แชร์

ตอนที่2 ใจจดใจจ่อ

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-24 22:02:19

ซูจิ้งรู้สึกว่าลำคอของตนตีบตัน นางไม่สามารถเอ่ยวาจาตัดรอนองครักษ์หนุ่มได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ แม้จะไม่แน่ใจว่าตนเองคิดกับเขาเช่นไร แต่รู้สึกปวดร้าวเหลือเกินที่ได้ยินชายหนุ่มพูดเช่นนั้น

“ผู้น้อยไม่ทราบเจ้าค่ะ”

คำตอบของซูจิ้งทำให้ซิ่นเฉิงมั่นใจว่านางเองก็มีความรู้สึกให้กับเขาเช่นเดียวกัน องครักษ์หนุ่มพลันกระชับมือแล้วขยับเข้าใกล้นาง นัยน์ตาสีเข้มจดจ้องดวงหน้าสตรีตรงหน้าอย่างแน่วแน่

“ข้ายังมีสิทธิ์ใช่หรือไม่” ซิ่นเฉิงเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“ท่านพูดอันใด ผู้น้อยไม่เข้าใจเจ้าค่ะ” ซูจิ้งหันหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาคมนั่น หัวใจเต้นระรัวขึ้นทุกขณะ

“หากเจ้ายังคงลังเลไม่แน่ใจ แสดงว่าแท้จริงแล้วเจ้าก็ไม่ได้รังเกียจข้า เช่นนี้แล้วให้โอกาสข้าคบหากับเจ้าดูสักครั้งได้หรือไม่ และเพื่อไม่ให้มีผู้ใดมาครหา ข้ายินดีหมั้นหมายกับเจ้าไว้ก่อน” ซิ่นเฉิงดวงตาเป็นประกาย น้ำเสียงเข้มขรึมเจือความตื่นเต้นยินดีอยู่รางๆ

“มะ...ไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านเลิกพูดเรื่องนี้เถิด คุณชายรองไม่มีวันยอมให้ข้าหมั้นหมายกับท่านแน่” ซูจิ้งเบิกตากว้างด้วยใจหวาดกลัว นางไม่อยากเห็นองครักษ์ผู้นี้ตายอย่างอนาถ

“ไหนเจ้าบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเขา เหตุใดต้องหวาดกลัวนักเล่า” ซิ่นเฉิงขมวดคิ้วมุ่น หากนางไม่ใช่อนุบ่าวของกุนซือหนุ่ม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาถ้านางต้องการสานสัมพันธ์กับตน

“คุณชายรองไม่ชอบท่าน สั่งข้าเอาไว้ไม่ให้ยุ่งกับท่าน” สาวน้อยตอบเสียงเบา

“ข้าไม่สนใจ เจ้ามาอยู่จวนฉินอ๋องในฐานะสินสมรสของหวางเฟย ยามนี้ถือว่าเจ้าเป็นคนของจวนอ๋อง เยี่ยนกุนซือไม่มีสิทธิ์อันใดมาสั่งการเจ้าอีกแล้ว”

“แต่...คุณชายรองไม่มีทางสนใจกฎพวกนี้ เขาสามารถทำได้ทุกอย่างหากต้องการ ในเมื่อเขาบอกว่าเกลียดท่าน ก็จะไม่มีวันยอมเลิกราเด็ดขาด ข้าไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ท่านต้องพบกับเรื่องไม่ดีในภายหลัง”

“ไม่เห็นจะยาก เราทั้งคู่ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับผู้ใดก็สิ้นเรื่อง หากไม่มีข่าวเล็ดลอดไปถึงหูของท่านกุนซือ เจ้ากับข้าก็สามารถคบหากันได้โดยสะดวก เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ข้าจะขอให้ท่านอ๋องออกหน้าให้ เพียงเท่านี้ข้าก็รับผิดชอบเจ้าได้แล้ว”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญ หากท่านจะทำเช่นนี้เพียงเพื่อแสดงความรับผิดชอบเหตุการณ์ในวันนั้น ข้าก็ไม่ต้องการ” ซูจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง นางไม่พอใจนักที่ทั้งเยี่ยนจิ้นหลิงและซิ่นเฉิงต่างเอาแต่พูดเรื่องความรับผิดชอบ ราวกับนางเป็นเพียงภาระที่พวกเขาต้องจัดการ

พอได้ฟังองครักหนุ่มก็ยิ้มที่มุมปาก รู้สึกหวานล้ำในใจ ที่แท้ซูจิ้งก็คิดมากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเขาก็ควรพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา

 “หากข้าไม่ชอบเจ้า ก็คงไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”

“ท่านหมายความว่าอย่างไรนะเจ้าคะ” ซูจิ้งมองหน้าเขาอย่างตกตะลึง

 “หมายความว่า ซิ่นเฉิงชอบจิ้งเอ๋อร์ ขอโอกาสให้ข้าได้พิสูจน์ความจริงใจสักครั้งเถิดนะ” เขาดึงร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอดแล้วโน้มศีรษะลงแตะจุมพิตบนไรผมหอมกรุ่น

“ท่านองครักษ์ซิ่น...” เสียงนางเบาจนหายไป หัวใจเต้นระส่ำไม่อาจควบคุม ยามนี้บุรุษผู้ชิงจูบแรกจากนางไปกำลังอ้อนวอนขอความรักกับตนเองอยู่

“รับปากเถิด”

“คือว่า...ข้า...” ซูจิ้งอึกอัก

“จิ้งเอ๋อร์...ได้โปรด” องครักษ์หนุ่มเว้าวอน มือเชยคางงสาวน้อยขึ้น เขาสบนัยน์ตาหวานของสตรีตรงหน้าด้วยประกายที่เต็มไปด้วยความวาดหวัง

“กะ...ก็ได้เจ้าค่ะ” ซูจิ้งตอบออกไปราวกับคนละเมอ นางไม่สามารถต้านทานสายตานั้นได้อีกต่อไป

ซิ่นเฉิงโน้มศีรษะลงมาช้าๆ จนหน้าผากของพวกเขาชนกัน ทั้งสองสบนัยน์ตากันเนิ่นนาน ลมหายใจอุ่นรดดวงหน้าของแต่ละฝ่าย ชายหนุ่มค่อยๆ เลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นรั้งท้ายทอยของนางเอาไว้ อีกมือหนึ่งโอบกระชับให้เรือนกายหอมเข้าแนบชิด จนในที่สุดริมฝีปากบางก็ครอบครองกลีบปากสีกุหลาบอย่างสมบูรณ์ เขาบรรจงจุมพิตอย่างทะนุถนอม ไม่ดุดันรุนแรงเท่าตอนที่อยู่ในสวนตะวันออกของวังหลวง

ซูจิ้งเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไป สัมผัสครานี้ของชายหนุ่มช่างวาบหวามยิ่งนัก ลิ้นร้อนค่อยๆ ล่อหลอกหยอกเย้าให้นางเผยอริมฝีปากรับ ลิ้นนางเกี่ยวกระหวัดรับรสบุรุษช้าๆ สร้างกระแสรัญจวนยิ่งกว่าครั้งก่อน

ครั้นเห็นว่าตนเองจูบจนนางหายใจแทบไม่ทัน ซิ่นเฉิงจึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย เขาต้องการจะหยุดเวลาไว้เหลือเกิน

‘นี่หรือคือความรู้สึกยามรักชอบสตรีสักคน’

ครานี้ซิ่นเฉิงพอจะเข้าใจผู้เป็นนายแล้ว เพราะเหตุนี้นี่เองท่านอ๋องจึงได้ยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อให้ได้อยู่กับหวางเฟย

“ซูจิ้ง ข้าสัญญาว่าจะดีต่อเจ้า” องครักษ์หนุ่มกระซิบคำมั่น นัยน์ตาสีดำดุจราตรีจ้องจดจ้องนางอย่างแน่วแน่ “ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับสตรีใดมาก่อน เจ้าทำให้ข้านึกอยากมีใครสักคนเคียงข้างกาย”

“บุรุษก็ปากหวานเช่นนี้ทั้งนั้น แต่ความจริงเป็นเช่นไร กว่าสตรีอย่างเราจะล่วงรู้ก็ชอกช้ำใจไปเสียแล้ว” นางกล่าวดัก

“ข้าไม่ใช่บุรุษเช่นที่เจ้าหวาดกลัว” ซิ่นเฉิงกระซิบพลางกระชับอ้อมแขนขึ้นเพื่อให้นางมั่นใจ

“ขอให้จริงดังว่า มิเช่นนั้นข้าจะขอให้ท่านอ๋องสับท่านแล้วโยนลงบ่อไปซะเลย”

“ผู้หญิงของข้า...ช่างโหดร้ายเสียจริง” องครักษ์หนุ่มกลั้วหัวเราะ สาวน้อยยังช่างเจรจา เวลานางพูดประชดประชันก็แลดูน่ารักมาก

“ท่านก็ควรกลัวเอาไว้ จะได้ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทาง”

“ซิ่นเฉิงกลัวแล้วขอรับ” องครักษ์หนุ่มหยอกเย้าสตรีตัวน้อยแล้วก้มลงจุมพิตบนพวงแก้มสีชมพูระเรื่อของนางอีกทีหนึ่ง ผิวพรรณของซูจิ้งจัดว่างามมาก เนียนนุ่มและหอมหวานไม่แพ้นางกำนัลชั้นหนึ่งในวังหลวง มือของนางไม่ได้สากด้านเช่นสาวใช้ทั่วไป แสดงว่าจวนไคกั๋วกงดูแลนางเป็นอย่างดี

พอเข้าใจกันแล้วซิ่นเฉิงก็ยังไม่ยอมปล่อยซูจิ้งออกจากอ้อมกอดง่ายๆ เขาประทับจุมพิตลงตรงใบหูของดรุณีน้อยแล้วขบเบาๆ ร่างบางสั่นสะท้าน เขาได้ยินเสียงหัวใจของนางเต้นถี่จึงรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าตน

“จิ้งเอ๋อร์...” ชายหนุ่มกระซิบเรียกชื่อนางเบาๆ แล้วครอบครองกลีบปากสีชมพูอีกครั้งหนึ่ง

ซิ่นเฉิงลิ้มรสจุมพิตอันแสนหวานมิรู้เบื่อ ซูจิ้งจิตใจล่องลอยยอมให้เขาทำตามใจ จนในที่สุดนางก็เรียนรู้ที่จะจูบตอบบุรุษ

ทั้งสองจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม ซูจิ้งลืมสิ้นซึ่งคำเตือนของเยี่ยนจิ้นหลิง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่82 เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

    “กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จิวจื่อคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นเสียงดังปึ้ก แต่ฉินหวางเฟยไม่แม้แต่จะมองดู“พอเถิด หากเจ้าตายอยู่ตรงนี้ เกรงว่าท่านอ๋องจะต้องเสียเวลาหาคนมาทำงานแทน” เยี่ยนเยว่ฉีพูดเปลี่ยนท่าทีกลับไปเป็นสบายๆ ดังเดิม“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”“เรารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด จิวจื่อ...” น้ำเสียงหวานปานระฆัง ทว่ากลับทำให้ผู้ฟังรู้สึกเย็นยะเยือกจนขนลุกหลังจากนั้นจิวจื่อก็รีบรายงานถึงสิ่งที่พระชายาฉินอ๋องต้องการรู้ทั้งหมดอย่างไม่อิดออด เขาถึงออกมาจากห้องหนังสือในเรือนจันทราได้ ครานี้พ่อบ้ายหนุ่มซาบซึ้งแล้วว่าบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นไม่ใช่สตรีอ่อนแอทั่วไป ที่แท้ก็คือนางเสือดีๆ นี่เองในที่สุดพ่อบ้านใหญ่จวนฉินอ๋องก็ลงความเห็นว่าหวางเฟยเหมาะสมกับท่านอ๋องราวกิ่งทองใบหยกวันนี้เองเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ในราชสำนักมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายตำแหน่งขุนนาง จอหงวนทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋นได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงเยี่ยนหยางจงที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่ทัพ คุมกองทัพพยัคฆ์ภายใต้ธงสัญลักษณ์ของฉินอ๋อง ยามนี้จึงเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าตระกูลเยี่ยนมีอำนาจมั่นคงแข็งแกร่งจึงมีขุนนางมากมายพ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่81 ต้องพิษร้าย

    มู่เลี่ยงหรงลงความเห็นว่าซูจิ้งอาจพบเห็นคนร้ายที่กำลังทำร้ายนางกำนัลซุน คนร้ายจึงคิดแผนสร้างความวุ่นวายเพื่อจะได้มีเวลาหนีออกจากจวน จนทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น ซิ่นเฉิงย้อนคิดถึงวันวานจึงได้เข้าใจการกระทำของเยี่ยนจิ้นหลิงทั้งหมด ที่บุรุษผมสีเงินกีดกันเขาให้ห่างไกลจากซูจิ้งคงเป็นเพราะล่วงรู้ลิขิตสวรรค์ ว่านางต้องตายด้วยน้ำมือของตนหากทั้งสองไม่ดื้อดึงที่จะคบหากัน หญิงสาวคงไม่ต้องไปที่เรือนพัก และคงไม่ถูกเขาสังหาร“จิ้งเอ๋อร์ ข้าขอโทษที่ทำร้ายเจ้า ชาตินี้ทั้งชาติข้าจะมีเจ้าเป็นภรรยาเพียงคนเดียว หากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้กราบไหว้ฟ้าดิน อยู่กินกันจนแก่เฒ่า ยามนี้เจ้าจากไปก่อน แต่อีกไม่นานหรอก อีกไม่นาน ข้าจะตามเจ้าไป”ชายหนุ่มนั่งคร่ำครวญอยู่หน้าหลุมศพหญิงอันเป็นที่รักท่ามกลางลมหนาวที่พัดผ่าน...หลังเกิดเหตุร้ายในจวนฉินอ๋อง การรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น ผู้คนที่มาค้าขายหรือติดต่องานล้วนถูกตรวจตราอย่างละเอียด แม้แต่คนในก็มีกฎห้ามไม่ให้เดินไปไหนมาไหนเพียงลำพัง บรรยากาศยังคงรายล้อมไปด้วยความตึงเครียดเยี่ยนเยว่ฉีขมวดคิ้วเมื่ออ่านรายงานของพ่อบ้านใหญ่ เนื่องจากตรวจพบว่ามีการเ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่80 เป็นเจ้าได้อย่างไร

    ฉับพลัน เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังออกมาจากในเรือนพักอันมืดมิด ซิ่นเฉิงหัวใจหล่นวูบเมื่อคิดว่าคนรักกำลังมีอันตราย ผู้ใดกันกล้าเข้าไปทำร้ายนางถึงในเรือนพักหัวหน้าองครักษ์ของฉินอ๋องช่างไม่กลัวตายชายหนุ่มพุ่งตัวไปที่ประตูแล้วใช้เท้าถีบเต็มแรง เมื่อเข้าไปก็แลเห็นคนร้ายคลุมหน้าในชุดสีดำกำลังยืนหันหลังให้เขาในความมืด ในมือถือดาบยาวเล่มหนึ่ง ส่วนที่พื้นมีร่างของผู้หญิงนั่งกรีดร้องด้วยความตกใจ ในขณะที่คนร้ายกำลังยกดาบขึ้นนั้น ซิ่นเฉิงทะยานเข้าไป ง้างมือแล้วฟันกลางหลังคนในชุดดำทันที“กรี๊ดดด...” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของคนร้ายกลับละม้ายเสียงร้องของซูจิ้งไม่มีผิด ซิ่นเฉิงจึงรีบถลาเข้าไปเปิดผ้าคลุมหน้าของคนในชุดดำที่ล้มอยู่บนพื้น แสงสลัวจากคบไฟที่นอกหน้าต่างสะท้อนใบหน้าหญิงคนรัก“จิ้งเอ๋อร์! ไม่...ไม่จริง เป็นเจ้าได้อย่างไร” ความตระหนก หวาดหวั่น และความเสียใจถาโถม มือของซิ่นเฉิงสั่นเทา ใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาลงมือทำร้ายคนรักของตนเอง“พะ...พี่เฉิง” ซูจิ้งพูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ตะ...ตาม...หะ...หวาง...” เสียงของนางเริ่มขาดห้วง“อะไรนะ หวาง...หวางเฟยหรือ” เขาถามย้ำ ซูจิ้งใ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่79  ห้องหนังสือ จวนฉินอ๋อง

    การเดินทางอันยาวนานสิ้นสุดลง ฉินอ๋องกับหวางเฟยกลับมาถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยครั้นกลับมาถึงจวน มู่เลี่ยงหรงตะลีตะลานเขียนรายงานเรื่องพระชายาเอกตั้งครรภ์แล้วให้คนนำไปใหไทเฮา ส่วนตัวเองรีบแต่งกายเข้าวังไปพบฮ่องเต้เพื่อกราบทูลเรื่องนี้โดยตรงเมื่อทราบข่าว ไทเฮาจึงไม่มีเหตุให้ส่งหญิงงามเข้าจวนฉินอ๋องเพิ่ม หนำซ้ำยังรับปากกับเขาว่าหากเยี่ยนเยว่ฉีคลอดซื่อจื่อได้ พระนางจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามเรื่องเรือนหลังของจวนฉินอ๋องอีก ทำให้ความตึงเครียดของสองสามีภรรยาลดน้อยถอยลงอย่างมากวันรุ่งขึ้น ข่าวลือเรื่องฉินอ๋องไปขอบุตรไกลถึงเมืองเวิ่นเซียนจนได้ผล ตอนนี้ฉินหวางเฟยที่ตั้งครรภ์แล้ว ก็ดังไปทั่วเมืองหลวง ครั้นพบท่านอ๋องเหล่าขุนนางต่างเข้ามากล่าวแสดงความยินดีเมื่อชาวบ้านเข้าใจว่าการไปขอพรกับหินศักดิ์สิทธิ์ได้ผลจริงๆ บรรดาตระกูลที่ยังไม่มีบุตรชายสืบทอดก็แห่แหนกันไปยังเมืองเวิ่นเซียน ส่วนบ่อนการพนันต่างๆ ก็เริ่มเปิดรับแทงเรื่องฉินอ๋องจะได้บุตรชายหรือบุตรสาวแล้ว ห้องหนังสือ จวนฉินอ๋องมู่เลี่ยงหรงคิดว่าต้องรีบสะสางงานเป็นการใหญ่ แต่สิ่งที่พบทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ เพราะเอกสารไม่ได้กองท่วมโต๊ะอย่างที่คิดเอาไว

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่78 ผลของการดื้อดึง

    “เพราะข้าเคยคิดแบบเจ้ามาก่อนยังไงล่ะ ซึ่งความคิดแบบนี้มันเป็นหายนะชัดๆ รู้หรือไม่เล่าว่าบุรุษขี้เบื่อมากเพียงใด หากเรายังเอาแต่อายสุดท้ายเขาจะไปมีอนุ ด้วยเหตุนี้ภรรยาเอกอย่างพวกเราจึงต้องหาวิธีรับมือ” เยี่ยนเยว่ฉีทำหน้าจริงจัง “ไว้ข้าจะสอนเจ้าเอง”“หวางเฟยได้โปรดชี้แนะบ่าวด้วย” ซูจิ้งถึงกับคุกเข่าคารวะ“วางใจได้ รับรองว่าพ่อองครักษ์เนื้อหอมไปไหนไม่รอดแน่” ระหว่างที่นายบ่าวกำลังสนุกสนานกับการอ่านหนังสือนิยายเล่มนั้น มู่เลี่ยงหรงที่เตรียมตัวแจ้งข่าวเรื่องการตั้งครรภ์ของนางก็เดินเข้ามาในห้อง เขามั่นใจว่าตอนนี้กลิ่นกายของเขาสะอาดดี แม้แต่แม่เสือก็อิ่มแล้วด้วยคงจะยังไม่แผลงฤทธิ์มู่เลี่ยงหรงหย่อนกายลงนั่งข้างๆ เยี่ยนเยว่ฉี เมื่อเห็นว่านางไม่มีท่าทีขยะแขยงตนเองอย่างเมื่อเช้าก็เบาใจ เขาค่อยๆ ดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิตที่พวงแก้ม“อ้ายเฟย อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”“อืม ข้ารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว” ความจริงแล้วเยี่ยเยว่ฉีรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่าเมื่อเช้า จึงไม่โวยวายและปล่อยให้เขาง้องอนอย่างเต็มที่ เพราะก็รู้สึกผิดอยู่บ้างที่อาละวาดขว้างปาข้าวของ“ข้ามีข่าวดีจะบอกเจ้า”“หากเป็นเรื

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่77 มีอันใดแปลกเล่า

    นางโมโหที่กินเต้าหู้ไม่อิ่ม มิหนำซ้ำยังเหม็นขี้หน้าสามียิ่งนัก“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” มู่เลี่ยงหรงตวาด ขณะที่ตัวเองพยายามเอามือปัดข้าวของออกไป“ข้าไม่หยุด จนกว่าท่านจะออกไป” เยี่ยนเยว่ฉีลงจากเตียงได้ก็วิ่งไปยังกองข้าวของที่ถูกเตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ นางเดินลมปราณแล้วจัดการซัดทุกอย่างออกไปอย่างไม่บันยะบันยัง“ให้ตายเถอะ เจ้าเลิกโมโหสักที” มู่เลี่ยงหรงโกรธก็จริง แต่กลับเริ่มรู้สึกหวาดกลัวความเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้มากกว่า หรือว่าภรรยาของเขาจะโดนผีป่าสิง‘ให้ตายเถอะ เยี่ยนจิ้นหลิงก็ไม่อยู่ที่นี่ แล้วใครจะไล่ปีศาจให้นางเล่า’เยี่ยนเยว่ฉีที่กำลังอาละวาดเริ่มรู้สึกหมดเรี่ยวแรง นางหยุดขว้างปาทุกสิ่งเพราะรู้สึกเวียนศีรษะ ภาพที่เห็นก็เริ่มลางเลือนจนท้ายที่สุดสติก็ดับวูบ มู่เลี่ยงหรงปราดเข้าไปรับร่างบางเอาไว้ได้ทัน รีบอุ้มนางกลับไปที่เตียงด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดแสน จากนั้นจึงตะโกนเรียกเหล่านางกำนัลให้มาจัดการเก็บข้าวของ และให้ไปตามหมอหลวงมา“เสี่ยวเยว่ ข้าขอโทษที่ยั่วโมโหเจ้า อย่าเป็นอะไรไปนะ” มู่เลี่ยงหรง กอดเยี่ยนเยว่ฉีไว้ไม่ปล่อย เขาพึมพำเรียกนางไม่หย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status