แชร์

ป่าม่าน

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 18:42:32

ทางด้านทั้งหกคนเมื่อออกจากเมืองตะวันและหยุดพักเป็นเวลาหนึ่งคืนพอตอนเช้าก็รีบเดินทางต่อโดยใช้ทางเท้า พวกเข้าทั้งหกเข้าไปในป่าใหญ่ ที่ไม่ค่อยรกสักเท่าไหร่

"ป่าแห่งนี้ชื่อว่าอะไรหรือและเราจะต้องเดินทางเท้ากี่วันกัน"

จินเป่าถามขึ้นขณะเดินเข้าป่าได้สักหนึ่งก้านธูป ก็รู้สึกเหนื่อยหอบ เหงื่องไหลท่วมตัว

"เดินเพียงหนึ่งก้านธูปเจ้าก็ทนไม่ได้แล้วหรือ ข้าเห็นตอนที่พวกเราเรียนอยู่ที่สำนักตะวันเลือน เจ้าก็เดินป่าออกจะบ่อย แถมแข็งแรงกว่าใครๆเสียอีก หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าอุ้มกันนะ หรือจะขึ้นหลังข้าดี"

ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้นอย่างยิ้มๆ

"คุณชายสี่ก็เหมือนผู้ที่ติดตามพวกเราจังเลยนะ เพราะเวลาที่พวกเราเดินป่าพวกเราก็ไปกันเพียงสี่คน แต่คุณชายสี่เหมือนจะรู้ดีมากเลย"

จางซินถามแบบยิ้มๆเช่นกัน

"ป่าแห่งนี้คือป่าม่าน เราจะบินผ่านหรือหายตัวผ่านไม่ได้เด็ดขาด ม่านก็แปลว่าช้าลง เราจะใช้เวลาอย่างน้อยก็สามวัน ถึงจะผ่านพ้นป่านี้ไปได้ และเราจะใช้สัตว์อสูรกันอีกครั้ง ตอนที่พวกขามาก็ไม่พบสิ่งใดที่น่ากังวลสักเท่าไหร่ พบแต่สัตว์อสูเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"

จางหยงกล่าวให้ทุกคนฟัง

"ท่านพี่ข้ากำลังจะตอบอยู่แล้วเชียว ท่านพี่แย่งข้าตอบตลอด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ล่าหมายเอาชีวิต

    สัญญาณพุพุ่งขึ้นไปยังฟากฟ้าพุนั้นแตกกระจาย ในเมื่อพวกเขาไม่มีทางไปแล้วพวกเขาวางแผนอยู่ในใจ "หนีทุกคน หากเป็นไปได้ไปรอที่พวกเราเคยนัดหมายกันไว้"เสียงจินเป่าดังขึ้น และทุกคนก็พุ่งตัวออกไปยังทิศเหนือ ทุกคนหวั่นคิดคำพูดของจินเป่าว่าเรานัดหมายกันไว้ ไม่ใช่ว่าเรานัดหมายกันว่าจะไปมิติเชื่อมจิตหรอกหรือแล้วแบบนี้จะไปกันได้อย่างไร แต่ทุกคนก็ออกวิ่งตามตามกันแสงวรยุทธพุ่งเข้ามาหาพวกเขาพวกเขาต่างกระโดดหลบและพุ่งตัววิ่งออกไป"แสก สาก แสก สาก แสก สาก"ในป่าพื้นที่ใกล้เคียงนั้นเสียงคนวิ่งพลุกพล่านกันไปหมด เสียงคนวิ่งตามหลังนั้นมีเสียงฝีเท้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาได้ส่งสัญญาณให้พันธมิตรรับรู้แล้วว่าผู้ที่เก็บผลขจีได้นั้นอยู่ทางทิศนี้ต่างคนต่างพุ่งมาทางทิศที่เสียงพุดังขึ้น บางคนได้ยินเพียงเสียงจึงไม่รู้ทิศทางที่แน่นอน เนื่องจากว่าช่วงนี้เป็นเวลากลางวัน แสงของพุนั้นก็ช่างอ่อนซะเหลือเกิน จึงไม่รู้ว่ามาจากทางทิศใดกันแน่แต่เมื่อเห็นสหายวิ่งพุ่งไปทางทิศใดทิศหนึ่งพวกเขาก็มีตามๆกันไป ห่าวอู๋อวี่โดนพลังวรยุทธปะทะที่ไหล่ด้านซ้าย จนเจ็บปวดเนื่องจากว่าเขาบังตัวจินเป่าเอาไว้ เพื่อไม่ให้จินเป่าได้รับบาดเจ็บ แต่เข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รวมตัวกันอีกครั้ง

    เมื่อลี่หลินเข้ามาในมิติล่องหนของผู้เป็นนายแล้วนางรู้สึกมีความสุขมาก นางรู้สึกว่านางโหยหาสิ่งเหล่านี้เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากออกจากที่นี้ไป นางก็ห่างจากผู้เป็นนายนานพอสมควร นางมองออกไปใกล้ๆบ่อน้ำอมฤตก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่บุรุษผู้นี้น่าสงสัยยิ่งหนัก หน้าตาท่าทางก็คุ้นๆ แต่นางนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน นางเห็นอสูรหงส์ขาวสองตัวกำลังกินน้ำอมฤตอยู่ และมีสตรีนางหนึ่งที่ดูก็รู้ว่าเป็นสัตว์อสูร แต่นางไม่รู้ว่าเป็นสัตว์อสูรประเภทใด นางจึงเดินเข้าไปหาอสูรทั้งสองเพื่อที่จะพูดคุยกัน นางกลายร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกเก้าหางและเข้าไปพูดคุยกับพญาหงส์ขาวทั้งสอง ว่าจุดที่ตนจากมานั้นเป็นจุดใด เมื่อพญาหงส์ขาวทั้งสองมองหน้ากันและระลึกจุดที่มาของนางจิ้งจอกเก้าหาง ก็พยักหน้ารับรู้ พวกเขาทั้งสองรู้แล้วว่าจะหาทั้งหกนั้นได้อย่างไร"เจ้าบอกให้เจ้านายของเจ้าให้ข้าออกไปด้านนอกเถอะข้าจะบินพาพวกเขาไปดูว่ามนุษย์ที่มากับเจ้านั้นอยู่จุดที่ข้านึกออกหรือไม่"พญาหงส์ขาวที่เป็นบิดาของมหาอสูรนางพญาหงส์ขาวกล่าวขึ้น ลี่หลินจึงสื่อกับผู้เป็นนาย เมื่อจินเป่าให้พญาหงส์ขาวออกมาแล้วพวกเขาทั้งสองก็ขึ้นหลังมันและมันก็บินออกจากตรงนั้นไ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ลี่หลินหายตัวไป

    เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาทั้งเจ็ดก็ตื่นจากการพักผ่อน พวกเขารู้สึกกระชุ่มกระชวยมากเมื่อคืนผู้ที่อยู่เวรยามทั้งคืนคือนกฟีนิกซ์ของจางซิน จึงทำให้พวกเขานั้นได้ผ่อนคลาย เมื่อตื่นเช้าแล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางไปยังทางทิศตะวันออกเนื่องจากว่าพวกเขาตกลงกันแล้วว่าหากรุ่งเช้าตื่นขึ้นมาจะออกเดินทางไปยังทิศตะวันออกกัน ตอนนี้พวกเขาทั้งเจ็ดนั้นไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ได้เลยว่าจินเป่ากับห่าวอู๋อวี่หายไปได้เช่นไร เนื่องจากว่าอยู่เฉยๆพวกเขาทั้งสองพร้อมกับเจ้าอีกาดำสามขาและพญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้กันอย่างพัลวันนั้นหายไปพร้อมๆกัน เมื่อออกเดินทางจนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มจากทางทิศตะวันออกมาสู่กลางของทางทิศตะวันตกแล้ว"เจ้านาย"เสียงลี่หลินดังขึ้น แล้วอยู่เฉยๆลี่หลินก็หายไปกับตาของทุกๆคน ทุกคนจึงมองจุดที่ลี่หลินนั้นยืนอยู่แล้วหายตัวไป"ทำไมลี่หลินหายไปได้อย่างไร แบบนี้เราจะทำอย่างไรล่ะ เราไม่มีนางอยู่แล้วจะมีใครคอยดูทิศให้เรานะ พวกเราเองก็ไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ แล้วแบบนี้พวกเราจะอยู่ได้นานกันขนาดไหน"จางซินกล่าวขึ้น"เจ้าก็เป็นห่วงแต่ตัวเองนั่นแหละ ลี่หลินหายไปแบบนี้ไม่ดีเลย หากพวกเราพบกับจินเป่าแล้วจะตอบกับนา

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สู่พื้นดินอีกครั้ง

    "จินเป่าเจ้าเป็นอะไรหรือไม่ทำไมเจ้าถึงดูวิตกกังวลขนาดนั้น"ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้น เขามองจินเป่าด้วยความเป็นห่วงเพราะอยู่เฉยๆสีหน้าของนางนั้นก็เปลี่ยนไป"ข้าเป็นห่วงสหายร่วมเดินทางของพวกเราไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นเช่นไรบ้าง พวกเราเจอะเจอเรื่องราวมากมายขนาดนี้ พวกเขาน่าจะพบเจอแบบเดียวกับเราก็เป็นได้"จินเป่าพูดออกไปในความวิตกกังวลของตัวเองโดยไม่ปกปิดสิ่งใด"ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเจอะเจอเรื่องเดียวกับเรา เราเองก็ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ตลอดเวลาหรอก ข้าเชื่อว่าพวกเขาน่าจะจัดการปัญหาเหล่านั้นได้ ระหว่างเดินทางมาที่นี่หลายๆปัญหานั้น พวกเราเป็นคนจัดการทำให้พวกเขานั้นรอดได้ หากพวกเขาไม่รีบที่จะแข็งแกร่งแล้วจะอยู่ได้อย่างไรกัน ถ้าพวกเราไปมิติเชื่อมจิตรพวกเขาจะไปได้หรือไม่ เจ้าไม่ต้องวิตกกังวลมากนักหรอก ข้าเองก็ยังไม่รู้เมื่อพวกเราไปยังมิติเชื่อมจิตรแล้ว พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแบบนี้หรือไม่ ข้าหวังเพียงว่าข้าจะปกป้องเจ้าได้ทุกเมื่อ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวถึงความวิตกกังวลของตนเองขึ้นมา ความจริงเขาก็เป็นห่วงทุกๆคนไม่แพ้กับจินเป่าเลยแต่เขานั้นต้องการที่จะให้ทุกคนแข็งแกร่ง รวมไปถึงพี่ชายของเขาด้วย หากเขาไม

