แชร์

ขายสินสอดทอดตลาด2.

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-17 22:42:22

ชาวบ้านและขุนนางที่เดินผ่านจวนเซียวต่างเดินเข้ามาชมสินค้าล้วนมีแต่ของดี

"โย่ว..ข้าซื้อๆ ข้าอยากทำบุญ"

"ข้าด้วยๆ"

กล่องไม้หลากหลายขนาดถูกวางเรียงราย เครื่องประดับ ภาพวาด เครื่องเรือน แพรพรรณอย่างดีถูกนำมาจัดวาง

"เสี่ยวฮวา วางป้ายราคาได้"

สาวใช้ตัวน้อยรับคำก่อนจะวางป้ายราคาตามสินค้าชิ้นต่างๆ เหล่าคนที่มาดูเรื่องตลกทีแรกก็ตะลึง หยกเนื้อดีที่ราคาสามร้อยถึงหนึ่งพันตำลึงแต่คุณหนูคนนี้ขายเพียงแปดสิบตำลึง เครื่องลายครามราคาแปดร้อยตำลึงนางขายเพียงร้อยตำลึง ผ้าไหมอย่างดี ราคาพับละสามร้อยตำลึงนางขายเพียงสามสิบตำลึง ไม่นานสินค้ากว่าแปดร้อยรายการที่วางขายก็เริ่มทยอยขายจนหมด กระทั่งเหลือหยกสามชิ้น

หนึ่งในนั้นมีบุรุษแต่งกายมอซอคนหนึ่ง  ใครที่อยู่ใกล้ๆเขาต่างก็รังเกียจ  เขาเดินเข้ามาคอตกทำท่าทางกล้าๆกลัวๆก่อนจะเอ่ย

"คะ คุณหนู  ขะ ขอรับ  คือว่าขะข้าๆเอ่อข้า"

"พี่ชาย  ท่านต้องการสิ่งใดว่ามาเถอะ  หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าย่อมให้ท่านได้"

"วะ  วันเกิดมารดาข้า  บิดาข้าจากไปนานแล้วนางเฝ้าหลุมศพท่านพ่อจนกระทั่งผมขาว  ข้าน้อยทำงานหนักมานานจึงอยากให้ของขวัญนางสักชิ้น  อยากได้ของขวัญ  คะ คุณหนูมีที่ไม่แพงไหม"

"เหลือปิ่นสามอัน  ราคาเล่มละห้าสิบตำลึงเป็นหยกเนื้อดี   พี่ชายท่านพอใจชิ้นไหนหรือ"

หยางเทียนหลงยิ้มให้นาง  คนอื่นรังเกียจเขาพากันเดินหนีโดยเฉพาะสตรี  แต่คนตรงหน้ายังคงยิ้มแย้มให้เขา   หยางเทียนหลงชี้ไปที่ปิ่นหยกสีเขียวเข้ม  ราคาห้าสิบตำลึง  อืม  เดิมทีปิ่นนี้น่าจะได้สักสามร้อยตำลึงแต่นางขายยิ่งกว่าขาดทุนเสียอีก

"พี่ชาย..อย่าเอาชิ้นนั้นเลยท่านเอาชิ้นนี้เถอะ"

เซียวอี้เซียนเปิดกล่องไม้นำปิ่นดอกไม้ออกมา  ปลายปิ่นแกะสลักเป็นรูปดอกหลันฮวา  ตรงกลางมีอัญมณีสีแดงเล็กๆคล้ายเกสรดอกไม้  คำนวณราคาไม่อาจเทียบได้ในท้องตลาด  เขาไม่เคยเห็นของที่ประณีตเพียงนี้

"คะ คุณหนู  อันนี้ยิ่งแพงกว่าหรือไม่ขอรับ"

"ขายเท่ากัน  ไม่ขอปิดบังเดิมทีของเหล่านี้เป็นสินสอด  แต่เจ้าบ่าวทิ้งข้าไปแต่งสตรีอื่น   ข้าจะเก็บเอาไว้ก็อัปมงคลยิ่งนัก  ข้าจึงนำออกมาขาย  แต่ว่ามารดาท่านยึดมั่นในรัก  ของขวัญควรเป็นของมงคล  ปิ่นนี้ข้าแกะสลักเอง  ราคาไม่แพงมากนักท่านรับไว้เถอะ"

หยางเทียนหลงรับกล่องไม้มา  ก่อนจะยิ้มให้นาง  จากนั้นเซียวอี้เซียนทยอยขายสินค้าที่มาจากโพ้นทะเลซึ่งเป็นของจวนนางเองจนหมดแล้ว 

จวนสกุลจ้าว

จ้าวเฉิงที่เพิ่งตักตวงความหวานกับหลิวเย่วเพิ่งออกมาจากห้องหอหลังจากครบสามวัน เขาได้รับรายงานจากลูกน้องที่ให้ไปเฝ้าจวนเซียวทันที หึ นางมีอะไรคู่ควรเขาตอนที่ท่านปู่ของเขาหมั้นหมายนางเขายังเด็ก หลิวเย่วต่างหากที่งามสมกับเป็นบุปผางามแห่งเมืองหลวง เซียวอี้เซียนหรือช่างจืดชืดแต่งกายเหมือนไว้ทุกข์ตลอดเวลา อยากให้เขาเห็นนางบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพ้อเจ้อทั้งนั้นก่อนจะเอ่ยถามคนตรงหน้า

"ว่าอย่างไร นางคงไม่ได้สิ้นคิดจนฆ่าตัวตายไปแล้วนะ"

"เรียนคุณชาย นางมิเพียงยังอยู่ดีแต่กำลังเอาสินสอดที่จวนจ้าว  ของพวกเราส่งไปให้เดือนก่อนขายทอดตลาดอยู่หน้าบ้านขอรับ"

"อะไรนะ..นางกล้าหรือไป ข้าจะไปดูสิอะไรทำให้นางกล้าทำเช่นนั้น"

จ้าวเฉิงไม่รอช้า   นางกล้าดีอย่างไรแม้ว่าเขาจะบอกว่าสินสอดนั้นยกให้นางในจดหมายแต่ไม่ได้หมายความว่าให้จริงๆ  เมื่อทั้งคู่มาถึงปิ่นปักผมชิ้นสุดท้ายก็กำลังจะถูกซื้อในราคาห้าสิบตำลึง บุรุษคนหนึ่งแต่งตัวมอซอเขาแจ้งแก่นางว่าอยากซื้อให้มารดา แต่ทั้งตัวกลับมีแค่สิบตำลึง

"คุณหนู..ขออภัยเงินข้าไม่พอจริงๆ ขอรับ"

"พี่ชายท่านนี้ท่านบอกว่าอยากซื้อให้เป็นของขวัญมารดา เช่นนั้นข้าให้ท่านแล้วกันเจ้าค่ะ ท่านให้ข้าเพียงห้าตำลึงก็พอที่เหลือเก็บไว้พามารดาท่านไปหาของอร่อยๆ กินเถอะถือเสียว่าข้าช่วยให้ท่านได้กตัญญู"

หยางเทียนหลงยิ้มให้กับสตรีตรงหน้า แม้เขาแต่งกายมอซอมากแต่นางกลับไม่รังเกียจ เขาส่งเงินให้นางก่อนจะรับของมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าของตน    นางยังให้สาวใช้ห่อขนมให้เขาสองกล่องพร้อมกับบอกว่าขนมสองกล่องนี้ถือว่านางอวยพรวันเกิดมารดาของเขา    ชาวบ้านเห็นคุณชายจ้าวหน้าดำมาแต่ไกลก็รีบมาดูเรื่องสนุกของสกุลเซียว  

 ทันทีที่ของขายหมดจ้าวเฉิงก็มาถึงพอดี เขากำลังจะชี้หน้านางแต่ก็ต้องชะงัก  ดูเหมือนนางจะแปลกไป ดูงดงามขึ้น เสื้อผ้าก็ไม่ซีดจนมีแต่สีขาว จ้าวเฉิงเดินไปหานางเอ่ยปากถามนาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ตลบหลังองค์ชายใหญ่2

