“ไอ้เฟย! มึงจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมสัญญาว่าจะทำเบา ๆ โอเคไหมครับ”
เอริคที่นอนหอบหายใจอยู่นั้น ก็ถูกมือเรียวยาวของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม จับพลิกให้นอนคว่ำแล้วยกสะโพกให้ลอยขึ้น ทำให้เอริครู้ไม่ทันทีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เขาเลยพยายามดิ้นหนีอย่างสุดชีวิต เพื่อให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขัดขืนสุดกำลังยังไง ร่างกายของเขาก็ยังคงหนีมือเรียวขาวของหนุ่มจีนไม่ได้อยู่ดี
เฟยเห็นท่าทางของเอริคก็อดขำไม่ได้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคิดว่ายังจะหนีเขารอดได้อีกหรือไง
มือเรียวยาวจับแท่งเนื้อยาวที่ขยายใหญ่จนปวด ของตัวเองขึ้นมาชักรูดสองสามที ก่อนจะเอามาถู ๆ ไถ ๆ ที่ช่องทางรักของคนนอนอยู่ไปมาอย่างหยอกล้อ เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ เอริคที่สัมผัสได้ถึงแท่งเนื้อตรงช่องทางด้านหลังของตัวเอง ร่างกายก็รู้สึกเย็นวาบ ขนลุกซูขึ้นมาตั้งแต่หัวจดเท้าทันที นี่เขาจะถูกไอ้หน้าขาวจับแทงด้านหลังจริง ๆเหรอเนี่ย!!
“ไม่...ไอ้เฟย! กูบอกให้หยุดไง!!” เอริคหันไปตะโกนใส่เฟยเสียงดัง เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำ แต่สิ่งที่ได้รับคืนมากับเป็นแววตาหื่นกระหาย และรอยยิ้มแสนชั่วร้ายของอีกฝ่ายกลับมาแทน
“ได้ครับ ผมจะจัดให้ตามคำขอเดี๋ยวนี้เลยครับ” เฟยฉีกยิ้มหวานเยิ้มส่งให้เอริคกลับ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
เฟยจับแก่นกายของตัวเองจอที่รูรัก เพื่อเตรียมพร้อมเข้าไปสำรวจด้านใน โดยทำเป็นไม่สนใจเสียงร้องโวยวาย ของเอริคที่ดังก้องไปทั่วห้อง ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มร้ายออกมา ก่อนจะกดกระแทกแท่งเนื้อร้อนของตัวเอง เข้าไปในรูเล็กรวดเดียวจนมิดลำ สวบ!!
“ไอ้เ...ฟย อ๊ะะ! อ่า จะ...เจ็บ แม่งเอ๊ย!”
เสียงสบถดังขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อสิ่งที่เอริคกลัวสุดมันก็เกิดขึ้นจนได้ เสียงร้องครวญครางดังขึ้นพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดแทบขาดใจ ร่างกายบิดเกร็งเหมือนถูกฉีดออกเป็นชิ้น ๆ รู้สึกจุกแน่นไปทั่วท้องจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาคู่คมรู้สึกแสบร้อนไปหมด เอริคไม่คิดเลยว่าการถูกรุกล้ำช่องทางด้านหลัง ทำจะเจ็บมากขนาดนี้
“อ่าา...แน่นขนาดนี้ คงไม่ได้คิดจะฆ่าผมโดยวิธี ตอดรัดของผมจนขาดหรอกใช่ไหมครับ”
เฟยร้องครางเสียงดังกระหื่มเมื่อรู้สึกเสียวซ่านไม่แพ้กัน เมื่อแท่งเนื้อของเขาถูกภายในของอีกฝ่าย ตอดรัดแน่นจนแทบขยับไม่ได้ แท่งเนื้อของเขาเวลานี้เลยรู้สึกปวดหนึบ เหมือนจะขาดเป็นสองท่อนซะให้ได้ เฟยกดแช่แท่งเนื้อไว้นิ่ง เพื่อให้รูเล็กปรับสภาพคุ้นเคยกับของตัวเอง
“ไอ้เวร!...กูจะจับมึง...มาสับเป็นชิ้น ๆ ให้...ได้เลยคอยดู” เอริคพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดถี่ ๆ จะเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนพูดขู่ออกไปอย่างอาฆาตแค้น
ใบหน้าแนบอยู่บนผ้าปูร่างกายของเอริคตอนนี้ มันรู้สึกอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงไปหมด ร่างกายของเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ครับบบ...แล้วผมจะรอนะครับ” เฟยยกยิ้มมุมปากขึ้น
