ลูซี่รู้สึกตัวตื่นขึ้นในช่วงสายของอีกวัน เธอหลับไปนานมาก เสียงนกร้องแผ่วเบานอกหน้าต่างทำให้เธอลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความอุ่นจากอ้อมแขนที่โอบรอบตัวเธอไว้ เธอกะพริบตาหลายครั้งพยายามปรับสายตา ก่อนจะพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่บนเตียงนุ่มๆ ของตัวเอง แต่กลับนอนอยู่ในอ้อมแขนของออสติน เจ้าของห้องที่กำลังหลับอยู่ใกล้ๆ
“โอ้ย...” เธอพึมพำแผ่วเบา มือเรียวกุมศีรษะของตัวเองเพราะรู้สึกปวดหัวอย่างแรง
เพียงแค่เธอขยับตัวเล็กน้อย ออสตินก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทันที ดวงตาสีเทาลึกลับของเขาลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นลูซี่ตื่นขึ้นมา
เสียงมีดกระทบกับเขียงดังเป็นจังหวะ สลับกับกลิ่นหอมของวัตถุดิบที่กำลังถูกเตรียมอย่างพิถีพิถัน แต่ในระหว่างนั้น หูอันวิเศษของเขาก็ได้ยินเสียงกริ่งดังมาจากห้องพักของลูซี่ที่อยู่ชั้นล่าง ดวงตาคมหลับลงก่อนจะเปิดใช้พลังพิเศษเพื่อมองทะลุผ่านชั้นต่างๆ เพื่อดูว่าใครมาหาเธอถึงที่
ภาพที่เห็นทำให้เขาหรี่ตาเล็กน้อย จินดาและมาร์คัสกำลังกดกริ่งที่หน้าห้องของลูซี่ ทั้งคู่ดูเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่าง จินดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเจ้าของห้อง ขณะที่มาร์คัสยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีสบายๆ แต่สายตาของเขากลับแฝงไปด้วยความสงสัยบางอย่าง
"มาร์คัส..." ออสตินพึมพำเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มเย็นยะเยือก เขาตัดสินใจว่าจะไม่บอกลูซี่เรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เธอเป็นกังวล แต่ความคิดนั้นต้องหยุดลงเมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าประตูห้องพักเป็นจังหวะเดียวกับที่ลูซี่อาบน้ำเสร็จ
“ฉันซื้อชุดเดรสมาให้...น่าจะพอดีกับตัวเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นพลางเดินไปหยิบชุดเดรสสายเดียวกระโปรงยาวสีแดงออกมาจากตู้
“ขอบคุณนะคะ” ลูซี่ระบายยิ้มยื่นมือไปรับชุดจากเขาด้วยความเกรงใจ ท่าทีและแววตาที่แสนเคร่งขรึมในตอนแรกที่เจอกันได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว
เขากลายเป็นเจ้าชายที่แสนอบอุ่นและน่ารักสำหรับเธอ..........
“สงสัยอาคินมา เธอเป่าผมเองนะ เดี๋ยวฉันออกไปรับหน้าก่อน” เขาว่าพลางยื่นไดร์เป่าผมให้กับเธอ
“ค่ะ! เดี๋ยวหนูทำเอง” มือหนาลูบหัวของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน ไปรับหน้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
" ออสติน ฉันเจอพวกเขาที่หน้าห้องของลูซี่เลยพาขึ้นมาด้วย " อาคินพูดด้วยท่าทีสบายๆ แต่ในแววตาของเขามีบางอย่างที่สื่อถึงออสติน
(เจ้าไม่อยากให้มาร์คัสสงสัยอะไรใช่ไหม?) เขาส่งคำถามไปผ่านการสื่อสารทางจิต
(ใช่! และมันก็ดีกว่าที่เราจะควบคุมสถานการณ์ไว้เอง) อาคินตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในความคิด
ออสตินเพียงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะละสายตาไปที่มาร์คัสที่ยืนอยู่พร้อมรอยยิ้มที่แสนจะเป็นมิตร
และโชคดีที่ออสตินได้ลบพลังบังตาออกก่อนแล้วไม่อย่างนั้นมาร์คัสอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติระหว่างเขากับลูซี่........
