หน้าหลัก / แฟนตาซี / ลิขิตสัญญานาคา / ๒.๒ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

แชร์

๒.๒ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

ผู้เขียน: นรินทร์ลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-25 02:00:20

"ใครเขาจะมายืนบอกกันล่ะ"

"ถ้าเหตุเป็นเพราะพี่...พี่ก็ดีใจ"

คำพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจของชายหนุ่มทำให้นรินทร์ไม่กล้าที่จะปฏิเสธขัด การเห็นเขาดีใจกลับทำให้รู้สึกดีใจตามไปด้วย หญิงสาวมองใบหน้าเทพบุตรนั้นอยู่นาน รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเขาและรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบเจอกับเขา เธอแอบคิดว่าถ้าเขามีอยู่ในชีวิตจริงคงจะดีไม่น้อย...แต่นี่คงเป็นแค่ชายในฝันเหมือนที่ใครๆพูดกัน

"แล้วคุณเป็นใคร? เทวดา ผี หรือเทพบุตรกันคะสุดหล่อ?" ไหนๆก็อยู่ในฝันแล้วขอจีบชายในฝันสักหน่อยจะเป็นไรไป นั่นคือสิ่งที่หมอกเมยคิด

"เมื่อถึงเพลาก็จักรู้เอง"

"ทำไมไม่บอกล่ะตัวเอง…เห็นบอกว่าฉันเป็นคนรักของคุณไม่ใช่หรือคะ?"

"อดีตชาติเราคือคนรักที่ยากจะแยกจาก...รักยาวนานเป็นพันๆ ปี..."

"แล้วตอนนี้คุณยังรักฉันอยู่หรือคะ ผ่านมาตั้งพันปีไม่มีคนอื่นบ้างเลยเหรอ?"

"ความรักสำหรับชาวเราผู้ที่ครองอมตะ...มักจักมีหนึ่งเดียวใจเดียวตามที่ตั้งสัตย์สัญญาไว้"

"ว้า...ฉันผ่านการมีสามีมาแล้วน่ะสิ ไม่ได้อยู่รอสุดหล่อเลย"

"พี่รู้แจ้งแก่ใจ...ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง...เหตุเพราะความทรงจำในอดีตถูกลบเลือนไป..."

"แล้ว…เราจะได้เจอกันอีกไหม?"

"พี่อยู่เคียงข้างน้องมาตลอดทุกภพทุกชาติ มิเคยได้ห่างหายไป...ไม่ว่าน้องจักอยู่ที่ใดพี่ก็จักหาจนเจอ"

"ฉัน...."

"เวลาของพี่หมดแล้วหนา..."

หญิงสาวที่ได้ยินเหมือนคำจากลาน้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าตาสวยอย่างไม่มีสาเหตุ จากการหยอกล้อเมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยนไปทันที ภายในใจเศร้าจนรู้สึกหวิว ไม่อาจละสายตาจากชายหนุ่มตรงหน้าที่ทำหน้าเศร้าเช่นเดียวกันกับเธอ ทั้งสองจ้องมองกันอย่างอาลัยอาวรณ์เหมือนไม่อยากแยกจาก หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาไว้ เพราะกลัวว่าจะเห็นหน้าชายหนุ่มได้ไม่ชัดก่อนจะจากกัน...เพราะเธอไม่รู้เลยว่าจะได้เจอเขาอีกหรือไม่ ความฝันเป็นเรื่องที่เราบังคับหรือกำหนดมันไม่ได้

"...พี่...จักขอกอดน้อง...ได้รือไม่"

หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามของคนตรงหน้าแต่กลับเดินเข้าไปหาเขาแล้วกอดแนบกายชายหนุ่มคนนั้นแน่นเหมือนรู้จักและคุ้นเคยกันมานานแสนนาน น้ำตาที่ห้ามไว้ก็ไหลอาบสองแก้มเนียน ชายหนุ่มตรงหน้ากอดเธอตอบก่อนจะมอบจูบอันอ่อนโยนประทับลงบนหน้าผากมนสวยด้วยความคิดถึงอ้อมกอดนี้จากเธอ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นนั้น

            “เราจักได้พบกันอีกเป็นแน่”

"ชื่อ...ฉันขอทราบแค่ชื่อคุณ...."

"...ข้ามีนามว่า...."

ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบทุกอย่างก็เลือนหายไปราวกับสายลมเอื่อยอ่อนที่พัดผ่าน นรินทร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเต็มกาย ความฝันที่เสมือนจริงคงยังตราตรึงติดอยู่ในใจและในความทรงจำอย่างเด่นชัด ไม่เลือนหายไปเหมือนเช่นทุกครั้งอีกแล้ว 

ใบหน้าของชายหนุ่มที่ไม่เคยได้เห็นชัดนักจากที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้กลับจำได้ติดตา นี่คงเป็นชายในฝันอย่างที่เขาพูดกันหรือเปล่านะ นรินทร์หันไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียงก็ถอนหายใจพร้อมกับกุมขมับ

"ตีสามเนี่ยนะ...น่าจะฝันต่อถึงเช้าสิ"

นรินทร์บ่นอุบกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำเพราะตั้งแต่เธอกลับมานอนจมกองน้ำตาก็ไม่ได้อาบน้ำเลยแม้แต่น้อย ร่างโปร่งใสมองดูเธอนั่งบ่นก่อนจะยกยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ในใจของหญิงสาวผู้เป็นที่รักได้เริ่มนึกถึงเขาอยู่บ้างแล้ว ชายหนุ่มร่างโปร่งนั่งรอหญิงสาวอยู่ที่เตียงด้วยความยินดี

คืนนี้ก็คงจะเหมือนเช่นทุกคืนที่เขาเคยนอนกอดเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว การที่เขาจะทำแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อหญิงสาวไม่มีพันธะใดในโลกมนุษย์หรือกับมนุษย์คนไหนแล้ว ถ้าเธอมีคู่ครองเขาก็ทำได้แค่มองอยู่ไกลๆ โดยไม่สามารถมองเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือเข้าไปยุ่มย่ามได้ เว้นเสียแต่อยู่เพียงลำพัง

นรินทร์เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูและผมที่เปียกเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดแน่นเหมือนใช้ความคิด ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆ ร่างโปร่งแสงที่กำลังนั่งตัวตรงมองเธออยู่

"ว่าแต่...พ่อรูปหล่อชื่ออะไรนะ?"

...พี่มีนามว่า....

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๖. รอคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นจิตใจของนรินทร์ก็ไม่เคยสงบยังคงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบางครั้งก็เหม่อลอยอยู่นานไม่ได้สติ เธอแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน แม้ว่าสภาพร่างกายของนรินทร์จะฟื้นตัวจนเกือบจะหายดี แต่สภาพจิตใจของนรินทร์ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อยยังคงเซื่องซึมหวาดผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเขาให้เจอแม้กระทั่งเดินทางไปยังหมู่บ้านบูรบุรีทุกๆสุดสัปดาห์แต่ทว่าทางที่เธอเคยไปกลับไม่มีอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้เธอพยายามติดต่อพชรและแสงศรทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์แต่สิ่งที่ได้ยินคือไม่มีเลขหมายที่เธอต้องการติดต่อ นรินทร์พยายามหาข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเชื่อมโยงกับพชรแต่ก็ไม่คืบหน้าเลยเหมือนเธอกำลังวนอยู่ในอ่าง ตั้งแต่วันนั้นนรินทร์ไม่เคยได้พบพชรหรือแสงศรอีกเลยราวกับว่าพวกเขาไม่เคยเดินเข้ามาในชีวิตเธอ แต่รอยแผลบนตัวเธอยังคงย้ำเตือนว่าเรื่องราววันนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆเขามีตัวตนจริงๆ ‘ฮือ...ทำยังไงฉันถึงจะติดต่อคุณได้คะพชร ฉันคิดถึงคุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๕. พญาทศยันต์ เทวิน

