเท่านั้น พวกเขาจะรักใครชอบใคร ฉันก็แล้วแต่พวกเขาจะเลือก ฉันไม่อยากให้มันซ้ำรอยเหมือนกับพ่อแม่ของคาเรน...” ลาฮิมพูดไปเพราะมันทำให้เขารู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้เลย ที่ไปกีดกันความรักของลูกๆ จนเขาเกือบจะเสียคาเรนไป“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้แกก็เลี้ยงคาเรนมาอย่างดีจนมีครอบครัวที่มีความสุขแล้ว ลูกชายกับลูกสะใภ้ของแกคงรับรู้แล้วล่ะว่าแกรู้สึกผิดจริงๆ แกอย่าพูดถึงอดีตสิวะ วันนี้วันเกิดแกนะโว้ย มีความสุขหน่อยสิวะ” ซูรัสพูดไปแล้วตบไหล่เพื่อนหนุ่มไป“คุณปู่คะ เห็นพี่คาเรนกับทับทิมไหมคะ...” เคียร่าที่อุ้มหลานแฝดซันและซีนอลมากับพี่เลี้ยงนั้นเดิ
“อ้ะ อ้ะ นี่ขนาดคุณเสียวนะคะ...กระแทกเอา กระแทกเอาเลย...อ้ะ อ้ะ...ที่รัก....ฉันชอบดุ้นของคุณจังเลยค่ะ อ้ะ....ซี๊ด...” วาสิตาบอกเขาไปพร้อมกับสีหน้าเสียวสะท้าน“ไม่บอกผมก็รู้ว่าคุณชอบ...อ่าส์...ตับ ตับ ตับ ตับ...โดนกระแทกแบบนี้ คุณยังจะเหม็นผมอยู่อีกไหม....อ่าส์...” คามีลพูดไปแล้วเขาก็มองเธอด้วยสีหน้าหื่นๆ แล้วเร่งแรงตอกกระแทกไปอีกรัวๆ“โอ๊ย....ที่รัก...เบาหน่อยค่ะ ฉันท้องอยู่นะคะ...อือ...อย่าลืมสิคะ...ลูกค่ะลูก...อื้อ....ซี๊ด....” วาสิตาร้องบอกเขา เพราะเขาไม่ผ่อนแรงเลย เอาแต่กระแทกจนเธอรู้สึกว่าหัวท่อนเอ็นของเขามันเข้าไปชนจนสุดผนังร่องของเธอแล้ว“อ่าส์..ผมขอโทษ...ก็ผมคิดถึงคุณนิ อ่าส์....งั้นเปลี่ยนท่า....พรึบ....” คามีลพูดไปก็ล้มตัวนอนลงไปแล้วเขาก็จับตัวเธอขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวเขา“ขย่มเลยที่รัก ผมให้คุณควบคุมเองเลย..อืม...อยากจะเสียวแค่ไหนก็ขย่มมาเลย” คามีลบอกไปแล้วเขาก็นอนมองเรือนร่างสุดเอ๊กซ์ของเมียรักไป แล้วก็เอื้อมมือไปบีบขย้ำหน้าอกของเธออย่างหมั่นเขี้ยว“อ้ะ ค่ะ...ฉันจะขย่มให้สะใจเลยค่ะ...อือ...ที่รัก....จะเอาท่าไหนดุ้นคุณมันก็แทงจนจุกอยู่ดี....อ้ะ...อ้ะ...อื้อ....ซี๊ด...” วาสิตา
จนคามีลมองเธอแบบตกใจที่อยู่ๆเธอก็ทำหน้าเศร้าเหมือนคนจะร้องไห้ออกมาแบบนั้น เขาก็รีบนั่งลงตรงหน้าของเธอแบบห่างๆเพราะไม่อยากให้เธอเหม็นกลิ่นตัวเขา“คุณไม่ต้องขอโทษผมเลยที่รัก ไม่เป็นไรนะ...คุณกำลังท้องอยู่อย่าคิดมากนะ พรุ่งนี้เราสองคนค่อยไปหาหมอดูเผื่อจะแก้ไขอะไรได้ คุณไม่ต้องคิดมากนะ..ผมรักคุณนะ...” คามีลพูดบอกไปแล้วเขาก็เอื้อมมือไปจับมือของเธอแล้วเงยหน้ามองสบตากันอย่างหวานซึ้ง เพราะเขาจะโทษเธอได้ยังไงล่ะ ถ้าเธอท้องอยู่และแพ้แบบนี้ เขาก็ยิ่งต้องเข้าใจเธอสิ“ฉันก็รักคุณค่ะ...และฉันก็อยากจะมีความสุขกับคุณด้วย...” วาสิตาพูดตอบไปแล้วเธอก็มองอย่างหื่นๆ ด้วยความเสียดาย เพราะเธออยากจะเอากับเขาให้ชื่นใจ แต่เธอก็ดันมาเหม็นตัวเขาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ มันน่าโมโหจริงๆ“ไม่เป็นไรนะคะ เราสองคนก็มีความสุขกันแบบอื่นได้นิ...ผมไม่ทำให้คุณเหงาหอยหรอกที่รัก ผมรู้ว่าคุณมีความต้องการสูง...” คามีลพูดบอกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์“คะ...? คุณจะทำยังไงล่ะคะ ในเมื่อฉันเข้าใกล้คุณมากๆไม่ได้” วาสิตาถามไปอย่างอยากรู้“แต่ใกล้แค่นี้คุณก็ไม่ได้เหม็นตัวผมไม่ใช่เหรอ....ผมว่าเราสองคนก็ยังพอจะสนุกกันได้นะที่รัก....” คามีล
