Time & Lalin 5 - ความบังเอิญที่ตั้งใจ
ลลินไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อนจะตื่นเต้นบ้างย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ทว่าอีกคนที่ช่ำชองเรื่องพรรค์นี้กลับรู้สึกประหม่า เพราะได้เจอของดีเข้าแล้ว
เขาอยากทะนุถนอมแต่ก็กลัวตัวเองจะอดใจไม่อยู่ เพราะเรือนร่างของเธอชอบทำให้เขาสติหลุด
“อยากเล่นกับมันไหม” ชายหนุ่มยกยิ้ม เมื่อเห็นคนใต้ร่างเอาแต่จ้องมองส่วนนั้นของเขาไม่วางตา
ไม่ถามเปล่ามือหนายังคว้ามือเรียวเข้ามาจับท่อนร้อนที่กำลังผงาดเต็มที่
“อ๊ะ” ลลินอุทานด้วยความตกใจ เมื่อมือตัวเองถูกนำไปจับหมับเข้าที่ลำกายใหญ่โตของเขา
“มือเธอนุ่มมาก” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยบอกเจ้าของมือนุ่ม เธอทำเขาเสียวกระสันจนแทบอยากจะเสร็จคามือ
“อื้อ” เสียงหวานร้องครางเมื่อใบหน้าหล่อซุกลงตรงซอกคอขาว พร้อมกับดูดเม้มสลับไปมาซ้ายขวาอย่างตามใจ
ด้านบนพรมจูบไป ส่วนด้านล่างมือหนาก็จับเข้าที่ข้อมือเล็ก สอนให้ชักรูดแก่นกายของเขาขึ้นลง ลลินเรียนรู้ได้รวดเร็ว มือเรียวขยับรูดรั้งแก่นกายร้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ
“อ่า ฉันได้แตกคามือเธอแน่” ไทม์กระซิบข้างกกหูคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เมื่อเธอปรนเปรอเขา
ไม่ปล่อยให้อีกคนเสียเปรียบ มือหนาอีกข้างพลันล้วงเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋ว
“อื้อออ” ส่งนิ้วแกร่งสะกิดหยอกเล่นกับจุดเสียวของคนตัวเล็ก จนเธอสะดุ้งตัวงอด้วยความเสียวซ่าน
“อ่า” เสียงร้องครางของไทม์ดังมอมเมาร่างบางข้างกกหู พร้อมกับนิ้วแกร่งที่กำลังสะกิดเล่นจุดเสียวไม่หยุดหย่อน
“อ๊ะ” เสียงหวานที่ร้องครางออกจากลำคอก็ช่างเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ไหนจะมือนุ่มที่กำลังชักรูดแก่นกายของเขาอีก
สองร่างนัวเนียแนบชิด กระตุ้นอารมณ์ราคะให้ยิ่งทวีความร้อนรุ่ม เสียงร้องครางกระเส่าของทั้งสองคนคลอประสาน ต่างคนต่างปรนเปรอให้แก่กัน
“อื้อ อ๊ะ ค…คุณ ฉันรู้สึกแปลก ๆ ระ เร็วกว่านี้” ขาเรียวอ้าออกอัตโนมัติเมื่ออารมณ์วาบหวามพุ่งทะยาน เธอต้องการให้นิ้วแกร่งรุกล้ำเข้ามามากขึ้นจนเผลอกำท่อนร้อนแน่นยิ่งกว่าเดิมและชักมันถี่ระรัว
“อ่า ไม่ไหวแล้ว”
“อ๊ะ อื้อ / อะ อ่า”
หลายวันต่อมา...
“พี่ลลินคะ”
“อือ ว่าไง” ฉันเงยหน้ามองสายป่านที่เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มีบริษัทมาขอเทกโอเวอร์บริษัทเราอีกแล้วค่ะ”
ตั้งแต่แอปพลิเคชันที่ฉันสร้างขึ้นมาเปิดตัวให้ทดลองใช้อย่างเป็นทางการ ก็มีผู้คนให้ความสนใจใช้งานกันอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับหนึ่งในตอนนี้
บริษัทเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่กลับสร้างแอปพลิเคชันดี ๆ ออกมา บริษัทใหญ่ที่เห็นโอกาสตรงนี้จึงคิดเอาเงินมาฟาดเพื่อขอซื้อไปบริหารต่อ
“พี่บอกให้ปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ” นี่ไม่ใช่บริษัทแรกที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเทกโอเวอร์บริษัท แต่เป็นบริษัทที่สี่ที่ห้าได้แล้วมั้ง
“ใช่ค่ะ สายป่านก็ปฏิเสธไปแล้วแต่ว่า เขายังดื้อไม่เลิกค่ะ และอยากจะขอเจรจากับพี่แค่คนเดียวด้วย” คนตรงหน้าฉันทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ
ฉันเข้าใจสายป่านที่เป็นด่านหน้าดี คงจะโดนมาไม่น้อย...
“เจรจาไปก็เท่านั้น พี่ไม่ขาย”
“แต่ว่า เขามารออยู่ด้านนอกแล้วค่ะ” สายป่านคงโดนกดดันมาอีกที ฉันเข้าใจดี
“เฮ้อ อือ อีกห้านาทีเดี๋ยวพี่ออกไป” สุดท้ายก็ต้องถึงมือฉันสินะ
“ค่ะ” สายป่านยิ้มรับแห้ง ๆ และเดินออกไป
“เกลียดนักไอ้พวกชอบฉวยโอกาส พวกทำนาบนหลังคน ไอ้พวกสมองไม่มี คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ” เมื่อประตูปิดลงฉันก็พ่นคำด่าตามออกมาเป็นชุด เพราะมันอดกลั้นไว้ในใจไม่ได้จริง ๆ
ฉันสร้างมาแทบตาย จะมาชุบมือเปิบแบบนี้ได้ไง?!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แทนที่ฉันจะเอาเวลาไปทำงาน แต่ต้องมาเสียเวลากับการไล่คนพวกนี้อีก คิดแล้วก็ยิ่งโมโห
ปัง!
ฉันวางปากกาในมือลงอย่างแรงไอ้เรามันเป็นพวกโมโหแล้วชอบใช้กำลังเสียด้วยสิ
“ได้เห็นดีกันแน่” ตอนนี้ฉันอารมณ์เดือดจนจะกินคนได้ทั้งคนอยู่แล้ว
เมื่อพร้อมฉันก็เดินออกมาด้านนอก มุ่งไปยังห้องที่ไว้สำหรับต้อนรับแขก
ปกติก็เอาไว้ต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้นแต่วันนี้ต่างออกไป เพราะเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!
“ไม่ต้องเข้ามา พี่จัดการเอง” ฉันหันไปบอกกับสายป่านที่กำลังจะเดินตามเข้ามาด้านในห้อง
“สวัสดีค่ะ” เดินเข้ามาก็พบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งรออยู่
“สวัสดีครับคุณลลิน” คนตรงหน้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“รู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ” ฉันไม่ได้เดินเข้าไปนั่งแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้เพื่อยืนคุย เพราะอีกไม่กี่นาทีฉันก็จะเดินออกไปแล้ว
“แหม ไม่ให้รู้จักได้ไงล่ะครับ แอปที่คุณสร้างออกข่าวดังเสียขนาดนั้น” คนตรงหน้าเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจื่อน คงเห็นแล้วว่าฉันมาด้วยสีหน้าที่ไม่ต้อนรับเขาเลยสักนิด
“ขอบคุณนะคะที่สนใจกับสิ่งที่ฉันสร้างมาเองกับมือ ทั้งลงทุน ลงแรง ลงเงินล้มเหลวไปตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลยค่ะ” ฉันร่ายยาวอย่างไม่คิดหายใจอยากจะจบตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เอ่อ…” จนพูดจบคนตรงหน้าก็หน้าเหวอแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะที่จะต้องพูดตรง ๆ ว่าฉันไม่ขายและไม่มีวันขาย” เขานิ่งไปในทันทีที่ฉันพูดจบ
“ถ้าเข้าใจแล้วฉันขอตัวนะคะ” ฉันจึงใช้โอกาสนี้ตัดจบและเดินออกมา
“สายป่าน ส่งแขกด้วย” อย่าหาว่าฉันไม่มีมารยาทเลยนะ แต่คนพวกนี้ไม่มีมารยาทกับฉันก่อนทำไม
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ ฉันเข้าใจดีเลยละเพราะธุรกิจกับการฉวยโอกาสนั้นเป็นของคู่กัน
แต่จะฉกฉวยกันดื้อ ๆ แบบนี้ก็ยากหน่อย
ก๊อก ก๊อก
“มีอะไร” พอฉันเห็นหน้าสายป่านเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้ อารมณ์หงุดหงิดก็มาในทันที
“พี่ลลินคะ” สายป่านเดินเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนเช่นเดิม
“มาอีกแล้วค่ะ” ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว
“ฉันควรจะเปลี่ยนเลขาดีไหม สั่งแล้วทำไม่ได้แบบนี้” แค่คิดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจัง แต่สายป่านก็หน้าเสียอยู่
“สายป่านก็ไล่ไปได้หมดเลยนะคะ แต่ว่า...คุณคนนี้เขาหล่อ...” พูดเสร็จก็บิดตัวไปมาอย่างเขินอายจนฉันมึนงง
นี่ฉันกำลังจริงจังอยู่นะเนี่ย
“แล้วก็ให้นามบัตรมาด้วยค่ะ บอกว่าถ้าพี่เห็นนามบัตรนี้ พี่ต้องเปลี่ยนใจออกไปหาเขาแน่ ๆ” พูดจบมือน้อยก็ยื่นนามบัตรสีดำสนิทตัดทองดูหรูหราในมือส่งมาให้ฉัน
Time & Lalin 38จากศัตรูทางธุรกิจสู่การเป็นลูกเขย (จบ) ไทม์ตักเข้าปาก โดยทุกคนก็ลุ้นไปกับเขาด้วย“เป็นไง ไข่เจียวไหม” ถ้าเขาทานไม่ได้ฉันก็ต้องไปเจียวไข่มาให้เขา“ไม่ต้อง อร่อยมากเลยครับ ที่จริงผมก็เคยกินตามร้านอาหารอีสานในห้างมาบ้าง แต่ไม่อร่อยเท่านี้เลยครับ” ประโยคแรกเขาเอ่ยกับฉันก่อนจะหันไปพูดกับพ่อและแม่ฉันรัว ๆฉันเข้าใจแล้ว ลืมไปว่าบ้านเขาเป็นถึงเจ้าของแบรนด์ไทม์ กรุ๊ป ที่มีร้านอาหารในเครือหลายร้าน ไม่แปลกที่เขาจะเคยกินอาหารอีสานมาบ้าง“ก็แน่อยู่แล้ว นี่มันรสมือคนอีสานแท้ ๆ” แม่ฉันก็ชอบใจใหญ่ที่เขาชม“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ” และแล้วเราก็นั่งทานข้าวกันไป โดยที่พ่อและแม่ฉันก็เอาแต่นั่งตักอาหารให้ไทม์ปล่อยให้ฉันและน้องเป็นหมาหัวเน่าที่กำลังนั่งร่วมวงทานข้าวกับพวกเขาตกดึก“จะบอกให้ว่านายนอนกับฉันไม่ได้นะ” ฉันยืนขวางประตูห้องนอนตัวเอง เพราะไทม์ดูบอลกับน้องจนดึก พ่อและแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้วด้วยเหลือเพียงเขาที่จะตีเนียนเข้ามานอนกับฉันในห้อง“ทำไม”“เพราะต่างจังหวัดเขาถือ นอนห้องเดียวกันมันจะดูไม่งาม”“แล้วให้ไทม์นอนไหนอะเธอ”“นอนกับลัน ไม่ก็...นอนที่กลางบ้าน” เพราะฉันเตรียมที่นอนให้แล้
Time & Lalin - 37 ลูกเขยสายเปย์ สามวันต่อมา...“แน่ใจนะว่าอยู่ได้ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” ฉันหันไปเอ่ยถามคนข้างกายที่กำลังทำหน้าที่ขับรถพาฉันกลับบ้านใช่ค่ะ ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดฉันเองตอนแรกฉันตั้งใจจะมาคนเดียว แต่สุดท้ายก็มีไทม์ที่ตื๊ออยากมาด้วย“แน่ใจสิ มีโอกาสมาเจอพ่อแม่แฟนทั้งที” ความแน่วแน่ของเขา ฉันจะไปขัดได้อย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง แสดงว่าเขาคิดกับฉันจริงจังพอประมาณ ถึงขนาดอยากมาเจอพ่อแม่ฉัน“ใครแฟน เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ลินยังไม่ได้ตอบตกลงคุณเลย” ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยขอฉันคบขอฉันเป็นแฟนอีกเลยไม่รู้ว่าจะน้อยใจดีไหม หรือเราสองคนเลยการขอคบเป็นแฟนมาแล้วแล้วอย่างนี้จะนับวันครบรอบอย่างไร“เราเลยขั้นนั้นกันมานานแล้ว” คำตอบที่ได้ก็อย่างที่คาดแอบน้อยใจอยู่นิด ๆ ที่ความสัมพันธ์ของเรามันดูไม่เป็นจริงเป็นจังเท่าไรแล้วฉันจะเอาวันไหนเป็นวันครบรอบดีล่ะ....ฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ยเพราะฉันตั้งจีพีเอสไว้ ไทม์เลยขับมาถูกไม่นานรถก็ขับเข้ามาในหมู่บ้านฉัน“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า
Time & Lalin - 36 เดี๋ยวก็ชินไม่ไหว วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กับมันใหม่ วันนี้ขอกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกันคิดได้ดังนั้นฉันจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋า และยื่นบัตรเครดิตให้สกาย“นี่บัตร ใช้รูดได้เลย”“ขอบคุณครับ” สกายก็รับไปทันที“พี่ไปก่อน ฝากส่งสาว ๆ ถึงห้องด้วย”“รับทราบครับ”หมดธุระของฉันแล้วก็รีบเดินออกมาอย่างไว เพราะเริ่มจะปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กับแสงสีและเสียงที่ดังเกินพอดี“อายุก็ไม่ได้เยอะเท่าไร ทำไมถึงไม่ชอบที่แบบนี้เลย” ฉันเดินออกมาตรงโซนร้านอาหารที่เดิม ก่อนจะบ่นกับตัวเองรู้สึกไม่ชอบที่คนพลุกพล่านเลย ชอบที่สงบ ๆ มากกว่าก่อนจะก้มหน้าหาโทรศัพท์เพื่อโทรบอกไทม์ว่าขอตัวกลับก่อน ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว รู้สึกปวดหัวเอามาก ๆแต่แล้ว...“ออกมาเร็วจัง” เสียงไทม์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน“อ๋อ ลินรู้สึกปวดหัวน่ะ ก็เลยจะกลับก่อน” ฉันหันหลังไปหาไทม์ พร้อมกับเงยหน้าคุยกับเขาพอฉันบอกออกไปแบบนั้น ไทม์ก็ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากฉันเบา ๆ“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” และเอ่ยถามออกมาพร้อมสายตาและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“วันนี้น่าจะเครียดเกินไป ไมเกรนเลยขึ้น”“ไทม์ไปส่งที่คอนโด”“ลินยังไปเองไ
Time & Lalin 35 – ควรทำตัวให้ชินงั้นเหรอก๊อก ก๊อก“คุยอะไรกับน้อง ๆ หน้าตาตื่นเต้นดีใจกันใหญ่เลย” ไทม์เปิดประตูเข้าพร้อมกับเอ่ยถามนึกว่าเขาไปแล้วเสียอีก“หึ จะอะไรอีกคะ นอกเสียจากได้ไปเที่ยวได้ออกไปฉลองกัน” ฉันมองผ่านไทม์ไปยังด้านหลังของเขาห้องฉันเป็นห้องกระจก ซึ่งเห็นเด็ก ๆ กำลังมองเข้ามาด้านในอย่างอยากรู้อยากเห็นคงจะปิดเรื่องของเราสองคนไม่ได้แล้วสินะ ไม่รู้ว่าน้อง ๆ จะคิดอย่างไรที่เห็นไทม์เข้ามาแบบนี้“ที่ไหนครับ” ไทม์ถามขึ้น ทำให้ฉันกลับมาโฟกัสที่เขาซึ่งตอนนี้แขนทั้งสองของเขากำลังค้ำยันที่โต๊ะ พร้อมใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาใกล้กับใบหน้าฉันที่กำลังเห่อร้อนขึ้น“ที่ที่เราเจอกันครั้งแรกค่ะ” ฉันตอบคำนี้ออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่พอพูดออกไปแล้วกลับเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้นไทม์ได้ยินดังนั้นก็ส่งยิ้มกว้าง คงจะชอบใจน่าดูฉันที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่กัดปากตัวเองแก้เขิน พร้อมกับหลบสายตาจากเขา“อย่ากัดปากสิคะ เดี๋ยวก็เป็นแผล” และเป็นอีกครั้งที่เสียงของไทม์เรียกสติฉันกลับมาน้ำเสียงน่ะดูเป็นห่วงนะ แต่สายตาที่จ้องมานั้น...“ไทม์ไปทำงานก่อนนะ คืนนี้เจอกัน” ไทม์กล่าวพลางละแขนที่ค้ำโต๊ะอ
Time & Lalin - 34 รอยยิ้ม“มีท่านอื่นอีกไหมคะ” ฉันละสายตาจากเสียงค้านเพียงหนึ่งเสียง มองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็ไม่มีใครค้านอีก“มติเป็นเอกฉันท์นะคะว่าบริษัทจะเข้าไปอยู่ในเครือไทม์ กรุ๊ป” ฉันจึงด่วนสรุปทันทีและในตอนนั้นเอง“ไม่ได้นะ” ภีมลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เพื่อค้านฉันมองหน้าเขานิ่ง เช่นเดียวกับเขาที่กำลังจ้องมองฉันด้วยแววตาแข็งกร้าว ดูไม่สบอารมณ์อย่างมากก่อนที่สายตานั้นจะเลื่อนไปสบตากับไทม์“ประชุมวันนี้จบเพียงเท่านี้ค่ะ ท่านที่ต้องการค้านขอให้อยู่ต่อก่อนนะคะ” ฉันหันไปเอ่ยกับผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย ส่วนประโยคหลังฉันหันไปมองยังภีมและพ่อของเขาทุกคนเดินออกไปโดยมีสายป่านและหมิวหมิวเดินนำไปส่งเหลือแค่เพียง ฉัน ไทม์ รุก สกาย และทนาย ที่รอคิดบัญชีกับพวกเขาสองคนพ่อลูก“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” พ่อของภีมเอ่ยขึ้นทันทีด้วยแววตาคัดค้าน“เพราะอะไรคะ” ฉันเอ่ยถามถึงเหตุผล ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ตามว่าเพราะอะไรก็เพราะต้องการอยากจะได้บริษัทนี้เป็นของตัวเอง หากเข้าไปอยู่ในไทม์ กรุ๊ปแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป“ก็เพราะ…” พ่อของภีมอ้ำอึ้ง“ทำอย่างนี้มันไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ ไหนคุณค้านการเทกโอเวอร์บริษัท ทำ
Time & Lalin - 33 ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว“งั้นพวกเราขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”“อืม” เมื่อจบธุระเด็ก ๆ ก็เดินออกไป แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงซุบซิบนินทา“แกคิดอย่างฉันไหม”“ต้องมีอะไรแน่ ๆ”ลลินยิ้มแก้มแดงอย่างเขินอาย พร้อมกับส่ายหน้าให้กับความรู้ดีของพวกเขา“พี่ได้ยินนะ” ก่อนจะตะโกนออกไปนอกห้อง“ค่า”เธอส่ายหัวไม่หยุด ได้แต่คิดในใจว่าเธอจะปิดบังอะไรพวกนั้นได้บ้างสักเรื่องก็คงไม่ได้สินะตกเย็น“กลับบ้านกันดี ๆ นะเด็ก ๆ”“ค่า/ครับ” ลลินยืนส่งรุ่นน้องที่หน้าตึก ทุกคนขึ้นรถพากันกลับบ้านเพราะถึงเวลาเลิกงานแล้วโดยปกติเธอไม่ได้ออกมาส่งน้อง ๆ อย่างนี้หรอก เพียงแต่ครั้งนี้เธอมายืนรอไทม์และเจอเด็ก ๆ เข้าพอดีเมื่อรถน้อง ๆ ขับออกไปได้ไม่นาน รถไทม์ก็ขับเข้ามารับเธอ“มาตรงเวลาดีนะคะ” มือเรียวเปิดประตูรถหรู ก้าวขาขึ้นรถพร้อมกับเอ่ยแซวคนด้านในที่ใส่สูทมาอย่างเต็มยศเขาก็คงไปทำงานมา แต่กลับมารับเธอได้ตรงเวลาตามที่นัดเป๊ะ ๆ“ต้องตรงเวลาสิคะ คิดถึงเธอแทบแย่” มือหนาคว้ามือเรียวของลลินไปกอบกุม พร้อมบอกกับเธอด้วยแววตาซึ่งเผยความคิดถึงออกมาชัดเจนลลินเห็นดังนั้นก็ยิ้มหน้าแดง รู้อยู่หรอกว่าเขาเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออก