แชร์

ตอนที่ 7 แต่งก็แต่ง

ผู้เขียน: MoonDust
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-20 19:00:27

เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ฉันกับอาทิตย์ก็แยกกันตรงทางเข้าด้านหลัง เขาหันมามองฉันราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เงียบไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ

"ขอโทษนะ...เรื่องที่พูดไปก่อนหน้านี้ วีไม่ต้องคิดมากนะ"

ฉันเลิกคิ้ว คงหมายถึงที่เขาบอกว่าชอบฉันก่อนหน้า

“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันแค่...ทำตัวไม่ถูกน่ะ” ฉันว่าพลางส่งยิ้มจาง ๆ

อาทิตย์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินแยกไป ฉันมองแผ่นหลังเขาที่ค่อย ๆ ไกลออกไป แล้วก็หันกลับมาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่

อีกสองวัน...ฉันต้องไปกินข้าวดูตัวกับภูริ

สามีในนามที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน

และถ้าโชคดี...ก็คงไม่ต้องเห็นกันนานนัก

ฉันกลับเข้าบ้านอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินตรงไปยังห้องของพลอยไพลิน

ไม่ใช่ว่าฉันอยากเข้าหาเธอหรอกนะ แต่ถ้าจะไปเจอคนระดับทายาททรัพย์ไพศาลอนันต์ ฉันก็จำเป็นต้องแต่งตัวให้ไม่อับอายใคร ถึงร่างวราลีจะหน้าตาดีอยู่แล้วก็เถอะ แต่เสื้อผ้าคนใช้ในตู้ฉันตอนนี้ไม่มีชุดไหนรอดเลยสักชุด

"ขอใช้เวลาแค่สิบนาที พูดให้สุภาพหน่อยก็...ขอยืมชุดแพง ๆ ไปทำหน้าที่เจ้าสาวเธอแทนนั่นแหละ" ฉันพึมพำก่อนจะเคาะประตู

พลอยไพลินเปิดประตูด้วยสีหน้าหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าเป็นฉัน สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว…เป็นหงุดหงิดขั้นสุด

“แก...มีอะไร?”

“ฉันต้องไปกินข้าวกับคุณภูริในวันมะรืน ขอชุดใส่หน่อย” ฉันพูดเข้าประเด็น

“…เอ๊ะ?” เธอเลิกคิ้วเหมือนเพิ่งได้ยินคำพูดแปลกประหลาด

แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็ยิ้มกว้าง…แบบน่ากลัว

“แน่ใจนะว่าจะใส่ของฉัน?”

“ก็ถ้าไม่รังเกียจให้ฉันใส่ของเธอ” ฉันยักไหล่

“งั้นเอาเลย เลือกไปเลย จะชุดไหนก็ได้”

ฉันกำลังจะประหลาดใจอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่พูดต่อ

“เพราะแค่คิดว่าคนอย่างแกต้องไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ชายหน้าตาเหมือนปลาบู่ผสมปีศาจค้างคาวแทนฉัน ฉันก็สะใจจะตายแล้วล่ะ!”

...โอเค อันนี้สิค่อยสมเป็นเธอหน่อย

“แล้วนี่ นามบัตรของพี่ชิน ช่างแต่งหน้าประจำฉัน” เธอยื่นนามบัตรสีเงินมาให้ “บอกชื่อฉันไป เดี๋ยวเขาลดให้...ไม่สิ เดี๋ยวฉันจ่ายให้เลย”

“ขอบใจ”

“ตามมาสิ ฉันจะให้ดูห้องเสื้อผ้าของฉัน”

ห้องเสื้อผ้าของพลอยไพลินคือภาพสะท้อนของการช้อปปิงไร้สติบนบัตรเครดิตพ่อ ขนาดห้องไม่แพ้ห้องนอนใหญ่แต่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ เรียงเป็นแถวยาวจนคิดว่าเดินเข้าโชว์รูมแบรนด์หรูในปารีส

“แกจะเลือกตัวไหนก็ได้นะ” พลอยไพลินกอดอก ยิ้มสะใจ “แต่อย่าเลือกตัวโปรดฉันล่ะ ถ้าแกใส่แล้วทำมันพัง จะต้องชดใช้ราคาตามจริง”