ก่อนจะโน้มตัวไปด้านหน้า แล้วจับปลายคางของคนชอบขู่ให้หันมาทางตัวเอง จากนั้นก็ประกบริมฝีปากบางมอบรสจูบที่เร่าร้อนให้กับอีกฝ่ายไปแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว
“อื้ออ...อืออ” เสียงของเอริคร้องประท้วงอยู่ในลำคออย่างอดไม่อยู่ เมื่อถูกริมฝีปากบางบดจูบหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบหายใจไม่ทัน
เฟยมอบจูบเร่าร้อนปรนเปรอเอริคครู่ใหญ่ จนร่างกายอีกฝ่ายเริ่มหลงเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของตัวเอง ทำให้ช่องทางด้านหลังเริ่มคลายตัวมากขึ้น เฟยเลยค่อย ๆ ขยับโยกสะโพกเข้าออกช้า ๆ เป็นจังหวะ ซึ่งทำให้คนใต้ร่างกลับมารู้สึกเจ็บและดิ้นหนีอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่ เฟยก็ยังเดินหน้าขยับสะโพกกระแทกเข้าออกต่อไม่มีทีท่าจะหยุด หึหึ นาน ๆ จะเจอของดีสดใหม่ทั้งที เขาไม่มีวันปล่อยให้หนีไปไหนได้ง่าย ๆ หรอก
“อ่าา...เสียวสุด ๆ ไปเลยว่าไหมครับ” เฟยกระซิบพูดที่ข้างหูอย่างเย้าหยอก หลังจากถอนจูบออก ริมฝีปากก็ยังคงก้มคลอเคลียทำรอยอยู่แถวซอกคอไม่ห่าง
หนุ่มจีนขยับสะโพกโยกเข้าโยกออกเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเอง จนร่างกายของคนที่นอนคว่ำแนบอยู่กับเตียง ขยับเคลื่อนไปมาตามแรงกระแทกอย่างห้ามไม่ได้ เฟยนอนทาบทับอยู่ด้านบนตัวของเอริค พร้อมโถมกระหน่ำกระแทกแท่งร้อนเข้าออกถี่รัว อย่างบ้าคลั่ง ทำราวกับว่าไม่มีอาหารตกมาถึงท้องนานหลายปี จนทำให้ได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องนอน ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊ะ!! อ..อ่าาส์...อ้าาส์””
เอริคนอนร้องควรญครางออกมาแทบไม่เป็นภาษา ใบหน้าแดงก่ำจนเป็นสีเลือด เมื่อรู้สึกเจ็บทรมานมากจนทนแทบไม่ไหว ถึงตอนนี้ความเจ็บจะลดน้อยลงมากแล้ว แต่มันกับมีความรู้สึกอื่นแทรกเข้ามาแทน ทำให้ร่างกายของเขามันร้อนวูบวาบ เหมือนถูกไฟเผาไปทั่วทั้งตัวเลยก็ว่าได้
“เสียวถูกใจคุณไหมครับ” เฟยอ้าปากกัดที่ติ่งหูของเอริคเบา ๆ ไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยพูดหยอกเย้าออกไป
เอริคสั่นสะท้านไปทั้งตัว เมื่อความเสียวซ่านแล่นผ่านเข้ามาในร่าง ริมฝีปากหนาเม้มกัดเข้าหากันแน่น เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงส่งเสียงร้องน่าอายออกมาอีก ในหัวของเขาตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว คือให้ไอ้เรื่องบ้า ๆ พวกนี้จบไปเร็ว ๆ ซะที
เอริคนอนแนบอยู่กับเตียง ร่างกายโยกขยับขึ้นลงตามแรงกระแทกของคนด้านหลัง ดวงตาจ้องมองโคมไฟข้างเตียงด้วยความเหม่อลอย เขาไม่อยากคิดเลยว่าเวลานี้ตัวเองอยู่ในสภาพไหน มือทั้งสองก็ถูกไว้แน่น ส่วนด้านหลังก็ถูกไอ้จีนหื่นกระแทกจนจุก ริมฝีปากถูกจูบขยี้จนแสบไปหมด ส่วนร่างกายก็มีแต่รอยแดงช้ำเต็มตัว
เอริคไม่คิดเลยว่าเจ้าของคาสิโนอย่างเขา จะมาตกอยู่ในสภาพนี้ได้
เฟยเห็นว่าอีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจตัวเอง ก็กระตุกยิ้มร้ายขึ้น แล้วจงใจเน้นสะโพกกระทุ้งแท่งเนื้อเข้าไปสุดแรง จนทำให้คนนอนนิ่งสะดุ้งเฮือก แล้วร้องครางออกมาอีกครั้งในที่สุด
“อ๊ะะ..!! อ้าาส์..จ..จุกก!!”
เมื่อถูกกระแทกเข้ามาเต็มแรง ร่างกายของเอริคเกร็งจนรูรักขมิบถี่ ด้วยความเสียวซ่าน จนต้องเปิดปากร้องครางออกมาในที่สุด
“อ่าาส์...รูของคุณฟิตและถูกใจผมมากเลยรู้ไหม” เฟยคำรามออกมาเสียงดังอย่างถูกใจ เมื่อเขาก็รู้สึกเสียวซ่านมากไม่แพ้กัน
เฟยขยับลุกขึ้นนั่งแล้วจับตรึงสะโพกของคนนอนอยู่ให้ลอยตาม ส่วนมืออีกข้างก็จับแขนของเอริคเอาไว้ เพื่อตั้งท่าใหม่ พอได้ที่แล้วก็กระหน่ำโยกสะโพกกระแทกเข้าออกรัว ๆ อย่างหื่นกระหาย จนร่างกายเอริคสั่นคลอนตามแรงกระแทก ปากก็ร้องควรญครางออกมาไม่หยุด เมื่อถูกความซาบซ่านแผ่ขยายไปทั่วร่าง
ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊าาส์...อ๊ะะ ๆ !!”
เฟยกระแทกใส่เอริคไม่ยังจนอีกฝ่ายตาเหลือกลอย เพราะความจุกและความเสียวที่เขามอบให้ ร่างกายโยกขึ้นลงตามแรงกระแทก เมื่อเฟยเริ่มจับจุดได้ ว่าจุดเสียวของอีกฝ่ายอยู่ไหน ก็ยิ่งได้ใจกระแทกเน้น ๆ แต่จุดเดิม ทำให้เอริคดิ้นพล่านจนน้ำตาเล็ด สติแทบหลุดลอยทุกครั้งที่แท่งเนื้อกระแทกเข้ามา
“อ้าาส์...พร้อมกันนะครับ” เฟยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
พอเอริคถูกกระแทกใส่จุดเสียวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน ภายในของเขาเริ่มขมิบถี่ ๆ แล้วตอดรัดแน่นขึ้น ทำให้เฟยรับรู้ได้ทันที ว่าคนตรงหน้าใกล้จะเสร็จอีกครั้ง สะโพกหนาเริ่มโหมแรงทั้งหมดกระแทกเน้น ๆ เข้าออกอย่างไม่ยัง เพื่อที่จะให้ตัวเองเสร็จสมพร้อมกับอีกฝ่าย
ในที่สุดร่างกายของเอริคก็กระตุกเกร็งสองสามที แล้วปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาอีกครั้งอย่างกลั้นไม่อยู่ ส่วนเฟยก็ฉีดพ่นน้ำอุ่นร้อนเข้าในตัวของอีกฝ่ายตามไปติด ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักตัวนอนทับร่างของเอริคลงไปกับเตียงอย่างหมดแรง
เอริคหลับตานอนหอบอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า ข้างหูก็มีเสียงหอบหายใจของอีกคนดังอยู่ แต่ก็ไม่ได้ขยับหนีอะไร เพราะเวลานี้เขาก็แทบไม่มีแรงเหลือ ที่จะขยับตัวหนีแล้วเหมือนกัน เอริครับรู้ถึงสายน้ำอุ่น ๆ ในท้องน้อยตัวเอง เขาไม่คิดเลยว่าการเป็นฝ่ายรับ มันจะรู้สึกเหนื่อยล้ามากขนาดนี้ แถมไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ เมื่อครู่อีก
แต่ในที่สุดเรื่องทุกอย่างมันก็จบลง แค่นี้เขาก็ได้เป็นอิสระแล้ว เอริครู้สึกดีใจและโล่งใจไม่ได้ เมื่อคิดว่าทุกอย่างได้จบลงไปสักที
แต่...
อยู่ ๆ คนที่นอนทับเขาอยู่ ก็เริ่มขยับตัวแล้วจับตัวของเอริคพลิกให้นอนตะแคงข้าง ก่อนจะขยับมานอนทาบด้านหลังของอีกที พอเอริคเห็นแบบนั้นก็เบิกตากว้างตกใจ ร่างกายเย็นวาบขึ้นมาอีกครั้งทันที ไอ้จีนหื่น!! นี่มันคงไม่ได้คิดจะทำต่ออีกรอบหรอกนะ!!
“นี่มึงคิดจะทำบ้าอะไรอีก ไอ้เฟย!” เอริคหันไปถามเฟยด้วยสีหน้าตกใจ
เฟยไม่ตอบแต่ยกยิ้มมุมปากส่งให้แทนคำตอบ หึหึ คนอย่างเฟยไม่มีความคิดที่จะพอแค่รอบเดียวอยู่แล้ว ยิ่งคืนนี้ได้เจอของสดใหม่ถูกใจเขาสุด ๆ แบบนี้ด้วย บอกเลยว่าคืนนี้ถ้าแรงไม่หมด เขาไม่มีวันหยุดกระแทกแน่นอน
เฟยค่อย ๆ กดริมฝีปาก พรมจูบลงที่แผ่นหลังเนียนของเอริคซ้ำ ๆ ก่อนจะเอื้อมมือ มาจับขายาวข้างหนึ่งให้ยกขึ้น เพื่อเตรียมท่าจะสอดใส่แท่งเนื้อของตัวเองเข้าไปภายในอีกครั้ง
“หรือว่ามึงคิดจะ...อ๊ะ อ๊าา”
ร้านอาหารจีนร้านอาหารจีนชื่อดังกลางใจเมือง ที่ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยสีแดงอย่างหรูหราสะดุดตา เป็นเสมือนศูนย์รวมผู้คนที่มีเชื้อสายจีน หรือบางคนที่รู้สึกเบื่ออาหารรสชาติจัดจ้าน ก็หันมานั่งกินเปลี่ยนรสชาติและบรรยากาศกัน โต๊ะอาหารมุมหนึ่งของร้านมีหนุ่มจีนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่เพียงลำพัง บนโต๊ะมีแก้วน้ำเปล่าวางอยู่ข้าง ๆ นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมาดูหลายครั้งติดต่อกัน ใบหน้าขาวซีดหันมองทางเข้าร้านเป็นระยะราวกับว่าเขากำลังนั่งรอใครบางคนอยู่และแล้วใบหน้าขาวซีดของหนุ่มจีนก็ค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นคนที่ตัวเองรอคอยมานาน กำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน แต่รอยยิ้มก็อยู่บนใบหน้าของหนุ่มจีนได้เพียงครู่เดียว ก็ต้องละลายหายไปในที่สุด เมื่อสายตาของเขามองเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังนั่งรออยู่นั้น ไม่ได้เดินมาเพียงคนเดียวอย่างที่เขาคิดไว้“อ้าวเฟยมาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” ชุนหนุ่มจีนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันไปเอ่ยทักทายอดีตบอดี้การ์ดหนุ่ม ของตัวเองออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ครับ” เสียงนุ่มทุ้มตอบ
ท้องทะเลสีคราม หาดทรายสีขาวสะอาดตา สายลมทะเลพัดเอื่อย ๆ พาเอาความสดชื่นเข้ามาปะทะใบหน้า บวกกับเสียงคลื่นกระทบเข้าฝั่ง ที่ไพเราะราวกับบทเพลงกล่อมให้ชวนหลับ ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หลังจากจบศึกระลึกความหลังที่ยาวนานติดต่อกันเกือบสามวัน ในที่สุดเฟยก็ยอมปล่อยให้เอริค ได้พักผ่อนแบบจริงจังตามที่หวังเอริคนั่งจ้องมองวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มและหลงใหล นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขามัวแต่หมกมุ่นทำแต่งาน จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้ เอริคนั่งคิดย้อนอดีตถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเอง ถ้าคืนนั้นเขาไม่ได้เจอกับเฟย