Share

ขายสินสอดทิ้งทอดตลาด1

last update Last Updated: 2025-02-17 22:41:35

ยามเหมาประตูจวนเซียวเปิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันแต่งงาน  นำโต๊ะมาวางต่อๆกันเรียงรายยาวอยู่หน้าเรือน  บ่าวไพร่ในเรือนมีไม่ถึงยี่สิบคนเป็นบ่าวชายหกคน  ทุกคนอยู่เพราะยังคิดถึงบุญคุณของผู้นำตระกูลคนเก่า   

เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้า  ท่านย่าอาการไม่ค่อยดี  นางนำเงินสินสอดที่ได้มาเพียงห้าพันตำลึงไปขอร้องอ้อนวอนหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานมารักษานาง   เจิ้นหนานยอมมาตรวจให้เมื่อคืนนี้เขามิได้เห็นแก่เงิน  แต่เห็นแก่ความกตัญญูของนาง  เซียวอี้เซียนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนของเขากว่าสองชั่วยาม   เจิ้นหนานยืนมองนางสั่งบ่าวไพร่ให้ขนหีบออกมา  เซียวหงเดินมาหาบุตรสาว  ยกมือลูบศีรษะนางเบาๆรั้งนางเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยถามให้แน่ใจ

"เซียนเอ๋อร์  ลูกตัดใจจากจ้าวเฉิงได้แล้วจริงๆเหตุใดยังต้องขายสินสอด  ไปคืนไม่ดีกว่าหรือ"

"ท่านพ่อ  เดิมทีเขาทำผิดต่อข้าและสกุลเซียว  สินสอดนี้ควรขายทิ้งเอาเงินพวกเราคืนมาเจ้าค่ะ"

"เงินพวกเราหรือ"

"ท่านพ่อ  เดิมทีค่ารักษาท่านย่าไม่ได้แพงมากนัก  แต่เพราะหมอจ้าวหมอประจำจวนของเขามารักษาแล้วให้ลูกซื้อยาที่แสนแพงจนต้องจำนองจวนหลังนี้  ตอนนี้ข้ารู้ดีชั่วของพวกเขาหมดแล้ว  สกุลหลิวของหลิวเว่ยท่านปู่ของหลิวเย่ว  จ้องครอบครองจวนเรามาตลอดเพราะเดิมทีเขาเป็นรองท่านปู่เสมอมาคนจากไปแล้วแต่ตาแก่หลิวกลับไม่ตัดใจ  จากนี้ไปข้าจะให้สกุลจ้าวและสกุลหลิวชดใช้ให้เราเจ้าค่ะ"

ซุนเจิ้นหนานยืนฟังนางกับบิดาพูดคุยกัน  อืมไม่เลวเด็กคนนี้ตั้งแต่ถูกยกเลิกงานแต่งก็เปลี่ยนไป   กลายเป็นคนรู้จักคิด  รู้จักอ่อนน้อม  เดิมทีเขาอยากรักษาให้ฮูหยินผู้เฒ่า  แต่เพราะเซียวอี้เซียนหลานสาวของนางเชื่อคำของจ้าวเฉิง  ไปนำหมอที่อื่นมารักษาเขาจึงไม่อยากพูดมาก  ดูท่าหลานสาวของสหายเก่าคนนี้ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากนัก

ชายชราเดินมาทางที่สองพ่อลูกกำลังคุยกันอยู่ก่อนจะเอ่ยทักทาย

"นายท่านเซียว  วันนี้จวนท่านคึกคักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเชียว"

"อ้อ ...อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านลุงเจิ้นหนาน  รบกวนท่านยามดึกหลานชายไร้มารยาทแล้ว"

"ไม่เป็นไรๆ  อืมเด็กน้อยเจ้าจะทำอะไร  ขายสินสอดที่เขาให้มาเช่นนี้ไม่กลัวจ้าวอันป๋อมาถลกหนังเจ้าหรือ"

"ท่านปู่หมอเทวดา  ในมือของตาแก่จ้าวมีมีดคมสำหรับเลาะเนื้อหนังข้า  แต่ในมือข้ามีมีดเล่มเล็กๆที่สามารถเลาะกระดูกเสือขอดเกล็ดมังกรได้  ท่านปู่ว่าใครต้องกลัวใครกันแน่เจ้าคะ"

"อืม...เลาะกระดูกเสือขอดเกล็ดมังกร  ฮ่าๆๆๆสำคัญนัก  ไอ้หยาพี่เซียวหานหลานสาวท่านคนนี้น่าสนใจๆ  ฮ่าๆๆๆ"

ปลายยามเหมาเสียงมโหรีบรรเลงดังลั่นจนคนต้องตื่นจากที่นอนออกมาดู  คนเป่าแตรเดินไปทั่วท้องถนน มีคนแจกใบปลิว  ขอทานต่างเข้ามารุมล้อมเอาไปปลิวไปโยนเล่น  ชาวบ้านที่ตื่นมาแต่เช้าก็สงสัย   วันนี้เมืองหลวงมีเรื่องอะไรหรือครึกครื้นยิ่งนัก  คนที่อ่านหนังสือออกเก็บใบปลิวมาได้ก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก

"นี่พวกเจ้า  วันนี้คุณหนูเซียวคนนั้นที่ถูกเจ้าบ่าวทิ้งงานแต่งไปแต่งคุณหนูสกุลหลิวจะขายสินสอดของจวนจ้าวทิ้งน่ะ"

"ไอ้หยา...คุณหนูเซียวคนนี้สติไม่ดีหรือ  สินสอดนั่นขายได้ด้วยหรือ  จ้าวอันป๋ออำมาตย์ซ้ายจะยอมหรือ  แม้ว่าเขาไม่ทวงคืนแต่อย่างไรก็เป็นของสกุลจ้าว"

"เพ้ยๆๆๆ  พวกเจ้าคิดว่าคนที่ทำเรื่องต่ำช้าอย่างจ้าวเฉิงจะกล้าไปเอาความกับคุณหนูเซียวคนนี้หรือ"

"ทำเรื่องต่ำช้า  เรื่องอันใดกัน  เจ้ารู้อะไรก็รีบเล่ามา"

ชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มวิจารณ์กันสนุกปาก  ตอนนี้สกุลหลิวกับสกุลจ้าวกำลังมีความสุขที่ทั้งสองตระกูลเกี่ยวดองกันสำเร็จ  พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาไปทั่วเมืองหลวงจนถึงขั้นยกกันมาเอาเรื่องเซียวอี้เซียนถึงบ้าน  และอับอายกลับไป

กลางยามเฉินเซียวอี้เซียนก็สั่งให้บ่าวไพร่เริ่มวางข้าวของเรียงราย  สินค้าที่เป็นรายการสินสอดขายราคาต่ำจนดูไร้ค่า   แต่ของจวนเซียวขายราคาสูงจนดูเป็นของหายาก  ใครไม่รู้ก็คิดว่านั้นคือสินสอดราคาแพง  เซียวอี้เซียนไม่ใส่ใจคำติเตียน  หากภายหน้าจ้าวอันป๋อมาขอดูรายการที่ขายเขาจะได้ไม่กล้ามั่วนิ่มว่านางค้ากำไรเกินควร

คนที่ผ่านไปมาอดมองไม่ได้  ไปสอบถามจึงรู้ว่าวันนี้ที่จวนสกุลเซียวกำลังคึกคักเนื่องจากวันนี้คุณหนูเซียวบุตรีคนเดียวของเซียวหงเปิดแผงขายของหน้าจวน   เดิมทีตระกูลเซียวหมั้นหมายอยู่กับจ้าวเฉิงบุตรชายอำมาตย์ซ้าย แต่ใครจะรู้ว่าตระกูลจ้าวเล่นตลก ในวันแต่งงานกลับส่งเกี้ยวไปรับคุณหนูหลิวมาแทนเรื่องนี้สร้างความอับอายแก่ตระกูลเซียวยิ่งนัก แต่เนื่องจากเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ จึงไม่อาจต่อกร ตั้งแต่วันนั้นสามวันมาแล้วประตูจวนเซียวก็ไม่เปิดอีกเลย จนกระทั่งวันนี้คุณหนูเซียวเปิดจวนวันแรกก็เปิดแผงขายของหน้าจวนเสียแล้วคงเสียใจจนสิ้นสติกระมัง

"เอาล่ะๆ ทุกคนได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว เตรียมตัวได้เสี่ยวฮวาตีฆ้อง  เริ่ม"

