Lahat ng Kabanata ng ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา: Kabanata 1 - Kabanata 7

7 Kabanata

ดินแดนแห่งยุทธภพ

ใต้หล้าแห่งนี้ มิได้มีราชา มิได้มีสวรรค์ชี้นำ มีเพียง พลังแห่งวรยุทธ เท่านั้นที่ชี้ขาดชะตาชีวิตผู้คน ดินแดนยุทธภพ แผ่นดินกว้างใหญ่ที่แสงอาทิตย์มิอาจส่องทั่วถึง ปกคลุมด้วยหมอกควันแห่งสงครามและเลือดสังเวยแห่งความทะเยอทะยาน ที่นี่… ความถูกผิดถูกกลืนหายไปตั้งแต่ยุคบรรพกาล เหลือเพียง “กำลัง” และ “เจตจำนงแห่งคมดาบ” เท่านั้นที่ยังคงอยู่เหนือยอดเขา มีสำนักใหญ่ครอบครองฟ้าเบื้องบน กลางแผ่นดิน มีเจ้าพรรคผู้ปกครองดินแดนด้วยกำลังมือ ใต้เงาหุบเหว มีเหล่ามารผู้ซ่อนเร้น รอวันกลืนกินแสงสว่าง ทุกชีวิตที่ถือกำเนิดในโลกนี้ ล้วนถูกกำหนดด้วยพลังในลมปราณและเส้นทางที่ตนเลือก คำว่า “ยุทธภพ” จึงมิใช่เพียงชื่อเรียก หากคือ สนามประลองแห่งโชคชะตา ผู้ไร้พลัง ย่อมเป็นเหยื่อ ผู้มีพลัง แต่ไร้ใจ ย่อมเป็นอสูร และผู้ที่มีทั้งพลังและใจ ย่อมต้องแบกรับชะตาของโลกทั้งผืนไว้ในฝ่ามือ ในแต่ละราตรี มีเสียงกระบี่ที่ยังมิได้ชำระความในแต่ละรุ่งอรุณ มีโลหิตที่ยังมิทันแห้งกรังผู้ฝึกยุทธนับหมื่นชีวิตยอมสละเลือดเนื้อ เพื่อไขว่คว้า “หนึ่งก้าวเหนือฟ้า” เพราะเพียงแค่ก้าวเดียวที่ยืนสูงกว่าผู้อื่น คือเส้นแบ่งระหว่าง ผู้เป็นตำนาน และ ผู
last updateHuling Na-update : 2025-10-06
Magbasa pa

เช้าของคนแร่

แสงอรุณแรกของฤดูปลายวสันต์สาดลงมาบนตลาดเล็ก ๆ ริมทางการค้า หมอกเช้าลอยเอื่อยเหนือหลังคามุงฟาง กลิ่นควันไฟจากเตาถ่านผสมกับกลิ่นใบชาที่เพิ่งคั่ว เสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก ๆ วิ่งไล่กันในตรอก เสียงเอะอะโวยวายของคนที่เดินผ่านตอนเด็กน้อยวิ่งไล่กันจนจะชนเขา เด็กน้อยหันมาทำหน้าล้อเลียนแล้ววิ่งหนีไป ทำให้เช้าวันนี้ดูเหมือนเช้าที่ผ่านมา อบอุ่น เงียบง่าย และไม่สำคัญต่อผู้ใดในยุทธภพที่แสนโหดร้าย ไป๋เสวี่ยหลานเด็กน้อยวางกาน้ำชาดินเผาลงบนโต๊ะไม้เตี้ย เสียงน้ำร้อนเดือดพล่านดัง ปุดปุด ขณะเธอค่อย ๆ รินลงถ้วยดินเผาสีน้ำตาล เสียงกระทบกันเบา ๆ คล้ายระฆังเล็ก สาวน้อยยิ้มบางให้ชายชราที่นั่งรออยู่พลางยื่นถ้วยไป “เชิญเจ้าค่ะ ลุงหลี่ วันนี้ชารสเข้มหน่อยนะ ดืมให้อร่อยเจ้าค่ะ”เด็กน้อยกล่าวขึ้น ชายชราหัวเราะแห้ง ๆ พลางยื่นเหรียญทองแดงสองสามอันใส่มือเธอ และสูดดมชาที่หอมกรุ่นก่อนที่จิบเล็กน้อย พอริ้มรสแล้วรู้สึกว่าไม่ร้อนมากก็กระดกใส่ปากทันที“เสวี่ยหลาน เด็กน้อยเอ๋ย หากมีลูกสาวเช่นเจ้าอยู่บ้าน ข้าคงไม่เหงาอย่างนี้ ”ชายชรากล่าวขึ้น เด็กน้อยหัวเราะเบา ยกชายผ้าพันแขนปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก พลางหันไปเรียกพ่อค้าเร่ผู้ห
last updateHuling Na-update : 2025-10-06
Magbasa pa

ของเก่าสร้อยและงู

เมื่อเด็กน้อยทุกคนกลับไปแล้วเด็กน้อยเสวี่ยหลานก็ไปช่วยพ่อจัดผ้าอีก พ่อจึงก็หยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ออกมา เปิดเผยวัตถุที่เสวี่ยหลานเห็นเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิตสร้อยหยกรูปงูขาว เด็กน้อยมองด้วยความอยากรู้นางมองและจดจำลักษณะของมัน หยกนั้นขาวสะอาดจนแทบเรืองแสง ลวดลายสลักเป็นเกล็ดเรียงละเอียด เมื่อแสงแดดส่องต้องกลับสะท้อนเป็นประกายเย็นเยียบอย่างประหลาด เด็กน้อยทำตาลุกวาวเมื่อเห็นแสงสะท้อนอย่างประหลาดนั้นมากระทบตาตัวเอง นางมองเลยไปจนเห็นพ่อ ที่มองหยกอยู่นานก่อนจะยื่นให้เสวี่ยหลาน เด็กน้อยสะดุ้งเล็กน้อยไม่ใช่ว่าหนังจ้องมองขนาดนั้นจนพ่อรู้ว่านางแอบจดจำรายละเอียดแล้วหรือนางจึงไม่กล้ายื่นมือเข้าไปจับ“รับเอาไปสิ มันเป็นของเจ้า จำไว้นะ หลานเอ๋ย ของสิ่งนี้อย่าให้ใครเห็น ” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความจริงจังผิดจากทุกวัน ทำให้ผู้ฟังที่ไม่เคยกินเกิดความรู้สึกในใจว่าเหมือนกำลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง“ของสิ่งนี้ คือของที่แม่เจ้าทิ้งไว้ให้ จงเก็บรักษามันให้ดี มันอาจนำพาเคราะห์ร้ายมา แต่ก็อาจเป็นสิ่งเดียวที่จะคุ้มครองเจ้าได้”เสวี่ยหลานชะงัก ดวงตาสั่นไหว นางไม่ค่อยได้ถามถึงมารดา เพราะทุกครั้งที่ถาม พ่อมักเลี่ยงเสีย
last updateHuling Na-update : 2025-10-06
Magbasa pa

เสียงหัวเราะที่หายไป

เมื่อชายวัยกลางคนจัดของเสร็จวันพรุ่งนี้รุ่งเช้าเขาก็จะพาลูกออกเดินทาง เขาจึงเข้าไปดูลูกน้อย เมื่อเข้าไปแล้วก็เห็นว่าลูกยังไม่นอนกำลังเย็บผ้าที่เสียหายอยู่ ผู้เป็นพ่อนั่งลงตรงหน้าของลูก แสงตะเกียงสั่นไหวในห้องเล็ก พ่อจ้องมองดวงตาของบุตรสาวที่ยังใสซื่อ เขายกมืออันหยาบกร้านจากงานหนักลูบศีรษะเธอแผ่วเบา น้ำเสียงต่ำช้าแต่หนักแน่นเอ่ยว่า“ลูกเอ๋ยจำไว้นะ...อย่าบ่ายเบี่ยงกับคนแปลกหน้า”เด็กสาวขมวดคิ้ว น้ำเสียงสั่นถามเบา “ทำไมเจ้าคะ พวกเขาไม่ใช่คนดีหรือ?”พ่อถอนหายใจยาว แววตาเต็มไปด้วยความอาทรปนเศร้าลึก “เพราะโลกนี้...ไม่ได้มีที่สำหรับความอ่อนแอ บางครา การปฏิเสธเพียงเล็กน้อยอาจเปลี่ยนเป็นหอกที่หันกลับมาทิ่มแทงเจ้าเอง”เงียบงันครู่หนึ่ง ก่อนที่พ่อจะจับไหล่ลูกแน่น “หากเจ้าจำเป็นต้องยอม ก็ยอมอย่างฉลาด หากต้องเอ่ยถ้อยคำ ก็เอ่ยด้วยใจเย็น อย่าเผยความกลัวออกมาเด็ดขาด”คำสอนนั้นแทรกซึมในใจเด็กสาว ไม่ใช่เพียงคำเตือนเรื่องคนแปลกหน้า แต่คือการบอกนัยว่าทางข้างหน้ามีเพียงความโหดร้ายรออยู่ ผู้เป็นลูกพยักหน้าให้กับพ่องึกๆ พ่อสบสายตาลูกยิ้มให้เล็กน้อย เด็กผู้นี้แต่ก่อนมีนิสัยที่ร่าเริงแต่มาวันนี้เกิดเรื่องแ
last updateHuling Na-update : 2025-10-06
Magbasa pa

คำคืนที่ไม่เหมือนเดิม

ลมราตรีพัดกรรโชกผ่านป่าไผ่ เสียงใบไผ่เสียดสีกันราวกับเสียงคร่ำครวญจากวิญญาณเร้นลับภายในเรือนเล็กกลางหมู่บ้าน ไป๋เสวี่ยหลานเด็กสาวนั่งเย็บเสื้อผ้าใต้แสงตะเกียงน้ำมัน แสงอุ่นส่องขับดวงหน้านวลที่ยังไร้เดียงสา ดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความฝันเรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่กับบิดาเงียบสงบไปวัน ๆ พรุ่งนี้เช้าทั้งสองจะออกเดินทางไปขายผ้าที่ถิ่นใหม่แล้ว ไป๋เสวี่ยหลานเย็บผ้าตัวนี้เสร็จก็จะเขานอน แต่คืนนี้ที่ควรจะสงบสุข กลับแปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายที่ยากลืมเลือน "ตึง! ตึง! ตึง!เสียงของประตูไม้ที่ถูกถีบแตกดังสะท้านไปทั่วเรือน ก่อนที่เงาดำหลายสายจะทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วบิดาของไป๋เสวี่ยหลาน นามว่าไป๋อหมิงพ่อค้าเร่ที่ทุกทุกคนพูดถึง พุ่งออกมาขวางด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยว เขาเพียงทันคว้าดาบเก่า ๆ ขึ้นมาในมือ“หลานเอ๋อร์ถอยไปอยู่หลังข้า!” เสียงเขาก้องดังก้องไปทั้งห้องเพลี้ยง! เพลี้ยง! เพลี้ยง!เสียงดาบปะทะกับอาวุธของผู้บุกรุก เสียงโลหะเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟในความมืด ไป๋เสวี่ยหลานตัวสั่นงันงกเมื่อเห็นโลหิตสาดกระเซ็นออกมาจากแขนของบิดา หัวใจของนางนั้นเต้นดววตาของนางก็เริ่มพร่ามัวเหมือนมีอะไรมาบังสายตาให้มันมัวลงไป
last updateHuling Na-update : 2025-10-07
Magbasa pa

ลมแรกของตรา

เสียงฝีเท้าในค่ำคืนยังตามหลอกหลอนในห้วงฝันของเด็กสาว ลมกลางดึกพัดผ่านผนังไม้ กรีดเสียงคล้ายมีดเฉือนใจของนาง วันนั้น...แสงเพลิงส่องลอดประตู เสียงโลหะกระทบกันก้องกังวาน นางเองได้แต่ยืนตัวสั่น มองเงาของพ่อที่ยกดาบขึ้นปะทะกับคนชุดดำในความมืด“หนีไป...!”เป็นเสียงสุดท้ายที่พ่อพูดกับนางและพลักนางให้ออกจากบ้านหลังนั้น ก่อนที่เงานั้นจะกลืนร่างท่านหายไปในม่านควัน นางวิ่งไปในความมืด หัวใจเต้นรัวดั่งจะระเบิด เสียงดาบยังดังไล่หลัง เหมือนเตือนให้จำว่าข้ายังมีชีวิตได้เพราะใคร หลายคืนแล้วที่นางไม่อาจหลับสนิท ทุกครั้งที่ปิดตา เขายังเห็นแผ่นหลังของพ่อยืนอยู่ท่ามกลางเพลิง แผ่นหลังที่สั่นไหวด้วยลม แต่ไม่เคยสั่นด้วยความกลัว นางอยากกลับไปกอดพ่ออีกครั้ง อยากบอกว่าตัวเขาจะไม่หนีอีกต่อไป นางจะเติบโต...ให้คู่ควรกับเลือดที่พ่อทิ้งไว้ในคืนนั้น ครั้นนางจะหยุดพักก็เหมือนว่ามีคนกำลังวิ่งตามพอมองออกไปก็ไร้วี่แววของผู้คน นางได้แต่คิดอยู่ในใจ ในเมื่อนางหนีมาหลายวันหลายคืนแล้ว ทำไมเสียงนั้นยังตามหลอกหลอนนางอยู่ ถามว่านางน่าจะคิดไปเองว่ายังมีคนวิ่งไล่ตามอยู่ตลอดเวลา ลมหนาวยามค่ำยังคงพัดผ่าน เด็กสาวเงยหน้ามองฟ้า เห็นดวง
last updateHuling Na-update : 2025-10-08
Magbasa pa

เสียงของตรา

สายลมยามค่ำคืนเย็นเยียบจนแทงทะลุผิวกายหญิงสาวพิงผนังหินในถ้ำลึก มือกุมหน้าอกแน่น ใบหน้าเปื้อนเหงื่อและฝุ่น นางหอบหายใจแรงราวกับเพิ่งหนีตายมาไกลหลายลี้ นางมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดกลัว ถ้ำนี้ดีหน่อยที่มีคบเพลิงอยู่สามสี่อัน นางจุดคบเพลิงขึ้นเพียงอันเดียวก็เพียงพอให้แสงสว่างแล้ว เพราะเป็นตอนกลางคืนและถ้ำเองก็มืด คบเพลิงอันเดียวก็ส่งแสงสว่างเพียงพอ เสียงน้ำหยดจากเพดานถ้ำดังเป็นจังหวะช้า ๆ ผสมกับเสียงหัวใจเต้นที่ดังชัดในอกความเหนื่อยล้าเข้ามาปะปน นางหลับตา สูดลมหายใจลึกเพื่อข่มความสั่นแต่ยิ่งพยายามสงบเท่าไร เสียงนั้นกลับยิ่งชัดขึ้น... “เลือดของข้า... ไหลเวียนในตัวเจ้าแล้ว”หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นกวาดมองรอบถ้ำไม่มีใคร ไม่มีเงาของผู้คน มีเพียงเปลวไฟจากคบเพลิงที่นางจุดไว้สะท้อนอยู่บนผนังหินซึ่งไร้คนอื่นๆ เปลวเพลิงเองก็นิ่งเงียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน“ใคร... ใครอยู่ที่นั่น!”เธอตะโกนถาม เสียงสะท้อนกลับมาเพียงคำพูดของตนเอง"ใคร...ใครอยู่ที่นั่น!"สักพักใหญ่ๆก็มีเสียงอีกเสียงที่ไม่ใช่เสียงสะท้อนของนาง“ข้า... คือเจ้า”“และเจ้าคือผู้สืบตราแห่งอสรพิษขาว”เสียงนั้นดังขึ้นในหัวชัดเจ
last updateHuling Na-update : 2025-10-24
Magbasa pa
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status