"พวกเขาออกไปกันแล้ว เจ้า ปล่อยขาข้าแล้วออกมาเสียที"
เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทำให้อิงอิงสะดุ้งสุดตัว รอยยิ้มบนใบหน้างามหุบฉับ ความคิดที่กำลังเจิดจ้าสะดุดลงทันใด ฝ่ามือเล็กที่กำลังลูบไล้ต้นขาแกร่งอย่างลืมตัวผละออกราวกับแตะต้องของร้อน แต่ความหนั่นแน่นแข็งกร้าวของกล้ามเนื้อที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ยังคงอุ่นซ่านไปทั่วฝ่ามือน้อยๆ ของนางจนแก้มนวลร้อนผะผ่าว เท่านั้นยังไม่พอ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของบุรุษผู้นี้ยังกรุ่นเข้ามาในจมูกนางจนใจสั่นไปหมด จากนั้นก้อนเนื้อภายในอกของนางก็กระตุกวูบแล้วเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงที่แหบพร่าของคนผู้นี้มันทำให้นางสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์ของบุรุษเพศที่เข้มข้น
แม่เจ้า นางไม่อยากจะบอกเลยว่า นางชอบน้ำเสียงของเขามาก เพียงแค่ได้ฟังเสียงเท่านั้น ใจของนางถึงกับสั่นไหว นางคลั่งไคล้ในน้ำเสียงแบบนี้
นางไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตาของอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร แม้จะสัมผัสได้เพียงแค่นี้ก็ทำเอาใบหน้านวลถึงกับแดงซ่านร้อนไปทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ รู้สึกประหม่าไปหมดแล้วจริงๆ
อิงอิงสะบัดหัวกับความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเร่งคลานออกมาจากใต้โต๊ะ รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช่นไร ถึงแม้นางจะเชื่อไปแล้วก็ตามว่าเขาต้องรูปงามมากๆ
"อ๊ะอร๊าย... ขาข้า ซี้ด...เซี่ยชิงเทียน เจ้าลูกสุนัขเอ๊ย"
เสียงหวานหลุดครางออกมาทันทีพร้อมส่งเสียงก่นด่าไปถึงคนที่ทำให้นางต้องเป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อยันกายลุกขึ้นก็รู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งขาจนต้องอาศัยโต๊ะที่นางใช้เป็นที่หลบซ่อนพยุงกายเอาไว้ไม่ให้ล้ม
หารู้ไม่ว่าทั้งเสียงครวญครางและคำสบถที่หลุดจากริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นทำให้คิ้วของคนฟังถึงกับกระตุก
อิงอิงรู้สึกเจ็บจนน้ำตาคลอ แต่ยังฝืนช้อนสายตาขึ้นมองบุรุษที่นางอยากเห็นหน้าจนใจจะขาด แต่เพียงได้เห็นหน้าอีกฝ่ายเพียงเท่านั้นคำว่าโลกหยุดหมุนก็ตรงเข้าเล่นงานนางในทันที รอบกายของนางราวกับทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว
นี่กระมังนิยามของคำว่า รักแรกพบ อานุภาพของมันช่างร้ายกาจจริงๆ
วอนผู้เฒ่าจันทราช่วยนำด้ายแดงมามัดกายของนางและบุรุษผู้นี้ให้ติดกันด้วยเถิด หากเพียงแค่ผูกปลายนิ้วเห็นทีคงจะน้อยเกินไป
นางอยากเสียตัวให้กับคนนี้
ตอนนี้ท้องไส้ของนางปั่นป่วนไปหมด มันคล้ายดังมีผีเสื้อโบยบินอยู่ในท้องของนางนับพันนับหมื่นตัว เพียงแค่สบดวงตาคมดุคู่นั้น นางบอกได้เลยว่า มารยาพันเล่มเกวียนที่นางมีคงต้องถูกขุดมาใช้แล้วแหละ
บุรุษผู้นี้เท่านั้นที่นางจะจับมาเป็นสามี หากพระเอกของเรื่องยังมิกล้ากับเขา นั่นย่อมแสดงว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา และที่สำคัญที่สุด เขาคือบุรุษในอุดมคติของนาง คือพระเอกนิยายตัวจริงที่นางเฝ้าฝันหา
ดูสายตาของเขาที่จ้องมองนางสิ มันช่างดูดุดันยิ่งนัก ยิ่งท่วงท่าที่อีกฝ่ายกระดกจอกสุราขึ้นดื่ม กรี๊ด...เลือดกำเดาจะไหล
กร้าวใจมากพ่อ...