โหม่งๆๆๆๆ เสียงตีฆ้องร้องป่าวดังมาจากหน้าจวน เสียงใสๆ กำลังตะโกนเรียกลูกค้า

"เร่เข้ามาๆ เจ้าค่ะ วันนี้มีของดีของถูกมาขายแก่พ่อแม่พี่น้อง มีเครื่องประดับมากมาย แพรพรรณสวยงาม ใครที่มาซื้อในวันนี้คุณหนูของเราบอกว่าจะจดชื่อพวกท่านเอาไว้เพื่อป่าวประกาศความใจบุญของทุกท่าน เพราะเงินตำลึงที่ได้ในครั้งนี้จะนำไปซื้อเสบียงแจกทานที่เมืองซ่างกู่ ชาวบ้านที่นั่นเจอกับปัญหาภัยแล้งใหญ่หลวง ราชสำนักอยากให้ทุกคนร่วมมือกัน ใครที่มาซื้อสินค้าในวันนี้เท่ากับช่วยเหลือราชสำนักด้วยเจ้าค่ะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ซือหนิงนางเป็นเด็กที่น่าสงสาร

    จ้าวอันป๋อออกจากคุกหลวงก็ตรงกลับจวนในทันที เขาต้องหาทางเร่งกระพือข่าวเรื่องที่เมืองหลวงกำลังจะจมน้ำ หากชาวบ้านแตกตื่นยิ่งเป็นผลดีต่อพวกเขา ใครจะรู้ว่าเมื่อมาถึงจวนกลับเจอเข้ากับภาพที่เขาไม่คาดฝัน คนในจวนถูกจับมารวมที่ลานหน้าบ้าน ทหารองครักษ์ใช้ดาบจ่อคอทุกคนเอาไว้ หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะสง่างาม เป็นจ้าวเหวินหลานชายคนรองของน้องชายเขานั่นเอง สายตาเหลือบไปมองก็เห็นจ้าวเฟิงหลายชายของเขากับจ้าวเฉิงที่นอนอยู่ไม้กระดาน ชายชรามองไปยังใบหน้าที่สวมชุดเกราะให้ความรู้สึกถึงใครบางคน หวงจิ้งไห่ หย่งอันโหวคนนั้น เหตุใดใบหน้าถึงได้ละม้ายคล้ายจ้าวเหวินยามสวมชุดทหารเช่นนี้ แต่ทว่านี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงคนที่ตายไปแล้ว เขาอยากรู้ว่าทหารองครักษ์มาที่จวนสกุลจ้าวทำไมก่อนจะเอ่ยถามออกไป "เหวินเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนของฝ่าบาทหรือ แล้ววันนี้พาทหารมามากมายสกุลจ้าวทำสิ่งใดผิดกันบอกปู่ใหญ่ได้หรือไม่" จ้าวเฟิงพยายามที่จะลุกขึ้นแต่เขากลับถูกกระบี่ของทหารองครักษ์จ่อเอาไว้ ทหารผู้นั้นกดกระบี่ลึกลงมาจนมีเลือดซึมบริเวณปลายกระบี่ เยี่ยหรันเห็นดังนั้นจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น "ไอ้เนรคุณ สกุลจ้าวเลี้ยงดูหมาป่าตา

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ข้าควรโกรธใครกันแน่

    คุกราชสำนักจ้าวอันถูกจองจำอยู่ในกรงเหล็กกล้าอย่างดี แสงสลัวของคบเพลิงเพียงไม่กี่ดวงสะท้อนบนพื้นหินสีดำมนิทที่เย็นเยียบ เสียงโซ่ตรวนหนักพันธนาการข้อมือข้อเท้าเขาไว้แน่น“ให้ตาย...มารดามันเถอะ” จ้าวอันสบถเสียงต่ำ ฟันขบแน่นด้วยความคั่งแค้นเหตุใดไทเฮาจึงเสด็จไปที่นั่นได้กัน ทุกอย่างราวกับว่ามีผู้วางแผนล่อลวงให้เขาติดกับ ไป๋จินหวน...อีกเพียงนิดเดียว...นางจะเป็นของเขาแล้วเชียวแต่นางเด็กเลว เซียวอี้เซียนนั่น ช่างขัดหูขัดตายิ่งนัก!เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินสะท้อนก้องในโถงคุกเงียบสงัด จ้าวอันป๋อ ก้าวเข้ามาทางเดินซึ่งมีเพียงแสงคบเพลิงส่องสว่างตามทาง เขากวาดตามองกรงเหล็กตรงหน้า น้องชายผู้โง่งมของตนถูกใส่ตรวนหนัก นั่งอยู่กลางเงามืด มีเพียงเงาลูกกรงที่สะท้อนแสงไฟยาวเป็นทาง จ้าอันป๋อเอ่ยเรียกน้องชายด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย“เจ้ารอง” จ้าวอันเงยหน้ามองพี่ชาย สีหน้าขุ่นเคืองแต่ก็เอ่ยรับ“พี่ใหญ่...ท่านมาแล้ว”จ้าวอันป๋อมองน้องชายอย่างผิดหวังไอ้น้องโง่...เมื่อไรเจ้าจะมีสมองกับเขาบ้างนะ เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็นชา“เจ้าทำอะไรลงไป เหตุใดไม่รอบคอบ ไป๋จินหวนนางงดงามก็จริง...แต่สตรีงามกว่านางใช่ว