ฉันกวาดตามองชั้นเสื้อผ้า มีชุดเดรสเปิดไหล่ ชุดกางเกงสูทเข้ารูป ชุดผ้าไหมอิตาลีที่ยาวจนลากพื้น เอาจริง ๆ ฉันไม่มั่นใจว่าใส่แล้วจะเดินยังไงไม่ให้สะดุดตายก่อนถึงโต๊ะกินข้าว

“ชุดนี้เป็นไงบ้าง?” ฉันหยิบเดรสครีมเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นหน่อย ๆ ขึ้นมาดู มันไม่หวือหวาเกิน แต่ก็ไม่จืดจนเกินไป

พลอยไพลินเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าเบื่อ ๆ

“เอาตัวนั้นก็ได้ อย่าลืมรีดให้เรียบก่อนใส่ล่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้านเราจน”

ฉันยิ้มบาง ๆ แล้วเก็บชุดใส่ถุงอย่างเบามือ

"จะคืนให้สภาพสมบูรณ์ค่ะ รับรองไม่มีรอยคราบน้ำปลาหรือกลิ่นปลาทูติดมาแน่นอน" ฉันว่า พลางยิ้มหวาน

พลอยไพลินชะงักมองฉันนิดหน่อย ก่อนจะเบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิด

คืนก่อนวันนัดดูตัว ฉันนั่งอยู่กับโน้ตบุ๊กตัวเก่าที่ยังเก่งอยู่ พยายามเสิร์ชข้อมูลของ ภูริ ทรัพย์ไพศาลอนันต์เป็นรอบที่ร้อย

ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม...บทสัมภาษณ์เชิงธุรกิจแบบยาวเหยียด ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับโปรเจกต์อสังหาฯ ใหญ่ระดับประเทศ และ...ไม่มีรูปถ่ายปัจจุบันแม้แต่ใบเดียว

นี่เขาเป็นมนุษย์จริง ๆ ไหม หรือมีพลังล่องหนในกล้อง?

รูปที่มีอยู่ก็...คือเด็กชายตัวกลมยืนถือลูกชิ้นปิ้งสามไม้เมื่อสิบกว่าปีก่อน

เอาเถอะ...ฉันปลงแล้ว หน้าตาไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิต

“แต่งงานงั้นเหรอ…” ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางทอดสายตามองออกไปยังหน้าต่างที่มืดสนิท

คำว่า ‘แต่งงาน’ สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ อาจมาพร้อมกับความฝันสีชมพู ความรัก การเริ่มต้นชีวิตครอบครัว หรืออะไรสักอย่างที่ดูฟู ๆ ละมุน ๆ

สำหรับฉัน...มันคือหมากตัวหนึ่ง

ฉันไม่ได้แต่งงานเพราะรัก และไม่คิดฝันจะรักตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ 

มันคือดีล 

ข้อตกลง 

การแต่งงานทางการเมืองที่อีกฝ่ายคือทายาทมหาเศรษฐี ส่วนฉันคือผู้หญิงที่ไม่มีแม้แต่ตัวตนในบ้าน

ฟังดูไม่แฟร์ 

แต่นี่แหละคือโลกแห่งความจริง

ถ้าฉันสามารถใช้การแต่งงานครั้งนี้เป็นสะพานเพื่อช่วยให้ธุรกิจของบ้านวราลีรอดพ้นวิกฤต ถ้าฉันสามารถใช้โอกาสนี้ทำให้มีเงินพอจะออกไปสร้างชีวิตของตัวเองจริง ๆ

งั้น…แต่งก็แต่ง

แล้วพอทุกอย่างเข้าที่ กิจการมั่นคง แน่ใจว่าแม่ได้อยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัย ฉันจะขอลาออกจากตำแหน่ง ‘ภรรยาในนาม’ นั่นทันทีโดยไม่มีดราม่าให้เหนื่อยใจ

หย่าเงียบ ๆ เก็บเงินเล็กน้อยเป็นค่าเหนื่อย แล้วหายไปจากบ้านนี้...จากเมืองนี้ ใช้ชีวิตใหม่...แบบที่อลิสาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ และแบบที่วราลีคนเก่าเคยฝันไว้

ชีวิตธรรมดา ที่ไม่มีใครจ้องเหยียบ 

ไม่มีปืนจ่อหัว 

ไม่มีคำดูถูกจากใคร

นั่นแหละ...คือเป้าหมาย

ฉันถอนหายใจเบา ๆ

อย่างไรก็ตาม ฉันเจอข้อมูลที่น่าสนใจกว่า ‘ภูริ’ เขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดของกลุ่มทรัพย์ไพศาลอนันต์ เป็นคนที่คนในวงการธุรกิจพากันยกนิ้วให้ และได้รับฉายาว่า...

‘จิ้งจอก’

ชื่อเล่นที่ไม่ใช่เพราะเขาน่ารัก แต่เพราะเขาเจ้าเล่ห์ ฉลาดหลักแหลม และอ่านเกมขาด

…พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าฉันหลุดอะไรสักอย่างให้เขาจับได้ ก็คงโดนเขากินเรียบโดยไม่ทันรู้ตัว

เอาเถอะ...เจอกันพรุ่งนี้ คุณภูริ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 2 ครั้งหนึ่งเคยเจอกัน

    เลือดอุ่น ๆ ไหลผ่านแผลที่หน้าท้อง เปื้อนเสื้อพรางจนไม่รู้ว่าสีจริงของมันเป็นสีอะไรกันแน่อลิสากัดฟันแน่น พิงตัวกับโขดหินในป่ารก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ“บ้าเอ๊ย…ล่อพวกเราเข้าไปตายชัด ๆ”เสียงปืนที่เคยดังสนั่นเมื่อชั่วโมงก่อนยังดังก้องอยู่ในหัวเธอจำภาพตอนที่ลูกทีมคนหนึ่งล้มทั้งยืนได้ชัด คำสั่งล่าถอยถูกขัดจังหวะด้วยระเบิดแรงสูง และหลังจากนั้น...ก็ไม่มีเสียงของใครอีกเลย นอกจากลมหายใจตัวเอง ตอนนี้เธอหนีมาไกลหลายกิโลเมตรจากจุดที่ปะทะครั้งสุดท้ายอลิสาขยับตัวอีกนิด ร่างกายประท้วงทันทีด้วยความเจ็บและเหนื่อยล้าเธอแตะวิทยุสื่อสารที่อยู่ด้านในเสื้อ...ไร้สัญญาณไม่มีเสียงตอบ ไม่มีอะไรนอกจากเสียงของลมกับนก“ฉันต้องไม่ตายที่นี่…ฉันจะไม่ตายในป่าเงียบ ๆ แบบนี้แน่”เธอเริ่มคลานต่อ มือจับปืนไว้แน่นข้างตัว ทุกย่างก้าวคือการต่อรองกับความอดทน ภาพรอบตัวเริ่มเบลอจากเลือดที่เสียไป แต่สัญชาตญาณยังผลักให้เธอไปข้างหน้าจนกระทั่ง...เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นกร๊อบ...กร๊อบ...เสียงกิ่งไม้หัก เสียงเท้าเดินบนพื้นใบไม้ชื้น เสียงนั้นเบา แต่ไม่เบาพอจะรอดหูของเธอไปได้ อลิสากระชับปืน ปรับทิศสายตาดึงพลังเฮือกสุดท้ายให้

