Home / แฟนตาซี / ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา / คำคืนที่ไม่เหมือนเดิม

Share

คำคืนที่ไม่เหมือนเดิม

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-10-07 21:06:15

ลมราตรีพัดกรรโชกผ่านป่าไผ่ เสียงใบไผ่เสียดสีกันราวกับเสียงคร่ำครวญจากวิญญาณเร้นลับ

ภายในเรือนเล็กกลางหมู่บ้าน ไป๋เสวี่ยหลานเด็กสาวนั่งเย็บเสื้อผ้าใต้แสงตะเกียงน้ำมัน แสงอุ่นส่องขับดวงหน้านวลที่ยังไร้เดียงสา ดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความฝันเรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่กับบิดาเงียบสงบไปวัน ๆ พรุ่งนี้เช้าทั้งสองจะออกเดินทางไปขายผ้าที่ถิ่นใหม่แล้ว ไป๋เสวี่ยหลานเย็บผ้าตัวนี้เสร็จก็จะเขานอน แต่คืนนี้ที่ควรจะสงบสุข กลับแปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายที่ยากลืมเลือน

"ตึง! ตึง! ตึง!

เสียงของประตูไม้ที่ถูกถีบแตกดังสะท้านไปทั่วเรือน ก่อนที่เงาดำหลายสายจะทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็ว

บิดาของไป๋เสวี่ยหลาน นามว่าไป๋อหมิงพ่อค้าเร่ที่ทุกทุกคนพูดถึง พุ่งออกมาขวางด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยว เขาเพียงทันคว้าดาบเก่า ๆ ขึ้นมาในมือ

“หลานเอ๋อร์ถอยไปอยู่หลังข้า!”

เสียงเขาก้องดังก้องไปทั้งห้อง

เพลี้ยง! เพลี้ยง! เพลี้ยง!

เสียงดาบปะทะกับอาวุธของผู้บุกรุก เสียงโลหะเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟในความมืด ไป๋เสวี่ยหลานตัวสั่นงันงกเมื่อเห็นโลหิตสาดกระเซ็นออกมาจากแขนของบิดา หัวใจของนางนั้นเต้นดววตาของนางก็เริ่มพร่ามัวเหมือนมีอะไรมาบังสายตาให้มันมัวลงไปเล็กน้อย

“ท่านพ่อ!”

นางกรีดร้อง เสียงนั้นแทบจะฉีกขาดหัวใจตนเอง เปลวไฟถูกสาดเข้ามาทางหน้าต่าง ไม้แห้งลุกพรึ่บติดเพียงพริบตา ควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นราวกับอสูรร้ายกำลังกลืนกินเรือนทั้งหลัง

ผู้บุกรุกหัวเราะเย็นเยียบ

"ตรางูขาวนั้นละอยู่ที่ใด หากเจ้าไม่อยากตายมอมมันมาเสีย"

เสียงก้องกังวานดังเข้าไปในโสนประสาท ทำให้ผู้ที่ได้ยินนั้นขนหัวลุก

ไป๋อหมิงสะบัดกระบี่ผลักศัตรูออกไป แต่โลหิตก็ทะลักออกจากปาก เขารู้ว่าตนไม่อาจมีชีวิตรอดไปได้ จึงตะโกนสุดแรง

“หลานเอ๋อร์! หนี! ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

ไป๋เสวี่ยหลานน้ำตานองหน้า ขาแข็งทื่อราวกับตรึงไว้ นางไม่อาจปล่อยให้บิดาเผชิญความตายเพียงลำพัง

แต่ร่างอันแข็งแรงของไป๋อหมิงกลับผลักบุตรสาวออกไปทางประตูที่ยังไม่ถูกไฟกลืนกิน

เสียงไฟลุกโหม กร๊อบกร๊อบ ดังประสานกับเสียงร้องโหยหวนของไป๋เสวี่ยหลาน นางล้มกลิ้งออกนอกเรือน ร่างกระแทกพื้นแข็งก่อนเงยหน้าขึ้นเห็น เงาบิดายืนตระหง่านท่ามกลางเพลิง พร้อมกระบี่ในมือ ปะทะกับกลุ่มคนชุดดำ

แล้วเปลวเพลิงก็กลืนกินภาพนั้น สายตาของนางก็พร่ามัวดังจึงต้องคิดว่าต้องหนีจากที่นี่ให้ได้ก่อน นางเหมือนมีอะไรมากลืนกินจนไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้

“ท่านพ่อ—!!”

เสียงกรีดร้องดังสะท้อนทั่วหุบเขา แต่ไร้ผู้ตอบกลับ ขณะน้ำตายังพรั่งพรู เด็กสาวเพียงผู้เดียวถูกทิ้งไว้ในความมืดมิดและความเงียบงัน เบื้องหลังคือซากเพลิงที่ลุกโชติช่วงไม่ต่างจากกำแพงนรก และเบื้องหน้าคือหนทางอันยาวไกลของ “ยุทธภพ” ที่นางนั้นไม่เคยคิดว่าจะต้องก้าวเข้าสู่ เมื่อนางวิ่งออกไปได้หลายก้าวก็เหมือนจะมีชาวบ้านที่พุ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ที่บ้านของนาง แต่พอมองมองดูชัดๆแล้วก็คือแทบทั้งหมู่บ้านถูกกลืนกินไปด้วยเพลิง เด็กน้อยไป๋เสวี่ยหลายเห็นท่านลุงผู้ที่เรียกท่านพ่อเข้าไปคุยตอนที่เกิดเพลิงไหม้ในตรอกเมื่อกลางวันนั้น พุ่งเข้าไปทางบ้านของนาง แต่นางไม่มีเวลาที่จะอยู่รอดูตรงนี้ได้เลย เพราะมีชาวบ้านวิ่งกันออกไป พวกนั้นต่างวิ่งมาทางนาง และนางก็ถูกพวกเขาชน มีชายชราผู้หนึ่งลากนางออกไปด้วย

"มาเถอะเด็กน้อยไปกันก่อน! ไปก่อน! ไปก่อน!อย่ามัวยืนรีรอเลยออกไปจากที่นี้ก่อน ไฟไหม้ใหญ่แล้ว ของในบ้านไม่ต้องเป็นห่วงแล้วรีบๆออกไปก่อน เอาชีวิตให้รอด"

ชายชรากล่าวขึ้นอย่างสั่นด้วยความที่เขาชรามากแล้วและเขาก็ตกใจมาก เด็กน้อยไม่มีโอกาสหันหลังอีกแล้วเขาต้องมุ่งหน้าไปข้างหน้าอย่างเดียว กลุ่มหมู่บ้านทุกคนต้องไปอยู่ที่ในป่าพวกเขาพากันยืนดูสถานการณ์อยู่ไม่นานผู้ใหญ่บ้านก็วิ่งมา

"อ้า ไม่ทันแล้วหมู่บ้านเรามอดไหม้ไปกันหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร หรืออาจจะเป็นกลุ่มคนที่ตามล่าหาอะไรสักอย่าง ข้าได้ยินว่างูขาวอะไรทำนองนั้น แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรเมื่อตอนสายลุงหลี่ที่ถูกฆ่าตายก็น่าจะเป็นเรื่องนี้"

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้นทำให้หัวใจของไป๋เสวี่ยหลานเต้นแรง งูขาวที่ว่าไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งของที่นางพึ่งได้รับมาหรอกหรือ แต่ที่มันน่าแปลกก็คือผู้เป็นพ่อเพิ่งมอบสร้อยให้นางเมื่อตอนเช้านี้เอง ตกค่ำมาก็เกิดเรื่องเสียแล้ว หรือว่าพ่อรู้ตัวแล้วว่าจะมีคนมาตามหาของสิ่งนี้ จึงรีบมอบให้นางและต่อสู้กับคนพวกนั้น

"มีคนมา!มีคนมา!รีบหลบเร็ว"

เสียงผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้นอย่างเสียงต่ำเพื่อที่จะให้ทุกคนได้ยินแต่ไม่ให้ผู้ที่วิ่งมานั้นได้ยิน

"ค้นให้ทั่วผู้ใดที่ซ่อนตรางูขาวไว้จัดการแล้วนำตรานั้นมา"