ปึง!
เสียงจอกสุราที่ถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงทำให้ร่างบางสะดุ้งจิตวิญญาณที่ลอยล่องกลับเข้าร่างในทันที
เซี่ยเยี่ยนเฉินจ้องมองเจ้าของใบหน้างดงามที่ฝ่ามือนั้นแสนนุ่มนิ่ม สภาพตอนนี้คล้ายดังลูกแมวจรจัด ผู้ที่เอาแต่จ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัวแล้วยังเอ่ยวาจาที่ฟังแสลงหูอย่างไม่สบอารมณ์
"เจ้า ยังจะจ้องข้าอีกนานหรือไม่"
เจ้าของเสียงแหบทรงเสน่ห์เอ่ยถามสตรีตรงหน้าเมื่อรู้สึกทนไม่ไหวเมื่อนางเอาแต่จ้องหน้าเขา
"โอ๊ะ นายท่านโปรดอภัย อิงอิงเสียมารยาทแล้ว"
น้ำเสียงอ่อนหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของสตรีที่รีบก้มหน้าลง กายบางสั่นเทาราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะโกรธเคืองนาง ก่อนจะช้อนดวงตาหวานซึ้งขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาคมคายแล้วหลุบสายตาลงอย่างมีจริต มือบอบบางยกขึ้นเกี่ยวเอาเส้นผมที่หล่นลงมาปรกหน้าทัดใบหูเล็กขาวผ่องอย่างเขินอายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองนางอยู่เช่นกัน
สตรีที่ดูบอบบางย่อมดูน่าทะนุถนอมในสายตาของบุรุษยุคนี้ นั่นคือความคิดของคนงาม แต่ให้ตายเถอะสภาพของนางในตอนนี้ช่างไม่น่ามองเอาเสียเลย แต่ก็ช่างเถอะจะอย่างไรความงามของนางก็โดดเด่นอยู่แล้ว
หึ
ท่าทางเปราะบางอ่อนหวานของอีกฝ่ายช่างดูขัดหูขัดตาเขายิ่งนัก ไม่คล้ายดังสตรีที่มือหนึ่งเท้าสะโพก อีกมือหิ้วคอเสื้อเจ้าเด็กน้อยที่ริจะเป็นหัวขโมยได้อย่างสบาย
ไม่คล้ายดังสตรีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องของผู้อื่นด้วยสภาพกระเซอะกระเซิง แล้วยังคลานเข่าด้วยท่วงท่าที่สตรีที่ดีไม่ควรทำ
ไม่คล้ายดังสตรีที่ใจกล้าสัมผัสเรือนกายบุรุษอย่างไม่นึกกระดากอาย แล้วยังลูบไล้เสียจนเขาเสียอาการ
ไม่คล้ายดังสตรีที่พึ่งจะพ่นวาจาที่ทำให้เขาถึงกับหน้าชา
แม้นางจะพยายามเสแสร้งแกล้งทำให้มันแนบเนียนแค่ไหน แต่เสียใจ เขามองออก
"เป็นตัวของตัวเองเถิด ข้ามิชมชอบสตรีเสแสร้ง"
น้ำเสียงแหบเสน่ห์ที่อิงอิงหลงใหลหนักหนาดังขึ้น ทำให้รอยยิ้มหวานที่กำลังชื่นชมตัวเองแข็งค้างอยู่บนใบหน้างาม ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความร้อนที่ลามเลียไปทั่วใบหน้า
คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำพูดประโยคนั้น ใคร่ครวญคำพูดของอีกฝ่าย บุรุษผู้นี้คงมิได้หมายถึง นางตอแหลหรอกกระมัง แต่เมื่อลองมองแววตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองมายังนางเช่นกัน มันกลับกำลังเต้นระริก จ้องมองนางราวกับว่าเขากำลังขบขันก็พลันเข้าใจแจ่มแจ้ง ใช่ เขารู้ว่านางตอแหล
ซี๊ด...เจ็บ
คนผู้นี้ ปากกับหน้าตาช่างสวนทางกันยิ่งนัก
มารยาสาไถยของนางแป๊กตั้งแต่เล่มที่หนึ่งเลยหรือ
มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนหลังจากงานมงคลสมรสของคุณชายน้อยตระกูลเซี่ย จวนตระกูลเซี่ยก็มีงานมงคลเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นงานมงคลสมรสของท่านแม่ทัพเซี่ยเยี่ยนเฉินนายท่านของจวนกับคุณหนูว่านเย่วอิงคนงาม สตรีผู้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน และครั้งนี้ก็คล้ายดังจะชื่นมื่นเสียยิ่งกว่างานมงคลของบุตรชาย เพราะแขกที่มาร่วมงานล้วนมีแต่เหล่าคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เคียงคู่กันมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว สหายของเจ้าสาวที่มาร่วมงานในวันนี้ล้วนไม่มีสตรีคนใดที่ไร้คู่อีกแล้ว เพราะหลังจากงานมงคลของเซี่ยชิงเทียนในวันนั้นภายในเดือนเดียวพวกนางต่างพากันขึ้นเกี้ยว ตบเท้าแต่งงานออกเรือนกันไปตามๆ กัน และเจ้าบ่าวของพวกนางก็หาใช่ใครที่ไหน บุรุษเหล่านั้นล้วนเป็นสหายของคุณชายเซี่ยชิงเทียนทั้งสิ้น ความดีความชอบนี้คงต้องยกให้เจ้าสาวของงานในวันนี้ที่เป็นผู้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในวันนั้นขึ้น หนุ่มสาวจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันแบบถึงพริกถึงขิง เพราะหลังจากที่พากันเต้นระบำคลอเคล้าจอกสุราอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน ตื่นมาอีกทีก็เนื้อตัวเปล่าเปลือยแนบชิดอยู่กับบุรุษเสียแล้วงานในวันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีท่ามกลางความหวานชื่นของคู่บ่าวสาว และ
แล้ววันมงคลสมรสของเซี่ยชิงเทียนกับจ้าวอี้หลันก็มาถึง จวนแม่ทัพในวันนี้อบอวลไปด้วยความสุขและกลิ่นอายอันเป็นมงคล ภายในจวนนั้นดูมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บ่าวไพร่ต่างมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เพราะไม่ใช่เพียงแค่คู่บ่าวสาวที่ดูจะมีความสุขและหวานซึ้งต่อกัน แต่ดูจะมีหลายคู่ที่หวานชื่นไม่แพ้คู่บ่าวสาว บรรดาบุรุษจากจวนแม่ทัพต่างพากันหลงเสน่ห์สาวๆ จากจวนตระกูลว่าน ตบเท้าเข้าไปเกี้ยวพาจนประตูจวนท่านหมอว่านแทบจะสึกแต่ดูเหมือนผู้ที่ดูจะคลั่งรักกว่าใครคงจะเป็นนายท่านของจวน ที่ไม่ยอมออกห่างจากคนงามแม้เพียงครึ่งก้าว เพราะวันนี้คุณหนูว่านเย่วอิงงดงามมากเสียจนท่านแม่ทัพตามติดแจ โฉมงามผู้เป็นว่าที่มารดาของเจ้าบ่าว ใบหน้างามประดับไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตายังทอประกายแห่งความสุขจนยากที่จะละสายตาได้และยังมีรอยยิ้มหวานที่ถูกส่งไปให้บรรดาแขกที่มาร่วมงานก็ยังหวานหยดย้อย จนท่านแม่ทัพต้องคอยถลึงตามองเหล่าบุรุษหนุ่มๆ ที่เผลอไผลหันมาจ้องมองสตรีของตนจนใบหน้าเลิ่กลั่กไปตามๆ กันเซี่ยเยี่ยนเฉินทอดสายตามองว่าที่ฮูหยินของตนด้วยสายตารักใคร่ชื่นชม ภูมิอกภูมิใจในตัวคนรักอย่างมาก แม้นางจะซุกซนแต่กลับรู้ว่าเ
อิงอิงแอบย่องออกมาจากเรือนของตนด้วยฝีเท้าที่เบาและเงียบกริบ เรือนร่างกลมกลึงแฝงกายไปกับความมืด ใช้เงาไม้ช่วยอำพรางกาย นางต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อที่จะหลบให้พ้นสายตาของเหล่าเวรยามที่บิดาได้วางเอาไว้รอบเรือน เพื่อป้องกันมิให้ชายคนรักแอบลอบเข้ามาหานาง แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้กลับเป็นเป็นบุตรสาวของตนเสียเองที่ลักลอบแอบออกมาหาบุรุษ แม้จะรู้สึกผิดต่อบิดาแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้ความรักความคิดถึงคนรักมันอึดอัดคับแน่นอยู่ในอก นึกเข้าข้างตัวเองว่าอย่างไรนางก็ต้องแต่งให้เขาอยู่แล้ว การกระทำเช่นนี้ก็คงจะไม่ผิดมากนัก เพราะถึงอย่างไรนางกับเขาก็กลายเป็นคนคนเดียวกันแล้ว ยิ่งคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาที่มองนางด้วยสายตาตัดพ้อ นางยิ่งไม่อาจที่จะเมินเฉยปล่อยให้อีกฝ่ายแง่งอนได้นาน ยิ่งน้ำคำที่ชายคนรักฝากมากับเสี่ยวม่านม่าน ยิ่งทำให้โฉมงามหัวใจอ่อนยวบจนแทบจะล่องลอยไปหาเขาเสียเดี๋ยวนี้จะรอจนกว่าจะได้พบหน้า แนบชิดเนื้อนวลโถ โถ โถ โถ โถ...พ่อพยัคฆ์เฒ่าของอิงอิง พ่อยอดขมองอิ่ม ทูนหัวทูลกระหม่อมของเมีย คงคิดถึงเมียใจจะขาดแล้วกระมังท่านพ่อเจ้าขา อิงอิงขอโทษนะเจ้าคะ อื้อ...หนูรักเค้า หลงเค้า ให้เค้าไปหมดแล้
ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่กล่าวถึงเรื่องราวของท่านแม่ทัพเซี่ยเยี่ยนเฉินบุรุษผู้กล้าแกร่ง ผู้เป็นยอดบุรุษแห่งแผ่นดิน บุรุษผู้ที่ขณะนี้กลายเป็นที่อิจฉาของบรรดาบุรุษทั่วทั้งเมืองหลวง เพราะนอกจากจะเป็นผู้ที่ฝ่าบาทให้ความไว้วางพระทัยแล้ว อีกฝ่ายยังได้ครอบครองโฉมสะคราญผู้งดงามเป็นหนึ่ง สตรีผู้มีความงามอันเย้ายวนแล้วยังอ่อนเยาว์เป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มที่อายุรุ่นราวคราวลูกมาเป็นว่าที่ฮูหยินความสุขใดเล่าจะเทียบเท่าการได้ครอบครองหญิงงาม มันช่างน่าอิจฉาเสียยิ่งนัก ชีวิตคงจะกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าพวกตนต้องทำบุญอีกกี่ชาติจึงจะมีวาสนาเช่นอีกฝ่ายแต่ไหนเลยใครเล่าจะรู้ ว่าบุรุษผู้ที่ทุกคนต่างก็อิจฉาอยู่นั้น ตอนนี้กำลังนั่งใบหน้างอง้ำอย่างคนอดอยากปากแห้ง เนื้อขาวๆ หวานๆ ฉ่ำๆ อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ไม่อาจที่จะกัดกินได้ ใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมจึงดูหม่นเศร้าหงอยเหงาราวคนกำลังตรอมใจอย่างหนัก คร่ำครวญอย่างชอกช้ำอยู่ได้เพียงในใจ ไม่อาจที่จะเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ไหนล่ะรางวัลที่เขาสมควรจะได้รับ รางวัลความดีความชอบของเขาอยู่ที่ใดกัน เพราะตั้งแต่งานเลี้ยงในวังหลวงวันนั้น นี่ก็ผ่านมากว่าสิบวันแ