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ดึงพ่อสามีมาเล่นสะคร

    หลังจากการประชุมจ้าวอันถูกส่งไปอยู่ยังคุกของราชสำนักซึ่งมีไว้สำหรับขุนนางที่ประพฤติผิดโดยเฉพาะ จ้าวอันป๋อเดินออกมาพร้อมกับขุนนางของตน หวังคุณซึ่งเป็นบิดาของหวังกุ้ยเฟยแม้ว่าจะเกษียณไปแล้วแต่ยังคงมาร่วมประชุม เขาเดินออกมาพร้อมจ้าวอันป๋อ เมื่อมาถึงหน้าประตูทางออกหลิวหย่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับคำนับหยางเทียนหลง เอ่ยเสียงดังกังวาน"ท่านอ๋อง..กระหม่อมได้เสบียงเพียงพอตามที่แจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะเอ่ยกับหลิวหลางและหลิวเว่ย"ใต้เท้าหลิวต้องขอบคุณสกุลหลิวยิ่งนักที่บริจาคเสบียงครั้งนี้ทำให้แก้วิกฤตได้ทัน ชาวบ้านพอได้อยู่รอดมิต้องอดอยาก""ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ขุนางราชสำนักยามเมื่อบ้านเมืองประสบภัยย่อมต้องช่วยเหลือ อย่างที่พระชายาของพระองค์กล่าวเอาไว้""หืม...น้องหญิงของข้ากล่าวอันใดกับพวกท่านหรือ""พระนางบอกว่า กษัตริย์และขุนนางนั้นอยู่ได้มิใช่เพราะตระกูลใหญ่โตหรือมีเงินทองมากมาย แต่อยู่ได้เพราะราษฎร ยามใดที่ราษฎรอยู่ดีมีสุข บ้านเมืองก็สงบ ในเมื่อเก็บภาษีก็เท่ากับว่าราษฎรเป็นคนจ่ายเบี้ยหวัดให้พวกเรา เช่นนั้นยามที่ทำหน้าที่ก็ควรให้คุ้มค่ากับที่พวกเขาจ่ายภาษีมาพ่

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ยกหินทุบเท้าตนเอง

    หยางเทียนหลงมองหน้าจ้าวอันป๋อ ชายชรากำมือแน่นคนของเขาส่งข่าวมาว่าไอ้น้องโง่นั่นไปลวนลามไป๋จินหวนฮูหยินของเซียวหง ที่สำคัญยังทำต่องหน้าพระพักตร์ไทเฮาอีก เรื่องนี้ไม่ใช่ล้อเล่น กฎหมายเป่ยฉินนั้นระบุชัด ห้ามผู้มีอำนาจข่มเหงภรรยาผู้อื่น ความคิดของจ้าวอันป๋อต้องหยุดไปชั่วขนะเมื่อเซียวหงเดินออกมาด้านหน้าก่อนจะคุกเข่ากราบทูลฮ่องเต้"ฝ่าบาท กระหม่อมเซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธามีเรื่องกราบทูลให้พระองค์ช่วยคืนความเป็นธรรมแก่กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้มองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้า "ใต้เท้าเซียว...ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดเถิด""ขอบพระทัย ฝ่าบาทกระหม่อมขอร้องเรียนจ้าวอัน อำมาตย์ซ้ายข้อหาประพฤติตนมิชอบ ลวนลามภรรยาขุนนาง อีกทั้งยังบังคับจิตใจนางพ่ะย่ะค่ะ"ทันทีที่เซียวหงพูดจบขุนนางทั้งสองฝั่งก็เริ่มวิจารย์ จ้าวอันป๋อเดินมาหาเขาก่อนจะเอ่ย"เซียวหง เจ้าบอกว่าน้องชายข้าลวนลามภรรยาผู้อื่นหมายความว่าอย่างไร ใส่ร้ายขุนนางผู้ใหญ่ความผิดนี้เจ้ารับไหวหรือ"เซียวหงมองหน้าจ้าวอันป๋องก่อนจะหันกลับมายืนหลังตรงศรีษะค้อมไปด้านหน้า สองมือประสานมั่นคงเอ่ยวาจากราบทูลต่อ"ฝ่าบาท ฮูหยินกระหม่อมกับท่านแม่ติด

