เสียงสายลมในค่ำคืนยังคงพัดผ่าน ฮานะยืนที่ระเบียงห้องภายในคอนโดของเธอ ภาพถ่ายของชายหนุ่มในแฟ้มยังคงสะท้อนอยู่ในดวงตาเธอ แม้จะผ่านมาครึ่งค่อนคืน แต่ฮานะไม่ได้หลับเลยแม้แต่นาทีเดียว
“เซียวเล่ห์...คุณเกี่ยวข้องอะไรกับพี่เคียวของฉันกันแน่”
[ย้อนอดีตเมื่อ 10 ปีก่อน] โตเกียว
เด็กหญิงตัวเล็กยืนจับชายเสื้อของพี่ชายวัยรุ่นผู้มีรอยสักรูปมังกรตรงต้นคอ เสียงปืนดังขึ้นจากตรอกด้านหลัง พี่ชายหันมาหาเธอ ดึงตัวเข้าอ้อมกอดแน่น
“จำไว้นะ ฮานะ...ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไง อย่าเกลียดมังกรดำ…เพราะมันไม่ใช่แค่ศัตรูของเราเสมอไป”
“แล้วมังกรดำคือใคร?” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถามพี่ชายของเธอด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก
พี่ชายยิ้มเจื่อน ก่อนจะก้มลงกระซิบคำหนึ่งที่เธอไม่เคยลืม
“มังกรดำ...คือคนที่พี่เคยหักหลัง”
[ปัจจุบัน] ห้องเรียนวิชาอาชญวิทยา
เซียวเล่ห์กลับมาสอนตามปกติ บรรยากาศคลาสวันนี้ดูตึงเครียดแปลก ๆ ราวกับฝนตั้งเค้า
ฮานะนั่งเงียบ ไม่สบตาเขาแม้แต่นิด ส่วนเซียวเล่ห์ก็ยิ่งไม่ละสายตาไปจากเธอเลย
“ถ้าองค์กรอาชญากรรม มีความลับที่ทำให้คนในองค์กรแตกหักกันเอง…ใครควรรับผิดชอบ?”
เสียงทุ้มของเขาดังขึ้น พร้อมกับสายตาที่จ้องตรงมาที่เธอ“คุณ มิยูกิ ฮานะ?”
เขาตั้งใจเน้นทั้งชื่อและนามสกุลของเธอแต่น่าแปลกแทนที่เขาจะเรียกเธอว่า ฮานะ อรุณวดี แต่เขากลับเรียกชื่อภาษาญี่ปุ่นของเธอแบบเต็มๆ
ฮานะเงยหน้าช้า ๆ ดวงตาเธอวาววับเย็นชา
“คนที่หักหลังคนของตัวเอง ควรถูกลบชื่อจากประวัติศาสตร์ค่ะ” เสียงทั้งห้องเงียบสนิท อาตงที่ยืนอยู่ด้านหลังเซียวเล่ห์ถึงกับชะงักหายใจอย่างไม่ทั่วท้อง
เซียวเล่ห์เลิกคิ้ว “แรงดีนะคุณนักศึกษา แต่อย่าพูดอะไรที่คุณยังไม่รู้ทั้งหมด”
“ฉันรู้มากพอ ที่จะไม่ไว้ใจคนที่มีสัญลักษณ์มังกรดำติดอยู่บนหน้าอก ฉันหมายถึงบางกลุ่มแก็งก็ชอบสักลายต่าง ๆ ค่ะ”
ฮานะรีบแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ และทำเป็นเหมือนกับว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเขา แต่ทว่าคำพูดของเธอราวกับลูกดอกปาใส่กลางอกของเซียวเล่ห์ซะอย่างนั้น
เซียวเล่ห์ขยับยิ้มเบา ๆ ไม่ได้โกรธ…แต่กลับดูพึงพอใจอย่างประหลาด
“งั้นคุณจะได้รู้มากขึ้นอีกแน่ ๆ…มิยูกิ ฮานะ”
เสียงของทั้งห้องเงียบไปในทันที ก่อนที่ทุกคนจะตั้งใจฟังอาจารย์หนุ่มบรรยายต่อไปอย่างเงียบ ๆ จนจบคลาส
ฮานะยืนพิงราวเหล็กบนดาดฟ้าของตึกที่เธอเรียน หญิงสาวระบายลมหายใจแรง ๆ ออกมา
โซระตามมาทีหลัง สังเกตได้ชัดว่าฮานะเริ่มไม่เหมือนเดิม“ฮานะ…แกกับอาจารย์เซียวเล่ห์มีอะไรหรือเปล่า?”
“เขาอาจจะเกี่ยวกับการตายของพี่เคียว”
เธอพูดเสียงแผ่ว แต่มั่นคง โดยที่ไม่ได้หันไปมองโซระ แต่ทว่าสายตาของเธอจับจ้องไปที่ท้องฟ้าโซระเบิกตากว้าง “อาจารย์นั่นน่ะนะ?! เป็นไปได้ยังไงกัน ไม่น่าเชื่อ ไม่ได้การแล้วต่อไปเธอจะต้องระวังตัวมากกว่านี้ ว่าแต่เขารู้ตัวตนของเธอไหม ?”
ฮานะส่ายหน้าช้า ๆ “ไม่รู้เหมือนกัน ว่าการที่เขาทะเลาะกับฉัน นั่นเป็นเพราะว่าฉันไม่ถูกใจเขาในวันแรกที่เข้าเรียน หรือว่าเพราะเรื่องนี้กันแน่ และฉันจะไม่อยู่เฉย…ถ้าเขาคือศัตรูของครอบครัวเรา”
ฮานะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเป็นอย่างมาก ทำเอาโซระถึงกับหนักใจ
“แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แล้วเราจะรายงานนายใหญ่ไหม ? ” เป็นอีกครั้งที่โซระถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้อง ถ้ารายงานพ่อยิ่งมีแต่เสียกับเสีย การติดตามของบอดีการ์ดจะเพิ่มมากขึ้น ฉันไม่อยากเป็นเป้าสายตา เราพังแค่เราสองคนก็คงเอาอยู่ ฉันคิดแบบนั้นนะ”
“อืมเข้าใจแล้ว ลงไปกันเถอะเดี๋ยวมีเรียนอีก”
“ไปก่อนเลยเดี๋ยวตามไป” ฮานะบอกกับโซระ เพราะเธออยากจะอยู่คิดอะไรต่ออีกสักนิด จากนั้นจึงจะตามไปทีหลัง
ทางด้านห้องทำงานเซียวเล่ห์
เขาเปิดแฟ้มอีกฉบับหนึ่ง ข้างในเป็นเอกสารลับพร้อมภาพชายหนุ่มจากอดีต…ในเครื่องแบบยากูซ่าของตระกูลมิยูกิ
“เคียว…นายยังมีน้องสาวที่น่าสนใจขนาดนี้เลยเหรอ?” เสียงของเขาเจือแววอารมณ์ที่ซับซ้อน
“แววตาเธอเหมือนนายไม่มีผิดเลย”
ตอนที่15. ความสงสัยคอนโดของฮานะ ยามค่ำคืนเสียงประตูห้องเปิดออก ฮานะเดินเข้ามาพร้อมกับร่างกายที่ยังไม่ฟื้นดีจากความเหนื่อยล้า แต่เพียงไม่กี่ก้าว เธอก็ต้องชะงัก ไฟห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ และชายที่เธอไม่คิดว่าจะมารอ…ก็นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมบุหรี่ในมือมิยูกิ โคจิโร่ พ่อของเธอ ข้าง ๆ เขาคือ โซระ เพื่อนสนิทที่ดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด“หายหัวไปไหนมา?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวข้ามประตูเข้ามา ฮานะกลืนน้ำลาย แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่แววตาของพ่อที่จ้องเธอราวกับนักโทษก็ทำให้เธอสะอึก“หนู...แค่หนีออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครเป็นห่วง”“ใครเป็นห่วง?” โคจิโร่แค่นหัวเราะเบา ๆ “ฉันถามว่าหนีไปไหน ไปกับใคร และใครช่วยเธอหนีออกมาจากการลอบสังหาร?”ฮานะเบือนสายตาไปทางโซระที่มองเธออย่างร้อนรน“หนูหนีคนเดียว ไม่มีใครช่วย”เสียง "เพี๊ยะ!" ดังขึ้นทันทีที
ตอนที่14. สงบศึกเซียวเล่ห์กอดฮานะไว้แนบออก มือหนาเลื่อนมาเกี่ยวไรผมของเธอด้วยความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก และกดริมฝีปากไปที่ไหล่มนของฮานะอย่างอ่อนโยน “อือ ปล่อยนะจะทำบ้าอะไร” หญิงสาวร้องครางเสียงหลงทำเอา คนตัวโตอย่างเซียวเล่ห์ยิ้มด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก “น่ารักจัง”“อย่ากวนได้ไหม มีอะไรก็ว่ามาและปล่อยฉันได้ไหม” ฮานะยังคงพูดทั้งที่พยายามจะสะบัดเซียวเล่ห์ให้ออกห่างจากร่างกายของเธอ แต่มันใช้ไม่ได้กับเซียวเล่ห์เมื่อเขาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวและตรงไปที่เตียงนอน“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ากวน ถ้ากวนต้องแบบนี้” ไม่พูดเปล่าเพราะคราวนี้เซียวเล่ห์ขยับพลิกตัวมาคร่อมร่างของฮานะไว้ ก่อนจะกระซิบเบาๆ“พี่รู้ว่าเธออาย ไม่ต้องอาย เพราะถ้าอายจะทำอีก และจะทำให้มากกว่าเมื่อคืนด้วย” เขากระซิบก่อนจะขโมยจูบจากเธอไปอีกหนึ่งที“คนเลว !! ” ฮานะพูด ทำเอาเซียวเล่ห์หัวเรา
ตอนที่13. คนรอแต่ในอีกฟากเมือง เคียวกำลังจับตามองแผนลอบสังหารล่ม และสายสืบของเขารายงานว่า“ทั้งสองคน...หายตัวไปจากเรดาร์แล้วครับ”ชายหนุ่มในเงามืดยิ้มมุมปาก “ให้พวกมันรักกันตายไปก็เถอะ...สุดท้าย ความจริงจะฆ่าความรู้สึกได้อยู่ดี” “ครับนาย ว่าแต่เราจะตามหาคุณหนูฮานะอยู่อีกหรือไม่ครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามขึ้นมา “ไม่ต้อง เพราะถึงเวลาเธอจะกลับมาเอง”เช้าวันต่อมาแสงแดดอ่อนยามเช้าสาดลอดผ่านบานม่านเข้ามาในห้องเซฟเฮาส์ เงียบ...จนน่าประหลาดใจ หากไม่นับเสียงลมหายใจของคนสองคนที่นอนเคียงกันอยู่บนเตียงเดียวฮานะลืมตาขึ้นก่อน ใบหน้าเธอซีดเผือดเมื่อพบว่าร่างกายของตัวเองอยู่ภายใต้ผ้าห่มเพียงผืนเดียว… ไม่มีเสื้อคลุม ไม่มีอาวุธติดตัว และ… ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างเธอกับผู้ชายข้างกาย"…บ้าเอ๊ย!"เธอเด้งตัวขึ้
ตอนที่12. จังหวะตกหลุมรัก “เพราะถ้านายยังไม่แน่ใจว่ารักฉัน...ฉันจะเป็นฝันร้ายของนายไปจนวันตาย” พูดจบ เธอเดินหนี แต่เซียวเล่ห์กลับคว้าแขนเธอไว้ แล้วเหวี่ยงเข้ากำแพงเบาๆ ไม่ใช่ด้วยแรงทำร้าย แต่ด้วยแรง “ต้องการ” ที่กดดันมาทั้งคืน “ปล่อยก่อนฉันหิวน้ำ” ฮานะพูดพร้อมกับสะบัดมือเซียวเล่ห์ออก และเดินไปอีกทางหยิบขวดน้ำมาดื่มในทันที“เดี๋ยวก่อน...นั่นไม่ใช่ขวดน้ำนะนะ” เซียวเล่ห์รีบคว้าขวดยามาจากมือเธอด้วยสีหน้าตกใจ แต่ไม่ทันเพราะฮานะดื่มมันไปจนหมดแล้ว “มันคือยา ‘ทดลอง’ ตัวใหม่ของลูกค้าคนหนึ่ง เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ...ยังไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ด้วยซ้ำ”ฮานะที่เริ่มรู้สึกความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เริ่มมีความร้อนรุ่มไหลไปทั่วตัว หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก ใบหน้าร้อนผ่าว แววตาเริ่มเปลี่ยนไปเหมือนมีไฟบางอย่างถูกจุดขึ้น“แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย...” ฮานะบ่นอย่างร้อนใจเซียวเล่ห์มองเธออย่างลำบากใจ ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ “ทางเดียวที่จะช่วยเธอได้คือ…ต้องหาทาง ‘ตัดฤทธิ์ยา’ ออก ก่อนที่มันจะทำให้เธอเสียการควบคุม” “เราต้องรีบหายาแก้” เซียวเล่ห์พู
ตอนที่ 11. อันตรายรอบตัวเสียงไวโอลินยังไม่ทันจางหายดี กระสุนนัดแรกก็ ฉีกรอยยิ้มของค่ำคืนเป็นเสี่ยง ๆปัง! ปัง! ปัง!เสียงปืนสาดกระหน่ำจากชั้นบนราวกับห่าฝน กระจกไวน์แตกกระจาย แขกกรีดร้องลั่นงาน เซียวเล่ห์ขยับตัวไวราวเสือ เขาผลักฮานะให้ล้มลงต่ำหลังกำแพงเสาหินอ่อน ปืนพกถูกชักขึ้นมาจากด้านหลังสูทในชั่วพริบตาเดียวแต่ที่ทำให้เขาชะงัก... คือการเคลื่อนไหวของฮานะ หญิงสาวไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอถลกชายกิโมโนผ่าข้างขึ้นจนสูง มือขวาล้วงเข้าข้างต้นขาแล้วดึงเอา ปืนสั้นกระบอกดำเงา ออกมาจากสายรัดแน่นหนา ก่อนใช้เท้าเตะชายผ้าที่ยาวรุ่มร่ามออกเสียงผ้าฉีกเล็กน้อยเพราะตีนผีของกิโมโนถูกกระชากออก เผยให้เห็นชุดด้านในที่ไม่ใช่ชุดชั้นในธรรมดาแต่คือ เสื้อกล้ามรัดรูปสีดำกับกางเกงขาสั้นแนบลำตัว สายรัดอุปกรณ์รอบต้นขาและเอว เธอเตรียมตัวมารบ... มางานเลี้ยงแบบพร้อมตาย“เธอ...” เซียวเล่ห์กระพริบตา แต่ไม่ทันพูดจบ ฮานะก็ขึ้นลำกระบอกปืนทันที“คุยทีหลัง! นายคุ้มซ้าย ฉันเอาขวา!”เซียวเล่ห์ยิ้มเหี้ยม มุมปากเปื้อนรอยเลือดจากเศษกระจก แต่ก็ทำตามคำสั่งเธออย่างไม่ลังเลทั้งสองพุ่งขึ้นพร้อมกันในจังหวะเดียว – ปืนลั่นสะท้อนก้อง!ป
ตอนที่10. วางแผนเสียงของอาตงแทรกขึ้น ในตอนที่เซียวเล่ห์กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “บอสจะจัดงานที่ไหนครับ?”“คฤหาสน์ริมทะเลของตระกูลเราเอง” เขาตอบทันที “และทุกคนในงาน...จะต้องถอดหน้ากากออกมาให้หมด”บรรยากาศงานเลี้ยงหรูภายในโรงแรมระดับห้าดาวถูกตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟคริสตัลระยิบระยับทั่วห้องบอลรูม ผสมเสียงไวโอลินคลอเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกไม่ไว้วางใจยิ่งกว่าอบอุ่นต้อนรับเซียวเล่ห์ยืนสงบนิ่งอยู่มุมหนึ่งของงาน สูทดำเรียบหรูขับใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ลูกสมุนยืนเรียงรายอยู่ด้านหลังอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางกลุ่มแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการใต้ดินที่ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆฮานะก้าวเข้าสู่งานอย่างสง่าภายใต้ชุดกิโมโนประยุกต์สีเลือดนก ประดับลวดลายมังกรญี่ปุ่นปักด้วยไหมทอง โซระเดินตามหลังเธอห่าง ๆ สีหน้าพร้อมบวกเต็มพิกัดดวงตาคู่สวยของฮานะมองกวาดรอบงาน เธอจับสังเกตผู้คนไปเรื่อย ๆ ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับเซียวเล่ห์ที่มองมาอยู่ก่อนแล้วรอยยิ้มเย็นเฉียบผุดขึ้นบนใบหน้าของเซียวเล่ห์ เหมือนนักล่าที่กำลังรอเหยื่อเดินเข้ากับดักอย่างเต็มใจ“ยินดีต้อนรับครับ..คุณหนูมังกรสายเลือดยากูซ่า” เขาเอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะยกแก้วไวน์