ตึก ตึก ตึก ตึกเสียงหัวใจภายใต้อกอิ่มเต้นอย่างรุนแรงจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา เสียงตุบๆ ดังอื้ออึงอยู่ในหัวจนกลบเสียงรอบกายไปเสียสนิท อิงอิงจ้องมองบุรุษผู้ที่หันมาสบตานาง เฝ้ารอคำตอบของอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อมากกว่าผู้ใดนางกำลังตื่นเต้น ตื่นเต้นมากๆ ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ที่อีกฝ่ายขอสมรสพระราชทานให้บุตรชายเสียอีก สองมือของนางรู้สึกได้ว่ามันเย็นเฉียบและสั่นเทา นางรู้สึกยินดีอย่างมากที่เขายอมให้บุตรชายและคนรักได้ครองคู่กัน ยินดีจนอยากจะตกรางวัลให้อย่างงาม และตอนนี้หัวใจของนางก็กำลังเต้นกระหน่ำรอคอยคำตอบของเขา รอคอยว่าคำตอบนั้นมันจะใช่อย่างที่นางคิดหรือไม่ แม้ตอนนี้สายตาของเขาที่มองมาจะสื่อถึงความในใจทั้งหมด จนสามารถบอกนางให้มั่นใจ แต่นางก็ยังอยากได้ยินจากปากของเขา เซี่ยเยี่ยนเฉินมองสบดวงตาคู่งามของสตรีคนรัก สตรีที่เขามั่นใจแล้วว่าไม่อาจที่จะปล่อยมือจากนางได้ สตรีที่เขายอมให้นางหมดทุกอย่างโดยไร้เงื่อนไข ยอมมอบให้ได้แม้แต่ชีวิต เขาค้นพบแล้วว่าความสุขของเขาคือนาง ถึงแม้จะมีใครกล่าวว่าเขานั้นเป็นบุรุษโง่งมหลงใหลในตัวสตรีเขาก็พร้อมที่จะน้อมรับ เขาจะยืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิ คำกล่า
อิงอิงกวาดตามองหาบุรุษผู้ที่ส่งสายตาบอกให้นางออกมาหาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะนางออกมาตามหาเขาอยู่นานแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมโผล่หัวออกมาเสียทีเซี่ยชิงเทียนคิดจะเล่นพิเรนทร์อะไรอีกอุ๊ย!!!คนงามหลุดอุทานขึ้น ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง เมื่อจู่ๆ เอวบางก็ถูกโอบรัดจากทางด้านหลังด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ก่อนร่างของนางจะถูกยกจนตัวลอยขึ้นจากพื้น แต่เพราะสัมผัสและกลิ่นหอมอันคุ้นเคยของอีกฝ่ายจึงทำให้นางหาได้มีความตระหนกตกใจ รู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มมาหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ลับตาคนเสียแล้ว เซี่ยชิงเทียนหายขุ่นเคืองบิดาของเขาแล้วหรืออย่างไรจึงปล่อยให้อีกฝ่ายมาใกล้ชิดนางเช่นนี้เมื่อเท้าแตะพื้นจึงหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ใบหน้างามงอง้ำเตรียมจะเอ่ยถ้อยคำต่อว่าคนที่เมินเฉยใส่นางมาหลายวันแต่วันนี้กลับมาทำตัวรุ่มร่ามอุกอาจราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หึ พอนางเมินเฉยใส่บ้างก็มาทำตาขุ่นเขียวใส่นาง อย่าคิดนะว่านางจะยอมใจอ่อนง่ายๆ ปล่อยให้นางต้องเสียน้ำตาเศร้าซึมเสียหลายวัน ความรู้สึกที่เสียไปใช่จะเรียกคืนกันโดยง่าย มันคงต้องมีการแลกเปลี่ยนกันบ้าง"นี่ท่าน..."อื้อ...แต่ทว่านางยังไม่ทันจะได้เอ่ยสิ่งใดจอมเผด็จการก็ใช้ริมฝี