    "ดูเหมือนพี่สะใภ้จะเดาถูกนะพี่ใหญ่...นางถึงได้ให้ท่านเสนอแก่ฝ่าบาทถึงสามรอบเรื่องไปสำรวจภูมิทัศน์ต้าฉิน อ้างว่าเพื่อให้รัชทายาทได้รู้จักแผ่นดินตนเองก็เป็นนางที่แนะนำให้ท่านกราบทูลแก่ฝ่าบาท"เสียงดังมาจากคนที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบ้าน ลู่เสวียนเดินเข้ามาด้วยอาภรณ์ที่สะอาดไร้รอยเปื้อนแต่อย่างใด หวังจิ่วคอหด ขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาอยู่ข้างนอกมิใช่หรือ เหตุใดลงมาจากข้างบนได้กัน ว่ากันว่าคุณชายลู่ฆ่าคนเสร็จก็จะเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่ทันทีเพราะเป็นคนรักสะอาด หยางเทียนหลงภูมิใจในตัวเซียวอี้เซียนเอ่ยออกอย่างภูมิใจ"เมียข้านางฉลาดนัก แต่คนกลับคิดว่านางเป็นเพียงสตรีที่ต้องอาศัยบุรุษถึงสามารถอยู่ได้""แล้วคนที่คิดเช่นนี้ตอนนี้ถูกปรับไม่ได้รับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งยังถูกลดจากอำมาตย์ช้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ ทั้งจวนจ้าวถูกองครักษ์หลวงควบคุม ช่างน่าขันยิ่งนักฮ่าๆๆๆ"ลู่เสวียนหัวเราะไม่เก็บอาการแต่อย่างใด ยามที่อยู่นอกเมืองหลวงเขาก็คือน้องรอง ส่วนหลิวหย่งก็คือน้องสามเป็นพี่น้องบุญธรรมกับหยางเทียนหลง เมื่อพี่ใหญ่มีความสุขเหตุใดพวกเขาจะไม่แสดงความยินดีออกมากันเล่า "ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ คนต้

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ตลบหลังองค์ชายใหญ่1

    ในห้องพักทุกคนเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ หยางเทียนหลงนอนอยู่บนเตียงด้านนอกลู่เสียนที่ปลอมเป็นคนขับรถม้ายืนเฝ้าอยู่ด้านล่างขอโรงเตี๊ยมคนของแคว้นเหลียงเริ่มที่จะลงมือ โรงเตี๊ยมยามนี้เงียบวังเวงแม้แต่เสียงยุงบินผ่านยังไม่มี ลู่เสวียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก่อนจะลืมตาทำท่าทีงัวเงียแล้วเอ่ยกับองครักษ์ที่เฝ้ายาม"นี่ๆๆ พี่ชายข้าจะไปนอนที่รถม้านะ""อ้อ..อืม"ลู่เสวียนเดินออกไปด้านนอกเมื่อออกมาได้ก็แอบไปด้านหลังแล้วดีตัวไปยังยอดไม้เพื่อดูความเคลื่อนไหว ชายชุดดำกว่าร้อยคนกำลังมา แปลว่าพวกมันเหมาโรงเตี๊ยมทุกโรงที่เป็นทางผ่านเพื่อรอจัดการรัชทายาท หากวันนี้เป็นตัวจริงเสด็จมาคงลำบากแน่นอนชายฉกรรจ์ชุดดำกว่าร้อยคนเคลื่อนมายังโรงเตี๊ยม เมื่อมาถึงก็ปิดล้อม ส่วนนักฆ่าอีกกลุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมที่พักก่อนหน้าสามห้องก็เปิดประตูห้องออกมาทันทีที่ได้รับสัญญาณ ทุกคนสวมชุดนักรบของเผ่าเหลียง องครักษ์ของหยางเทียนหลงที่อยู่ในห้องต่างก็พยักหน้า หวังจิ่ว อารองขององค์ชายใหญ่เดินมายังด้านในโรงเตี๊ยม ก่อนจะเอ่ยถาม"มีคนออกไปข้างนอกหนึ่งคนกลับเข้ามาหรือยัง""เป็นค