เวลานี้ชีวิตของเขาจะเป็นยังไง มันจะดีขึ้นหรือจะแย่ลงกันนะเอริคที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดอยู่นั้น ก็ต้องถูกเสียงสั่นของโทรศัพท์เครื่องหรูตัวเอง ปลุกให้ตื่นกลับมาสู่โลกแห่งความจริง เอริคหันมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ แล้วขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าชื่อที่ขึ้นโชว์อยู่นั้นเป็นเบอร์ของเซ็นลูกน้องของตัวเองครืน ครืน ครืน!!“อืม มีอะไร&rd
รีสอร์ตติดทะเลสุดหรูรีสอร์ตสุดหรูที่เป็นห้องพักติดทะเล มีดีไซน์สวยงามทุกมุมเหมาะสมกับคู่รักที่พากันมาสวีท เพื่อเพิ่มความหวานให้แก่กันเป็นอย่างมาก ส่วนด้านหลังก็สามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน สุดแสนโรแมนติกได้แบบใกล้ชิดหาดทรายสีขาวท้องทะเลสีคราม กับท้องฟ้าสีสดใสไร้เมฆ มองไปสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่เห็นแล้วชวนให้ผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุขและจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูกแต่!!สองหนุ่มในห้องนอนรีสอร์ตสุดหรูห้องหนึ่ง ตอนนี้กับอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบสุด ๆ“คุณเอริคจะอยู่ท่านั่นอีกนานไหมครับ”“หนวกหู ขอทำใจหน่อยไม่ได้หรือไง”เสียงพูดของสองหนุ่มโต้เถียงกันดังอยู่บนที่นอน คนหนึ่งนั่งหลังพิงหัวเตียง ส่วนอีกคนก็กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัก ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าสวมใส่หลังจากที่พูดเคลียร์เรื่องของเรนจบลงในคืนนั้น เอริคกลัวว่าเด็กหนุ่มยังจะมาวุ่นวายกับคนของตัวเองไม่เลิกอีก เขาเลยลากเฟยหนีออกมาเที่ยวไกลกันสองคน และถือโอกาสมาเปลี่ยนบรรยากาศ มานั่งรับลมทะเล ดื่มด่ำกับธรรมชาติ
“ฮัลโหล”(เฮียเฟย)“เรน!”พอโทรศัพท์เครื่องหรูถูกกดรับ เสียงที่คุ้นเคยจากปลายสาย ก็ร้องเรียกชื่อเจ้าของโทรศัพท์ดังลอดออกมาเฟยที่ได้ยินน้ำเสียงหวานหยดย้อยนั้นเรียกชื่อตัวเอง ก็รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังอยู่ในสาย เลยพูดชื่อของอีกฝ่ายออกไปด้วยความตกใจ เพราะเขาไม่คิดว่าคนในสายจะมีเบอร์ติดต่อของตัวเองด้วยตั้งแต่ที่เฟยเลิกเป็นบอดี้การ์ด เขาก็ได้ตัดสินใจทิ้งอดีตไว้ด้านหลัง รวมถึงได้เปลี่ยนเบอร์ติดต่อทุกอย่างด้วย เพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เบอร์โทรที่เฟยใช้อยู่ตอนนี้เลยมีแต่เพื่อนสนิท กับเพื่อนที่เป็นบาร์เทนเดอร์ด้วยกันเท่านั้นที่รู้ พอเฟยได้ยินเสียงของเรนในสายเลยตกใจมาก เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะรู้เบอร์ของตัวเองได้(เรนไม่สบาย เฮียมาหาเรนหน่อยได้ไหม เรนลุกไม่ไหว) เสียงแหบแห้งราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ดังลอดออกมาจากปลายสายอีกครั้งเรนที่ยังไม่ยอมตัดใจเรื่องของเฟยง่าย ๆ เลยโทรมาเพื่อเรียกร้องความสงสารจากอีกฝ่าย เพราะเขารู้จักนิสัยของอดีตแฟนหนุ่มดี ว่าเป็นคนขี้สงสารและเอ็นดูตัวเองมาก ถ้าเฟยรู้ว่าเขานอนโทรมไม่สบายอยู่บนเตียงค