“ บางทีฉันอาจจะแค่แพ้...อ่อ ฉันไม่เป็นไรค่ะ นอนพักสักหน่อยก็คงดีขึ้นแล้ว แต่คุณรีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ..อาจะเป็นเพราะกลิ่นตัวคุณเลยทำให้ฉันเหม็นจนเวียนหัว....” วาสิตาบอกไป เพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากจะบอกเขาว่าเธอท้องลูกคนที่สองแล้ว เธออยากจะไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ“อ่อ โอเคๆ ผมจะอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย...คุณมานั่งพักก่อนมา...” คามีลบอกไปก็เข้าไปประคองตัวเธอ“ไม่ต้องค่ะ ฉันไปเอง คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไม่เป็นไร...” วาสิตารีบบอกไป เพราะเขายิ่งไกลเธอก็ยิ่งเหม็นจนอยากจะอ้วกขึ้นมาอีก“โอเคๆ งั้นผมจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ” คามีลรีบบอกไปก็รีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำตามที่เธอต้องการทันทีพอคามีลเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้ววาสิตาก็รู้สึกโล่งขึ้นมาทันที เธอก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วก็ครุ่นคิดกับอาการของเธอ“เมื่อก่อนคุณคามีลเขาก็ไม่ได้ตัวเหม็นนิ...ทำไมตอนนี้มันถึงได้เหม็นจนอยากจะอ้วกแบบนี้นะ...นี่เธอคงไม่ได้แพ้ท้องเหม็นขี้หน้าผัวตัวเองหรอกมั้ง...” วาสิตาพูดออกไปอย่างเดาๆ เพราะอยู่ๆเธอก็เหม็นตัวเขาแบบนี้ มันยังจะมีอะไรนอกจากนี้อีกเหรอ“ไม่มั้ง...ตอนท้องนาเดียเราก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยนิ...วันน
“รอนานขนาดนั้นแกกับเมียแกก็อายุเยอะขึ้นแล้ว ก็มีลูกกันยากแล้วน่ะสิ...รีบมีไล่เลี่ยกันแบบนี้น่ะดีแล้ว เด็กๆจะได้โตไปพร้อมกัน...เหมือนแกกับคาเรนแล้วก็น้องแกไง...เอาหลานชายให้ฉันอีกสักน่า...” ลาฮิมพูดบอกหลานชายไป“ขอหลานพร้อมระบุเพศแบบนี้มันยากนะครับปู่ ถ้าเกิดผมทำเมียผมท้องแล้วมีหลานสาวอีกคน เมียผมก็ต้องท้องอีกจนกว่าจะได้หลานชายงั้นเหรอครับ...เฮ้อ เมียผมไม่ใช่เครื่องผลิตลูกหลานชายให้ปู่นะครับ ตอนนี้ผมไม่อยากจะมีลูกครับ ผมอยากจะใช้ชีวิตกับเมียของผมก่อน” คามีลพูดแซะปู่ของเขาไป เพราะถ้าเขายอมความลำบากและความกดดันจะไปตกที่เมียเขาน่ะสิ“เออๆ แกพูดมาขนาดนี้แล้วฉันจะทำอะไรได้ ก็แล้วแต่แกเลยก็แล้วกัน ถ้าแกรักเมียแกขนาดนี้ ต่อไปก็หัดมีเวลาให้เมียซะบ้าง...ไม่ใช่ทำแต่งานอย่างนี้...” ลาฮิมแซะหลานชายกลับไป เพราะมันพูดแบบนี้ออกมาแต่มันกลับไม่มีเวลาให้เมียมันเลยด้วยซ้ำ“ครับๆ..งั้นผมเอาเมียเอาลูกไปพักผ่อนก่อนละกันนะครับ...แล้วพ่อแม่ของสองแฝดไปไหนกันล่ะครับ” คามีลพูดบอกไปก็หันไปหาหลานชายทั้งสองแล้วเอ่ยถามหาคาเรนและรินลดาทันที“สองคนนั้นเขาก็ไปสวีทกันนู้นสิวะ ไม่เหมือนแกหรอก...เมียกลับมาทั้งทีไม่คิดจะพา
ด้านคามีลพอรู้ว่าตอนนี้เมียสุดที่รักและลูกสาวตัวน้อยของเขาเดินทางกลับมาถึงดูไบแล้ว เขาก็รีบเคลียร์งานกลับไปหาเมียและลูกของเขาที่บ้านทันที“ทำไมที่บ้านเงียบแบบนี้ นายหญิงยังไม่กลับมาอีกเหรอ...ฉันบอกให้ส่งรถไปรอรับนายหญิงกลับมาแล้วนิ” คามีลเดินเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยถามพ่อบ้านไปแบบสงสัย“นายหญิงยังไม่ได้กลับมาเลยนะครับคุณคามีล..ผมก็ยืนรอตรงนี้นายแล้ว เดี๋ยวผมจะลองโทรหาคนขับรถให้นะครับ...” พ่อบ้านตอบไปตามตรง เพราะเขารอต้อนรับตรงนี้ก็ไม่เห็นเลย“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันโทรหาเมียฉันเอง นายจะไปทำอะไรก็ทำเถอะ....ไปไหนของเขากัน ทำไมยังไม่พาลูกกลับบ้านอีกนะ จะทำให้คิดถึงไปไหนเนี่ย...เฮ้อ...” คามีลได้ยินแบบนั้นก็พูดบ่นไป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเมียรักของเขา“ฮัลโหล....คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย ลงจากเครื่องมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังกลับมาไม่ถึงอีก...” คามีลพูดไปทันทีที่วาสิตารับสายของเขาแล้ว“ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านคุณปู่ค่ะ ท่านอยากจะเจอหลานๆฉันก็เลยพาเด็กมาเจอท่านก่อน เพราะยังไงคุณก็เอาแต่ทำงานคงไม่กลับบ้านเร็วอยู่ดี” วาสิตาพูดไปแบบประชดเขา เพราะเขาน่ะทำงานจนลืมลูกลืมเมียแล้วล่ะมั้ง“อย่าพูดแบบนี้สิ ผมไม่ได้เห็น
“ไง ท่านี้ตอกแรงดีไหม โอว์ ซี๊ด” คาเรนถามไปก็กระแทกท่อนเอ็นสวนขึ้นไปหาร่องสาวที่เขาบังคับเอวบางให้ตอกลงมาห่ท่อนเอ็นของเขา“อ้ะ อ้ะ ที่สุด อ้ะ อ้ะ เลยค่ะ ผัวขา อ้ะ อ้ะ” รินลดาพูดไปพร้อมกับกัดฟันเสียว เพราะท่านี้มันลึกจนเธอแทบจะครางไม่ออก“โอว์ ซี๊ด ไม่ไหวแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว” คาเรนพูดไปก็จับร่างบางให้นั่งลงบนเบาะ แล้วกระแทกใส่รินลดารัวๆจนเธอหัวสั่นหัวคลอน“แตกในนะคะ อ้ะ อ้ะ แตกในร่องเมีย อ้ะ อ้ะ” รินลดาบอกไปก็เอามือจิกแขนของคาเรนไปด้วย เพราะเขากระแทกแรงจนเธอถึงสวรรค์ไปก่อนเขา“โอว์ ซี๊ด แตกแล้ว อ่าส์ ซี๊ด” คาเรนพูดไปขณะเกร็งกระตุกปล่อยน้ำรักเข้าไปในร่องสาวตามที่รินลดาบอก ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นสองสามครั้ง เพื่อส่งลูกๆของเขาเข้าไปในตัวรินลดาให้ได้มากที่สุด“อ่าส์ แช่ไว้ก่อนนะคะ อ่าส์” รินลดาบอกไปก็ขมิบร่องสาวให้ตอดรัดท่อนเอ็นเพื่อดึงดูดน้ำรักของเขาให้เต็มที่“ทำแบบนี้พี่คงแช่ไว้ไม่ได้” คาเรนพูดไปก็ถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวจนน้ำรักไหลหยดลงพื้น คาเรนจับรินลดาให้หันหลังให้เขา แล้วใหเธอจับเบาะไว้ เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเอาท่อนเอ็นถูร่องที่ก้นงอนเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกครั้ง พอเขาไม่ได้มีอะไรกับรินลดามั
Komen