แชร์

ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
ผู้แต่ง: เย่ชิงขวง

บทที่ 1

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อน

เธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง

ยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น

"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร"

"อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"

ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟ

กระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ

"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."

ซี๊ด...

ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ก้าวเท้าถอยหลังอย่างห้ามไม่ได้

กู้ชูหน่วนที่ควรหมดสติเพราะฤทธิ์ของเมามายพันกาลกลับยืนขึ้นต่อหน้านางเสียงอย่างนั้น แถมยังส่งรอยยิ้มมีเลศนัยให้นาง ราวกับรอยยิ้มของอสุราจากนรกนั้น ชวนให้คนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

เสียง "กรอบ" ดังขึ้น ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำได้อย่างไร นิ้วทั้งห้าจิกเกร็งเป็นกรงเล็บ กอบกุมลำคอของนางไว้ พละกำลังนั้นเหมือนดั่งทองแดงเหล็กกล้า จนนางไร้หนทางหนีรอด

"เจ๋ออ๋องน่ารังเกียจจะเอื้อมถึงข้าหรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ แต่เจ้าน่ะหรือ ไม่มีโอกาสได้ตะเกียกตะกายหาเขาหรอก"

ท่าทางของกู้ชูหน่วนน่าเกรงขาม แววตามีแต่ความบ้าคลั่ง กู้ชูหลันสะพรึงกลัว

นางแพศยานี่สู้คนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

ไม่นาน นางก็ต้องตื่นตระหนก เพราะกู้ชูหน่วนคว้าเมามายพันกาลอีกขวดหนึ่งออกมาจากตัวนาง แล้วกรอกมันลงคอของนางจนหมดเกลี้ย แสยะยิ้มและทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง

"ของดีอย่างเมามายพันกาล จะให้ข้าเก็บเอาไว้ดื่มด่ำผู้เดียวได้อย่างไร"

"เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ..."

"เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นแล"

นิ้วขาวเรียวยาวกดจุดชาของกู้ชูหลัน ปลดผ้าคลุมหน้าของนางอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะนำมาสวมคลุมทับใบหน้าของตัวเองแทน สายตาเหยียดหยามกวาดมองกู้ชูหลันที่ตื่นตระหนก ร่างทั้งร่างหายวับไปอยู่หลังเสาราวกับปลิวลม แววตาเย็นชามองบรรดาชายฉกรรจ์ที่ถูฝ่ามือไปมาอยู่ด้านนอก กำลังพากันเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางวิตถาร

"ไม่ใช่ว่านางเป็นหญิงอัปลักษณ์หรอกรึ? เหตุใดถึงได้งามเช่นนี้?"

"สนใจทำไมเล่า ในเมื่อได้ทั้งเงินได้ทั้งคนงาม เหตุใดจะไม่ทำเล่า"

"หยุดนะ นางแพศยาที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ พวกเจ้ารีบตามนางไป ข้าเป็นคนจ้างพวกเจ้าเอง อ๊ะ... หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะให้อี๋เหนียงของข้าฆ่าพวกเจ้าให้หมด... "

ยามราตรีลมพัดโบก ณ วัดร้างแห่งหนึ่ง เงาตะคุ่มของคนสองสามคนโยกไหวพร้อมกับส่งเสียงครวญคราง กำลังแสดงฉากที่ไม่น่ามองนัก

ไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็แห่กันมาที่หน้าวัดร้าง เห็นได้ชัดว่าผู้นำหน้าสุดคืออัครเสนาบดีกู้

"ท่านอัครเสนาบดี บางที่คุณหนูสามอาจจะแค่คิดไม่ตก ถึงได้หนีออกจากจวนไปกับบ่าวรับใช้ หากนางคิดได้แล้วคงกลับมาเองขอรับ"

"ใช่ขอรับ ถึงคุณหนูสามจะ... แต่นางไม่ใช่คนไม่รู้ความ ไม่มีทางจะมี...กับบ่าวรับใช้ได้หรอกขอรับ... เอ่อ..."

