Nevermind : 14
อยากให้หยุดหรือเปล่า?
ฉันลอบกลืนน้ำลายครั้งที่ร้อยก็ได้แล้วมั้ง ราวกับว่าเวลานี้คุณองศาจะลืมไปว่าเขาคิดกับฉันแค่น้องสาวเท่านั้น ย้ำ แค่น้องสาว... แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่อาจยังยั้งอารมณ์ของตัวเองได้ แม้ว่าปากจะบอกให้ฉันหยุด ถามหน่อยหยุดให้หรือเปล่านี่สิ มองฝ่ามือหนาที่ปลดเข็มขัดตัวเองออกโยนไปที่ไหนสักแห่งตามด้วยการูดซิปกางเกงลงจนฉันเบือนหน้าหนีทันที ให้ตายสิแพรวา! ใจหนึ่งก็อยากลอง เพราะฉันไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อนด้วยซ้ำ ใจหนึ่งก็อยากหยุดกลัวว่าความสัมพันธ์ของเรามันจะไม่ใช่แค่ใครคนหนึ่งที่คิด ฉันกลัวว่าตัวเองจะเผลอคิดเกินเลยทั้งที่คุณองศาไม่ได้คิดอะไร
แค่อารมณ์พาไปนึกออกปะ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงถ้าหากมันเกิดขึ้นมาจริงๆ จะมองหน้ากันติดหรือเปล่า? ทั้งที่คุณองศาย้ำกับฉันเสมอว่า ‘ห้ามคิดอะไรเกินเลยกับเขา’ ทว่าหัวใจของฉันมันเป็นหัวใจที่ไม่เคยคิดเกินเลยกับเขาแม้แต่นิด ปากบอกแบบนั้นแต่การกระทำสวนทางไปซะหมด
เวลานี้ฉันไม่รู้จะคิดอะไรดี มันสับสนและมึนงง...
คุณองศาโน้มใบหน้ามาจรดริมฝีปากบนกลีบปากฉันทันทีโดยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของฉันออกเช่นกัน ขอช่างมันสักวันแล้วกันนะ เวลานี้ฉันเองก็อารมณ์พาไปไม่ต่างจากคุณองศาเลยสักนิด สมองขาวโพลนยามที่ลิ้นร้อนเข้ามาตวัดดูดดึงลิ้นของฉันในโพรงปากที่ร้อนระอุ มือของคุณองศาทั้งสองข้างสอดประสานนิ้วมือกับฉัน ตอนแรกเขาจะจับข้อมือฉันแต่พอฉันสะดุ้งเพราะเจ็บแผลที่โดนน้ำร้อนลวกก็เปลี่ยนมาเป็นจับมือและบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากของเขาสองคนผลัดกันช่วยสนองอารมณ์ที่ฉุดเราสองคนให้ตกลงไปในก้นมหาสมุทร เหมือนจะหายใจไม่ออกแต่ทุกครั้งที่คุณองศาเกี่ยวเรียวลิ้นฉันและแนบจูชนิดที่ว่าฉันต้องครางประท้วงเขาอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้เขาถอนจูบให้ฉันหายใจบ้างไม่อย่างนั้นฉันจะตายเอา
ใบหน้าของฉันแดงก่ำและร้อนเห่อเหมือนไฟที่พร้อมจะทำให้หน้าฉันละลายได้ทุกเมื่อ โหยหาอากาศที่จะสูดเข้ามาให้เต็มปอด ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงห้ามปรามและฉันไม่ผลักร่างสูงให้ออกห่างจากตัวด้วยซ้ำไป อาจด้วยเพราะเนื้อตัวของคุณองศาร้อนราวกับไฟและดันอบอุ่นเวลาได้อยู่ใกล้ เราสองคนมองสบตากันเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาโน้มมาจรดจูบบนแก้มฉันอย่างแน่บแน่น เลื่อนมาถึงใบหูพรมจูบจนฉันรู้สึกจั๊กจี้ไม่พอยังขมกัดและเลียกกหู รู้ไหมว่าเขาทำแบบนี้ทำให้ฉันกัดปากตัวเองอย่างทรมาน คุณองศาคลายมือที่เราสองคนจับกัน ไม่รู้จะเอามือไว้ตรงไหนฉันก็เลยคล้องลำคอแกร่งและลากไล้บนแผ่นหลังของเขาจิกทึ้งเบาๆ เพื่อระบายความรู้สึกที่เขาทำให้ฉัน
มือหนาบีบเค้นทรวงอกฉันทันทีจนก้อนเนื้อปลิ้นออกนิ้วทั้งห้า จากนั้นอุ้งปากร้อนระอุก็ครอบครองมันจนฉันแอ่นตัวขึ้นด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่านขึ้นมาเสียดื้อๆ อารมณ์กระเจิงทันทีที่ปลายลิ้นลากวนบนยอดอกที่แข็งเป็นไตเพื่อรอให้คุณองศาดูดกลืนมันอย่างเต็มที่ นอกจากจะดูดเลียยอดอกคุณองศายังกัดจนฉันสะดุ้งตกใจ เผลอจิกนิ้วบนแผ่นหลังของเขาไม่รู้ว่าปานนี้จะเป็นแผลหรือเปล่า
“พะ แพรขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไร เสียวก็จิกเลย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า คุณองศาก็นัวเนียตรงทรวงอกฉันอยู่นานหลายสิบนาที จนยอดอกฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา ลิ้นร้อนลากไล้ตั้งแต่หน้าท้องแบนราบที่หดเกร็ง คุณองศาจับขาฉันตั้งฉากเขาก็ไล่จูบสะโพกและตามท่อนขาเรียวขาว มือของฉันปกปิดจุดสงวนไว้ทันทีก่อนที่เขาจะเห็นมัน
ก็มันเป็นครั้งแรกนี่นาที่มีผู้ชายมาเห็นของของฉันอะ ต้องขวยเขินเป็นของธรรมดาหรือเปล่า? พอคุณองศาเห็นการกระทำของฉันเขาก็ยกยิ้มมุมปาก ใบหน้าร้อนผ่าวที่เห็นรอยยิ้มนั้นของเขา ฉันกัดปากตัวเองไม่รู้ว่าเป็นการยั่วหรือเปล่า เพราะเวลานี้คุณองศายกขาฉันขึ้นพาดไหล่หลังจากที่นั่งคุกเข่าบนเตียง เขาพรมจูบตามขาฉันอีกแล้วชายตามองฉันที่มือหนึ่งปิดกลางกายสายอีกมือก็จิกหมอนที่หนุนอยู่
“อย่านะคะ” ฉันรีบห้ามคุณองศาที่เขาไล่จูบมาถึงข้อเท้า “จูบไม่ได้”
“ทำไม?” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถาม จากนั้นคุณองศาก็พรมจูบปลายนิ้วเท้าฉันจนสั่นเกร็ง นิ้วเท้าเลยนะคุณองศาจะจูบทำไมกันถึงฉันจะอาบน้ำและทำความสะอาดแล้วก็ตามที มันก็ไม่สมควรนั่นแหละ เขายังคงพรมจูบนิ้วเท้าฉันและจูบหลังเท้าพร้อมอ้าปากงับนิ้วจนฉันนิ่วหน้า เมื่อจูบจนพอใจเขาก็พรมจูบต่ำลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงโค่นขาที่ตอนนี้ฉันยังคงเอามือปิดส่วนนั้นไว้อยู่ “เอามือออก”
“แต่ว่าแพรอายนี่คะ”
“ไม่มีอะไรต้องอาย” คุณองศาแยกขาฉันออกกว้างมากขึ้นจนฉันค่อยๆ ดึงมือตัวเองออกจากจุดสงวนให้คนตรงหน้าที่จดจ่อกับมันได้เห็น ฉันยกมือปิดหน้าตัวเองเพราะอายเกินกว่าจะมองหน้าเขานี่สิ “สวยมากแพรวา”
“...” คำชมของคุณองศาทำให้ฉันยิ่งเขินหนักไปอีกนี่สิ เขาดึงข้อมือฉันออกจากการปิดหน้าตัวเอง
“มองหน้าฉัน”
“ค่ะ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ฉันก็มองหน้าคุณองศาที่เคลื่อนไปจดจ่อตรงกลีบดอกไม้ที่เพิ่งจะเปิดให้เขาได้ดอมดมเป็นครั้งแรก ริมฝีปากของฉันกัดเข้าหากันทันทีที่คุณองศาบีบเอวฉันไว้และพรมจูบตรงนั้นจนฉันดิ้นเล็กน้อย เนื่องจากไม่เคยถูกทำแบบนี้มาก่อนอีกนั่นแหละ คุณองศาระรัวลิ้นตรงรอยแยกที่กระตุกถี่รัวเมื่อเขาเอาแต่กวาดเลียจนฉันยกมือปิดปากตัวเองเนื่องจากเสียงครางกระเส่าของฉันดังขึ้นเป็นระยะ ส่ายหน้าไปมาบนหมอนหนุนและดวงตาพร่าเบลอไปหมด คุณองศายังไม่ยอมที่จะหยุดระรัวลิ้นจนเหมือนมีน้ำอะไรบางอย่างเริ่มผลิตออกมาเป็นระยะๆ ฉันเกร็งหน้าท้องและหอบหายใจหนักขณะมองใบหน้าหล่อเหลาที่จมอยู่ตรงกลีบดอกไม้แรกแย้มของฉัน โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าฉันจะทรมานมากแค่ไหน เหงื่อแต่พลั่กดวงตาลอยล่องไปไกล เสียงกลืนกินดังลามกจนฉันอยากจะมุดหน้าหนีไปจากตรงนี้ซะจริง “พะ แพรไม่ไหว”
บอกคุณองศาเพราะฉันเหมือนจะไปถึงจุดฝั่งฝันที่คุณองศากำลังจูงมือพาไป ตัวของฉันหดเกร็งนิ้วเท้าจิกเกร็งทันทีที่คุณองศาเร่งจังหวะเร็วขึ้นเพื่อพาฉันไปสวรรค์ที่ฉันไม่เคยได้ไป แต่คุณองศาเป็นคนพามา ฉันหลับตาลงครวญครางออกมาจนเสียงดังลั่นห้องที่เงียบสงบมีเพียงเสียงลมแอร์เท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน เขาจ้วงลิ้นเข้ามาด้านในซุกหน้าตรงกลีบงามที่มีขนขึ้นรำไรเล็กน้อย ไม่ช้าคุณองศาก็พาฉันไปถึงฝั่งฝันสักทีตรงนั้นตอดถี่ยิบ ฉันอ้าปากค้างโกยอากาศเข้ามาให้ได้มากที่สุด หากแต่ว่าคุณองศาก็ยังคงกินน้ำใสหนืดของฉันที่ไหลออกมาเป็นทางให้เขาได้กลืนกินอย่างมูมมาม
“เป็นไง?”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่แพรโล่งมาก” ตอบคุณองศาทั้งที่รู้สึกมากกว่านั้นด้วยซ้ำ เขาก็โน้มขึ้นมาจูบหน้าผากฉันที่หลับตาลงรับสัมผัสที่แสนอบอุ่นจากเขา คุณองศาเลื่อนใบหน้ามาบดจูบริมฝีปากฉันอย่างรุนรงขยี้จนเจ็บปากไปหมด
“อยากให้หยุดหรือเปล่า?”
“...”
“ทำต่อ มันจะไปจนกู่ไม่กลับเลยนะ” คุณองศาถามฉันพลางลูบศีรษะไปด้วย “อย่าถามว่าทำไมฉันถึงทำ”
รู้ได้ไงว่าฉันจะถาม
“มองเธอเป็นน้องสาวก็จริง แต่อารมณ์ของคนเรามันก็รั้งเอาไว้ยาก” ฉันพยักหน้ารับเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดนะ อารมณ์ของคนเราอยากจะหยั่งรู้ด้วยซ้ำ ฉันเองก็ไม่คิดถึงเรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้ เพราะอารมณ์ล้วนๆ อาจทำให้การตัดสินใจมันยาก และมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ไหนจะต้องดูแลความรู้สึกของตัวเองไม่ให้มันเกิดเลยอีก
“แพรคิดว่าเราน่าจะ...”
ก๊อก ก๊อก
“!”
“ใครวะ?” คุณองศาลุกขึ้นนั่งหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมพร้อมแต่งตัวให้เหมือนเดิมทุกอย่าง ฉันก็ลุกขึ้นนั่งติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองบ้าง มองกล่องกระดาษทิชชูที่คุณองศาโยนมาให้ราวกับรู้ว่ากลีบดอกไม้ของฉันมันเปียกแฉะจำต้องทำความสะอาด ฉันกะว่าจะเข้าห้องน้ำแต่พอมีทิชชูก็เลยเช็ดเองเลยดีกว่า “ยั่วกันหรือไง”
“เปล่านะคะ” เงยหน้ามองคุณองศาที่มองมายังกลีบงามฉันจำต้องเอามือปิดมัน มาเช็ดต่อหน้าเขาได้ไงแพรวา ร่างสูงเดินออกไปยังหน้าประตูที่มีคนมาเคาะ ฉันก็รีบพาตัวเองมาเข้าห้องน้ำทำความสะอาดเรียบร้อยก็เดินมาทิ้งตัวนั่งพิงหัวเตียงดูทีวีที่ไม่รู้จะเลือกดูอะไรดี คุณองศาเดินมานั่งข้างๆ กัน ฉันก็เลยเอนซบอกเขาที่กอดไหล่ฉันไว้ “มีอะไรเหรอคะ?”
“เรื่องงานน่ะ”
“แพรขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?” คุณองศาหยิบรีโมทกดเปลี่ยนช่อง “งานที่คุณองศาทำ นอกจากคาสิโน ยังมีอะไรอีกหรือเปล่าคะ”
“ถามทำไม”
“แพรแค่อยากรู้น่ะค่ะ ดูคุณองศาหงุดหงิดบ่อยช่วงนี้”
“หึ สังเกตด้วยหรือไง”
“ก็อยู่ด้วยกันนี่คะ แพรก็ต้องสังเกตสิ” แหงสิ ฉันสังเกตเขาตลอดล่ะว่าจะอารมณ์ดีหรืออารมณ์ไม่ดี กลัวว่าคำถามจะทำให้เขาไม่พอใจเหมือนที่ฉันถามเขาเรื่องแกล้งคุณธามนั่นแหละ “แพรกลัวไงคะว่าคำถามของแพร จะทำให้คุณองศาหงุดหงิดและหายไป”
“คิดถึงฉันหรือไง?” คำถามของคุณองศาทำให้ฉันมองหน้าเขา... ถามแบบนี้ก็ตอบในใจเอาก็แล้วกันนะว่า ‘คิดถึง’
“...”
“ที่ฉันหายไปก็เพราะงานเนี่ยล่ะ ส่วนที่เธอถามก็ใช่ งานฉันมากกว่านั้น”
“แล้วคืออะไรเหรอคะ แพรรู้ได้ไหม?”
“ยังไงเธอก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ” คิ้วขมวดเข้าหากันทันที ทำไมฉันต้องรู้ด้วยอะ
“ฉันค้าอาวุธเถื่อน”
“!”
“คาสิโนก็เปิดผิดกฎหมาย” บะ บ้าไปแล้วเหรอ... นี่คุณองศาคิดจะทำอะไรของเขากัน ถ้าเกิดโดนจับได้ขึ้นมาจะทำยังไง ฉันลุกขึ้นนั่งมองคุณองศาด้วยสีหน้าตกใจ “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่โดนจับหรอก”
“แต่ว่าทำไมต้องทำด้วยคะ บริษัทรถคุณองศาก็สุจริตนี่คะ”
“...”
“คุณองศาร่ำรวยและมีอิทธิพลมากๆ ไม่ทำไม่ได้เหรอคะ” ถึงจะรู้ว่าคำพูดของฉันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แต่ฉันก็อยากให้เขาหยุดทำเรื่องแบบนี้นี่นา “เลิกทำเถอะค่ะ แพรเป็นห่วงคุณองศา”
“เด็กบ๊อง” ฝ่ามือหนาวางบนศีรษะฉันและโยกไปมาเบาๆ ทำยังกับว่าเรื่องมันง่ายทั้งที่สิ่งที่เขาทำมันผิดแค่ไหน “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ตายง่ายขนาดนั้น”
“เลิกทำไม่ได้จริงๆ เหรอคะ มีเหตุผลไหมคะ”
“เหตุผลของฉันก็คือเงินไง” แต่คุณองศาก็รวยอยู่แล้วปะ บริษัทรถเห็นบอกว่ากำไรปีๆ หนี่งก็เกือบพันล้านอะ ไหนจะครอบครัวเขาอีก “และตอนนี้ฉันก็กำลังตกที่นั่งลำบาก”
“อะไรคะ?”
“ลูกค้าหายหมด เพราะโดนคนอื่นแย่งไป” ก็ดีน่ะสิ จะได้เลิกทำไปเลย หายไปให้หมด “งานที่ฉันจะให้เธอทำ”
“ให้แพรทำอะไรเหรอคะ?”
“แค่เข้าไปดูฝั่งตรงข้ามว่าคิดทำอะไรอยู่” ถึงจะเคยบอกว่าคุณองศาสั่งให้ทำอะไรฉันก็จะทำ แม้ว่าอันตรายแค่ไหนก็พร้อมทำเสมอเพื่อทดแทนบุญคุณของเขาที่มอบชีวิตให้ฉัน “พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“แพรไปทำงานได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้ พรุ่งนี้หยุดเรียนหยุดงานหนึ่งวัน”
“แต่ว่าแพรเสียดายเงินนี่นา”
“เดี๋ยวฉันให้เอง ตกลงมะ”
“ก็ได้ค่ะ”
“ตัวแม่แห่งการขี้งก” คุณองศาตำหนิฉันหากแต่ว่าเป็นคนขี้งกน่ะดีแล้ว เงินสำคัญกับการดำรงชีวิต ฉันแค่อยากมีเงินเก็บไว้เผื่อวันไหนขัดสนหรือไม่ได้อยู่กับคุณองศา ฉันจะได้มีชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ฉันกอดคุณองศาแน่นราวกับว่ากลัวเขาจะหนีไปไหน พอไม่ได้คิดอะไรจู่ๆ เรื่องบนเตียงเมื่อก่อนหน้านั้นทำให้ฉันหน้าร้อนเห่อ
“คือแพรไม่รู้ว่าควรถามคุณองศาดีหรือเปล่า”
“ถามเรื่อง” เขาเอ่ยพลางกดเปลี่ยนช่องมาเป็นหนังไซไฟเรื่องหนึ่ง ฉันเงียบและเอาแต่ก้มหน้าซุกแผงอกแกร่ง
“คุณองศาทำแบบเมื่อกี้ กับใครหรือเปล่าคะ”
“หือ?” ฉันจิกนิ้วลงบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าไปมองด้วย ถามไปก็รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแรงเป็นบ้า ไหนจะภาพนั้นที่วนเวียนฉายซ้ำไม่หายไปเลย “เรื่องที่ฉันทำให้เธออะนะ”
“ค่ะ” ตอบเบาๆ พลางพยักหน้ารับ ถึงได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอแกร่ง
“ทำไม อยากให้ทำอีกหรือไง”
“ไม่ใช่นะคะ!” ลุกขึ้นตวาดใส่หน้าคุณองศาที่เลิกคิ้วขึ้น พอรู้ว่าเผลอทำตัวเลิ่กลั่กฉันก็ยกมือเกาศีรษะตัวเอง “แพรแค่อยากรู้ว่าคุณองศาทำแบบนี้กับคนอื่นด้วยหรือเปล่า แค่นี้เองค่ะ ไม่ได้อยากให้ทำอีก”
“หึ เด็กบ๊อง” ว่าฉันแบบนี้อีกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอเป็นคุณองศาที่เอ็ดฉันกลับทำให้รู้สึกดีขึ้นเป็นกองเลย คุณองศาเอื้อมมือมาประคองแก้มลูบไล้บางเบา “แค่เธอ”
“...”
“เธอคนเดียวที่ฉันทำให้” พอได้คำตอบที่ตรงกับสิ่งที่คิดฉันก็ยิ้มกว้างทิ้งตัวลงนอนหนุนแขนเขา “ชักติดใจแล้วสิ”
“คะ?”
“ติดใจที่จะกินเธอไง” ดวงตาของฉันเบิกกว้างขึ้นทันทีพลางตีมือลงบนแผงอกแกร่ง “อะไร ตีฉันทำไมเนี่ย”
“คุณองศาทะลึ่ง”
“ปวดแผลหรือเปล่า?”
“นิดหน่อยค่ะ แต่แสบมากกว่า” คุณองศาลูบไล้แขนซ้ายฉันที่พันผ้าไว้ แต่เหมือนจะบรรเทาลงก็ตรงที่เขาทาครีมให้ด้วยมันเลยเหมือนมีเพียงปวดแสบปวดร้อนแค่นั้น ดีนะที่ไม่พองเป็นตุ่มเพราะพี่ตะวันช่วยไว้เร็วไง ให้น้ำไหลผ่านตรงที่โดนน้ำร้อนลวกนานพอควรจนมีเพียงผิวหนังแดงและตึง “คุณองศาต้องไปคาสิโนหรือเปล่าคะ”
“ทำไม”
“แพรอยากให้คุณองศาอยู่ด้วยกันน่ะค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะช่วงนี้เราแทบจะไม่ได้คุยหรือไม่ได้นอนด้วยกันเลยทั้งที่มันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ดันโหยหาคุณองศาอยู่ทุกคนครั้งไป “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ได้สิ” คำตอบของคุณองศาทำให้ฉันยิ้มกว้าง เขาก็ขยับตัวถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก
“งั้นเราดูหนังกันนะคะ”
“เธออยากดูเรื่องอะไรก็เลือกเลย ฉันไปอาบน้ำก่อน”
คุณองศาเข้าห้องน้ำ ส่วนฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงตรงเข้าครัวไปหยิบน้ำผลไม้และขนมที่ซื้อติดไว้ในห้อง ขึ้นมานั่งบนเตียงเพื่อเลือกหนังแต่ก็ไม่รู้จะดูอะไร เลยเลือกดูหนังคอมเมดี้ของต่างประเทศ รอคุณองศาเกือบสิบนาทีเขาก็คลานเข่าขึ้นมาบนเตียงขยับเข้ามาใกล้ฉันพาดแขนโอบไหล่ขณะที่ฉันเองก็หัวเราะไปกับหนังที่ฉายอยู่
หากแต่ว่า... คุณองศาเอาแต่จับจ้องมองสมาร์ทโฟนที่มีเสียงข้อความดังขึ้นเป็นระยะ เขาหยิบมาดูและวางมันลงอยู่แบบนี้เกือบสิบครั้ง จะว่าเรื่องงานก็คงไม่ใช่เพราะถ้าหากเป็นงานคุณองศาคงออกไปคุยแล้ว ให้เดาว่าปลายสายนั้นคงจะเป็นอาจารย์ฟางแน่นอน
“ฉันไปเข้าห้องน้ำแปบนะ” พยักหน้ารับขณะหยิบคุกกี้กัดเข้าปาก มองแผ่นหลังกว้างที่มองสมาร์ทโฟนและต่อสายทันที ทั้งที่รู้ว่าเป็นความสุขที่ฉันต้องการแต่คุณองศาคงไม่ต้องการ ฉันก็ยังอยากที่จะอยู่กับเขารู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้าย... เราก็ต้องจากกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง จะเสียใจทำไมแพรวา จะเสียใจทำไมในเมื่อคุณองศาเองก็ไม่เคยคิดอะไรกับฉันตั้งแต่เจอกันจนถึงตอนนี้ เขามองฉันเป็นแค่น้องสาวที่ไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หากแต่ว่าความสัมพันธ์เรื่องความต้องการ
มันก็แค่ความต้องการไม่ใช่ความรักนี่นา จริงไหมแพรวา...
“รักมากที่สุด” ในที่สุดคำที่ฉันอยากฟังก็ออกมากจากริมฝีปากแดงคล้ำ ดวงตาของฉันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาทันที“แพรก็รักเฮียองศาค่ะ”====================เสียงคลื่นทะเลสาดซัดเข้าฝั่งเมื่อฉันยืนกอดอกมองสายน้ำและทรายที่เหยียบอยู่ บ้านพักริมทะเลของเฮียองศาเวลานี้เราได้มาพักผ่อนหลังจากที่ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย เคยบอกว่าคงจะไม่ได้ที่นี่อีกสุดท้ายฉันกลับยืนมองมันอยู่ตรงนี้ ขณะที่ยืนลูบแขนตัวเองเพราะลมทะเลในตอนเช้าค่อนข้างหนาว ผ้าแพรสีน้ำเงินก็ถูกคลุมจากด้านหลัง หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ถึงแม้อายุจะนับไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเขาก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ราวกับว่าสตาฟมันเอาไว้“เข้าไปข้างในดีไหม หนาวตัวเย็นเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรอยากอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวลูกเผลอวิ่งลงทะเล” ฉันกับเฮียองศามองเด็กผู้ชาหนึ่งคนที่กำลังนั่งเล่นก่อกองทรายเป็นรูปปราสาท ‘เด็กชายพายุ โยคินวาณิชย์สกุล’ อายุ 5 ขวบ ลูกชายคนแรกของเราสองคนที่หน้าตาเหมือนฉันแต่นิสัยคล้ายพ่อ คิดดูว่าพายุเป็นเด็กฉลาดมากและก็มีมุมที่อ่อนโยนเหมือนกันฉันแค่นิดเดียวนะ นิดเดียวจริงๆ“งั้นเดี๋ยวเฮียไปดูลูกก่อน” พูดจบก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาลูกชายที่พอเห็นพ่อก
พูดจบก็จูงมือฉันขึ้นรถขับออกจากคาสิโน ไม่สิ ผับของเฮียก็ตรงมายังเส้นทางที่ไปบริษัทรถของเขานี่นา ฉันจำได้ดีเลยว่าเราเจอกันวันนั้นที่ฉันเก็บกระเป๋าเงินให้เฮียได้และหลังจากนั้นเราก็ได้เจอกัน ได้อยู่ด้วยกันจนมาถึงปัจจุบันนี้ รถของเฮียจอดลงที่หน้าบริษัทของเขาที่มีรถหรูราคาแพงโชว์เรียกลูกค้าระดับสูงๆ กันทั้งนั้น ฉันเดินตามเฮียองศามายังด้านข้างบริษัทมองเข้าไปข้างในก็ยิ่งมึนงงหนักไปอีกก็แค่ร้านกาแฟกับเค้กไม่ใช่เหรอ? เพิ่งจะรู้ว่าตรงนี้มีร้านกาแฟด้วย ตอนเจอกับเฮียยังเห็นเป็นร้านขายของที่ระลึกอยู่เลยมาตอนนี้กลับกลายเป็นร้านกาแฟและเค้กไปด้วย มีคนเข้าไปในร้านค่อนข้างเยอะอาจเพราะตรงนี้เป็นย่านติดกับการค้าหลากหลายไหนจะมหาลัยอีก ไหนจะบริษัทอีกทำเลตรงนี้คือดีมากเลยนะ“มองไปข้างบนสิ” เฮียองศาให้ฉันมองขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง แน่นอนว่าความรู้สึกก็เหมือนกับตอนที่มองป้ายผับของเฮียองศา ฉันหันไปมองเฮียที่จูงมือพาฉันเข้ามาในตัวร้านและมีพนักงานสองคนเห็นเฮียก็รีบมาต้อนรับ “นี่แพรวา เมียฉัน”“ค่ะคุณองศา”“เมียฉันเป็นเจ้าของร้านกาแฟนี้”“ฮะ เฮียคะ มันไม่มากไปเหรอคะ?” ฉันบีบฝ่ามือหนาแน่นจนเฮียองศาหันมายิ้ม“ชื่อร้า
พูดจบก็โน้มมาบดขยี้จูบบนกลีบปากฉันราวกับห่างหายมานานจนมันทับถมกลายเป็นความต้องการอย่างมากล้น เฮียผละจูบออกให้ฉันได้หายใจอารมณ์เวลานี้พลุ่งพล่านจนฉันไปไม่เป็นได้แต่หอบหายใจหนัก ขณะที่มือของฉันก็เลื่อนไปกอบกุมความเป็นชายของเฮียองศาเวลานี้มันอยากออกมาสูดอากาศข้างนอกแต่เฮียก็ยังคงไม่ได้ยอมให้มันออกมาสักที ไล่จูบมาถึงทรวงอกพลางครอบครองยอดอกฉันด้วยอุ้งปากที่ร้อนระอุ นั่นทำให้ฉันเสียวจนจิกนิ้วเท้าบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบแน่น ริมฝีปากร้อนไล่มาถึงหน้าท้องแบนราบจากนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งของฉันพาดบ่าสิ่งที่เฮียกำลังทำฉันรู้ดีถึงได้จิกเส้นผมหนานุ่ม ณ เวลานี้เฮียกำลังตักตวงความหอมหวานจากกลางกายสาวอย่างมูมมาม พอทำจนพาฉันไปถึงสวรรค์ชั้นที่เท่าไหร่ฉันไม่อาจรู้ได้ ฉันก็มองสบตากับเขาพลางย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขาพลางรูดกางเกงยีนส์ของเฮียลงมาพลางกางเกงในซึ่งท่อนเอ็นยาวใหญ่ตีโดนแก้มฉันเบาๆ“แพรกินเฮียบ้างนะคะ” ฉันมองสบตากับเฮียองศาที่กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อฉันใช้มือประคองความเป็นชายที่ใหญ่ยาวของเขาซึ่งเวลานี้กำลังแข็งและดิ้นไปมาในมือของฉัน จากนั้นฉันก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปสูดเอากลิ่นสาบเข้ามาในปดให้ได้มากที่สุ
ตอนพิเศษขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ ====================“เรามาแต่งงานกัน แพร”“...”“ฉันพูดจริงนะ” คุณองศาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันพลางจับมือฉันที่วางอยู่ไปกุมไว้ กระทั่งพลุไฟเย็นหมดลงคุณองศาก็ดึงก้านมันออกวางไว้บนโต๊ะ บีบมือฉันแน่นพลางโน้มลงมากดจูบอย่างแนบแน่น “ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ถึงจะมีเธออยู่ข้างๆ กันไปตลอดชีวิต”“ตะ แต่ว่าการแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วแพรคิดว่าคุณองศาอาจจะเจอใครที่ดีกว่า...”“ไม่มีใครดีมากกว่าเธอ” เขาส่ายหน้าไปมาราวกับบอกว่าไม่มีใครดีเท่าฉัน “ฉันเลือกแล้ว”“แพรยังไม่พร้อมนี่คะ” ตอบคุณองศาซึ่งเขาก็ไม่ได้โกรธฉันหรอกนะ เขายังยิ้มเอ็นดูฉันอีกต่างหาก “แพรเพิ่งจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่แพรไม่เคยได้ใช้ แล้วแพรกลัวว่าถ้าแต่งงานไปแพรอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้”“สองปีที่ผ่านมายังไม่พออีกเหรอ?” มันก็พอนั่นแหละ “หรือเธอไม่อยากแต่งกับฉัน”“ไม่ใช่นะคะ! แพรอยากแต่งกับคุณองศาค่ะ แต่ว่า...”“แต่อะไรอีกล่ะ เธอเนี่ยแต่ๆ บ่อยมาก”“แพรขอเวลาคิดได้ไหมคะ?” เอาจริงไม่ได้อยากปฏิเสธคำขอแต่งงานของคุณองศา ถึงตกใจพอตั้งสติได้ก็ดีใจเป็นบ้าเลยล
เช้าของวันที่ 31 ธค. คุณองศาขับรถมาส่งฉันที่ร้านกาแฟซึ่งปานก็รออยู่พร้อมพี่วิทย์ พอให้หลังคุณองศาฉันก็ให้ปานกับแฟนหนุ่มกลับไป แค่ฝากซื้อของก็เกรงใจจะแย่ คุณองศามาส่งฉันบอกว่าจะแวะไปทำธุระให้พ่อของเขา เขาน่ะจำวันเกิดตัวเองได้จริงปะเนี่ย? วันเกิดคุณองศาจำง่ายสุดเลยนะดูเขาแบบไม่ได้สนใจเลย เหมือนลืมว่าเที่ยงคืนของวันที่ 1 มค. ฉันจะเซอร์ไพร์สวันเกิดเขา จะมาทำหน้างงไม่ได้นะขอบอก ฉันขอให้คุณองศาแวะซื้อพลุไฟเย็นมาด้วยทางบ้านพักอนุญาตให้จุดแบบไม่มีเสียงเพราะงั้นก็เลยต้องใช้พลุไฟเย็นแทน เอาจริงฉันอยากจุดตอนที่วันปีใหม่ได้เริ่มอะไรใหม่ๆ แต่เริ่มใหม่กับคนดีคนเดิมอะนะ ฉันเข้ามาในห้องครัวร้านพี่รันที่ตอนนี้ปิดวันหยุด ก็จัดการทำคัพเค้กเจ็ดชิ้นตกแต่งด้วยมาการองโยเกิร์ตสตอร์วเบอรี มีน้ำตาลแบบวงกลมสีทองและสีเงิน ส่วนตกแต่งหน้าคัพเค้กฉันก็จะทำเป็นครีมสีชมพูทำเป็นดอกกุหลาบ ซึ่งทำคัพเค้กใช้เวลาก็ประมาณบ่ายนิดๆ ก็คงเสร็จ“ปานซื้อเทียนเป่าไม่ดับมาด้วยเหรอเนี่ย?” ขืนให้คุณองศาเป่าไม่ดับบอกเลยว่าคัพเค้กคงไม่ได้กินแต่ถูกโยนทิ้งและกระทืบมากกว่า เขาน่ะคงไม่ชอบอะไรแบบนี้ดีนะที่สั่งซื้อเทียนแท่งยาวเรียวคล้ายเทียนเ
Nevermind : 38Happy birthday & Happy new year II Part 2“ส้มเต็มต้นเลยแหะ” คุณองศาเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับลูกส้มที่สุกกำลังน่ากิน ฉันหยิบตะกร้าขึ้นมาเพื่อเลือกส้มกลับบ้านพักได้โดยชั่งตามน้ำหนัก ตอนนี้เราอยู่ตรงกลางสวนที่มีผ้าปูสำหรับไว้ปิกนิก คุณองศาสั่งเครื่องดื่มและเค้กส้มซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเค้กส้มเลยล่ะ “เปรี้ยวหรือเปล่า?”“เดี๋ยวแพรเก็บเอาไปชั่งจ่ายเงินแล้วค่อยลองชิมดูค่ะ” ตอบโดยไม่มองหน้าเขาฉันก็เลือกส้มเต็มตะกร้าก็เอาไปชั่งที่เขามีไว้สำหรับแพคส้มกลับบ้านซึ่งเป็นแพคเกจที่น่ารักมากๆ เมื่อได้ถุงกระดาษที่ติดโล้โก้ของสวนฉันก็เดินกลับมาที่ปิกนิกเห็นคุณองศามองผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพนักงานของที่สวนเอาเครื่องดื่มกับเค้กมาเสิร์ฟ ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าเขาและเอียงอายแถมยังคุยอะไรกันสักอย่างซึ่งฉันไม่ได้ยินหรอกนะ “มาแล้วค่ะ”“เค้กมาพอดี” พนักงานผู้หญิงมองฉันพลางเดินออกจากตรงนี้ ฉันมองเค้กส้มที่น่ากินกับชาเขียวเย็นที่คุณองศาสั่งให้ราวกับรู้ว่าเป็นของโปรดของฉัน “เสียค่าส้มไปเท่าไหร่ เอาเงินฉันไป”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรมีเงิน” ตอบคุณองศาโดยไม่มองหน้าเขาตักเค้กส้มกินซึ่งอร่อยขึ้นชื่อจริงๆ“อยากถ
“อื้ม พะ พอแล้วค่ะ” ดันใบหน้าหล่อเหลาให้ถอนจูบออก ให้ตายสิแพร! จะขาดใจจริงๆ นะ“คิดถึงเธอแทบบ้าแล้วแพร” คุณองศาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากล้น ฉันเองก็เหมือนกันนั่นแหละแต่ว่าเล่นจูบจนเกือบจะพรากวิญญาณฉันมันก็ไม่ไหวนะ “ฉันจะตายจริงๆ นะถ้าเธอไม่ยอมให้สักที”“งั้นก็ตายไปเลยค่ะ” เค้นเสียงแข็งใส่เขาพลางเดินไปปิดแก๊สที่น้ำเดือดจนควันขึ้นแล้ว “ถ้าแพรอยาก แพรจะทำ”“...”“แต่ถ้าแพรไม่ แพรก็จะไม่ให้คุณองศาทำค่ะ”บอกเขาเด็ดขาดถึงจะมีเสี้ยวหนึ่งที่ดันอยากทำกับเขาเหมือนกับที่เขาคลั่งขนาดนี้ ฉันก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะบอกไว้ก่อน คุณองศาน่ะต้องโดนฉันทรมานเรื่องนี้ไปอีกสักพักจนกว่าฉันจะใจอ่อน อย่างน้อยก็ให้สมกับที่เขาเคยเผลอใช้คำพูดไม่ดีกับฉันมาตลอดที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงจะมาง้อก็ใช่ว่าจะใจอ่อนเรื่องที่เขาอยากทำมันใจจะขาดตอนนี้ฉันเดินนำเขาอยู่นะ... หลังจากที่เดินตามเขามาตลอด ถึงเวลาที่คุณองศาต้องเดินตามกันบ้างเช้านี้ฉันนั่งเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองกับคุณองศาที่มีแค่ไม่กี่ชุด เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาค้างที่นี่เกือบครึ่งเดือนล่ะมั้งคงคิดว่าถ้าหากเจอฉันและฉันจะกลับไปกับเขามันก็ไม่
Nevermind : 38Happy birthday & Happy new yearหลังจากที่คุณองศาเข้ามาในไร่กับฉันเพราะต้องการมาเป็นแมวเฝ้าเจ้าของ แถมเป็นแมวที่ดุเอามากๆ จนพี่รันเห็นยังขำเลยกระทั่งคุณองศาเดินเข้าไปในบ้านและเห็นรูปแต่งงานของพี่รันจากที่หน้าตาบูดบึ้งก็ยิ้มหน้าบาน แถมคุยกับพี่รันเรื่องไร่สตอร์วเบอรีอีกต่างหาก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างรวดเร็วสมกับเป็นคุณองศาหลายร้อยหน้าเลิกงานฉันกับคุณองศาก็มาที่ตลาดนัดคนเดิน เพราะพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปทำงานคุณองศาบอกว่าเช้าก็เก็บเสื้อผ้าไปที่บ้านพักรีสอร์ทบนเขาได้เลย เขาจองเรียบร้อยเห็นบอกว่าคืนหนึ่งก็ปาเข้าไปเกือบคืนจะสามหมื่นอะ คิดดูว่าต้องอยู่ที่นั้นอีกสามวันจนถึงวันเคาน์ดาวน์ปีใหม่และวันเกิดคุณองศาเลย ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันเกิดตัวเองหรือรู้ก็ไม่แน่ใจ คุณองศาดูไม่ได้สนใจว่ามันเป็นวันเกิดตัวเอง รู้แค่ว่าจะไปพักผ่อนกับฉัน ไหนจะพาไปเที่ยวอีกซึ่งฉันอยู่ที่นี่มาสองปียังไม่เคยไปเที่ยวทั่วจังหวัดเลยด้วยซ้ำ“อืม อันนี้อร่อยอะแพร” หันไปคุณองศาที่กำลังใช้ไม้จิ้มจิ้มไส้อั่วกินซึ่งเขาให้ชิม ไม่ได้ให้กินจนหมดถ้วยนะดูหน้าแม่ค้าสิทำหน้าจะร้องไห้แล้ว “ชิมจนอิ่มเล
“เฮ้อ อยากจะบ้าตาย” คุณองศาเดินไปนอนบนเตียงต่อตามเดิม ฉันก็เลยพาตัวเองมานอนบ้างแต่ยังไม่ได้นอนหรอกนะเอาแต่จ้องตากันนั่นแหละ “ไม่อยากจะคิดว่าสองปีที่เธอหนีฉันมาจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้มากแค่ไหน”“แพรไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรน่ะป้องกันตัวเองเสมอ” ตั้งแต่คุณองศามาอยู่ด้วยกันมีดที่เคยใช้ป้องกันตัวก็ไม่ได้อยู่ใต้หมอนอีกต่อไป ราวกับว่าเขาคือที่พักพิงและคอยปกป้องฉันจากเรื่องที่มันไม่ดี สบายใจมากเลยล่ะ“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันอยู่ตรงนี้กับเธอ”“...”“จะอยู่กับเธอ ดูแลเธอไปจนวันตาย” คำพูดของคุณองศาทำให้ฉันเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจ “เราสองคนจะไม่มีวันพรากจากกันอีก”หลายวันผ่านไปเหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะเป็นวันสิ้นปีที่คุณองศาหาที่พักเพื่อพาฉันไปพักผ่อน ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตบอกเลยว่าฉันกลับมามีความสุขอีกครั้งและเป็นความสุขที่เขาเป็นคนทำให้ด้วยนะ คุณองศาช่วงนี้เห็นบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการแทนคุณพ่อของเขาที่โทรมาหาบอกว่าให้ทำธุระคือการไปดูแลรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ฉันเพิ่งจะรู้ว่าพ่อของคุณองศามีหุ้นส่วนอยู่เห็นว่ากำลังจะซื้อขาดเลย เขาก็เลยไม่ได้มานั่งเฝ้าฉันที่ร้านบ่อยๆ ซึ่งมันดีม