แชร์

บทที่ 7. หงุดหงิด

ผู้เขียน: นรินทร์ลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 03:04:20

ดีนสังเกตแมวของตนก็รู้ทันทีว่ามันคงไม่ชอบขึ้นรถเท่าไหร่นัก จึงรีบเร่งขับไปยังคลินิกรักษาสัตว์ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วพามันเข้าไปหาสัตวแพทย์ตามประสาคนเลี้ยงสัตว์ มองดูเจ้าสีนิลเซื่องซึมก็อดเป็นห่วงไม่ได้

            “มันจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับหมอ?”

            “ไม่หรอกค่ะ น้องอาจจะแค่ตื่นรถเลยซึมเป็นธรรมดา” ผู้ช่วยสัตวแพทย์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม สายตาที่มองดีนนั้นหวานเยิ้มราวกับเจอคนถูกใจ ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ในเมื่อเขาก็ไม่ใช่คนหน้าไม่ดี แม้นิลมณีจะรับรู้ทุกอย่างแต่ตอนนี้ไม่มีกระจิตกระใจสนใจอะไรแล้ว เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนจนไม่อยากจะลุกไปไหนราวกับคนเมาค้าง

            “นั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวให้คุณเหมอมาฉีดวัคซีนให้”

            “ครับ แต่ว่าเจ้าสีนิลอาจจะ...”

            “คะ?”

            “เอ่อ...มันน่าจะดุนิดหน่อยน่ะครับ” ดีนเอ่ยขึ้นพลางปรายสายตามองเจ้าสีนิลที่นอนหงอยอยู่ ผู้ช่วยสัควแพทย์ยิ้มรับบางๆก่อนจะพยักหน้า

            “ไม่ต้องห่วงนะคะ ถึงมือหมอแล้วน้องจะไม่เป็นไรค่ะ”

            “...ครับ”

            “คุณใจดีจังเลยนะคะ ดูรักเจ้าเหมียวน่าดู”

            “ก็...มั้งครับ” ดีนตอบพลางยิ้มแห้งๆ เขาไม่รู้วิธีเลี้ยงมันด้วยซ้ำ แต่เขาสงสารที่มันบาดเจ็บอยู่ซ้ำยังนอนตากฝนเลยเก็บมันมาเลี้ยงทั้งที่ในชีวิตไม่เคยคิดจะเลี้ยงสัตว์ตัวไหนเลย แต่นี่เพราะความสงสารจึงได้เสียเงินกับของเล่นและอื่นๆมากมายที่เกี่ยวกับแมวเป็นหมื่นๆ แต่แมวของเขานั้นแตกต่างจากแมวทั่วไปตรงที่มันไม่สนใจเล่นอะไรสักอย่างที่เขาซื้อมาราวกับมีความคิดเป็นของตัวเอง...จนแทบจะเหมือนมนุษย์อย่างเขาอยู่แล้ว

            “อย่าดื้อกับหมอนะสีนิล” ดีนโน้มตัวไปพูดกับเจ้าแมวเหมียวที่นอนซึมอยู่ด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเป็นใย นิลมณีในร่างสีนิลลืมตาขึ้นมองเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆสับสนปนเปไปหมดจนใจเต้น แต่เธอก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอ..กำลังเมารถอยู่ถึงได้รู้สึกแบบนี้...ซึ้งในความรักสัตว์ของเขา...

            ...หมอ...หม๊ออออออ...

            เงี๊ยววววว!!!

            “เจ็บแป๊บเดียวน่าเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เจ้าแมวสีดำตรงหน้าร้องขู่เขาและดีดดิ้นไม่หยุดหลังที่เห็นเข็มฉีดยาในมือของเขา ผู้ช่วยก็จับล็อกเจ้าเหมียวแมวไว้แน่นจนเท้าหน้าเล็กๆของมันไม่สามารถขยับได้ เท้าหลังได้แต่เพียงกุยกายอยู่บนเขียงหรือเคาน์เตอร์สแตนเลสสำหรับการรักษา

            ...เจ็บนะ!!!... เข็มแหลมๆทิ่มแทงเข้าไปยังเนื้อหนังแก้มก้นเจ้าแมวสีนิล ขนสีดำของมันลุกชันขึ้นพลางร้องเสียงแมวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ในใจแอบนึกแค้นเคืองเจ้ามนุษย์ที่พาเธอมาฉีดยาแบบนี้

            “เรียบร้อยแล้ว เด็กดีมากเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มพูดพลางเอามือลูบหัวมันเบาๆ ก่อนที่ผู้ช่วยจะรีบพามันเข้ากระเป๋าเป้พกพาแมวเพราะกลัวว่ามันจะหันมาข่วนอีกครั้ง แล้วรีบนำมันออกไปคืนเจ้าของ

            “เรียบร้อยแล้วนะคะ” ผู้ช่วยสาวเดินเอากระเป๋าเป้พกพาแมวไปให้ดีนเองกับมือพลางยิ้มหวานส่งให้ ดีนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นรับกระเป๋าเป้นั้นด้วยรอยยิ้มบางๆตามมารยาท

            “ขอบคุณครับ ชำระเงินเรียบร้อยแล้วนะครับ” ดีนเอ่ย

            “ค่ะ...เอ...อยากรู้จังเลยว่าเจ้าสีนิลตัวนี้มีแม่หรือยังนะ” ผู้ช่วยสาวเอ่ยพลางบิดตัวเขินและก้มมองเจ้าแมวสีดำที่อยู่ในกระเป๋าก่อนจะดึงสายตาช้อนมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ดีนเข้าใจดีว่าเธอหมายถึงอะไร

            “ไม่มีหรอกครับ...แมวตัวนี้มีแค่พี่ชายก็พอ” ดีนเอ่ยก่อนจะผงกหน้าเป็นเชิงขอตัวก่อนแล้วเดินหันหลังจากไป เล่นเอาผู้ช่วยสาวมองตามตาละห้อยอย่างนึกเสียดาย

            ชายหนุ่มที่ชื่อว่า ดีน แม้จะเป็นซีอีโอของบริษัทใหญ่โตแต่ก็เลือกที่จะเช่าคอนโดเล็กๆใกล้กับที่ทำงาน ใช้ชีวิตอย่างประหยัดมัธยัสถ์และเป็นคนที่ค่อนข้างจะดูเข้าถึงยาก เย็นชาไปเสียหน่อย แอบเจ้าชู้นิดๆเวลาที่เจอผู้หญิงที่ถูกใจอย่างว่าที่เลขาคนใหม่ที่กำลังจะเข้ามาทำงานให้วันมะรืน แต่สำหรับคนอื่นๆในบริษัทจะมองว่าเขานั้นโหดร้ายมากในเรื่องงานจึงไม่ค่อยมีใครชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่แม้จะหล่อลากดินแค่ไหนก็ตาม

            “ถึงบ้านแล้วเจ้าสีนิล” ดีนเอ่ยพร้อมกับปล่อยเจ้าสีนิลออกจากกระเป๋าเป้ แต่ด้วยความคับแค้นขุ่นเคืองใจที่มีอยู่ก่อนหน้า เรื่องที่เขาพาเธอไปฉีดยาโดยไม่ถามความสมัครใจ...ถึงเธอจะพูดภาษาคนไม่ได้ในร่างนี้ก็เถอะ แต่มันก็เคืองอยู่ดี

            “เฮ้ย!! เอาอีกแล้วนะ!” ทันทีที่กระเป๋าเปิดออกเจ้าสีนิลก็กระโดดข่วนไปที่ดั้งโด่งสวยของเขาทันทีจนเป็นรอยเล็บหนึ่งขีดแล้วเดินสะบัดตัวเชิดไปทางอื่นแทบจะทันที ดีนทำได้เพียงร้องเสียงหลงมองเจ้าแมวจอมหยิ่งแถมยังดื้อรั้นกับเขาที่เก็บมันมาเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แต่กลับถูกข่วนราวกับชังขี้หน้าอย่างไม่ใยดีเสียอย่างนั้น

            “เฮ้อ...” ดีนทิ้งตัวลงนั่งถอนหายใจพลางเอามือลูบจมูกตัวเองปอยๆ นิลมณีในร่างเจ้าแมวสีนิลเหลียวมองเขาพลางคิดในใจว่าเธอเล่นแรงเกินไปหรือเปล่าที่ข่วนไปที่ใบหน้าหล่อๆของเขาแบบนั้น นึกๆแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นจึงเดินเข้าไปหาคลอเคลียที่ขาเขาราวกับกำลังขอโทษ

            เหมี๊ยววว... ไม่วายยังทำหน้าออดอ้อนร้องเสียงน่ารักมองเขาตาแป๋ว ดีนหลุบสายตามองเจ้าแมวตัวเล็กนิ่งไม่แสดงสีหน้าใดๆ จนเจ้าแมวสีนิลร้องอ้อนเขาอีกครั้งอีกทั้งยังเอาขาหน้าไปแตะที่ขาของเขา

            เหมียว

            “ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย” ดีนเอ่ย

            ....ไม่ได้ตบหัวสักหน่อย แค่ข่วนหน้าเบาๆเองน่านุด(นุด=มนุษย์).... เธอคิดอย่างนึกขำแม้ว่าจะนั่งทำหน้าบ้องแบ๊วมองตาเขาปริบๆอย่างใสซื่อ แต่ทว่ามุมปากตรงหนวดกระตุกขึ้นราวกับว่ามันกำลังยิ้ม ดีนเลิกคิ้วหลุบตามองท่าทางของเจ้าแมวตัวน้อยก่อนจะคว้าร่างมันขึ้นมามองใกล้ๆ

            “ฉันเห็นนะว่าเธอยิ้มน่ะเจ้าสีนิล ฉันหล่อจนอดใจไม่ไหวเลยหรือไงถึงได้ฝากรอยไว้แบบนี้” พูดกับเจ้าแมวจอมหยิ่งของเขาอย่างใจอ่อน ยังไงก็โกรธสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าแมวไม่ลงอยู่ดี

            ...เฮอะๆ คนอะไรหลงตัวเองชะมัด แถมยังบ้าคุยกับแมวได้ทุกวัน... คิดในใจแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องตอบรับอะไรออกไป ก่อนที่เขาจะวางเจ้าแมวเหมียวลงแล้วลุกขึ้น

            “วันนี้ฉันมีนัดนะ อาจจะกลับเข้ามาดึกหน่อย...จะวางอาหารไว้ให้แล้วกัน” ดีนเอ่ยพลางเปิดตู้เย็นราวกับหาอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะหยิบเนื้อปลาแซลม่อนขึ้นมา จัดการคว้ากระทะอย่างดีมากริลเนื้อปลาให้เจ้าแมวเหมียวอย่างใส่ใจ เจ้าแมวสีนิลมองดูการกระทำของชายหนุ่มด้วยตาเป็นประกายอย่างลืมตัว

            “มีมองเข้า ชอบล่ะสิ” ดีนเอ่ยพลางปรายสายตาหลุบและยกยิ้ม

            เจ้าแมวสีนิลมองดูอาหารจานโปรดที่ตนชื่นชอบ เพียงแค่ไม่มีใครรู้เพราะเธอไม่เคยพูดกับใครที่ไหน มันบังเอิญที่เขาซื้อมาตรงใจเธอพอดิบพอดีก็เท่านั้น

            “มันร้อนอยู่อย่าพึ่งกินนะ” ดีนเอ่ยพลางยกจานเนื้อปลาแซลมอนวางลงบนพื้นห้อง เอื้อมมือไปลูบหัวเจ้าแมวสีนิลเบาๆ ก่อนจะหยัดกายเต็มความสูงเดินหายเข้าไปในห้อง

นิลมณีในร่างเจ้าสีนิลนั่งมองเนื้อปลาอยู่อย่างนั้นเพื่อรอให้มันเย็นอย่างที่เขาพูดเตือนไว้ ไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มจะกำลังทำอะไรและไปที่ไหน สายตาจ้องมองอาหารตรงอย่างใจจดใจจ่อ จนเจ้าของห้องเดินหายลับออกจากห้องไป..

เจ้าแมวน้อยนอนขุดคู้เกยขาหน้าอยู่ตรงโซฟาที่เดิมที่เคยนอนประจำ เสียงปลดล็อกประตูห้องทำให้มันกระดิกหูเล็กน้อยทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่ ก่อนจะชูคอเหลียวมองผู้ที่เข้าห้องมาด้วยความอยากรู้ตามสัญชาตญาณ

ชายหนุ่มใบหน้าที่คุ้นเคยเดินเข้าห้องมาพร้อมกับหญิงสาวในชุกเดรสเกาะอกสั้นสีดำรัดรูป เกาะกอดกันเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มนัวเนียกันเมื่อปิดประตูห้องลง

กลิ่นเหล้าคละคลุ้งปะทะเข้าที่ปลายจมูกเล็กรูปหัวใจ การรับกลิ่นของแมวนั้นไกลกว่ามนุษย์หลายเท่า เจ้าแมวสีนิลดวงตาเบิกโพลงมองสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมา ใบหน้าหญิงสาวนั้นช่างคุ้นเคยเหมือนที่เธอเคยเห็นเมื่อตอนกลางวัน

...เอ๊ะ...ผู้ช่วยคนนั้น?!...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 47. ส่งสาร์น

    ทุกวันที่อยู่โรงพยาบาลมักจะมีดีนคอยเฝ้าและคอยกวนเธอตลอด ไม่ทำให้เธอรู้สึกเบื่อเลย...อีกทั้งภายในใจกลับรู้สึกถึงแรงบางอย่างเสมอเมื่อเขาเข้าใกล้...ก้อนเนื้อในอกมันมักจะเต้นระบำอย่างควบคุมไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ในสายตาของเธอมองเขาเปลี่ยนไป...อาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ทางกายที่เคยเกิดขึ้นถึงทำให้เธอรู้สึกแบบนี้...แต่มันก็แค่คืนเดียว... “แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเหรอ?” ดีนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับผู้ติดตามคนสนิทหลังจากที่ออกไปเตรียมรถ เพราะวันนี้เป็นวันที่เธอได้ออกจากโรงพยาบาลนั่นเอง “อือ” เธอตอบสั้นๆ พลางเบือนหน้าหนี แค่เห็นหน้าเขากลับรู้สึกแปลกๆจนไม่กล้ามองหน้าเสียอย่างนั้น “เรา...กลับบ้านกันเถอะ” พูดพลางยื่นมือไปทางเธอด้วยรอยยิ้ม นิลมณีมองค้างไปด้วยใจที่เต้นรัวก่อนท

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 46. รอดมาได้

    “เพราะมีราชากระจอกแบบนี้...เจ้าจึงต้องเสียดินแดนเขตนี้ให้ข้า ผู้ยิ่งใหญ่...ทุกเขตแดนล้วนแต่มีข้าปกครอง อย่าดื้อดึงไปหน่อยเลย” เสียงพูดพร้อมยิ้มเยาะหลุบสายตามองมาที่เธอ ...เอ๊ะ.... “จงดับสิ้นไปเสียเถอะ!!” “อ๊ากกกกกกก!!” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เลือดหยดลงพื้นต่อหน้าต่อตา ภาพที่เห็นเพียงหลังข้อเท้าของผู้ที่เอาตัวมาปกป้อง พยายามเอียงหน้าขึ้นมองด้วยความยากลำบาก...เห็นกรงเล็บที่งอกยาวทะลุร่างของสหาย สมิงพรายเหลียวมองเธอด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ไปซะท่านราชินี!!” .

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 45. ความสับสน

    ไม่ถามเปล่าดีนยังขยับก้าวเข้าไปใกล้ๆ นิลมณีเองก็ถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างไม่ให้เขาเข้าใกล้เกินไป จะให้เธอบอกได้ยังไงว่าเรื่องที่เธอมาคุยนั้นเป็นเรื่องของเขาและตัวตนที่อยู่ในตัวเขา“ก็...ไม่เชิง มันก็ไม่ใช่เรื่องคุณทั้งหมดซะหน่อย” นิลมณีพยายามที่จะเชิดหน้าตอบแต่สายตาของเธอกลับหลบเลี่ยงไปทางอื่นเสียอย่างนั้น ดีนชะงักฝีเท้าที่ย่างก้าวเข้าไปใกล้พร้อมกับยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจที่ได้ยินคำตอบนั้นออกจากปากของเธอ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องของเขาส่วนหนึ่ง“มีอะไรทำไมไม่ถามผมเองตรงๆล่ะครับ จะไปถามคนอื่นทำไม?”“พูดเหมือนถามแล้วคุณจะรู้ตัวอย่างนั้นแหละ” นิลมณีพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย ปรายสายตามองเขาด้วยความรู้สึกเซ็งๆ ดีนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งมองเธอ“คนอื่นรู้ดีกว่าตัวผมงั้นสิ?”“เอาเป็นว่า...ช่างมันเถอะค่ะ จะกลับได้หรือยังยุงกัดจนพรุนหมดแล้วเนี่ย” นิลมณีเอ่ยตัดบทเพราะถึงจะเถียงเขาไปยังไงก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ดีนที่เห็นนิลมณีงอแงใส่เขาแบบนั้นก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ดีว่าเธอต้องการที่เลี่ยงคำถาม

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 44. ธุระสำคัญ

    นิลมณีและดีนเดินทางมายังร้านอาหารของอัคคี ที่ที่เขาเคยแกล้งเธอจนเธอได้สนิทกับอัคคี ดีนก็ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะสนิทสนมกันมากขนาดนั้น จนเขาต้องตามมาเพราะเขาไม่ชอบที่นิลมณีเลขาสาวสนิทสนมกับเพื่อนสนิทของตนขนาดนั้น ถึงดีนจะไม่รู้ว่าเธอมาทำไมก็ตาม ธุระของเธอที่ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ ดีนได้แต่นั่งมองนิลมณีและอัคคีพูดคุยกันที่โต๊ะไกลๆ เพราะเขาดันลั่นปากไปว่าจะมาทานอาหารมือค่ำ จะให้เสนอหน้าเข้าไปแทรกทั้งสองก็คงจะดูเสียฟอร์มไปหน่อยจึงทำได้แค่เพียงแอบมองอยู่เงียบๆ “โฮ่...มาหาถึงที่ร้านแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ...แถมยังพาดีนมาด้วย” อัคคีพูดพลางเอี้ยวตัวเอียงหน้ามองดีนที่จ้องมองเขาและนิลมณีตาเขม็ง แอบรู้สึกสนุกในใจกับท่าทีของดีนที่ดูจะหวงเลขาสาวจนออกนอกหน้า นิลมณีหันหลังกลับไปมองตามสายตาของอัคคีก่อนจะหันกลับแล้วเอ่ยขึ้น

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 43. อดีตของเธอกับจอมราชา

    ในช่วงยุคหนึ่งที่พญาสิงห์ได้ขึ้นตำแหน่งราชาแห่งโลกปีศาจในเขตนี้ ด้วยความที่ยังหนุ่มและเต็มไปด้วยความสามารถบวกกับพลังที่มีมหาศาลเหตุเพราะตระกูลพวกสิงหราชทั้งหลายล้วนมีพลังที่เอ่อล้นเหมาะกับการเป็นราชามารุ่นสู่รุ่น มีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่พาตระกูลตกต่ำลงเสียตำแหน่งให้ปีศาจตนอื่นไป... จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาต้องไปไล่ล่าเหล่าปีศาจนอกรีตที่เข้ามาปั่นป่วนจับปีศาจแถบชายป่ากลืนกินดวงจิตเพื่อที่ตนเองจะได้แข็งแกร่ง ก็ดันไปเจอกับเจ้าปีศาจแมวน้อยสีดำสนิท บ่งบอกถึงว่าเจ้าแมวตนนี้ต้องคำสาปมาอย่างแน่นอน...และเป็นเขาที่เก็บเจ้าแมวตัวนั้นเข้ามาในเมือง... แต่ด้วยความที่มีตำแหน่งราชาค้ำคอ หากรับปีศาจตนอื่นเข้ามาเลี้ยงดู เจ้าแมวน้อยตนนี้คงไม่พ้นตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าบรรดาปีศาจที่ตั้งใจต่อสู้เพื่อตำแหน่งราชานี้ เขาจึงทำได้เพียงปล่อยมันอยู่ในเมืองตามยถากรรม..ได้แต่เพียงเฝ้าดูมันเติบโตอยู่ห่างๆ ช่วยเหลืออยู่ห่าง...

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 42. อดีตราชา

    “เจ้าไม่รู้กิตติศักดิ์ของข้ารึ? นางจิ้งจอก” พูดพลางบีบลำคอของฮู่ลี่แน่นขึ้นจนนางจิ้งจอกตรงหน้าเจ็บปวดเพราะโดนแผดเผา ลำคอไหม้ขึ้นเป็นสายเปื้อนรอยดำ ก่อนที่สายตาเหลือบปรายไปมองนิลมณีที่ทรุดตัวลงกับพื้น เธอปรือตามองภาพตรงหน้าแล้วล้มลงไป นั่นทำให้ดีนที่มีจิตวิญญาณของปีศาจพญาสิงห์ถึงกับละมือจากนางจิ้งจอกตรงหน้า รีบรุดเข้าไปหานิลมณีที่ตอนนี้สลบไปแล้ว ฮู่ลี่ที่ล้มลงกับพื้นเอามือจับที่ลำคอของตนด้วยความเจ็บปวด ได้ทีก็รีบลุกขึ้นแล้วหนีหายออกจากห้องนั้นเพราะในสภาพตัวเองที่ตอนนี้รอยไหม้มันเริ่มลุกลามคงจะสู้พญาสิงห์ไม่ได้เป็นแน่ การกลับไปตั้งหลักคือเรื่องที่ดีที่สุด ... “นิลมณี” เขาพยายามเอ่ยเรียกแต่เธอกลับไม่มีการตอบสนอง ปลายนิ้วเรียวของเขาเลื่อนไปปรายตรงใต้จมูกโด่งสวยนั้น เพราะตอนนี้เธอเป็นมนุษย์ย่อมมีลมหายใจแต่ทว่า...ลำหายใจของเธอนั้นช่างโรยรินเสียเหลือเกิน...แทบจะไม่รู้สึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ... “...ถ้าเป็นเช่นนี้...ก็คงช่วยอะไรไม่ได้นอกเหนือจากนี้” เขาเอ่ยขึ้นพลางมองใบหน้าสวยนั้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ บรรจงจุมพิตลงบนร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status