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มังกรศักดิ์สิทธิ์หายไป

    หลังจากที่บุตรสาวของพญาหงส์ขาวทั้งสอง ได้เล่าให้ฟังว่าด้านในมิติของสตรีผู้นั้นเป็นบริเวณที่กว้างใหญ่และอุดมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีกลิ่นอายวิเศษที่เข้มข้นอยู่ในนั้น รวมไปถึงน้ำอมฤต ผู้เป็นบิดาก็มองหน้าสตรีผู้ที่บุตรสาวกล่าวถึงด้วยสายตาที่ละห้อย เขาอยากเข้าไปสำรวจในพื้นที่นั้นจัง ท่าทางสายตานั้นที่มองมายังจินเป่าดูแล้วน่าขบขันสิ้นดี จินเป่าได้แต่มองกลับไปแล้วยิ้มให้เขา ทั้งสองนั้นยังเป็นพญาหงส์ขาวที่ไม่สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ จึงทำให้การสื่อสารกับมนุษย์นั้นลำบาก แต่เพราะว่าบุตรนั้นถือว่าเป็นสัตว์อสูรของสตรีผู้นี้ผู้ที่เป็นบิดามารดาจึงยินยอมที่จะติดตามสตรีผู้นี้ไป เมื่อเจ้ากระต่ายหยกฟังการสนทนาของครอบครัวนี้แล้วก็ยิ้มหน้าบาน"เจ้านายพวกเขาทั้งสามน่ายินยอมที่จะติดตามเจ้านายไปด้วยข้าจะได้มีสหายที่เป็นมหาอสูรด้วยกันแล้ว"เจ้ากระต่ายหยกกล่าว จินเป่ามองหน้าสัตว์มหาอสูรของตัวเอง ตอนนี้มันเป็นหนุ่มแล้วมันไม่เพียงต้องการสหายเท่านั้นเป็นแน่ ตอนนี้ที่มันกลายร่างมันไม่ได้เป็นเด็กอ้วนดังเดิมแล้ว และไม่ได้เป็นบุรุษที่อ้วนท่วมสมบูรณ์ผู้นั้น ครั้งนี้มันเป็นบุรุษที่ผอมเพียวและมีสง่ามากนัก นางพญาหงส

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รังพญาหงส์

    ทั้งเจ็ดไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย นอกจากนั่งรอให้เจ้ามังกรจิ๋วนั้นตื่นขึ้นมา"เจ้าจิ๋วนี้ก็แปลกจังทำไมมันสนใจลี่หลินล่ะแทนที่จะสนใจต้าเหว่ยที่กำราบมันแต่ก็ไม่อยากจะสนใจ หรือว่าท่านท่องเคล็ดวิชาผิดจึงทำให้มัน หันไปสนใจผู้อื่นแทน"จางซินถามขึ้น"ข้าไม่คิดว่าท่านต้าเหว่ยจะท่องเคล็ดวิชาผิดแต่ข้าคิดว่าเคล็ดวิชาพิชิตมังกรของท่านต้าเหว่ยนั้นไม่ได้ผลกับเจ้ามังกรจิ๋วตนนี้เป็นแน่"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แล้วถ้าเคล็ดวิชาของต้าเหว่ยมันไม่ได้ผลจริงๆแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะไถ่ถามมันว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร"ห่าวอู๋มู๋ลี่ถามขึ้น เพราะเขากลัวว่าจะไม่มีทางออกจากที่แห่งนี้ได้"ดูเหมือนว่าเจ้ามังกรตัวนี้ จะสนใจลี่หลินเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นสัตว์อสูรเหมือนกับลี่หลิน จึงวางใจเมื่ออยู่ใกล้ๆลี่หลิน หรือไม่ก็ มันคิดว่าลี่หลินนั้นเป็นแม่ของมันก็ได้ เพราะเมื่อมันออกมาจากไข่ มันก็เห็นพวกเราทั้งเจ็ดยืนอยู่ที่นี่ แต่มีเพียงดินผู้เดียวที่เป็นสัตว์อสูร"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทุกคนก็คิดตามว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูงมาก"แบบนี้เราก็ให้ลี่หลินคุยกับมันได้ล่ะสิ ถ้ามันตื่นมานี้มันจะไม่กลัวพวกเราใช่ไหม"จางซินถามขึ้น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status