นับว่าเป็นโชคดีที่เซ็กซ์ของเขากับเธอเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในอนาคตเขาก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่ได้ร่วมรักกันแบบจริงจัง หญิงสาวจะยังคล้อยตามเขาเหมือนตอนนี้หรือเปล่า เพราะบางครั้งเมื่ออารมณ์ถึงขีดสุดเขายอมรับว่าตนอาจจะรุนแรงไปบ้างด้วยความลืมตัว ถ้าเธอรับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้เขาก็คงต้องเป็นฝ่ายปรับตัวให้อ่อนโยนลง
ร่างอรชรเริ่มขยับเร่งเร้ามากขึ้นทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวคงใกล้ถึงฝั่งเต็มที เขาเองก็เช่นกัน ที่สุดแล้วเธอก็ทิ้งนำเขาไปก่อน เขาจึงต้องรับผิดชอบส่วนที่เหลือของตนเองจนกระทั่งไล่ตามเธอทันในที่สุด
“เมื่อกี้พราวเซ็กซี่มากเลยนะรู้ตัวรึเปล่า พี่ชอบมากเลย”
นฤบดินทร์จูบหน้าผากชื้นเหงื่อของพราวนภาอย่างแสนรักพลางกอดเธอไว้แนบอก บอกใครก็คงไม่มีคนเชื่อว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขากับเธอปรนเปรอความสุขให้กันอย่างนี้ทุกวัน หากแต่เป็นการร่วมรักที่ไม่มีการล่วงล้ำใด ๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าตนจะสามารถอดทนได้
ยิ่งท่วงท่าที่หญิงสาวอยู่บนเมื่อครู่นี้ช่างง่ายดายเหลือเกินหากเขาคิดจะลงมือให้เธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็ทำไม่ลง เข
“พราว! กลับมาแล้วหรือ”อภัสราตะโกนเรียกพราวนภามาแต่ไกล เจ้าของชื่อจึงหยุดเดินแล้วยืนรอให้เพื่อนที่กำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม แต่พออีกฝ่ายมาถึง เจ้าตัวกลับแบมือมาตรงหน้า พราวนภาจึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย“ของฝากไงละ แกไปบอสตันมาทั้งทีไม่คิดจะมีของฝากให้เพื่อนบ้างเลยหรือ” อภัสรายังคงแบมือในท่าเดิม พราวนภาจึงยิ้มกว้างแล้วพูดว่า“มีสิ ไม่มีได้ยังไง เอาไว้เจอเก้าก่อนแล้วค่อยให้พร้อมกัน”“หวังว่าคงไม่ใช่เครื่องสำอางนะ” อภัสราพูดกลั้วหัวเราะ“บ้าสิ บ้านฉันทำเครื่องสำอางขายแล้วแกจะให้ฉันซื้อเครื่องสำอางมาฝากแกเนี่ยนะ” พราวนภาอดขำไม่ได้“แต่พูดก็พูดเถอะ อเมริกามันไม่ค่อยมีของอะไรที่เป็นเอกลักษณ์พอจะซื้อเป็นของฝากได้เลยเนอะ แกว่าไหม เพราะถ้าเป็นพวกเสื้อผ้า กระเป๋าอะไรพวกนี้ก็มีขายในไทยหมดแล้ว แถมราคาที่โน่นบางรัฐยังแพงกว่าที่ไทยด้วยซ้ำ ไม่เหมือนญี่ปุ่นหรือจีนที่มองปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นสินค้าของที่นั่น” พราวนภานึกถึงต
นับว่าเป็นโชคดีที่เซ็กซ์ของเขากับเธอเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในอนาคตเขาก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่ได้ร่วมรักกันแบบจริงจัง หญิงสาวจะยังคล้อยตามเขาเหมือนตอนนี้หรือเปล่า เพราะบางครั้งเมื่ออารมณ์ถึงขีดสุดเขายอมรับว่าตนอาจจะรุนแรงไปบ้างด้วยความลืมตัว ถ้าเธอรับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้เขาก็คงต้องเป็นฝ่ายปรับตัวให้อ่อนโยนลงร่างอรชรเริ่มขยับเร่งเร้ามากขึ้นทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวคงใกล้ถึงฝั่งเต็มที เขาเองก็เช่นกัน ที่สุดแล้วเธอก็ทิ้งนำเขาไปก่อน เขาจึงต้องรับผิดชอบส่วนที่เหลือของตนเองจนกระทั่งไล่ตามเธอทันในที่สุด“เมื่อกี้พราวเซ็กซี่มากเลยนะรู้ตัวรึเปล่า พี่ชอบมากเลย”นฤบดินทร์จูบหน้าผากชื้นเหงื่อของพราวนภาอย่างแสนรักพลางกอดเธอไว้แนบอก บอกใครก็คงไม่มีคนเชื่อว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขากับเธอปรนเปรอความสุขให้กันอย่างนี้ทุกวัน หากแต่เป็นการร่วมรักที่ไม่มีการล่วงล้ำใด ๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าตนจะสามารถอดทนได้ยิ่งท่วงท่าที่หญิงสาวอยู่บนเมื่อครู่นี้ช่างง่ายดายเหลือเกินหากเขาคิดจะลงมือให้เธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็ทำไม่ลง เข
ไม่ต้องเดาก็พอรู้แล้วว่าหลังจากที่นฤบดินทร์เรียนจบกลับมา หมอนั่นจะต้องเอ่ยปากกับเขาเรื่องนี้ตามตรงแน่นอน เพราะจะว่าไปแล้วนิสัยบางอย่างของนฤบดินทร์ก็มีส่วนคล้ายคลึงกับเขาไม่น้อยเอาเถอะ จะคบกันเขาไม่ว่า แต่ถ้าทิ้งลูกสาวกูเมื่อไร มึงตาย!ตลอดห้าวันที่พราวนภาอยู่ที่นี่ นฤบดินทร์มักฉวยโอกาสหาข้ออ้างพาหญิงสาวออกไปเที่ยวเสมอ แต่ความจริงแล้วเขาพาเธอขึ้นมาอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องพักที่ชั้นยี่สิบห้าที่เขาจองเอาไว้เพื่อพลอดรักกันตามประสาคู่รักทั่วไป และทุกครั้งทั้งสองคนก็จะนัวเนียกันอยู่บนเตียงหลังใหญ่ ต่างคนต่างปรนเปรอความสุขให้อีกฝ่ายอย่างเต็มที่ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีการล่วงล้ำเกินเลยกันสักครั้ง และชายหนุ่มเองก็ไม่เคยออดอ้อนขอให้หญิงสาวมอบให้ เพราะเหตุนี้พราวนภาจึงยิ่งรักเขามากขึ้นทุกวันจนแทบไม่อยากกลับเมืองไทยพราวนภานอนซบอยู่บนอกของนฤบดินทร์ สายตาทอดมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอก หากแต่ไม่ได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของมันเลยแม้แต่น้อย พรุ่งนี้เธอต้องกลับเมืองไทยแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย เหตุใดห้าวันจึงเหมือนกับห้านาที เธออยากหยุดเวลาไว้
“โธ่พ่อ ผมก็ไม่เคยคิดกับพราวเล่น ๆ สักหน่อย ผมรับผิดชอบอยู่แล้วน่า จะให้ผมกลับไทยพร้อมพ่อกับแม่แล้วไปขอหมั้นพราวไว้ก่อนก็ได้นะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” หมั้นไว้ก่อนก็ดี จะได้ไม่มีแมลงที่ไหนมาไต่ตอมให้รำคาญใจ“ไม่ต้องเลย เรียนให้จบแล้วค่อยกลับไป แกทำอย่างกับไปขอปุ๊บแล้วพ่อเขาจะให้ปั๊บอย่างนั้นแหละ ก็รู้อยู่ว่าไอ้วินมันหวงลูกสาวอย่างกับอะไรดี มันคงกันท่าแกจนกว่าหนูพราวจะเรียนจบนั่นแหละ เพราะมันกลัวเวรกรรมจะตามทัน ตอนนั้นพ่อแช่งมันไว้”ท่านพูดจบเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะตอนที่มัลลิกา พี่สาวของเขาไปฝึกงานกับภาวินนั้นก็เสียท่าให้อีกฝ่ายตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ทำเอาบิดาของเขาคับแค้นใจมาจนทุกวันนี้“พ่อไม่ต้องห่วงหรอก ผมทำอะไรไว้ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ยังไงสะใภ้ของพ่อก็คือพราวแน่นอน” เขายิ้ม แต่บิดากลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วพูดว่า“แล้วมันจะลำดับญาติกันยังไงวะ ไอ้วินเป็นพี่เขยแก แกก็เรียกเขาว่าพี่มาแต่ไหนแต่ไร แล้วจู่ ๆ แกจะไปแต่งกับลูกสาวเขา คราวนี้แกจะเรียกเขาว่าพี่หรือพ่อล่ะ”“ก็ต้องเรียกคุณพ่อตาสิคร้าบ พ
นฤบดินทร์ออกมาสำรวจพื้นที่นอกบ้านหลังใหม่เพื่อหาที่วางโต๊ะหินสำหรับนั่งรับลมและอ่านหนังสือ บ้านหลังนี้เป็นหลังใหม่ของครอบครัวเขา แม้ว่าจะเป็นบ้านมือสองก็ตามเขากับครอบครัวเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่สัปดาห์กว่า ๆ จึงยังไม่คุ้นเคยกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง เขาเองก็ยอมรับว่าไม่ใช่คนที่มนุษยสัมพันธ์ดีนัก ตอนกลับจากโรงเรียนแล้วเห็นเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันขี่จักรยานกันเป็นกลุ่ม ๆ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปทำความรู้จักด้วย“พี่ พี่ขา” เสียงเล็ก ๆ ที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้นฤบดินทร์ต้องหันไปมองเจ้าของเสียง เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อุ้มตุ๊กตาหมีในอ้อมกอดกำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่อีกฝั่งรั้วของบ้านที่อยู่ติดกัน เขามองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่แถวนี้สักคนจึงเดินเข้าไปยืนชิดกับรั้วที่สูงแค่อกของเขาเท่านั้น“มีไร” เขาพูดออกไปแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่ามันฟังห้วนไปหรือเปล่า แต่ดูแล้วเจ้าตัวเล็กจะไม่สนใจนัก เพราะอีกฝ่ายยังคงยิ้มกว้างและถามชื่อเขาเสียงใส“พี่ชื่ออะไร พี่อยู่บ้านนี้เหรอ” เธอชี้มาที่บ้านของเขา“อ
“ไม่รู้ว่าพี่มะลิพาพ่อกับแม่ไปกินอะไรกันรึยัง ไปกันเถอะ” เขาเดินจูงมือเธอไปยังรถที่จอดเอาไว้ จากนั้นก็ขับกลับไปที่โรงแรมทว่าเมื่อมาถึงโรงแรมที่พัก ปรากฏว่าทั้งบิดามารดาและพี่สาวของเขาไม่อยู่ในห้องกันสักคน จึงคิดว่าน่าจะลงไปกินมื้อค่ำกันตามร้านอาหารละแวกนี้“ถ้างั้นเราขึ้นไปนอนรอในห้องข้างบนกันก่อนละกัน” นฤบดินทร์พาพราวนภากลับมาที่หน้าลิฟต์อีกครั้ง“คืนนี้พี่ดินจะนอนที่ไหนหรือ ที่ห้องข้างบนหรือว่าจะกลับห้องพัก”“นอนที่นี่สิ แต่พี่คงต้องกลับไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องก่อน ว่าแต่พราวเถอะ ไม่สนใจมานอนกับพี่หรือ” เขาเขี่ยแก้มเธอเล่น อีกมือก็กดหมายเลขยี่สิบห้าในลิฟต์ พราวนภาหันหน้ามาทำท่าจะกัดนิ้วเขาแล้วพูดว่า“ไปได้ที่ไหนเล่า คุณแม่คงยอมหรอก”“เฮ้อ! พี่มะลินี่นับวันจะเหมือนพี่วินเข้าไปทุกที หวงลูกเลี้ยงเป็นจงอางหวงไข่ไปได้” ชายหนุ่มพูดถึงตรงนี้ก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันไปมองหน้าหญิงสาวพลางโอบบ่าพาเธอเดินออกจากลิฟต์“เรียกพี่วินไม่ได้แล้วนี่นา พี่ต้องเรียกว่