เสียงนั้นดังขึ้น ไป๋เสวี่ยหลานหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นางอยู่ในเงาต้นกล้วยพอดี นางต้องหนีให้ได้ ถ้าถูกค้นตัวต้องพบแน่ๆแต่ถ้าจะให้นางทิ้งไป มันก็คือของชิ้นเดียวที่ผู้เป็นแม่ของนาง ส่งต่อให้ แต่ว่ามันกำลังจะนำภัยมาสู่ตัวของนางแล้ว แต่นางก็ต้องรักษามันไว้เพราะมันอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นางรอดชีวิต ที่ท่านพ่อบอกไว้ นางจึงคิดว่าทำไมนะสร้อยเส้นนี้อยู่กับผู้เป็นพ่อของนางมาได้ตั้งหลายปีไม่มีปัญหา แต่พอมาอยู่กับนางแค่วันเดียวก็เกิดเรื่องเสียแล้ว กลุ่มคนชุดดำกลุ่มนั้นไม่ใช่กลุ่มเดียวที่อยู่ในบ้านของนาง แต่น่าจะเป็นพวกเดียวกันเนื่องจากว่าใช้ชุดอำพรางเหมือนกัน พวกมันพยายามค้นตัวทุกๆคน คนไหนที่ขัดขืนมันก็ฆ่าทันที ทำให้ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นเงียบไปหมด แต่อยู่ๆก็เหมือนมีบุรุษผู้หนึ่งวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเขาเหมือนไม่ใช่คนเพราะเขาวิ่งได้เร็วมากกลุ่มบุรุษพวกนั้นที่ใส่ชุดดำเห็นจึงคิดว่าคนผู้นั้นมีตางูขาวอะไรนั่นจึงพุ่งตามออกไปทันที และมีบุรุษที่เป็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่วิ่งตามไปด้วย

"หนีเร็วทุกคนรีบไปจากที่นี่ ใครหนีไปทางไหนได้ก็รีบไปเลยกลุ่มคนเหล่านั้นน่าจะด้านพวกนั้นไว้ได้ไม่นานให้พวกเรารีบหนีไป"

เสียงสตรีผู้หนึ่งกล่าวขึ้น นางทั้งร้องไห้ที้งกล่าวออกไปก่อนที่ทุกคนจะต่างคนต่างวิ่ง เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น เด็กน้อยก็ออกวิ่งจนสุดกำลัง วิ่งต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ผู้เป็นพ่อยอมให้นางหนีออกมาได้แล้ว ถ้าหากว่านางถูกจับทีหลังก็เท่ากับผู้เป็นพ่อของนางได้ตายฟรี เมื่อคิดถึงคำว่าตายก็ทำให้นางนั้นหัวใจแทบสลายนางวิ่งไปก็ร้องไห้ไป และนางก็สะดุดล้มลงไป นางนอนอยู่กับที่ไม่รู้ว่านานเท่าใด มือคลำดูที่เอวก็พบกับสร้อยงูขาวที่เย็นยะเยือก ความหนาวนี้พุ่งมาสู่หัวใจทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   ลมแรกของตรา

    เสียงฝีเท้าในค่ำคืนยังตามหลอกหลอนในห้วงฝันของเด็กสาว ลมกลางดึกพัดผ่านผนังไม้ กรีดเสียงคล้ายมีดเฉือนใจของนาง วันนั้น...แสงเพลิงส่องลอดประตู เสียงโลหะกระทบกันก้องกังวาน นางเองได้แต่ยืนตัวสั่น มองเงาของพ่อที่ยกดาบขึ้นปะทะกับคนชุดดำในความมืด“หนีไป...!”เป็นเสียงสุดท้ายที่พ่อพูดกับนางและพลักนางให้ออกจากบ้านหลังนั้น ก่อนที่เงานั้นจะกลืนร่างท่านหายไปในม่านควัน นางวิ่งไปในความมืด หัวใจเต้นรัวดั่งจะระเบิด เสียงดาบยังดังไล่หลัง เหมือนเตือนให้จำว่าข้ายังมีชีวิตได้เพราะใคร หลายคืนแล้วที่นางไม่อาจหลับสนิท ทุกครั้งที่ปิดตา เขายังเห็นแผ่นหลังของพ่อยืนอยู่ท่ามกลางเพลิง แผ่นหลังที่สั่นไหวด้วยลม แต่ไม่เคยสั่นด้วยความกลัว นางอยากกลับไปกอดพ่ออีกครั้ง อยากบอกว่าตัวเขาจะไม่หนีอีกต่อไป นางจะเติบโต...ให้คู่ควรกับเลือดที่พ่อทิ้งไว้ในคืนนั้น ครั้นนางจะหยุดพักก็เหมือนว่ามีคนกำลังวิ่งตามพอมองออกไปก็ไร้วี่แววของผู้คน นางได้แต่คิดอยู่ในใจ ในเมื่อนางหนีมาหลายวันหลายคืนแล้ว ทำไมเสียงนั้นยังตามหลอกหลอนนางอยู่ ถามว่านางน่าจะคิดไปเองว่ายังมีคนวิ่งไล่ตามอยู่ตลอดเวลา ลมหนาวยามค่ำยังคงพัดผ่าน เด็กสาวเงยหน้ามองฟ้า เห็นดวง