“ทำไมแก!? อยู่ที่ห้องของอาจารย์ออสติน? แล้วเมื่อวานฉันโทรหาทั้งวันก็ไม่รับ” จินดาเอ่ยถามอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินออกมาจากห้องนอนของชายหนุ่ม
ลูซี่ยิ้มเจื่อน ๆ พลางมองหน้าออสตินราวกับขอความช่วยเหลือ เจ้าของห้องจึงก้าวเข้ามาหาพวกเธอด้วยท่าทางใจเย็น
“เมื่อคืนวานลูซี่ปวดท้อง อาจารย์ก็เลยพาไปโรงพยาบาล นี่ก็พึ่งกลับกันมา...เธอเลยอาสาถือของมาให้อาจารย์ที่ห้องนี่แหละ ” เขาตอบอย่างเป็นธรรมชาติพลางปรายตามองไปที่ถุงมากมายที่วางอยู่โต๊ะอาหาร
“อ่า!!” สีหน้าของจินดาคลายความสงสัยเล็กน้อยแต่ยังมองลูซี่ด้วยสายตาแปลกใจ
“ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้ว งั้นก็ทำรายงานกันที่นี่แหละ มีอะไรก็ถามได้ตลอดนะ” ออสตินว่าพลางเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร เขาจัดการเก็บโต๊ะก่อนที่จะยกชามข้าวต้มร้อนๆ ที่พึ่งทำเสร็จมาให้ลูซี่
“งั้นพวกเราไม่เกรงใจนะคะ” จินดาอมยิ้มแต่สายตาเลื่อนไปมองมาร์คัสที่ยังคงยืนเงียบ เขาดูเหมือนกำลังสำรวจบรรยากาศในห้องด้วยสายตาเรียบเฉย
“ไม่ต้องยืนเกร็งกันขนาดนั้น เข้ามานั่งก่อนสิ” ออสตินพูดพลางผายมือไปยังโต๊ะทำงานที่ลูซี่กำลังจัดเอกสารเตรียมเริ่มทำรายงาน
ขณะที่ทั้งหมดนั่งลงและเริ่มต้นทำงาน ออสตินและอาคินก็มองอยู่ห่างๆ ด้วยแววตาที่เฝ้าระวัง พวกเขารู้ดีว่ามาร์คัสไม่ได้มาเพื่อทำรายงานธรรมดา การปรากฏตัวของปีศาจในห้องของเขาคือการท้าทาย และออสตินจะไม่ยอมให้มาร์คัสใช้โอกาสนี้สร้างความวุ่นวายหรือทำร้ายลูซี่ได้
หลังจากที่แขกทั้ง3คนกลับไป ความเงียบงันก็เข้าครอบงำห้องนี้ หญิงสาวพยายามจะจัดระเบียบความคิดของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่หลับตาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนก็ย้อนกลับมาหลอกหลอน
ออสตินที่นั่งอยู่ไม่ไกล สังเกตเห็นความไม่ปกติในแววตาของเธอ เขาเดินเข้าไปหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ บนโซฟาตัวนุ่ม สัมผัสได้ถึงพลังงานของเธอที่ยังไม่คงที่ เขาหยิบแก้วใสขนาดเล็กที่มียาโปร่งแสงสีอ่อนอยู่ข้างในแล้วยื่นให้เธอด้วยท่าทางอ่อนโยน
“กินยาหน่อยนะ” มือหนายื่นแก้วให้ มองเธอด้วยแววตาที่เป็นกังวล
ลูซี่เงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอมีแววสับสนและอ่อนล้า แต่เธอก็รับแก้วนั้นมาถือไว้ก่อนจะดื่มยาจนหมด
“ขอบคุณนะคะ” เธอตอบกลับเสียงเบาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ
" ไม่ต้องคิดมากนะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนั้นมันไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอแค่ต้องการเวลา "
“แต่หนูสับสน! ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครหรือเป็นตัวอะไร” ลูซี่เอ่ยเสียงเบา พยายามกลั้นน้ำตาไว้
“เธอเป็นแสงสว่างของฉันไง ลูซี่” คำพูดของเขาเรียบง่ายแต่หนักแน่น
ลูซี่รู้สึกได้ถึงความจริงใจในแววตาของเขา หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดของเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
“ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ ไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” มือหนาประคองใบหน้าสวย มองเธอด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง
หัวใจของลูซี่เต้นแรงจนเธอรู้สึกได้ ความใกล้ชิดของเขาทำให้เธอหวั่นไหว ออสตินค่อยๆ ขยับเข้าใกล้ ริมฝีปากของเขาแตะที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา
ในวินาทีนั้น ลูซี่ไม่ได้ขัดขืน ความรู้สึกที่เก็บซ่อนลึกในใจปะทุขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จูบของเขาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงใยแต่เมื่อเวลาผ่านไป ความปรารถนาก็เริ่มทวีความรุนแรง
ออสตินดึงตัวลูซี่เข้ามาในอ้อมแขนของเขา แนบชิดจนไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ความร้อนแรงของจูบนั้นทำให้ทั้งสองลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปชั่วขณะ พวกเขาปล่อยตัวให้ความรู้สึกนำทาง และในที่สุด ทั้งคู่ก็พ่ายแพ้ต่อหัวใจของตัวเองเกิดความสัมพันธ์ที่เกินเลยในค่ำคืนนั้นอย่างเต็มใจ
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา