ตอนที่24
ซ้อมตาย
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”
ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย
“โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ
“คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”
ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย
“วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้หรือเปล่า”
แต่ดุจดาวหาได้กังวลไม่ กลับหัวเราะคิก เมื่อเห็นท่าทางตื่นกลัว ของผู้เป็นแม่
“นั่นมันเป็นคนยุคโบราณค่ะคุณแม่ แต่ตอนนี้เราอยู่ในยุคปัจจุบัน หนูไม่ถือเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ ธรรมะท่านสอนให้คนเราซ้อมตายด้วยนะคะ”
ญาดาทนฟังต่อไปอีกไม่ไหว ถึงกับลืมตัวตีไปที่แขนของลูกสาวไม่แรงแต่ก็ไม่เบานัก เมื่อเห็นว่าดุจดาวเริ่มพูดน่ากลัวมากขึ้นทุกที
เพี้ยะ!!
“อ๊ะ!คุณแม่ตีหนูทำไม หนูเจ็บนะ คุณพ่อขาคุณแม่ไม่รักหนูแล้ว ดูซิตีจนแขนของหนูแทบจะหักแล้ว” ดุจดาวแกล้งร้องด้วยความเจ็บปวดเกินจริง ก่อนจะซบอกผู้เป็นพ่อ แต่กลับซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้
“นั่นสิคุณ เป็นอะไรไป ทั้งที่พวกเราเลี้ยงลูกมาอย่างทะนุถนอม ตั้งแต่เล็กจนใหญ่ ยุงก็ไม่ได้ไต่ไรก็แทบไม่ได้ตอม แล้วใยตอนนี้ถึงมาตีลูกกันเล่าคุณ โอ๋ ๆ เจ็บมากไหมลูกเดี๋ยวพ่อเป่าให้นะ เพี้ยง ๆ หาย ๆ”
ได้ผล!เมื่อภากรดุภรรยาทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันไปปลอบลูกสาวราวกับว่าดุจดาวยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ทั้งที่ตอนนี้ดุจดาวอายุยี่สิบสี่ เดือนมีนาคมปีหน้าก็ยี่สิบห้าปีแล้ว และกำลังจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้ แต่ในสายตาของพ่อแม่ที่มีลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็อดที่จะเป็นห่วงและเห็นลูกยังเป็นเด็กในสายตาเสมอ และนี่คือสาเหตุที่ญาดาถึงกับตีลูกสาว
“จะไม่ตีได้อย่างไร ดูคำพูดแต่ละคำสิ เป็นมงคลที่ไหน คุณไม่รู้หรอก ว่าหัวใจของคนเป็นแม่มันจะขาด ที่ได้ยินคำว่าตายของลูกน่ะ” ญาดาพูดด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
ดุจดาวเห็นแล้วก็ตกใจ ไม่คิดว่าคำพูดของเธอจะทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเสียใจมากถึงขนาดมีน้ำตาแบบนี้ เธอรีบเข้าไปกอดแม่ไว้แน่น พร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิด
“คุณแม่ขา อย่าโกรธอย่าเสียใจไปเลยนะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คุณแม่ไม่สบายใจ ต่อไปหนูจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีกแล้วค่ะ หนูขอโทษนะคะ”
“โถ่..ลูก” ญาดาน้ำตาร่วง กอดลูกสาวไว้แน่น ภากรก็เข้ามาโอบกอดไว้ด้วย เพราะในความจริงเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจแปลก ๆ เหมือนกันกับคำพูดของลูกสาว และเรื่องที่ท่านเจ้าอาวาสซึ่งเคยเป็นพระอาจารย์ของเขาพูดกับดุจดาวนั้นด้วย
เขาบวชอยู่ที่นั่นถึงสองพรรษา ทำไมจะไม่รู้ว่าสิ่งที่พระอาจารย์พูดนั้น ไม่ใชเรื่องปกติ แต่เขาก็เชื่อว่าลูกสาวและครอบครัวของเขาจะต้องแคล้วคลาดปลอดภัย เหมือนกับเหตุการณ์ที่งูขวางทางในวันนี้แน่นอน
...........................................................................