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 1 ความอดทนของสามี

    ช่วงนี้ภูริรู้ตัวว่า…เขากำลังเข้าสู่โหมด ‘กลั้นใจ’ เต็มรูปแบบเพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา พูดกันตรง ๆ เลยว่าเขาก็หื่น แต่หื่นแบบ รักมาก หลงมาก มองเมียทีไรก็อยากกระโจนใส่ทุกครั้งแต่ใช่ว่าวราลีจะไม่รู้ เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหันมามองเขาตอนเช้าแล้วพูดเสียงอ่อนว่า“พี่ภูคนดีคนเดิมหายไปไหน…”พร้อมทำตาแป๋ว ๆ นอนกอดผ้าห่มอยู่บนเตียง ในขณะที่เขายืนใส่กางเกงนอนอยู่ข้างหน้า…“ทำไมเหลือแต่คนหื่น…”แค่คำนั้นคำเดียว ทำเอาเขารู้สึกเหมือนหมาตัวโต ๆ ที่โดนตีหัวเบา ๆ ด้วยไม้เรียวเมียตั้งแต่นั้นมา เขาก็พยายาม ‘เป็นคนดีคนเดิม’ ไม่รุก ไม่ปล้ำ ไม่ซุกซนยามดึกแม้จะนอนเตียงเดียวกันทุกคืน…แม้จะได้เห็นเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวตัวหลวมที่ชอบหล่นจากไหล่ แม้จะมีบางคืนที่เธอเอาขามากอดเขาทั้งตัว…แต่เขาก็อดทนคืนแรก…เขาหันหลังให้คืนที่สอง…เขาเปิดพอดแคสต์วิธีฝึกสมาธิก่อนนอนคืนที่สาม…เขาสวดบทภาวนาขอพรจากจักรวาลให้เขาผ่านคืนนี้ไปได้แต่แล้วก็…คืนนี้...เขาเห็นวราลีก้มลงหยิบของจากพื้น โดยที่เสื้อยืดคอกว้างเผยให้เห็นเนินอกอิ่มเต็มตา เสี้ยววินาทีนั้นเขาเหมือนโดนตบหน้าโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งขอพรไป“อดทนไว้ภูริ…อดทนเพื

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   บทส่งท้าย

    เสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบาดังคลอภายในโบสถ์หินอ่อนที่ประดับด้วยดอกไม้โทนขาวครีมและเขียวอ่อน สะอาดตาและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แสงแดดจากหน้าต่างกระจกสีที่สูงจรดเพดานสาดลงมาอย่างอ่อนโยนราวกับพระเจ้ากำลังอวยพรฉันยืนอยู่หลังประตูไม้ของโบสถ์ ลมหายใจตื่นเต้นจนต้องกลั้นเอาไว้ มือแน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของคุณพิชิตผู้เป็นบิดา ที่วันนี้มารับหน้าที่จูงฉันเข้าไปในโบสถ์“พร้อมไหม” เขาถามเสียงเบาฉันพยักหน้า กลั้นยิ้มอย่างเกร็งนิด ๆ“พร้อมค่ะ”ประตูโบสถ์เปิดออก เสียงเปียโนท่อนแรกของ Canon in D ดังขึ้นทุกสายตาหันมามองฉันในชุดเจ้าสาวสีงาช้างที่ตัดเข้ารูปอย่างสง่างาม ผ้าคลุมยาวลากพื้นพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดินคุณหญิงสมศรียิ้มกว้างสุดหัวใจ น้ำตาคลอจนต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดบ่อยครั้ง แต่ไม่วายหันไปกระซิบกับนาลันว่า“สวยเหมือนย่าตอนสาว ๆ เลยใช่ไหมล่ะ”นาลันหัวเราะเบา ๆ ยกนิ้วโป้งให้ฉันแทนคำชม ข้าง ๆ เธอ ภาวินท์และชนกันต์ยกกล้องขึ้นถ่ายช็อตสำคัญไม่หยุด ส่วนพลอยไพลินที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่ฉัน ก็ยิ้มบา

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 46 ฤกษ์ดี

    แสงเจิดจ้าระยิบระยับจากแชนเดอเลียร์หรูหราขนาดใหญ่ภายห้องโถงใหญ่ในโรงแรมระดับห้าดาวกลางใจเมืองดูจะแพ้แสงแฟลชจากเหล่ากล้องสื่อมวลชนที่เข้าประจำการตั้งแต่เช้า ด้านหน้าตึกแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ทั้งสื่อ นักข่าว แขกผู้มีเกียรติ และหุ้นส่วนธุรกิจจากทั่วเอเชียที่ต่างเดินทางมาเพื่อร่วมเป็นพยานในวันสำคัญของ ‘ภูริ ทรัพย์ไพศาลอนันต์’ข่าวการขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของ TP กรุ๊ป ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผ่านภายในตระกูล แต่คือ ‘เหตุการณ์ระดับชาติ’ สำหรับวงการธุรกิจสื่อทุกแขนงถ่ายทอดสด บรรยายตื่นเต้นราวกับกำลังดูฟุตบอลนัดชิง พาดหัวข่าวเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งคำว่า‘ทายาทหมื่นล้านเปิดตัวอย่างสง่างาม’‘ภูริ ผู้นำอาณาจักรทรัพย์ไพศาลอนันต์สู่อนาคตใหม่’หรือแม้แต่ ‘จับตา! ยุคใหม่ของ TP กรุ๊ปจะไปทางไหนเมื่ออยู่ภายใต้ผู้นำคนใหม่’แต่ในห้องรับรองชั้นบนสุดของตึก…โลกทั้งใบของภูริกลับเงียบงัน มีเพียงเสียงสูดหายใจลึก ๆ ของเขา กับมือเล็ก ๆ ที่กำลังช่วยจัดปกสูทให้เข้าที่“แน่ใจเหรอครับว่าพี่ไม่ดูต