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ซ้อนแผนลอบสังหาร

    หวงเหวินเทียนส่งมารดาเข้านอน เมื่อเรียบร้อยคนของรัชทายาทก็มารายงานเรื่องราว รัชทายาทตัวปลอมนั้นกำลังเดินทางกลับเมืองหลวง และคืนนี้จะมีการลงมืออีกครั้งจากฝ่ายตรงข้าม ครั้งนี้เขาจะรวบให้หมด หยางต่งเจ้ารอก่อนเถอะผ่านคืนนี้ไปข้าจะรับซิ่วเอ๋อร์กลับจวนอย่างเอิกเกริก ให้เจ้าได้รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าและมารดาของเจ้ากลับสกุลหวังไม่เคยควบคุมนางและใครได้เลย และเมื่อเจ้ารับรู้ว่าที่จริงแล้วนางเป็นคนของใคร ข้าจะให้เจ้ากระอักเลือดจนยกดาบไม่ขึ้นเชียวล่ะโรงเตี้ยมพเนจรยามอิ๋นรถม้าที่กำลังทะยานควบขี่มายังโรงเตี้ยม กระทั่งมาถึงคนขับรถม้าจึงไปเคาะเรียก ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูหลายครั้งทำให้เสี่ยวเอ้อที่งัวเงียๆจากการที่แอบงีบหลับก็ลืมตาขึ้นมา เมื่อตอนบ่ายมีคนมาเหมาโรงเตี้ยมที่ผ่านทางนี้จนหมด มีเพียงโรงเตี้ยมของเขาที่ไม่มีใครมาขอเหมา แขกก็น้อยได้มาเพิ่มอีกคนเถ้าแก่คงมีเงินจ่ายเงินเดือนของเขา จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็เดินไปเปิดประตูเพื่อต้อนรับคนที่มาพัก"มาแล้ว มาแล้ว เสี่ยวเอ้อเดินขยี้ตารัวๆก่อนจะตะโกนตอบกลับไป เมื่อเปิดประตูก็เห็นบุรุษสิบกว่าคน มีรถม้าคันใหญ่ เขาจึงถามออกไป"

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ลูกมีภรรยาแล้ว

    ในเมืองหลวงตอนนี้กำลังมีการเฝ้าระวังคนของแคว้นเหลียงกับคนขององค์ชายใหญ่ จ้าวอันถูกปล่อยออกมาแล้ว ฮ่องเต้ลงโทษงดรับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งลดขั้นจากอำมาตย์ฝ่ายซ้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ จ้าวอันป๋อเองก็แทบจะกระอักเลือด จวนถูกองครักษ์ควบคุมไปไหนไม่ได้ ตอนนี้ในห้องลับของจวน คนของแคว้นเหลียงกำลังนั่งหน้าดำคล้ำเจรจากับจ้าวอันและจ้าวอันป๋ออยู่"ตกลงอาวุธ..พวกท่านจะส่งมอบเมื่อใด""ทางเราถูกยึดไปหมด นายกองหม่าท่านรออีกสักนิดเถอะ""เสนาจ้าว แคว้นเหลียงของเราคงไม่รอแล้ว ข้าจะพากำลังเข้าเมืองหลวง พวกท่านก็เตรียมเปิดประตูเมืองรอด้วยเล่า"จ้าวอันป๋อกำมือแน่น หากไม่มีอาวุธต่อให้พวกเขามาได้ก็ใช่ว่าจะชนะ แต่ทางแคว้นเหลียงไม่เจรจาต่อ พวกเขานัดวันบุกเมืองหลวงเรียบร้อยก็กลับไป ส่วนองครักษ์ของวังหลวงแสร้งไม่รับรู้ว่าสกุลจ้าวมีคนแปลกหน้าเข้าออก พวกเขานำผักมาส่งทุกๆวันแต่ต้าฉินเป็นดินแดนแห่งการเพาะปลูก พื้นที่มิได้หนาวเย็นเช่นแคว้นเหลียง แต่สามคนนี้กลับใบหน้ากร้านลมจนเห็นชัด เหมือนกับคนที่อยู่กับอากาศหนาวมาตลอดชีวิตองครักษ์นายหนึ่งถึงเวลาเปลี่ยนเวรกับคนใหม่ เมื่ออกเวรก็ตรงไปตำหนัก

