เขาชะงักเมื่อเห็นหมิงเสวี่ยเข้ามาในห้อง "เสวี่ยเอ๋อร์ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่"จื่อหนี่กลับเป็นฝ่ายเดินไปหาเขา "นายท่าน ออกไปสักครู่ก่อนนะเจ้าคะ" นางว่าพลางทำมือคล้ายขอเด็กน้อยไปอุ้มไว้เอง ดวงตาใสนั้นกระพริบปริบๆ ใส่เขาระรัวคล้ายจะบอกความนัยบางอย่าง"เข้าใจแล้ว" เขาส่งซือเซียนให้กับจื่อหนี่ จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง"คนนี้คือคุณหนูซือเซียนเจ้าค่ะ" จื่อหนี่ยิ้มบอก ก่อนจัดท่าทางให้หมิงเสวี่ยอุ้มให้ถูกต้องหนูน้อยได้กลิ่นนมก็แทบไม่รอให้หมิงเสวี่ยเปิดหน้าอก มือเล็กจิ๋วตะกายเสื้อจนหมิงเสวี่ยหลุดหัวเราะออกมา "หิวมากเลยเหรอสาวน้อย ดูทำเข้าสิ" หมิงเสวี่ยยิ้มกว้างออกมาพลางเปิดเสื้อออกซือเซียนน้อยที่ตอนนี้มองเห็นเพียงภาพขาวดำ นางเห็นลานนมอยู่ตรงหน้าก็พยายามไล่งับยอดอกมารดา"โอ๊ย!"จื่อหนี่รีบเข้ามาดู "ไม่ได้นะ อย่าให้ดูดแบบนี้นะ" นางว่าพลางเอานิ้วก้อยสอดเข้ามุมปาก บังคับให้สาวน้อยคายยอดอกออกมา"ทำไมหรือจื่อหนี่?""ไม่อย่างนั้นจะเจ็บมากเจ้าค่ะ"หมิงเสวี่ยฟังแล้วสะดุ้ง "แล้วต้องทำอย่างไรเล่า""ต้องทำแบบนี้..." จื่อหนี่ใช้ฝ่ามือประคองศีรษะน้อยของคุณหนูซือเซียนที่อดกินนมกำลังร้องไห้จ้า แล้วอยู่ๆ นางก็
หลังจากทานอาหารเสร็จ หมิงเสวี่ยก็นั่งเหม่ออยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเข้านอนเพราะยังรู้สึกอ่อนเพลีย และตื่นอีกทีเมื่อบ่าย "หนี่เอ๋อร์""หืม?""เมื่อไหร่ข้าถึงจะไปจากที่นี่ได้?" คำถามของหมิงเสวี่ยทำเอาจื่อหนี่ถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม"เจ้าเดินได้คล่องเมื่อไรค่อยว่ากันเถอะ""ตอบข้ามา""ท่านควรอยู่เดือนเพื่อรอให้มดลูกเข้าอู่ก่อน" จื่อหนี่ตอบ "อย่างน้อยๆ ก็หนึ่งเดือน""ไม่คิดว่านานไปหรือ?" หมิงเสวี่ยหรี่ตามอง นางไม่อยากไว้ใจหนี่เอ๋อร์นัก เพราะอย่างไรก็เป็นนายบ่าวกับไป๋จิ้งเหอ"ท่านไปถามหมอตำแยที่ไหนก็ได้ รับรองว่าทุกคนต้องตอบแบบเดียวกับข้า ไม่สิ อาจจะนานกว่าข้าเสียด้วยซ้ำ""ข้ารอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก" หมิงเสวี่ยว่า "เจ้าช่วยเขียนเทียบยาให้ข้า ข้าจะนำไปซื้อยาในเมืองเอง""เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จ่ายยาสุ่มสี่สุ่มห้าก็ได้นะ ท่านอยากตายหรืออย่างไร!?" จื่อหนี่ตวาดใส่อย่างที่ไม่เคยทำ"หนี่เอ๋อร์...""ไม่ต้องมาอ้อนข้า หากท่านอยากตายนักพรุ่งนี้ก็เก็บข้าวของออกไปเลย!" จื่อหนี่ว่าพลางกลั้นสะอื้น"เอ่อ...คือ...ข้าขอโทษ ข้าใจร้อนไปหน่อย" หมิงเสวี่ยตอบอ้อมแอ้ม "หนึ่งเดือนนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ แต่ข้าขอนอนกับเจ้าได้หรื
หมิงเสวี่ยรู้สึกตัวตื่นในเช้าวันต่อมา...ขณะที่กำลังคิดว่าตนเองกำลังตื่นเต็มตาหรือกำลังนอนหลับฝันหวานอยู่ เสียงของไป๋จิ้งเหอพลันดังอยู่ข้างหู "ตื่นแล้วรึ?" นางสะลืมสะลือมองเขาอย่างแปลกใจ "นี่วันใดเวลาใดแล้ว""ประมาณยามโฉ่ว สองเค่อ " เขามองนาฬิกาน้ำที่ร่วงหยดอยู่ตรงมุมห้องก่อนตอบ"ข้าเพิ่งหลับไปไม่กี่ชั่วยามเองหรือเนี่ย?"เขาส่ายหน้าช้าๆ "ไม่ใช่วันที่เจ้าคลอด แต่เป็นอีกวัน""หืม..." หมิงเสวี่ยรีบเปิดเปลือกตา นี่นางหลับไปนานขนาดนั้นเชียวหรือ"หิวหรือไม่?" เขาลูบแก้มนวลที่มีเลือดฝาดน่ามองจากการนอนเต็มอิ่ม"...นิดหน่อย เดี๋ยวข้าลุกไปหากินเองได้""ข้าช่วยพยุง" ไป๋จิ้งเหอรีบสอดแขนสอดมือมาประคองให้นางพยุงตัวหมิงเสวี่ยเกาะไว้โดยไม่ปฏิเสธ นางเปิดผ้าห่มออกและก้มมองลงไปที่หน้าท้องตนเองก่อนจะเบ้ปากออกมา...ไม่มีเจ้าแฝดอยู่ในท้องแล้ว ไฉนท้องข้ายังขนาดเท่าเดิมเล่า"ท้องเก้าเดือน แถมเป็นท้องแฝด มันไม่กลับคืนสภาพเร็วขนาดนั้นหรอก" จิ้งเหอกระซิบเตือนจนหมิงเสวี่ยมองตาเขียว"ผู้ใดอนุญาตให้ท่านวิพากย์ร่างกายข้า?""ข้าไม่รังเกียจหรอกนะ" เขาไม่สนคำถามของนาง"แต่ข้ารังเกียจ" นางเบ้ปาก "หน้าท้องก็ยื่น ตัวก็หน
"ข้าไม่ใช่หลางหงเช่อ และข้าไม่ยอมให้เจ้าไปไหน" ไม่ใช่แค่หงเช่อ แต่ต่อให้เป็นยมบาลก็พรากนางไปจากเขาไม่ได้!"เสวี่ยเอ๋อร์ ทำใจดีๆ ไว้ เจ้าอย่าแกล้งให้เหอหลางตกใจอีกเลย" เขากอดนางไว้แน่นก่อนเรียกจื่อหนี่ที่รออยู่ข้างนอก "จื่อหนี่ เข้ามานี่เร็ว เสวี่ยเอ๋อร์นางหมดสติไปแล้ว!"จื่อหนี่รีบวิ่งเข้ามา แตะปลายนิ้วตรงข้อมือด้านในเพื่อตรวจชีพจร "นางเพียงอ่อนเพลียมากไป การคลอดลูกแฝดเป็นงานหนักสำหรับสตรี ท่านอย่ากังวลไปเลย ให้นางพักผ่อนให้เต็มที่เถอะเจ้าค่ะ""เรียกพี่หญิงซื่อมา บอกว่าข้าต้องการยาบำรุงที่ดีที่สุด" ไป๋จิ้งเหอโอบกอดภรรยารักแนบอก "ต่อให้ต้องปล้นสะดมบรรณาการจากซยงหนูหรือซีเซี่ยก็ต้องเอามาให้ข้าให้ได้!""เจ้าค่ะ" จื่อหนี่ไม่กล้าขัดเพราะรู้ว่าเขาทำเพราะรักหมิงเสวี่ยจริงๆ "เช่นนั้นข้าจะต้มยาบำรุงให้นางกินก่อน อย่างน้อยพอให้มีกำลังวังชาขึ้นบ้างก็ยังดี" จื่อหนี่เอ่ย ก่อนรีบไปที่ห้องของตนเองไป๋จิ้งเหอรอจนสาวใช้ทำความสะอาดร่างกายของหมิงเสวี่ยเสร็จจึงอุ้มร่างบางนั้นกลับไปยังห้องนอน ร่างกายนางสั่นเทายิ่งจนไป๋จิ้งเหอต้องกอดนางเอาไว้แนบอก ไม่กล้าปล่อยแม้เพียงชั่วเสี้ยวเวลา"เหอ...เหอหลาง" ร่างเล็ก
"ผู้ชายเจ้าค่ะ" จื่อหนี่ตอบผ่านๆ เพราะนางกำลังคว่ำตัวทารกน้อย มือบางตบหลังร่างจ้อยเพื่อกระตุ้นให้ทารกน้อยหายใจเสียงเจ้าตัวเล็กร้องเสียงดังลั่น ยังความปีติยินดีให้กับทุกคนในห้องนั้น แม้แต่ไป๋จิ้งเหอที่ได้แต่ยืนนิ่งมองดูอยู่ข้างๆ"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? ฮูหยิน" จื่อหนี่เช็ดหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของสาวน้อย ก่อนมองหน้าท้องที่ยังนูนกลมอยู่ "ยังมีอีกคนนะ ไหวไหม?""..." หมิงเสวี่ยรู้สึกใจหายน้อยๆ ...เป็นแฝดจริงๆ ด้วย "ไหว ข้าไหว"มือน้อยจับลงที่ท้อง รู้สึกได้ถึงแขนขาที่เปะป่ายมาโดนมือนาง ไม่ไหวก็ต้องไหว ...พี่ชายเจ้าออกมาแล้ว เจ้ารออีกนิดก็แล้วกันนะไป๋จิ้งเหอเดินมานั่งลงเคียงข้างอย่างเงียบๆ หมิงเสวี่ยหายใจแรง ทำท่าจะหันไปด่า แต่พอมองหน้าขาวซีดของเขาก็ด่าไม่ลง "เข้ามาทำไม รออยู่ข้างนอกก็ดีแล้ว" นางว่าพลางถอนใจและเอนศีรษะพิงไหล่เขา"ข้าเป็นห่วงเจ้า" เขาเกลี่ยปอยผมที่เปียกเหงื่อนั้น "ข้าอยากเห็นเจ้าปลอดภัยด้วยตาของข้าเอง""ท่านอยากเห็นทายาทของท่านเท่านั้นล่ะ" หมิงเสวี่ยหลับตาอย่างอ่อนแรง...ขอพักสักนิดเถอะ นางจะไม่ไหวอยู่แล้วไป๋จิ้งเหอจนใจจะตอบโต้ ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดสิ่งใด มันก็ไม่มีค่าอะไร
ตอนนี้ไป๋จิ้งเหอมีคำถามมากมายอยากจะถาม แต่อาการยังไม่สู้ดีนักจึงได้แต่เก็บไว้ก่อน เขาลุกขึ้นและนั่งร่วมโต๊ะกับผู้เฒ่าซาน "เจ้าบาดเจ็บเพียงนี้ ถึงมิได้กลับมาอยู่ดูแลฮูหยินน้อยของเจ้าสินะ""...ขอรับ""แล้วเจ้าบอกให้นางรู้หรือไม่?""ข้าไม่อยากให้นางกังวลก็เลย..."ผู้เฒ่าซานพยักหน้า "เอาเถอะ เช่นนี้ข้าก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องระหว่างพวกเจ้า คนผูกควรเป็นผู้แก้เอง"ไป๋จิ้งเหอประสานมือ "ขอบพระคุณอาจารย์อาที่เข้าใจขอรับ""อาจารย์อา..." เฉี่ยวเหมยพูดขึ้น "...เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ล่ะขอรับ""ข้าจะเดินทางกลับสำนัก ระหว่างทางได้ประมือกับศัตรูจนได้รับบาดเจ็บ ยังดีที่ได้ฮูหยินน้อยกับแม่นางจิงช่วยเหลือเอาไว้""อ้อ ที่แท้เรื่องราวเป็นเช่นนี้" ไป๋จิ้งเหอถอนใจ "จริงสิ ตอนที่ข้ามาถึง ศิษย์น้องพูดถึงเรื่องมีคนมาทำร้ายฮูหยินของศิษย์ เรื่องราวเป็นเช่นไรหรือขอรับ?""ฟังจากที่ตงเทียนเล่า คนผู้นั้นเป็นคนรู้จักของฮูหยินน้อย แต่เขามาข่มขู่เอาเงินจากนาง พอไม่สำเร็จก็พยายามทำร้าย ข้าให้ตงเทียนตามไปจึงช่วยเหลือได้ทัน"คำพูดนั้นเสียดแทงหัวใจของไป๋จิ้งเหอยิ่ง ในขณะที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขาอย่างยากลำบากและเผชิญกับอัน