ประตูใหญ่ถูกถีบจนเปิดออก ทุกคนต่างตื่นตะลึง สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้เปลี่ยนสลับไปมาราวกับทาด้วยสี

"สารเลว..."

เสียงตวาดดังลั่น ทุกคนคุกเข่าลงในทันใด

โดยเฉพาะอี๋เหนียง อนุภรรยา แม่นางจางที่ตาเบิกโพลง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

"นายท่านโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ หลันเอ๋อร์ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้"

เพลิงราคะในตัวโหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนไม่มีกะใจจะดูต่อไป

คนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างอัครเสนาบดีกู้ แต่ลูกสาวของตัวเองถูกกระทำชำรำปานนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นพวกอัธพาลชั้นต่ำ มีหรือเขาจะไว้ชีวิต

ฉวยจังหวะยามชุลมุน กู้ชูหน่วนเดินโซซัดโซเซจากไป พยายามข่มความรู้สึกประหลาดในร่างกายอย่างสุดกำลัง

แม้จะคิดหาวิธีถอนพิษนับร้อยก็ไม่ได้ผล เมามายพันกาลนี้ฤทธิ์ร้ายนัก หากไม่อยากตายก็ต้องถอนพิษ แต่วิธีถอนพิษนั้นมีเพียงทางเดียวคือเสพสม

ระหว่างตายกับเสียความบริสุทธิ์นั้น เธอเลือกอย่างหลังโดยไม่ลังเล

เขาร้างป่าไพร ไร้ซึ่งผู้คน ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะถึงขีดจำกัด ตรงหน้าก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น

คนในชุดดำสามคน นอนล้มเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น จากประสบการณ์การทำงานหลายปีของเธอ พวกเขาโดนยาพิษ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ถึงได้ล้มลงบนพื้นไม่ขยับไหว

กู้ชูหน่วนพลันดีใจ รีบจ้ำเข้าไป ยกมุมปากพึมพำประโยคหนึ่ง "ตัวผู้ทั้งหมดเลย สวรรค์ยังเมตตาฉัน"

คนที่นอนอยู่บนพื้นมุมปากกระตุก?

ตัวผู้ทั้งหมดเลย?

นับพวกเขาเป็นสัตว์อย่างนั้นหรือ?

มือเรียวของกู้ชูหน่วนเชยคางชายชุดดำพินิจมองทีละคน ก่อนจะส่ายหน้าอย่างรังเกียจ "หุ่นใช้ได้ หน้าตาใช้ไม่ได้"

"ผอมไป ลูบแล้วไม่ได้อารมณ์"

"…"

สีหน้าของชายชุดดำสองคนแรกแทบดูไม่ได้

นี่มันลูกสาวตระกูลไหน?

สมบัติผู้ดีอยู่ที่ใด?

เย่จิ่งหานที่ได้ชื่อว่าเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรนั้นมุมปากยกขึ้น ดวงตาล้ำลึกราวกับไร้ที่สิ้นสุดนั้นฉาบไปด้วยรอยยิ้ม แฝงไปด้วยความรู้สึกสนใจ

ไม่นาน คางของเขาก็ถูกเชยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาเปล่งประกายดุจดาวเหนือของหญิงตรงหน้าสะท้อนสู่ดวงตาของเขา

ดวงตาสองคู่สองประสาน คนหนึ่งสวมผ้าคลุมหน้า คนหนึ่งสวมหน้ากากปีศาจ ต่างฝ่างต่างมองไม่เห็นใบหน้าของอีกคน ทว่าในแววตาของทั้งสองต่างแฝงไปด้วยความอย่างรู้อย่างเห็น

