ยามเหมาประตูจวนเซียวเปิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันแต่งงาน นำโต๊ะมาวางต่อๆกันเรียงรายยาวอยู่หน้าเรือน บ่าวไพร่ในเรือนมีไม่ถึงยี่สิบคนเป็นบ่าวชายหกคน ทุกคนอยู่เพราะยังคิดถึงบุญคุณของผู้นำตระกูลคนเก่า
เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้า ท่านย่าอาการไม่ค่อยดี นางนำเงินสินสอดที่ได้มาเพียงห้าพันตำลึงไปขอร้องอ้อนวอนหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานมารักษานาง เจิ้นหนานยอมมาตรวจให้เมื่อคืนนี้เขามิได้เห็นแก่เงิน แต่เห็นแก่ความกตัญญูของนาง เซียวอี้เซียนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนของเขากว่าสองชั่วยาม เจิ้นหนานยืนมองนางสั่งบ่าวไพร่ให้ขนหีบออกมา เซียวหงเดินมาหาบุตรสาว ยกมือลูบศีรษะนางเบาๆรั้งนางเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยถามให้แน่ใจ
"เซียนเอ๋อร์ ลูกตัดใจจากจ้าวเฉิงได้แล้วจริงๆเหตุใดยังต้องขายสินสอด ไปคืนไม่ดีกว่าหรือ"
"ท่านพ่อ เดิมทีเขาทำผิดต่อข้าและสกุลเซียว สินสอดนี้ควรขายทิ้งเอาเงินพวกเราคืนมาเจ้าค่ะ"
"เงินพวกเราหรือ"
"ท่านพ่อ เดิมทีค่ารักษาท่านย่าไม่ได้แพงมากนัก แต่เพราะหมอจ้าวหมอประจำจวนของเขามารักษาแล้วให้ลูกซื้อยาที่แสนแพงจนต้องจำนองจวนหลังนี้ ตอนนี้ข้ารู้ดีชั่วของพวกเขาหมดแล้ว สกุลหลิวของหลิวเว่ยท่านปู่ของหลิวเย่ว จ้องครอบครองจวนเรามาตลอดเพราะเดิมทีเขาเป็นรองท่านปู่เสมอมาคนจากไปแล้วแต่ตาแก่หลิวกลับไม่ตัดใจ จากนี้ไปข้าจะให้สกุลจ้าวและสกุลหลิวชดใช้ให้เราเจ้าค่ะ"
ซุนเจิ้นหนานยืนฟังนางกับบิดาพูดคุยกัน อืมไม่เลวเด็กคนนี้ตั้งแต่ถูกยกเลิกงานแต่งก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนรู้จักคิด รู้จักอ่อนน้อม เดิมทีเขาอยากรักษาให้ฮูหยินผู้เฒ่า แต่เพราะเซียวอี้เซียนหลานสาวของนางเชื่อคำของจ้าวเฉิง ไปนำหมอที่อื่นมารักษาเขาจึงไม่อยากพูดมาก ดูท่าหลานสาวของสหายเก่าคนนี้ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากนัก
ชายชราเดินมาทางที่สองพ่อลูกกำลังคุยกันอยู่ก่อนจะเอ่ยทักทาย
"นายท่านเซียว วันนี้จวนท่านคึกคักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเชียว"
"อ้อ ...อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านลุงเจิ้นหนาน รบกวนท่านยามดึกหลานชายไร้มารยาทแล้ว"
"ไม่เป็นไรๆ อืมเด็กน้อยเจ้าจะทำอะไร ขายสินสอดที่เขาให้มาเช่นนี้ไม่กลัวจ้าวอันป๋อมาถลกหนังเจ้าหรือ"
"ท่านปู่หมอเทวดา ในมือของตาแก่จ้าวมีมีดคมสำหรับเลาะเนื้อหนังข้า แต่ในมือข้ามีมีดเล่มเล็กๆที่สามารถเลาะกระดูกเสือขอดเกล็ดมังกรได้ ท่านปู่ว่าใครต้องกลัวใครกันแน่เจ้าคะ"
"อืม...เลาะกระดูกเสือขอดเกล็ดมังกร ฮ่าๆๆๆสำคัญนัก ไอ้หยาพี่เซียวหานหลานสาวท่านคนนี้น่าสนใจๆ ฮ่าๆๆๆ"
ปลายยามเหมาเสียงมโหรีบรรเลงดังลั่นจนคนต้องตื่นจากที่นอนออกมาดู คนเป่าแตรเดินไปทั่วท้องถนน มีคนแจกใบปลิว ขอทานต่างเข้ามารุมล้อมเอาไปปลิวไปโยนเล่น ชาวบ้านที่ตื่นมาแต่เช้าก็สงสัย วันนี้เมืองหลวงมีเรื่องอะไรหรือครึกครื้นยิ่งนัก คนที่อ่านหนังสือออกเก็บใบปลิวมาได้ก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก
"นี่พวกเจ้า วันนี้คุณหนูเซียวคนนั้นที่ถูกเจ้าบ่าวทิ้งงานแต่งไปแต่งคุณหนูสกุลหลิวจะขายสินสอดของจวนจ้าวทิ้งน่ะ"
"ไอ้หยา...คุณหนูเซียวคนนี้สติไม่ดีหรือ สินสอดนั่นขายได้ด้วยหรือ จ้าวอันป๋ออำมาตย์ซ้ายจะยอมหรือ แม้ว่าเขาไม่ทวงคืนแต่อย่างไรก็เป็นของสกุลจ้าว"
"เพ้ยๆๆๆ พวกเจ้าคิดว่าคนที่ทำเรื่องต่ำช้าอย่างจ้าวเฉิงจะกล้าไปเอาความกับคุณหนูเซียวคนนี้หรือ"
"ทำเรื่องต่ำช้า เรื่องอันใดกัน เจ้ารู้อะไรก็รีบเล่ามา"
ชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มวิจารณ์กันสนุกปาก ตอนนี้สกุลหลิวกับสกุลจ้าวกำลังมีความสุขที่ทั้งสองตระกูลเกี่ยวดองกันสำเร็จ พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาไปทั่วเมืองหลวงจนถึงขั้นยกกันมาเอาเรื่องเซียวอี้เซียนถึงบ้าน และอับอายกลับไป
กลางยามเฉินเซียวอี้เซียนก็สั่งให้บ่าวไพร่เริ่มวางข้าวของเรียงราย สินค้าที่เป็นรายการสินสอดขายราคาต่ำจนดูไร้ค่า แต่ของจวนเซียวขายราคาสูงจนดูเป็นของหายาก ใครไม่รู้ก็คิดว่านั้นคือสินสอดราคาแพง เซียวอี้เซียนไม่ใส่ใจคำติเตียน หากภายหน้าจ้าวอันป๋อมาขอดูรายการที่ขายเขาจะได้ไม่กล้ามั่วนิ่มว่านางค้ากำไรเกินควร
คนที่ผ่านไปมาอดมองไม่ได้ ไปสอบถามจึงรู้ว่าวันนี้ที่จวนสกุลเซียวกำลังคึกคักเนื่องจากวันนี้คุณหนูเซียวบุตรีคนเดียวของเซียวหงเปิดแผงขายของหน้าจวน เดิมทีตระกูลเซียวหมั้นหมายอยู่กับจ้าวเฉิงบุตรชายอำมาตย์ซ้าย แต่ใครจะรู้ว่าตระกูลจ้าวเล่นตลก ในวันแต่งงานกลับส่งเกี้ยวไปรับคุณหนูหลิวมาแทนเรื่องนี้สร้างความอับอายแก่ตระกูลเซียวยิ่งนัก แต่เนื่องจากเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ จึงไม่อาจต่อกร ตั้งแต่วันนั้นสามวันมาแล้วประตูจวนเซียวก็ไม่เปิดอีกเลย จนกระทั่งวันนี้คุณหนูเซียวเปิดจวนวันแรกก็เปิดแผงขายของหน้าจวนเสียแล้วคงเสียใจจนสิ้นสติกระมัง
"เอาล่ะๆ ทุกคนได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว เตรียมตัวได้เสี่ยวฮวาตีฆ้อง เริ่ม"
โหม่งๆๆๆๆ เสียงตีฆ้องร้องป่าวดังมาจากหน้าจวน เสียงใสๆ กำลังตะโกนเรียกลูกค้า
"เร่เข้ามาๆ เจ้าค่ะ วันนี้มีของดีของถูกมาขายแก่พ่อแม่พี่น้อง มีเครื่องประดับมากมาย แพรพรรณสวยงาม ใครที่มาซื้อในวันนี้คุณหนูของเราบอกว่าจะจดชื่อพวกท่านเอาไว้เพื่อป่าวประกาศความใจบุญของทุกท่าน เพราะเงินตำลึงที่ได้ในครั้งนี้จะนำไปซื้อเสบียงแจกทานที่เมืองซ่างกู่ ชาวบ้านที่นั่นเจอกับปัญหาภัยแล้งใหญ่หลวง ราชสำนักอยากให้ทุกคนร่วมมือกัน ใครที่มาซื้อสินค้าในวันนี้เท่ากับช่วยเหลือราชสำนักด้วยเจ้าค่ะ"
ตำหนักเล็กหยางเทียนหลงที่ยามนี้ถูกเมียจับอาบน้ำเพราะทั้งตัวเขามีแต่กลิ่นสุรา เซียวอี้เซียนไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งเป็นสุราที่หมักจากผลไม้นั้นยิ่งเวียนหัว ร่างสูงที่นั่งคุดคู่อยู่ในอ่างไม้มองเมียด้วยสายตาขอโทษ"พี่ไม่ควรดื่มจนเจ้าต้องมาลำบากเลยเซี่ยนเซี่ยน""อย่างอแงสิเพคะ...พระองค์เมาแล้วรั่วนัก จะเสร็จแล้วอยู่นิ่งๆ"เมาแล้วรั่วคืออะไรกัน..หยางเทียนหลงไม่สนใจคำตอบ เขาอยากรู้ว่าของขวัญที่นางจะให้คืออะไร กระทั่งเซียวอี้เวียนอาบน้ำให้เขาเรียบร้อยก็ส่งเสื้อคลุมให้ หยางเทียนหลงรับมาก่อนจะลุกขึ้นแล้วสวมเสื้อคลุมเดินออกไปยังห้องนอนเขานั่งลงบนเก้าอี้ เซียวอี้เซียนเช็ดผมให้เขาทีละปอยๆจนผมเริ่มหมาด หยางเทียนหลงจับมือบางเอาไว้แล้วรั้งให้นางมานั่งตักตนเอง เขาสบตากับดวงตาคู่สวยก่อนจะโน้มใบหน้าไปหาแล้วเริ่มทวงรางวัล"ไหนกันรางวัลของพี่ เหตุใดลึกลับนักเล่า""ทรงอยากได้รางวัลจริงๆหรือเพคะ""ก็เจ้าบอกว่ามีรางวัลให้""ทรงอยากได้อะไรจากหม่อมฉันเพคะ ไหนลองตรัสออกมาหน่อย อื้ออออ"หยางเทียนหลงจับปลายคางมนให้เงยหน้าสบตาก่อนจะจุมพิตนางอย่างอดใจไม่ไหว เขาจูบนางเนิ่นนานลิ้นร้อนเกี่ยวเรียวลิ
จินฝานยิ้มตามหลังให้กับภาพตรงหน้า ตั้งแต่ท่านอ๋องแต่งงานกับพระชายาจะเจอรอยยิ้มของงพระองค์บ่อยๆ นับเป็นเรื่องดี"เฮ้อ ผัวเมียเขาอุ้มมกับเข้าห้องไปแล้ว ข้าไปหาเสี่ยวฮวาน้อยบ้างดีกว่า ไม่รู้ว่าวันนี้อาการแพ้ท้องดีขึ้นหรือยัง"จินฝานเดินไปทางห้องพักของตน เมื่อเปิดเข้าไปเสี่ยวฮวาก็นั่งพิงหัวเตียงอย่างอ่อนแรง นางรอเขาไม่ยอมนอน"เด็กดีของอา...ดึกเพียงนี้เหตุใดยังไม่นอน อย่าลืมสิเจ้ามิได้ตัวคนเดียวแล้ว""ข้าอยากรอท่านนี่เจ้าคะ ท่านอา...ไม่มีท่านข้านอนไม่หลับ""หิวหรือไม่ อาเอาขนมมาจากจวนเซียวมากนัก นี่ขนมถั่วเขียวที่เจ้าชอบ พระชายาทรงเก็บเอาไว้ให้เจ้าเองเชียวนะ กินสักหน่อยนะคนดีของอา""อื้อ...พระชายาดีกับข้าที่สุดเลย"จินฝานยิ้มให้ก่อนจะป้อนขนมให้ภรรยา เสี่ยวฮวามองหน้าเขาแม้ว่าจินฝานจะสี่สิบห้าส่วนนางสิบห้าแต่นางกลับไม่รู้สึกว่าอายุนางกับเขาเป็นอุปสรรคสักนิด เขาทั้งอ่อนหวานอ่อนโยน เอาอกเอาใจคืนแรกของนางกับเขาก็มาจากวันที่นางป่วยแล้วพระชายาต้องรับมือกับสกุลจ้าวแสนเลวนั่น ท่านอาจึงมาดูแลในคืนนั้นพระชายากำลังวางแผนอยู่กับท่านอ๋อง นางป่วยเพราะถูกลมเย็นแต่ไม่อยากรบกวนจึงได้แต่ไปหาหมอในจวนเพื่อจั
หวงเหวินเทียนอมยิ้ม เพิ่งส่งสินสอดไปเมื่อวานนี้ อยากรีบแต่งเสียพรุ่งนี้เลย อยากนอนกอดนางเต็มทีแล้ว จากนั้นทั้งสองก้เดินเข้างานไปด้วยกันแต่น้องสาวของเขาที่ถูกฉกมากำลังถูกอีกคนปล้ำจูบอย่างโหยหา"ฮื้อๆๆๆ"หวงซือหนิงพยายามผลักเขาออกเพราะนางหายใจไม่ทัน คนบ้านี่เรี่ยวแรงเยอะเสียจริงๆ กระทั่งหลิวหย่งพอใจแล้วจึงยอมปล่อยนาง เสียงหวานใสเอ่ยตัดพ้อเขา"พี่ทำอะไรเนี่ย ที่นี่จวนคนอื่นนะเจ้าคะ อีกอย่างได้ยินว่าจวนเซียวมีองครักษ์ลับและองครักษ์เงาเกือบสามร้อยคนเฝ้าระวัง ข้าไม่อยากเป็นอาหารตาบุรุษเหล่านั้นนะ"หลิวหย่งกระชับอ้อมกอดเอ่ยออดอ้อนคนบนตัก"องครักษ์เหล่านั้นพี่รับผิดชอบเอง พี่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตรงไหนปลอดคนหื้ม หนิงหนิงคิดถึงพี่หรือไม่ พี่จากชายแดนมานานไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเจ้า"คนตัวเล็กโอบแผ่นหลังหนาเอาไว้ก่อนจะซบหน้ากับอกแกร่ง หวงซือหนิงเอ่ยตอบกลับ"ข้าก็คิดถึงท่าน พี่หลิวหย่งข้าคู่ควรกับพี่จริงๆหรือ ท่านเป็นถึงท่านชาย ข้าเป็นแค่บุตรสาวนักโทษอย่างจ้าวเฟิงคนชั่วสกุลจ้าว""ยามนี้เจ้าแซ่หวง หรือต่อให้เจ้าแซ่จ้าวแล้วอย่างไร ตั้งแต่เกิดเจ้าก็ตายไปแล้ว เป็นฮูหยินของจ้าวเฟิงเองที่ส่งเจ้าลงปรโลกกั
เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้เป็นวันที่จวนเซียวจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านปู่ของนาง ไม่ว่าภายนอกจะเป็นใครแต่เนื้อในนั้นนางรู้ดีที่สุดว่าเขาคือคุณตา ร่างบางขยับเบาๆเพราะไม่อยากให้คนที่นอนข้างๆตื่นขึ้นมา เมื่อคืนเขางอแงกวนนางทั้งคืนอ้างแต่ว่าคนอื่นมีลูกหมดแล้วแม้แต่จินฝาน เขาเองก็อายุมากแล้วอยากมีลูกบ้าง แต่นางยังไม่ทันลงจากเตียงวงแขนแข็งแรงก็กอดนางเอาไว้พร้อมเสียงงึมงำ"ยังเช้าอยู่เลยนอนกอดพี่อีกหน่อยเถอะนะ""ต้องไปดูโรงครัวเจ้าค่ะ อย่างอแงนะเพคะคนดี""แม่ครัวตั้งมากมาย เซี่ยนเซี่ยนพี่คิดถึงเจ้านะ เราห่างกันเกือบเดือนพี่รู้สึกเหมือนสิบปีเลยเชียว"ร่างอรชรถูกเขารั้งจนล้มลงมานอนเคียงข้าง เซียวอี้เซียนยกมือขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะเอ่ยกับเขา"ทำตัวดีๆอย่างอแง คืนนี้หม่อมฉันมีรางวัลให้นะเพคะ""จริงหรือ..อะไรบอกได้ไหมพี่อยากรู้"เซียวอี้เซียนยิ้มให้เขาพร้อมกับจุมพิตที่ปลายจมูกโด่งก่อนจะส่ายหน้าให้ หยางเทียนหลงกระชับอ้อมกอดส่งสายตาเว้าวอนกลับมา ร่างบางลูบใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับบอกให้เขานอนต่อ"บรรทมต่อเถอะเพคะ หม่อมฉันจะไปทำของโปรดท่านปู่สักสามสี่อย่าง เย็นนี้มีงานเลี้ยงอยากให้ท่านกินอา
ซือหยางอุ้มเจ้านายของตนกำลังจะเดินจากไป แต่กลับมีปลายทวนวาววับมาจ่อที่คอ หลานฮวนเอ่ยเสียงเข้ม อยากมาก็มาอยากไปก็ไปหรือ เห็นจวนข้าเป็นอะไร เป็นเหลาสุรา หอนารีเช่นนั้นหรือ""คุณหนู....ท่านชายของข้าต้องไปหาหมอรบกวนท่านอย่าขวางทาง ช่วยหลีกทางด้วย""เจ้าพาเขาไปห้องข้างๆ เถาฮวาไปตามท่านหมอเฟิงมา ข้าก็อยากรู้ว่าเขาป่วยจริงไหม"หลานซิ่วเอ๋อร์ที่ตามออกมาจับชายเสื้อพี่สาวเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"พี่ใหญ่...ดูแล้วเขาไม่ได้แกล้งท่านอย่าเอาแต่อารมณ์เลย""หึ...จะอุ้มเขาตากฝนอีกนานไหม ถ้าตายขึ้นมาอย่ามาโทษสกุลหลานของข้าเชียว"ซือหยางกัดฟันก่อนจะอุ้มลู่เสวียนไปห้องที่นางบอก จากนั้นก็ผลัดอาภรณ์ให้กับเขา เมื่อประมุขของตระกูลทราบเรื่องก็รีบมาทันที ท่านชายเคยถูกพิษเรื่องนี้ไม่มีคนรู้มากนักยกเว้นหลานจ้าน เพราะเขาคืออาจารย์ของฮ่องเต้และชินอ๋องพระอนุชานั่นเอง ลู่เสวียนเป็นบุตรบุญธรรมชินอ๋อง ไม่ว่าเรื่องใดๆที่เกิดเขาย่อมได้รู้ เฟิงเหยากำลังตรวจชีพจรให้กับลู่เสวียน ก่อนจะส่ายหน้าจากนั้นก็บอกให้คนไปต้มยา"นายท่านขอรับ ต้องให้ดื่มยาขับพิษเย็นออกจากร่างกายก่อนจึงจะสามารถฝังเข็มได้ขอรับ""ร้ายแรงมากไหมท่านหมอเฟิง""ท่านช
เซียวอี้เซียนลุกขึ้น ก่อนจะสวมกอดกับท่านปู่และหอมแก้มของท่านซ้ายขวาและยิ้มให้ จากนั้นก้จูงมือกับหยางเทียนหลงเดินออกมา แต่หยางเทียนหลงกลับไม่ชอบใจนัก เขารู้ว่านางดีใจที่มีญาติมาเพิ่ม แต่การกอดกันแบบนี้ในยุคสมัยของเขาถือว่าไม่สมควร สตรีอายุเจ็ดขวบก็ห้ามเข้าใกล้บุรุษแล้ว ถึงจะเป็นบิดาก็เถอะ"เซี่ยนเซี่ยน...ต่อไปอย่าสวมกอดและหอมแก้มปู่เจ้าอีก หากคนอื่นเห็นจะไม่ดี เจ้าคงไม่อยากให้เขาถูกคนในราชสำนักหยิบเรื่องนี้ไปเล่นงานหรอกนะ""เพคะ..หม่อมฉันลืมไป ขอบพระทัยที่ทรงตักเตือน""ไปเถอะ คิดถึงเจ้าจะแย่ เดือนนี้ทั้งเดือนวุ่นวายแต่เรื่องกบฏ ไม่มีเวลาจะนอนกอดเจ้าเลย""ทรงน่าสงสารยิ่งนักเพคะ คิกๆๆ"เซียวอี้เซียนหัวเราะก่อนที่จะถูกเขาอุ้มจนตัวลอย หยางเทียนหลงพานางเดินเข้าห้อง ทันทีที่ปิดประตูก็จูบนางด้วยความเสน่หา เซียวอี้เซียนยอมให้เขาดื่มด่ำจนพอใจ กระทั่งหยางเทียนหลงจูบนางเรียบร้อยก็เอ่ยปากกับนาง"เซี่ยนเซี่ยน...ลู่เสวียนลูกสองแล้วนะ พี่อยากมีกับเขาบ้าง""หะ ห๊า ตะ ใต้เท้าลู่หรือเพคะ ไปแต่งงานเมื่อไหร่แล้วฮูหยินของเขาเป็นมใครหรือเพคะ""หลานฮวนน่ะ ส่วนเรื่องพวกเขาไปไงมาไงนั้นอย่ารู้เลย รู้แค่ว่าเขานำ