    “ข้ามิได้มาเพื่อเข่นฆ่าผู้ใด ท่านจงวางใจในข้า” พญานกเอ่ย ก่อนจะกระพือปีกสีน้ำเงินนั้นพัดเข้าหาพญานาคทั้งสองมีเพียงมันตราที่กระเด็นกลิ้งออกไปตามแรงพัดนั้น มิอาจต้านแรงพญาครุฑาได้ พญาเพชรแก้วเหลียวมองพญานกนั้นก่อน พญาทศยันต์จ้องมองพญาเพชรแก้วก่อนจะเอ่ยขึ้น“ข้าจักจัดการนางเอง” ว่าแล้วก็กระพือปีกบินขึ้นสง โฉบเฉี่ยวคว้าร่างของนาคีสีเขียวตองอ่อนนั้นขึ้นสู่น่านฟ้า มุ่งหน้าไปยังอีกฝากฝั่งของมหานทีพระครูบามันที่เห็นว่าเรื่องราวสงบลงแล้ว ท่านจึงเดินเข้ามาหาพญาเพชรแก้วที่กลับร่างกายหยาบเป็นพชรด้วยท่าทีสงบนิ่ง มองดูจ้าวจอมผู้เป็นใหญ่ช้อนกอดร่างของนางอันเป็นที่รักร่ำไห้ปานจะขาดใจอย่างเวทนาสงสาร“นางยังมิสิ้นใจหรอกท่าน…จิตของนางยังคงช่วยค้ำยันชีวิตและร่างกายนี้เอาไว้อยู่” พระครูบามันเอ่ยว่าแล้วร่างโปร่งใสของนรินธราก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ร่ำไห้นั่งลงเคียงข้างพชร พลางเอื้อมมือไปจับมือหนาของเขาที่กำลังพยายามช่วยชีวิตของนรินทร์ พลังเหนือธรรมชาติของทั้งสองดวงจิตผสมผสานกันเพื่อช่วยหญิงสาวตรงหน้า&l

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๔. พระครูบามัน

    “ข้าคอยตักเตือนเจ้าแล้ว…คีภัทรา!! แต่เจ้ากลับไม่มีทีท่าจักสำนึก!! จงกลับลงไปจมสู่ใต้ธาราชั่วนิรันดร์เสีย” ดวงตาสีน้ำผึ้งจ้องมองคีภัทราอย่างเกรี้ดกราด โกรธแค้นเคืองใจนางตรงหน้าที่เคยรักเหมือนดั่งพี่น้อง ค่อยวางร่างของนรินทร์ลงกับพื้นอย่างเบามือทั้งน้ำตา ลุกขึ้นมาหุนหันย่างก้าวเข้าหาพญานาคีห้าเศียรตรงด้วยโทสะ ดวงตาฉายแววอาฆาตต้องการจักปลิดชีพนางเสีย“หยุดก่อนท่าน…จงระงับโทสะแล้วไตร่ตรองดูเสียเถิดท่านพญานาคราชผู้ยิ่งใหญ่ หากท่านพลาดพลั้งไปสิ่งที่ท่านทำมามันก็สูญเปล่า…อย่าได้ต่อเวรต่อกรรมกันเลย ให้มันเป็นหน้าที่ของเวรกรรมที่นางจะต้องได้รับผลนั้นเองเสียเถิด”เสียงนุ่มเย็นดังขึ้นอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสอง ก่อนจะปรากฏร่างของพระครูบามันเดินเข้ามาขวางทางทั้งคู่ด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ พชรยังคงไม่คลายโทสะลงจ้องมองพระครูและคีภัทราสลับกันไปมา“มันมิใช่กิจของท่าน จงอย่าได้แส่!” คีภัทราเอ่ยขึ้นอย่างไม่เคารพ เวลานี้นางเองก็อยากจะทวงขอความรักจากชายตรงหน้าเช่นกัน หากมิได้ความรักก็ขอต่อเวรต่อกรรมจองจำพบเจอกันมันไปทุกภพทุกช

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๓. เดิมพันด้วยชีวิต

    รถตู้หยุดอยู่ที่ขอบหน้าผาหมิ่นเหม่เหมือนจะตกลงไปอยู่รอมร่อ แต่เพราะลำกายของงูใหญ่นั้นพันเกี่ยวรถตู้เอาไว้ ชูคอหันหน้ามาทางรถที่พชรและนรินทร์นั่งอยู่ราวกับกำลังต่อรอง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของคนในรถดังออกมาจนได้ยินชัดคนในรถต่างพากันหาที่ยึดเหนี่ยวไว้อีกฝั่งก็พญานาคอีกฝั่งก็หน้าผาทุกคนต่างเริ่มร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวมีเพียงนิลนนท์ที่พอจะมีสติแต่เขาเองก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ากลัวไม่ต่างกันสายตาของนิลนนท์มองไปรอบรถตู้อย่างน้อยน่าจะมีอะไรพอช่วยได้บ้างแต่ทว่ามีเพียงเข็มขัดนิรภัยเท่านั้นอย่างน้อยหากตกลงไปก็ยังพอมีโอกาสรอด“ทุกคนรัดเข็มขัด! ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่าถอดออกเด็ดขาด” นิลนนท์พยายามทำเสียงแข็งทั้งที่ในใจหล่นวูบ“ฮืออ พี่นิลมินกลัวนี่มันฝันใช่ไหม” มินตราร้องไห้ด้วยความกลัว“กูอยู่นี่ไม่ต้องกลัว” เทวินปลอบมินตราก่อนจะรีบรัดเข็มขัดของตัวเองและหันไปสำรวจของมินตรา“นายท่านครับ…” แสงศรหันไปเรียกผู้เป็นเจ้านายด้วยสีหน้าจริงจัง พชรพยักหน้าก่อนที่แสงศรจะหักรถกลับไปยังที่เกิดเหตุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๒. แรงแค้นที่ต้องแลก

    ในคราวแรกความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นพึ่งจะได้ตกลงปลงใจกันได้เพียงวันเดียวก็เกิดเรื่อง เธอรับรู้ความจริงในตัวตนของเขาและปฏิเสธเขาด้วยความกลัวและเกรงขามในบทบาทที่เขาเป็น แต่คราวนี้เธอรับรู้ถึงตัวของเขาทั้งหมดและยอมรับมัน ยอมรับใจตัวเองที่หลงรักเขาไปแล้วตั้งแต่แรกเจอทั้งที่เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอีกทั้งเรื่องราวความสัมพันนธ์ของเธอและเขามันก็เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็อยากจะลองดูสักตั้งเหมือนกัน อยากมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่สิ่งศักดิ์หรือสิ่งลี้ลับอะไรทำนองนั้นแม้ว่าเธอไม่รู้เลยว่า…อะไรจะเกิดขึ้นกับอนาคตความรักของเธอ…“เลิกหวานกันสักแป๊บได้ไหมคะ มินอิจฉาไปหมดแล้วเนี่ย” มินตราเอ่ย ขณะที่ทุกคนนั่งทานอาหารกันพร้อมหน้ารวมถึงภากรณ์และพนิตาที่ลอบมองพชรและนรินทร์เป็นระยะด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นักที่เห็นทั้งสองคนตักอาหารให้กันไปมองตากันหวานเชื่อมโดยไม่สนใจคนรอบข้างราวกับว่าโลกทั้งใบมีแค่พวกเขา“ไม่กงไม่กินมันละ เลี่ยน!” พนิตาวางช้อนส้อมลงอย่างใส่อา

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๑. ความรู้สึกแปลกใหม่

    ภากรณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเมื่อยล้าเขามองไปรอบๆห้องก็พบว่านี่คือห้องของเขาไม่ใช่ห้องของนรินทร์และคนที่นอนอยู่ข้างๆคือพนิตา“นิตา นิตา!”“อื้ม อะไรคะกรณ์เสียงดังจังเลย”“ทำไมคุณมาอยู่นี่ แล้วไอ้พชรล่ะ”“ไม่รู้สิคะ เมื่อคืนนิตาจำได้ว่าอยู่กับคุณพชร”พนิตารวบรวมสติพยายามนึกถึงเมื่อคืนเธอจำได้ว่าพชรกำลังจะจูบเธอแล้วแท้ๆ พนิตานึกเสียดายและมองไปที่ภากรณ์อย่างหัวเสีย “แล้วคุณล่ะ กลับมาตอนไหนเรื่องนรินทร์ล่ะว่าไง?” ภากรณ์ได้ยินอย่างนั้นก็ฉุกคิดในหัวพอตั้งสติได้ก็ไม่รอช้ารีบลุกพรวดออกไปยังห้องของนรินทร์ทันทีด้วยความหงุดหงิด ต้องเป็นพชรทุกทีที่เข้ามาได้ทันเวลามันเสียทุกครั้ง คิดๆแล้วก็เจ็บใจทางด้านมันตราได้แอบออกมาพบคีภัทราด้วยเส้นทางด้านหลังของคฤหาสน์ เห็นผู้มีพระคุณยืนรออยู่ก็รีบเข้าไปหาด้วยความดีอกดีใจ แต่ทว่านางตรงหน้าก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status