กู้ชูหน่วนถอดหน้ากากปีศาจของเขาออก ความตกใจฉายแวบในแววตา

นี่มันชายหนุ่มรูปงามแห่งยุคหรืออย่างไร เรียวคิ้วเชิดสูง ดวงตาสุกใสดั่งดวงดาวยามฤดูหนาว เครื่องหน้าเด่นชัดประหนึ่งรูปปั้นแกะสลัก หาที่ติไม่พบแม้แต่นิด ราวกับปฏิมากรรมชั้นยอดจากสวรรค์

ไม่รู้ว่าเพราะบาดเจ็บสาหัสหรืออย่างไร ใบหน้าของเขาถึงได้ขาวซีด แต่ถึงกระนั้นรอบกายยังคงแผ่ซ่านไปด้วยรังสีน่าเกรงขามและความสง่างามอันไร้ที่ติ

กู้ชูหน่วนหัวใจเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม ชายหนุ่มหน้าตาแบบนี้ ปีศาจชัดๆ

เย่จิ่งหานเห็นความตกตะลึงในแววตาของนาง ก็รู้สึกลำพองใจขึ้นมา ทว่าจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็จ้องมองไปยังสองขาพิการของเขา ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้เขาชะงักไป จากนั้นความโกรธก็ท่วมทะลักเข้ามา อยากจะบีบนางให้ตายให้มันรู้แล้วรู้รอด

"นึกว่าของชั้นดี คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นทองแดงมีตำหนิ เสียดายที่หน้าตาดี ช่างเถอะ ใครใช้ให้ฉันเป็นพวกบ้าคนหล่อล่ะ ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้"

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?" เย่จิ่งหานเค้นประโยคนั้นออกมาจากไรฟัน ฟังดูวางอำนาจเหลือเกิน

ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนจงใจเพิกเฉยคำเตือนของเขาหรืออย่างไร สองตาถึงได้ยกยิ้มเป็นจันทร์เสี้ยว "รู้สิ เครื่องมือถอนพิษของข้าอย่างไรเล่า วางใจเถิด ข้าจะถนอมเจ้าอย่างดี"

เฮือก...

ชายชุดดำอีกสองคนหัวใจร่วงตกไปอยู่ตาตุ่ม ก่อนจะมองใบหน้าแดงก่ำของนางอีกครั้ง ในใจสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

หญิงนางนี้คงไม่ได้โดนยาพิษแล้วคิดจะใช้เจ้านายของพวกเขาเป็นยาถอนหรอกใช่ไหม?

หญิงนางนี้ไปเอาความกล้าบ้าบิ่นนี้มาจากไหนกัน นางไม่รู้หรือว่าเจ้านายของเขาคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ ผู้กุมอำนาจสูงสุด เพียงพลิกฝ่ามือก็เรียกฟ้าเรียกฝนได้ เพียงประโยคเดียวของเขา นางก็สามารถหายไปไม่เหลือแม้แต่ศพให้ฝัง

แล้วนางรู้อีกหรือไม่ว่า เจ้านายของเขาเกลียดคนที่รังเกียจสองขาพิการของเขาเป็นที่สุด

ดูแม่สาวคนนี้สิ ตัวเล็กกระจิ๋วหลิว พยายามลากเจ้านายของพวกเขาไปถึงทุ่งหญ้า ท่าทางอดรนทนไม่ไหว จากนั้นพวกเขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

นี่นางกล้า...จริงๆ หรือ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 585

    ซี้ดดด... ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา คนทั้งสำนักบัณฑิตหลวงต่างก็พากันลนลาน พวกเขารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว นับประสาอะไรกับแปดปีสิบปี หากต้องรอเป็นสิบปี เช่นนั้นผมคงได้ขาวกันก่อนแน่ "หานอ๋องเฟย หากท่านหิว ท่านก็หาอะไรกินก่อน หากเหนื่อย ก็นอนพักสักงีบ แต่สิบปีมันนานเกินไป พวกข้าได้รอจนว้าวุ่นใจเป็นแน่" "นั่นน่ะสิ หากอ่านเรื่องนี้ไม่จบ ข้าคงค้างคาใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เฝ้ารอให้ท่านเขียนต่อ" กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ คนเหล่านี้ เห็นนางเป็นนักเขียนนิยายไปแล้วหรืออย่งไร นางว่างขนาดที่มีเวลามาเขียนนิยายให้พวกเขาอ่านกันหรืออย่างไร บัณฑิตหนึ่งในนั้นพูดด้วยความร้อนรน "ปิ่นระย้าด้ามนั้นของอาจารย์ซ่างกวานประณีตงดงาม หยกก็ยังเป็นของชั้นดี หรือว่าท่านไม่อยากได้ที่หนึ่ง ไม่อยากได้ปิ่นระย้าผีเสื้อหยกขาวแล้วหรือ" "ข้าอยากรักษาชีวิตข้าไว้มากกว่า" ทั้งสำนักบัณฑิตหลวงเสียงดังระงม บ้างก็เตือนกู้ชูหน่วน บ้างก็ส่งข้าวส่งน้ำมาให้กู้ชูหน่วน บ้างก็ตัดพ้อหานอ๋องและฮ่องเต้เย่ หากไม่ใช่เพราะพวกเขา มีหรือที่กู้ชูหน่วนจะหยุดเขียน ยังมีบางคนที่คอยวิเคราะห์เนื้อหาตอนต่อไป ซ่าง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 584

    ณ สำนักบัณฑิตหลวง กู้ชูหน่วนเขียนตั้งแต่เช้ายันค่ำ แล้วก็เขียนต่อตั้งแต่ค่ำยันเช้า เขียนจนปวดระบมไปทั้งแขน ข้างหูมีเสียงกระซิบกระซาบ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่หยุด ทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยเร่งให้นางเขียนเร็วๆ กู้ชูหน่วนโมโห โยนพู่กันขนสัตว์ในมือทิ้ง "รอดูเฉยๆก็เลยไม่เหนื่อยกันใช่หรือไม่ หากพวกเจ้าเร็วนัก เช่นนั้นก็มาเขียนเองเลย" "หานอ๋องเฟย เป็นเพราะท่านเขียนดีเกินไป พวกเราอ่านแล้วก็อดรู้สึกค้างคางใจไม่ได้ อยากจะอ่านทั้งหมดให้จบ" กู้ชูหน่วนร้อนจนต้องถกแขนเสื้อ คนพวกนี้มุงล้อมนางทั่วทุกทิศ อยากให้นางหายใจไม่ออกหรืออย่างไร "อยากให้ข้าเขียนต่อละก็ พวกเจ้าทุกคนถอยหลังไปคนละยี่สิบก้าว ห้ามเข้าใกล้ข้าอีก" หากไม่ใช่เพราะอยากได้ปิ่นระย้า นางไม่มีทางทนจนถึงตอนนี้ ทุกคนต่างก็ไม่ยอมถอย หากถอยหลังไป พอนางเขียนสิ่งใด พวกเขาก็จะมองไม่เห็น แต่หากพวกเขาไม่ถอยไป ก็กลัวกู้ชูหน่วนจะโมโห แล้วเลิกเขียนไปกะทันหัน ถึงเวลานั้นจะเสียหายหนักกว่าเดิม ทำได้เพียงแค่ถอยไปพร้อมกัน ในระหว่างที่กู้ชูหน่วนกำลังไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ชิงเฟิงพลันปรากฏตัวขึ้นปุบปับ เขาทำความเคารพ แล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 583

    "หากพระชายาเขียนตามแบบฉบับนี้และเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องกลับมาที่จวนหานอ๋องอีก" "ขอรับ…" ชิงเฟิงรับคำสั่งด้วยใบหน้าสลด ตั้งแต่ที่พระชายาเข้ามาในจวนอ๋อง เขาก็ไม่เคยได้มีชีวิตที่สงบสุขเลยสักวัน เจี้ยงเสวี่ยรีบโพล่งออกมา "นายท่าน ข้าน้อยจะรีบไปบอกให้เรือนชาลฟ้าดำเนินการสืบหาก่อน" ไม่รอเย่จิ่งหานตอบตกลง เจี้ยงเสวี่ยก็แผ่นแน่บออกไปทันที ชิงเฟิงได้แต่นิ่งอึ้ง เหตุใดเขาถึงได้ลืมวิธีนี้ไปอีกแล้ว ต่อไปเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระชายา เขาก็จะรีบเปิดแน่บไป ทิ้งปัญหาไว้ให้กับเจี้ยงเสวี่ยบ้าง ณ คฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองหนานเฉิง นิ้วเรียวขาวดุจหยกของหัวหน้าเผ่าหมอ ปลายนิ้ววาดผ่านเรื่องสั้นหน้าแล้วหน้าเล่า ใบหน้าที่ร้ายกาจมุ่นคิ้วเป็นระยะ บ้างก็อมยิ้ม บ้างก็เสียใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปตามเนื้อหา ในที่สุดเขาก็อ่านจนจบ เขาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ "ที่เหลือเล่า" "นายท่าน บ่าวรับใช้ยังไม่ส่งมา คงใกล้มาถึงแล้ว" “จะช้าเกินไปหรือเปล่า ในเมื่อเดินช้าเช่นนี้ จะเก็บขาเขาไว้ทำไม ตัดทิ้ง แล้วส่งผู้ที่รวดเร็วกว่าไป” "ขอรับ" เซวี่ยซาปาดเหงื่อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 582

    ต้องรู้ก่อนว่านางเอกหยางฉู่รั่วไม่เพียงแต่มีสัมพันธ์กับเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อ ยังมีสัมพันธ์กับพระรองเฟิงหลิง ที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีสัมพันธ์กับเฟิงหลิงบนเตียงของฉู่หนิงเฉินอีกด้วย เขียนให้ฉู่หนิงเฉินไร้ประโยชน์ขนาดนี้ นายท่านของพวกเขาเป็นถึงผู้ใด ฉู่หนิงเฉินจะเทียบได้อย่างไร เย่จิ่งหานรู้สึกว่าชิงเฟิงพูดถูก แต่ก็เหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ระหว่างที่มองตัวหนังสือเหล่านั้น เขาก็พึมพำกับตัวเอง "นางใช้หยางฉู่รั่วเป็นร่างสมมติของตัวเอง จงใจจะให้ข้าอ่านเรื่องนี้ ให้ข้ารู้ว่านางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ให้ข้าทะนุถนอมนางหน่อยเช่นนั้นหรือ" ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยกระตุกมุมปาก หยางฉู่รั่วตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง อ่อนแอบอบบาง พระชายาของพวกเขาใช่ผู้ที่ใจดีอ่อนแอ ปล่อยให้คนรังแกได้เสียเมื่อไหร่ แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่พระชายารังแกผู้อื่น ยังไม่เคยเห็นผู้ใดจะทำให้พระชายาเสียเปรียบได้ แม้แต่นายท่านของพวกเขาก็ถูกพระชายาควบคุมบงการครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีวิธีต่อกรกับนางเลยสักนิด "พวกเจ้าว่า เฟิงหลิงในเรื่องที่พระชายาเขียนคือผู้ใด หัวหน้าเผ่าหมอหรือว่าเซียวอวี่เชียน?" "เรื่องนี้...นายท่าน ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 581

    หากเป็นเยี่ยงนี้ เช่นนั้นนางขอปฏิเสธที่จะเขียน แล้วคิดหาหนทางอื่นเพื่อให้ได้ปิ่นระย้าหยกขาวมาครองดีกว่า อาจเพราะสายตาของนางดูแน่วแน่เกินไป น้ำเสียงของซ่างกวานฉู่จึงอ่อนลงมาเล็กน้อย "เช่นนั้นก็ทั้งเมืองหลวงแล้วกัน ห้ามต่อรองอีก ไม่เช่นนั้นจะยึดรางวัลคืน" "อีกอย่าง ต้องเขียนเรื่องด้วยความตั้งใจ ห้ามจบแบบขอไปที ไม่เช่นนั้นรางวัลก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน" กู้ชูหน่วนได้แต่กัดฟันตอบรับ "ได้" ช่างเถอะ เพื่อปิ่นระย้าหยกขาว นางจะสู้สุดแรง วันนี้ทั้งวัน กู้ชูหน่วนเร่งมือเขียนเรื่องด้วยความรวดเร็วที่สำนักบัณฑิตหลวง เพราะเรื่องที่นางแต่งยอดเยี่ยมยิ่งนัก เหล่าบัณฑิตล้วนแต่ถูกดึงดูดจนติดหนึบ บัณฑิตคนอื่นๆ ต่างก็เขียนต่อไม่ได้แล้ว แม้แต่กู้ชูอวิ๋นเองก็เขียนต่อไม่ได้ ทุกคนล้อมวงดูนางเขียน มีบางคนถึงขนาดที่คัดลอกทุกตัวอักษรที่กู้ชูหน่วนเขียน เพื่อส่งไปให้คนในครอบครัวของตนอ่าน ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนเขียนเสร็จหนึ่งแผ่น จะมีคนเก็บรวบรวมเพื่อนำให้ไปอาจารย์ซ่างกวานอ่านโดยเฉพาะ นานๆ ทีอาจารย์ซ่างกวานจะอยู่โต้รุ่งไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ในห้องเรียนตลอด เพื่อรอต้นฉบับของกู้ชูหน่วน ก่อนหน้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 580

    ทุกคนล้วนแต่รู้สึกดึงดูดจนดึงสติกลับมาไม่ได้ไปชั่วขณะ บ้างก็น้ำตารื้น ปาดน้ำตาไม่หยุด พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น "เรื่องที่หานอ๋องเฟยเขียนช่างอนาถยิ่งนัก นางเอกเดิมเป็นที่รักของทุกคน แต่เมื่อผลัดเปลี่ยนรัชกาล ก็ถูกพาตัวเข้าวังไปทรมานตั้งแต่สิบขวบ ทั้งยังต้องคลอดลูกชายของทรราชอย่างเซวียนหยวนจิ่นเจ๋ออีก ตอนที่นางถูกรังแกเพิ่งจะอายุได้สิบขวบ เรื่องโหดร้ายทารุณเช่นนั้น เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อทำลงได้อย่างไร" "ข้าคิดว่าพี่ชายทั้งเจ็ดของนางเอกหยางฉู่รั่วช่างน่าเวทนายิ่งนัก ทุกคนล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่น เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น แต่กลับต้องตายอย่างทรมาน อีกทั้งตระกูลหยางทั้งตระกูล เป็นตระกูลที่จงรักภักดีแท้ๆ เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก" "ไม่ ที่น่าเวทนาที่สุดคือลูกชายของหยางฉู่รั่ว เดิมทีเขาควรเป็นรัชทายาท แต่เพราะเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อไม่ยอมรับเขา ถึงได้มีชีวิตที่เทียบไม่ได้กับกระทั่งข้าทาสในวังหลวง ตั้งแต่เกิดออกมาก็ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ต้องทนหิวและหนาวเหน็บทุกวันคืน แต่เขาก็ไม่เคยตัดพ้อ เก็บของกินไว้ให้หยางฉู่รั่วทุกครั้ง เด็กคนนี้ ช่างรู้เดียงสาจนทำให้คนสงสารจับใจ" "นั่นน่ะสิ เขาถูก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status