LOGINเส้นทางมุ่งสู่ชายทะเลภาคตะวันตกมีติดขัดในช่วงทำถนนแถวพระรามสอง แต่พอหลุดพ้นจากถนนเส้นดังกล่าวการจราจรก็โล่งขึ้น สีเขียวของต้นไม้รายทางพอให้สบายตาและสบายใจ เมลานีค้นพบว่ากริชขับรถเร็วแต่นุ่มนวลมาก เขาสามารถพูดคุยหรือแม้แต่คิดเลขเร็วเมื่อเธอลองแกล้งถามในขณะที่สลับเปลี่ยนเลนไปมา เป็นคนที่แยกส่วนของสมองและความเฉียบคมในการตอบสนองได้ดีมาก แตกต่างกับเธอที่แสนจะเชื่องช้า คิดและทำได้ทีละอย่างเท่านั้น
“พี่กริชขับรถเก่งจัง ขนาดเมลแกล้งให้คิดเลขไปด้วย ก็ยังขับซิกแซกได้อีก”
“อ้าว มีหนูเมลคนเดียวหรือเปล่าคะ ที่ทำไม่ได้ ถอยเข้าช่องจอดยังขยับแล้วขยับอีก” กริชหัวเราะเพราะเห็นฝีมือของเมลานีในการขับรถมาแล้ว แต่ข้อดีคือเมลานีรู้จักตนเอง หญิงสาวไม่เคยขับรถเร็ว เพราะกลัวจะควบคุมรถไม่อยู่หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
“เมลหมายถึงพี่กริชดูสนุกกับรถ ดูตั้งใจขับเหมือนพวกนักแข่งเลยค่ะ”
“พี่ชอบแต่งรถน่ะ ชอบพัฒนาศักยภาพที่มันมีอยู่ให้ข้ามขีดจำกัด”
“น่าสนุกจังนะคะ อย่างงี้คนก็ควรเอารถไปแต่งเพิ่มกันสิคะ”
“อย่างแรกเลยสำหรับการแต่งรถคือต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนเป็นหลัก หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของคนที่รักรถแล้วล่ะ บางทีนะหนูเมลค่าแต่งเติมเสริมหล่อ พาไปออกรถใหม่ได้อีกหลายคันเลย แต่รถหนูเมลใช้ได้อยู่แล้ว มาตรฐานรถยุโรป อีกอย่างหนูเมลไม่ได้ขับเร็วด้วย เข้าศูนย์อย่างเดียวก็เอาอยู่”
“ความจริงหนูเมลชอบรถคันเล็ก ๆ คลาสสิก ๆ แบบคันนั้นมากกว่า” หญิงสาวชี้ไปที่รถคันหน้า กริชจึงชะลอความเร็วลงเมื่อขับมาประกบเคียงข้าง เป็นรถญี่ปุ่นมือสองที่นำเข้ามาขายเพราะไม่มีไลน์ผลิตในไทย แต่เขาเห็นแล้วรถคันนี้น่าจะถูกวางเครื่องมาใหม่ ตกแต่งดูวินเทจชวนให้นึกถึงสมัยสี่ห้าสิบปีก่อน ตัวช่างคงมีไอเดียทางศิลปะพอสมควรจึงทำให้รถคันเล็กจากประเทศแสนทันสมัยดูคลาสสิกขึ้นไปได้ ประกอบกับสีเขียวพาสเทลที่ยิ่งมองยิ่งสบายตา ไม่แปลกที่เมลานีหรือเด็กสาวอีกหลายคน จะตื่นตาตื่นใจในความน่ารักของรถยนต์ประเภทนี้
“หน้าตารถเหมือนตู้กับข้าวดีแฮะ ความจริงรถที่น้องเมลชอบราคาเบากว่ารถที่ใช้อยู่ตอนนี้หลายเท่าเลยนะคะ”
“เมลไม่เคยอยากได้รถหรอกค่ะ เพราะเมลเองก็ไม่ได้ไปไหนไกล ๆ คนเดียวอยู่แล้ว แต่ถ้าต่อไปเมลทำงานหาเงินได้เอง เมลจะซื้อรถที่พี่กริชบอกว่าหน้าตาเหมือนตู้กับข้าวไว้ใช้เองซักคันนะ เมลจะได้ขับเจ้าตู้กับข้าวไปซื้อของอร่อยไว้รอพี่กริชดีไหมคะ”
“น่ารักจริง ๆ หนูเมลของพี่ วางแผนเป็นแม่บ้านให้พี่เหรอคะ”
“ใช่สิ หนูเมลจะจับพี่กริช”
“จับพี่ให้แน่น ๆ อย่าให้หลุดมือไปได้นะ”
“ได้เลย จะกอดไว้ทั้งตัวเลยค่ะ”
“จริงหรือเปล่าคะ รอด้วยความหวังเลยนะเนี่ย” กริชหันมาหยอดตาหวานใส่ จนคนที่เพิ่งทำใจกล้าก๋ากั่นหน้าแดงซ่าน สู้สายตาแพรวพราวของเขาไม่ไหวเอาเสียเลยจริง ๆ
เมื่อเข้าสู่ถนนเรียบชายทะเลที่มีทิวสนเรียงรายสวยงาม เมลานีก็ขอลงไปถ่ายรูปเสียหน่อย ชายหนุ่มจึงเลือกจอดรถใต้ต้นสนและหยิบรองเท้าแตะมาให้หญิงสาวสวมใส่แทนรองเท้าส้นสูงที่เธอสวมอยู่
“เดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้ค่ะ อีกนิดเดียวก็ถึงที่พักเราแล้ว” กริชจูงมือสาวน้อยที่ดูสดใสท้าทายสายลมและแสงตะวัน แก้มของหญิงสาวขึ้นสีชมพูระเรื่อชวนมอง ยิ่งยามลมทะเลพัดเอาผมยาวสลวยของเธอปลิวไสว งดงามและมีชีวิตชีวาจนเขาต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเทพีแห่งท้องทะเลไว้
“ให้ค่ะ” อยู่ ๆ เมลานีก็หยุดเดินแล้วยื่นข้อมือบอบบางมาตรงหน้าเขา แบมือขาวเนียนที่มีเม็ดสีน้ำตาลเล็ก ๆ อยู่ภายในออกมา
“หือ?”
“ก็เมลเตรียมของขวัญให้พี่กริชไม่ทัน ปีนี้ให้ลูกสนก่อนได้ไหมคะ” เมลานีขยับนิ้วยุกยิกไปมาเป็นจังหวะ ท่าทางเขิน ๆ แต่ก็ยังพูดต่อ “เมลชอบความหมายของมันจริง ๆ และก็คิดว่าเหมาะกับพี่กริชมาก ๆ ด้วย”
“ยังไงคะที่ว่าเหมาะกับพี่”
“ก็ความหมายของลูกสนมันสื่อถึงจิตใจที่เข้มแข็ง เมลรู้ว่าหัวใจของพี่เข้มแข็งแต่ก็สวยงาม พี่ไม่ได้แข็งเป็นหิน แต่แกร่งเหมือนลูกสนที่ทนทานกับทุกสภาพแวดล้อม”
“ขนาดนั้นเลย” กริชมองของขวัญเม็ดเล็ก ๆ ในฝ่ามือของหญิงสาวด้วยความสนอกสนใจ
“ที่สำคัญลูกสนก็ยังหมายถึงชัยชนะในการต่อสู้ด้วยนะคะ” เมลานียังบอกต่อเสียงเจื้อยแจ้ว โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าคนที่หลุบสายตาต่ำลงมีประกายไฟแวบเข้มข้นขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบลูกสนในอุ้งมือหญิงสาวขึ้นมาสัมผัสที่ปากเหมือนการจุมพิตเครื่องรางนำโชคแล้วหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อของตนเอง
“ชัยชนะจากหนูเมล พี่ต้องรับเอาไว้อยู่แล้วค่ะ”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