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   คำคืนที่ไม่เหมือนเดิม

    ลมราตรีพัดกรรโชกผ่านป่าไผ่ เสียงใบไผ่เสียดสีกันราวกับเสียงคร่ำครวญจากวิญญาณเร้นลับภายในเรือนเล็กกลางหมู่บ้าน ไป๋เสวี่ยหลานเด็กสาวนั่งเย็บเสื้อผ้าใต้แสงตะเกียงน้ำมัน แสงอุ่นส่องขับดวงหน้านวลที่ยังไร้เดียงสา ดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความฝันเรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่กับบิดาเงียบสงบไปวัน ๆ พรุ่งนี้เช้าทั้งสองจะออกเดินทางไปขายผ้าที่ถิ่นใหม่แล้ว ไป๋เสวี่ยหลานเย็บผ้าตัวนี้เสร็จก็จะเขานอน แต่คืนนี้ที่ควรจะสงบสุข กลับแปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายที่ยากลืมเลือน "ตึง! ตึง! ตึง!เสียงของประตูไม้ที่ถูกถีบแตกดังสะท้านไปทั่วเรือน ก่อนที่เงาดำหลายสายจะทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วบิดาของไป๋เสวี่ยหลาน นามว่าไป๋อหมิงพ่อค้าเร่ที่ทุกทุกคนพูดถึง พุ่งออกมาขวางด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยว เขาเพียงทันคว้าดาบเก่า ๆ ขึ้นมาในมือ“หลานเอ๋อร์ถอยไปอยู่หลังข้า!” เสียงเขาก้องดังก้องไปทั้งห้องเพลี้ยง! เพลี้ยง! เพลี้ยง!เสียงดาบปะทะกับอาวุธของผู้บุกรุก เสียงโลหะเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟในความมืด ไป๋เสวี่ยหลานตัวสั่นงันงกเมื่อเห็นโลหิตสาดกระเซ็นออกมาจากแขนของบิดา หัวใจของนางนั้นเต้นดววตาของนางก็เริ่มพร่ามัวเหมือนมีอะไรมาบังสายตาให้มันมัวลงไป

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   เสียงหัวเราะที่หายไป

    เมื่อชายวัยกลางคนจัดของเสร็จวันพรุ่งนี้รุ่งเช้าเขาก็จะพาลูกออกเดินทาง เขาจึงเข้าไปดูลูกน้อย เมื่อเข้าไปแล้วก็เห็นว่าลูกยังไม่นอนกำลังเย็บผ้าที่เสียหายอยู่ ผู้เป็นพ่อนั่งลงตรงหน้าของลูก แสงตะเกียงสั่นไหวในห้องเล็ก พ่อจ้องมองดวงตาของบุตรสาวที่ยังใสซื่อ เขายกมืออันหยาบกร้านจากงานหนักลูบศีรษะเธอแผ่วเบา น้ำเสียงต่ำช้าแต่หนักแน่นเอ่ยว่า“ลูกเอ๋ยจำไว้นะ...อย่าบ่ายเบี่ยงกับคนแปลกหน้า”เด็กสาวขมวดคิ้ว น้ำเสียงสั่นถามเบา “ทำไมเจ้าคะ พวกเขาไม่ใช่คนดีหรือ?”พ่อถอนหายใจยาว แววตาเต็มไปด้วยความอาทรปนเศร้าลึก “เพราะโลกนี้...ไม่ได้มีที่สำหรับความอ่อนแอ บางครา การปฏิเสธเพียงเล็กน้อยอาจเปลี่ยนเป็นหอกที่หันกลับมาทิ่มแทงเจ้าเอง”เงียบงันครู่หนึ่ง ก่อนที่พ่อจะจับไหล่ลูกแน่น “หากเจ้าจำเป็นต้องยอม ก็ยอมอย่างฉลาด หากต้องเอ่ยถ้อยคำ ก็เอ่ยด้วยใจเย็น อย่าเผยความกลัวออกมาเด็ดขาด”คำสอนนั้นแทรกซึมในใจเด็กสาว ไม่ใช่เพียงคำเตือนเรื่องคนแปลกหน้า แต่คือการบอกนัยว่าทางข้างหน้ามีเพียงความโหดร้ายรออยู่ ผู้เป็นลูกพยักหน้าให้กับพ่องึกๆ พ่อสบสายตาลูกยิ้มให้เล็กน้อย เด็กผู้นี้แต่ก่อนมีนิสัยที่ร่าเริงแต่มาวันนี้เกิดเรื่องแ

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   ของเก่าสร้อยและงู

    เมื่อเด็กน้อยทุกคนกลับไปแล้วเด็กน้อยเสวี่ยหลานก็ไปช่วยพ่อจัดผ้าอีก พ่อจึงก็หยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ออกมา เปิดเผยวัตถุที่เสวี่ยหลานเห็นเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิตสร้อยหยกรูปงูขาว เด็กน้อยมองด้วยความอยากรู้นางมองและจดจำลักษณะของมัน หยกนั้นขาวสะอาดจนแทบเรืองแสง ลวดลายสลักเป็นเกล็ดเรียงละเอียด เมื่อแสงแดดส่องต้องกลับสะท้อนเป็นประกายเย็นเยียบอย่างประหลาด เด็กน้อยทำตาลุกวาวเมื่อเห็นแสงสะท้อนอย่างประหลาดนั้นมากระทบตาตัวเอง นางมองเลยไปจนเห็นพ่อ ที่มองหยกอยู่นานก่อนจะยื่นให้เสวี่ยหลาน เด็กน้อยสะดุ้งเล็กน้อยไม่ใช่ว่าหนังจ้องมองขนาดนั้นจนพ่อรู้ว่านางแอบจดจำรายละเอียดแล้วหรือนางจึงไม่กล้ายื่นมือเข้าไปจับ“รับเอาไปสิ มันเป็นของเจ้า จำไว้นะ หลานเอ๋ย ของสิ่งนี้อย่าให้ใครเห็น ” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความจริงจังผิดจากทุกวัน ทำให้ผู้ฟังที่ไม่เคยกินเกิดความรู้สึกในใจว่าเหมือนกำลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง“ของสิ่งนี้ คือของที่แม่เจ้าทิ้งไว้ให้ จงเก็บรักษามันให้ดี มันอาจนำพาเคราะห์ร้ายมา แต่ก็อาจเป็นสิ่งเดียวที่จะคุ้มครองเจ้าได้”เสวี่ยหลานชะงัก ดวงตาสั่นไหว นางไม่ค่อยได้ถามถึงมารดา เพราะทุกครั้งที่ถาม พ่อมักเลี่ยงเสีย