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กถูกเหวี่ยงติดผนังอย่างแรง จนล้มพับไปกองอยู่กับพื้น เรนชักสีหน้าไม่พอใจใส่เอริคที่ยืนกอดอกมองตัวเองอยู่อย่างไม่เกร็งกลัว“แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้ามึงยังไม่เลิกมาตอแยเมียกูอีก มึงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่” เอริคยืนกอดอกดูผลงานตัวเองอย่างชอบใจ ก่อนจะพูดขู่ออกไปอีกครั้ง ทำแค่นี้ทำมาเป็นร้องโวยวายสำออยจริง ๆ“อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย ผมไม่เชื่อหลอกว่าเฮียเฟยเป็นเมียของคุณจริง ๆ” เรนยันตัวเองลุกขึ้นยืนประจันหน้า แล้วพูดเถียงกลับอย่างไม่ยอมเรนรู้จักนิสัยของเฟยดีว่าเป็นคนยังไง ในอดีตเพราะหน้าตาสวยราวกับผู้หญิง เลยทำให้มีผู้ชายมากมายมาสนใจในตัวของเฟย แต่ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเอาเงินหรือของมาให้มากเท่าไหร่ เฟยก็ไม่เคยสนใจและมีความคิดเปลี่ยนมาเป็นรับ เพื่อสนองอารมณ์ของผู้ชายพวกนั้นเลยสักครั้ง แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าเฟยเป็นเมีย ใครมันจะเชื่อลง“แล้วทำไมกูจะต้องโกหกมึงด้วย” เอริคชักสีหน้าใส่คนเถียง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเชื่อคำพูดของตัวเองเลยสักนิด“คนอย่างเฮียเฟย ให้ตายก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนใจมาเป็นรับหลอก” เรนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขารู้จ
ตุบ!เสียงกำปั้นทุบลงโต๊ะทำงานด้วยความโกรธเกรี้ยว จนคนที่ยืนพูดรายงานอยู่ สะดุ้งตกใจรีบก้าวถอยหนีคนโมโหอย่างงง ๆ แซมไม่เข้าใจว่าเอริคโกรธตัวเองเรื่องอะไร เขาแค่มารายงานตามปกติเองนี่นา“ไอ้เด็กบ้า เดี๋ยวมึงได้เจอดีแน่” เอริคสถบด่าออกอย่างไม่พอใจ กล้ามาหาผู้ชายของเขาถึงที่นี่เลยเหรอ“เออ…” แซมยืนนิ่งค้างทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ ๆ เจ้านายตัวเองก็แสดงท่าทีฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ“แล้วเฟยล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน” เอริคถามขึ้นเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องขึ้นมาได้“อ๋อ พึ่งเดินลงไปหาเด็กคนนั้นเมื่อกี้เองครับ” แซมตอบกลับไปตรง ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างไม่ได้คิดอะไร“ใครบอกมัน”เอริคถามต่ออย่างสงสัย เพราะตามปกติแล้วเฟยจะอยู่แต่ชั้นบน ไม่ห้องพักก็จะมาช่วยงานเขาที่ห้องนี้เท่านั้น เฟยไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนมาหา ถ้าไม่มีใครขึ้นมาบอก“ผมบอกเองครับ”แซมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วพูดบอกเอริคออกไปตรง ๆ พร้อมปั้นหน้ายิ้มแป้นรอรับคำชมจากอีกฝ่าย เมื่อคิดว่าตัวเองพึ่งทำเรื่องดี ๆ ไปแต่…สิ่งที่ได้มากับไม่ใช่คำชมเชย แต่กลับเป็นแฟ้มเอกสารเล่มหนา ปามาทางเขาแทน“ไอ้แซม มึงนี่มัน” เอริคตะคอกว่าลูกน้อ