เปลือกตาบางกับขนตางอนหนาขยับเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดขึ้นช้า ๆ แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องรีบปิดตาลงอีกครั้ง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ภาพที่เห็นในตอนแรกหายไปแล้ว นี่เธอคิดถึงเขามากจนเกิดเห็นภาพหลอน
วุ้นเย็นขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับมองไปรอบ ๆ ทั้งห้องมีแต่ความว่างเปล่า เธอรู้สึกกระหายน้ำเป็นอย่างมาก จึงขยับลงจากเตียงเพื่อที่จะไปเปิดตู้เย็น แต่ประตูห้องน้ำก็เปิดออกเสียก่อน
“อ้าว ตื่นแล้วหรือลูก แล้วนั่นจะทำอะไร จะเข้าห้องน้ำหรือ มา ๆ เดี๋ยวแม่ช่วย” เป็นโสภานั่นเอง
วุ้นเย็นส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดเสียงแหบแห้งนิด ๆ
“เปล่าค่ะ หนูแค่หิวน้ำ”
“อ๋อ เดี๋ยวแม่เอาไปให้” โสภาพูดพลางเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อเอาน้ำไปให้ลูกสาว แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นขวดแก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นอยู่ในตู้เย็น เธอจำได้ว่าไม่ได้เป็นคนเอามาใส่ไว้ หรือว่าจะเป็นวิชัยที่ซื้อมาให้แล้วไม่ได้บอก
“อ้าว มีน้ำส้มคั้นด้วย หนูอยากินไหมลูก”
ตอนที่31อยากได้พี่เป็นผัววุ้นเย็นขยับได้เพียงก้าวเดียว เอวเล็กคอดกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนากระชากร่างของเธอเข้าไปปะทะกับแผ่น อกกว้างอย่างแรงมือหนาอีกข้ากำหลังคอบางเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนพูดลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาชวนขนลุก “เธอรู้ไหมว่าดุจดาวเป็นคนดีและรักเธอมากแค่ไหน แล้วมันสมควรแล้วหรือที่จะให้คนอย่างเธอ มาพูดถึงแบบนี้ ฮะ”เมธัชตะคอกจนวุ้นเย็นได้กลิ่นมิ้นต์จากปากของเขา เธอตกใจมาก แต่เพราะความริษยาที่เก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ภายใน แทรกขึ้นมาเหนือเหตุผลตามความเป็นจริง ทำให้หญิงสาวลืมกลัว ตะโกนกลับไปอย่างโมโหเช่นกัน “ทำไม พี่ดุจดาวสูงส่งมากอย่างนั้นหรือ แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น หรือว่าติดใจเรื่องบนเตียงมากจนถึงกับ อื้อ..”วุ้นเย็นร้องอู้อี้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด เมื่อถูกริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายบดขยี้ปากเล็กอิ่มด้วยความรุนแรง จูบแรกของเธอช่างไร้ความอ่อนโยน อ่อนหวา
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต
ตอนที่27เลือนรางราวหมอกควันเรือนร่างบอบบางที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาว ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้อง ผ่านผ้าม่านบาง ๆ ชายหนุ่มมองไล่ขึ้นไปจากเท้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุดผ่านช่วงเอวที่คอดกิ่ว ไปจนถึงผิวเนื้อเหนือเนินอกที่ขาวนวลเนียน ลำคอที่บางระหง แต่พอถึงใบหน้าเรียวเล็ก เขาก็ต้องผงะ นิ่งงันไปชั่วคราวเพราะนั่นไม่ใช่ดุจดาว แต่เป็นใบหน้าของวุ้นเย็นน้องสาวของเขานั่นเอง “ธัชคะ ธัช” ดุจดาวเห็นเมธัชเอาแต่จ้องมอง ด้วยสีหน้าที่แปลก ๆ จึงร้องเรียกขึ้นเบา ๆเสียงหวานทำให้เขาได้สติ ที่แท้ก็แค่เกิดภาพหลอน มองเห็นดุจดาวเป็นวุ้นเย็นไปได้ “เจ้าสาวสวยมากจนเจ้าบ่าวตกตลึง พูดไม่ออกเลยเชียวค่ะ” เจ้าของร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง เอ่ยแซวพร้อมกับขยิบตาให้ดุจดาวอย่างมีจริตดุจดาวก้มหน้าลงเล็กน้อย หลบตาคมด้วยความเอียงอาย ถึงแม้เธอกับเขาจะสนิทกันมาก และรู้จักกันมานานแต่เธอก็ไม่เคยกล้าสบตาคม
ตอนที่26 หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นโสภากอดลูกสาว พยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ภายในอย่างเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าลูกกำลังอ่อนแอ เธอจะต้องเป็นหลักให้ลูก “มันก็อยู่ที่ว่าหนูจะรอให้ใครมาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น หรือหนูจะปลดปล่อยด้วยตัวเอง มันก็อยู่ที่หนูจะเลือก หัวใจเป็นของหนู หนูจะยอมให้ใครหรืออะไรมากักขังมันไว้ทำไมล่ะ” “แต่หัวใจของหนูมันไม่ดีนี่คะ ทั้งอ่อนแอทั้งขี้เกียจ พร้อมที่จะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ หนูเกลียดหัวใจดวงนี้เหลือเกินค่ะ ทำไมละคะแม่ ในเมื่อให้หนูเกิดมาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้หนูเอาหัวใจที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาด้วย มันอ่อนแอกับทุกความรู้สึกของหนูเลยค่ะ”เธอรำพึงรำพันด้วยความทุกข์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ พร้อมกับซุกใบหน้าเล็กเข้าหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นแม่ “แม่ถึงบอกให้หนูอยู่กับความเป็นจริงอย่างไรล่ะลูก หากเลือกได้แม่ก็จะเลือกเอาหัวใจของแม่ ให้กับลูก