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ฟ้องร้องสกุลหลิว

    ท้องพระโรงท้องพระโรงอันโอ่อ่ากว้างขวางตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ม่านแพรปักดิ้นทองอร่ามสะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงตระหง่าน แสงสีทองอบอุ่นสาดส่องลงมาต้องพื้นหินอ่อนขัดมันวับ จนปรากฏเงาสะท้อนของเสามังกรที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงเบื้องบนบัลลังก์ที่ประดับประดาด้วยหยกและทองคำ ฮ่องเต้ทรงประทับในชุดฉลองพระองค์สีทองที่ปักลวดลายมังกรห้ากรงเล็บอย่างวิจิตรบรรจง เปล่งประกายรัศมีแห่งอำนาจ ดวงพระเนตรคมกริบกวาดมองไปทั่วท้องพระโรงเบื้องล่างบัลลังก์ ขุนนางแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ด้านซ้ายคือกลุ่มของจ้าวอันป๋อ อำมาตย์ซ้ายผู้ พร้อมด้วยคนของสกุลหวังและกลุ่มขุนนางเก่าแก่ ทุกคนสวมชุดขุนนางสีเข้ม ใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความเคร่งขรึมส่วนทางด้านขวา ยืนตระหง่านด้วยท่าทีสงบนิ่งคือ หยางเทียนหลง เสนาขวาฮั่วอ้าวป๋าย เซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธา หลิวหลางและหลิวเว่ยสองพี่น้องตระกูลหลิว จ้าวอันป๋อในชุดอำมาตย์สีม่วงเข้ม เขาก้าวมาหยุดอยู่กลางท้องพระโรง ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่จับจ้องมา ก่อนจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์อย่างนอบน้อมพร้อมก้มศีรษะลงจรดพื้น"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมจ้าวอันป๋อมีเรื่องร้

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   หลานซิ่วเอ๋อร์การละคร

    จากนั้นหยางเทียนหลงก็เอ่ยถามความเห็นนางเกี่ยวกับเรื่องของจางลี่เฟยอีกครั้ง"น้องหญิง เจ้ารู้เรื่องของสนมจางแล้ว""เพคะ นางตั้งครรภ์ไม่ผิดแน่ เรื่องนี้ทางสำนักราชวงศ์ประกาศว่านางเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจำต้องให้ออกจากวังมารักษาตัวเพคะ""เจ้าว่านางจะทำเช่นไรต่อไป""นางคงต้องหาทางเอาเด็กออกแน่นอนเพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้อารามศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีมลทิน แต่หากนางอยู่ที่อื่นก็ไม่วางใจ""นางแอบมีใจให้กับรัชทายาท แต่เขากลับแต่งฉีฮุ่ยหมิ่นเข้ามา""นางชอบไท่จื่อแล้วอย่างไร นางแต่งให้ฝ่าบาทตั้งแต่อายุสิบสองแต่งเพราะจะได้ไม่ต้องถูกประหาร จะว่าหม่อมฉันใจร้ายก็ดีโหดเหี้ยมก็ช่าง นางอยู่ในวังเป็นสนมด้วยนิสัยของนางไม่รู้ว่าเอาชีวิตนางกำนัลกับขันทีไปเท่าไหร่แล้ว จางลี่เฟยคนนี้หาใช่คนดี"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะถามเรื่องที่จูเหวินไปจัดการก่อนหน้าที่จะมาพบเขา"เรื่องที่ซื่อจื่อไปจัดการเป็นหลิวเย่วที่บอกเจ้าหรือ""เพคะ นางบอกว่าที่เรือนนั้น เป็นเรือนที่ทางสกุลจ้าวแนะนำให้คนพวกนั้นมาเช่าเอาไว้ เมื่อไปถึง คุณชายจู... เอ่อ... ซื่อจื่อ ก็พบว่าในเรือนนั้นมีอาวุธมากมายราวกับคลังแสงเลยเพคะ มีคนคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา"หย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status