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 45 ยิ้มกว้าง

    เสียงเครื่องวัดชีพจรเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอในห้องสีขาวสะอาดตาฉันรู้สึกถึงความเย็นของผ้าปูเตียง และกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยเข้าจมูกเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานโรงพยาบาล และแสงแดดอ่อนยามเช้าส่องลอดผ้าม่าน“ฟื้นแล้วเหรอครับ ลูกพี่”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างเตียง ก่อนที่ใบหน้าของชนกันต์จะโผล่เข้ามาในสายตาฉันพยายามยันตัวขึ้น เขารีบช่วยประคองทันที“ใจเย็นครับ เพิ่งได้สติไม่ถึงชั่วโมงเอง”ฉันยิ้มบาง พลางหลุบตาลง“…เรา…ชนะแล้วเหรอ?”ชนกันต์พยักหน้า“ครับ พวกผมเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดหลังเสียงปืนนัดสุดท้าย ฝ่ายเราเข้าควบคุมโกดังได้หมดแล้ว พวกของจงเหวินที่เหลือถูกจับเรียบ พร้อมของกลางเป็นอาวุธเถื่อนล็อตใหญ่…ตอนนี้เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศเลยล่ะครับ”ฉันถอนหายใจยาว ความโล่งอกแล่นวาบไปทั่วร่างแม้จะยังอ่อนแรง“แล้ว…ภูริล่ะ?”ชนกันต์ยิ้ม“ห้องตรงข้ามนี้เองครับ พักฟื้นอยู่เหมือนกัน ผมว่าจะไปเยี่ย

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 44 ปิดฉาก

    สายตาฉันเหลือบไปเห็นมอเตอร์ไซค์อีกคันนอนตะแคงอยู่ข้างถนน ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร...คันนั้นยังดูใช้งานได้ฉันกัดฟันแน่น ฝืนพาร่างตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยถลอกลุกขึ้นยืน มือขวากำปืนไว้แน่น ส่วนมือซ้ายลากขาเปื้อนเลือดค่อย ๆ พาตัวเองไปยังมอเตอร์ไซค์“ฟื้นตัวให้ไวนะ…ฉันยังต้องลุยต่อ” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยกรถขึ้นและลองบิดเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามเบา ๆ ขึ้นมาทันทีราวกับตอบรับฉันคว้าหมวกกันน็อกเก่า ๆ ใบหนึ่งที่แขวนอยู่ข้างเบาะ สวมมันอย่างรวดเร็ว แล้วบิดคันเร่งออกตัว บนถนนที่เริ่มว่างเปล่า เป้าหมายของฉันคือ...ลินามือข้างหนึ่งของฉันล้วงเครื่องมือสื่อสาร พยายามติดต่อหาชนกันต์ด้วยเสียงหอบแฮก[ลูกพี่!?] ในที่สุดชนกันต์ก็ตอบกลับมาเสียที ฉันถอนหายใจโล่ง“กันต์…พวกมันได้ตัวพี่ภูไปแล้ว!” ฉันเร่งเสียง “ฉันติดเครื่องติดตามไว้ในเสื้อเขา ส่งพิกัดที่ได้มาให้ฉันด่วน!”[เวรเอ๊ย! พวกมันรู้ได้ยังไง!?] เขาสบถ [เดี๋ยวส่งพิกัดให้ภายในสิบวินาที]ฉันตัดสายไป แล้วเร่งเครื่องอย่างเต็มแรงฝ่าเส้นทางสลับซ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status