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   แม่ทัพหลานฮวน

    เสียงของสตรีผู้หนึ่งดังมาจากด้านหลัง จางลี่เฟยและเซียวอี้เซียนกับฉีฮุ่ยหมินหันไปพร้อมกัน สตรีในชุดทหารเดินเข้ามาหร้อมกับเอ่ยกับจางลี่เฟย ด้านหลังนางมีเด็กสาวอีกคนวัยน่าจะสิบเจ็ดสิบแปดเดินตามหลงมา หลานซิ่วเอ๋อร์รีบวิ่งไปเกาะแขนนางทันทีก่อนจะเอ่ย"พี่ใหญ่ท่านมาแล้ว ไหนท่านบอกว่าอีกหลายวันไงเจ้าคะ""ทำไม ไม่อยากให้พี่กลับมาเช่นนั้นหรือ""ไอ้โย่ว เปล่าสักหน่อยข้าคิดท่านมากจริงๆนะเจ้าคะ คิดถึงน่ะ คิดถึง ชายแดนมีอะไรน่าอยู่กัน ท่านชอบตัดหัวศัตรูมากกว่าคิดถึงน้องสาวอย่างข้าหรือ แม่ทัพฮวน สามปีมานี่ข้าคิดถึงท่านแทบบ้า"หลานซิ่วเอ๋อร์อ้อนพี่สาวทันที หลานฮวนลูบศีรษะหลานซิ่วเอ๋อร์ด้วยกิริยาอ่อนโยน บรรยากาศอบอุ่น จากนั้นก็หันไปหาเซียวอี้เซียนและฉีฮุ่ยหมิ่นก่อนจะคำนับ"หม่อมฉันหลานฮวนถวายพระพรไท่จื่อเฟย ถวายพระพรพระยาชาเซียวเพคะ""คุณหนูใหญ่ ไม่เจอท่านสามปีดูงามสง่าขึ้นมากนัก ว่าแต่ท่านเอ่อ..."ฉีฮุ่ยหมิ่นเอ่ยกับหลานฮวน ส่วนเซียวอี้เซียนนอกจากวิ่งตามจ้าวเฉิงก็มิได้รู้จักคุณหนูจวนอื่นแต่อย่างใดจึงพยักหน้ารับเท่านั้น หลานฮวนหันไปหาน้องสาวก่อนจะเอ่ย"ไม่เจอสามปี ซิ่วเอ๋อร์ข

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ฝ่าบาทรับสั่งว่าต่อให้แม่ตายลูกก็ต้องรอด

    เซียวอี้เซียนยามนี้ยืนสงบนิ่งอยู่ ด้านหน้าเป็นเนินดินที่นางนำเสื้อผ้าของเวียวอร้เซียนคนเดิมมาฝังเอาไว้ ป้ายหลุมศพแกะสลักจากหินอ่อน เขียนว่า สถานที่พักผ่อนของเซียวอี้เซียนผู้เป็นที่รัก มารดาและท่านย่าของนางกลับไปแล้วหลังจากเซ่นไหว้เรียบร้อย เซียวอี้เซียยืนสงบนิ่ง นางปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วดูเหมือนเซียวอี้เซียนคนนั้นคงยอมจากไปแล้ว เสี่ยวฮวามองไปยังร่างบางก็อดสงสัยไม่ได้ พระชายานึกอย่างไรจึงสร้างหลุมศพตนเอง ฉีฮุ่ยหมิ่นเดินมาแตะไหล่บางก่อนจะเอ่ย"เซี่ยนเซี่ยน สบายใจหรือยัง""เพคะหม่อมฉันรู้สึกดีเหมือนได้เกิดใหม่จริงๆ ว่าแต่พี่ฮุ่ยหมิ่นได้ยินว่าคนๆนั้นบาดเจ็บไม่น้อย"ฉีฮุ่ยหมิ่นถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า คนๆนั้นที่เซียวอี้เซียนกล่าวถึงก็คือคนที่ปลอมเป็นหยางเฟยหยางไปตรวจงานที่เมืองตงซาน เขาถูกลอบสังหารถึงสามครั้ง คนของสกุลหวังคงร้อนใจแล้ว ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงด้านหลังของอารามก็พบกับคนๆหนึ่ง เซี่ยวอี้เซียนไม่อยากเสียเวลาจึงพากันเดินหนี เสี่ยวฮวากับซีซีเองก็เดินตามเจ้านายของตน กระทั่งเสียงของสาวใช้คนหนึ่งดังขึ้น"บังอาจ...เห็นพระสนมแล้วเหตุใดไม่เคารพ เด็กๆจับพวก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status