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   เช้าของคนแร่

    แสงอรุณแรกของฤดูปลายวสันต์สาดลงมาบนตลาดเล็ก ๆ ริมทางการค้า หมอกเช้าลอยเอื่อยเหนือหลังคามุงฟาง กลิ่นควันไฟจากเตาถ่านผสมกับกลิ่นใบชาที่เพิ่งคั่ว เสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก ๆ วิ่งไล่กันในตรอก เสียงเอะอะโวยวายของคนที่เดินผ่านตอนเด็กน้อยวิ่งไล่กันจนจะชนเขา เด็กน้อยหันมาทำหน้าล้อเลียนแล้ววิ่งหนีไป ทำให้เช้าวันนี้ดูเหมือนเช้าที่ผ่านมา อบอุ่น เงียบง่าย และไม่สำคัญต่อผู้ใดในยุทธภพที่แสนโหดร้าย ไป๋เสวี่ยหลานเด็กน้อยวางกาน้ำชาดินเผาลงบนโต๊ะไม้เตี้ย เสียงน้ำร้อนเดือดพล่านดัง ปุดปุด ขณะเธอค่อย ๆ รินลงถ้วยดินเผาสีน้ำตาล เสียงกระทบกันเบา ๆ คล้ายระฆังเล็ก สาวน้อยยิ้มบางให้ชายชราที่นั่งรออยู่พลางยื่นถ้วยไป “เชิญเจ้าค่ะ ลุงหลี่ วันนี้ชารสเข้มหน่อยนะ ดืมให้อร่อยเจ้าค่ะ”เด็กน้อยกล่าวขึ้น ชายชราหัวเราะแห้ง ๆ พลางยื่นเหรียญทองแดงสองสามอันใส่มือเธอ และสูดดมชาที่หอมกรุ่นก่อนที่จิบเล็กน้อย พอริ้มรสแล้วรู้สึกว่าไม่ร้อนมากก็กระดกใส่ปากทันที“เสวี่ยหลาน เด็กน้อยเอ๋ย หากมีลูกสาวเช่นเจ้าอยู่บ้าน ข้าคงไม่เหงาอย่างนี้ ”ชายชรากล่าวขึ้น เด็กน้อยหัวเราะเบา ยกชายผ้าพันแขนปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก พลางหันไปเรียกพ่อค้าเร่ผู้ห

  • ตรางูขาวพันธนาการแห่งชะตา   ดินแดนแห่งยุทธภพ

    ใต้หล้าแห่งนี้ มิได้มีราชา มิได้มีสวรรค์ชี้นำ มีเพียง พลังแห่งวรยุทธ เท่านั้นที่ชี้ขาดชะตาชีวิตผู้คน ดินแดนยุทธภพ แผ่นดินกว้างใหญ่ที่แสงอาทิตย์มิอาจส่องทั่วถึง ปกคลุมด้วยหมอกควันแห่งสงครามและเลือดสังเวยแห่งความทะเยอทะยาน ที่นี่… ความถูกผิดถูกกลืนหายไปตั้งแต่ยุคบรรพกาล เหลือเพียง “กำลัง” และ “เจตจำนงแห่งคมดาบ” เท่านั้นที่ยังคงอยู่เหนือยอดเขา มีสำนักใหญ่ครอบครองฟ้าเบื้องบน กลางแผ่นดิน มีเจ้าพรรคผู้ปกครองดินแดนด้วยกำลังมือ ใต้เงาหุบเหว มีเหล่ามารผู้ซ่อนเร้น รอวันกลืนกินแสงสว่าง ทุกชีวิตที่ถือกำเนิดในโลกนี้ ล้วนถูกกำหนดด้วยพลังในลมปราณและเส้นทางที่ตนเลือก คำว่า “ยุทธภพ” จึงมิใช่เพียงชื่อเรียก หากคือ สนามประลองแห่งโชคชะตา ผู้ไร้พลัง ย่อมเป็นเหยื่อ ผู้มีพลัง แต่ไร้ใจ ย่อมเป็นอสูร และผู้ที่มีทั้งพลังและใจ ย่อมต้องแบกรับชะตาของโลกทั้งผืนไว้ในฝ่ามือ ในแต่ละราตรี มีเสียงกระบี่ที่ยังมิได้ชำระความในแต่ละรุ่งอรุณ มีโลหิตที่ยังมิทันแห้งกรังผู้ฝึกยุทธนับหมื่นชีวิตยอมสละเลือดเนื้อ เพื่อไขว่คว้า “หนึ่งก้าวเหนือฟ้า” เพราะเพียงแค่ก้าวเดียวที่ยืนสูงกว่าผู้อื่น คือเส้นแบ่งระหว่าง ผู้เป็นตำนาน และ ผู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status