“ผมต้องหล่อให้ทันวันแต่งงานสิ”
ไม่รู้ทำไม คำพูดนี้พาให้สองสายตามาบรรจบสอดประสานกันโดยอัตโนมัติแล้วหัวใจดวงน้อยๆ ในอกของคนทั้งสองอยู่ๆ ก็เต้นแรงผิดจังหวะขึ้นมาเสียอย่างนั้น…
“อะ เอ่อ.. เสร็จแล้ว สะ เสร็จแล้ว”
อรฤดีใบหน้าแดงก่ำพูดออกมาตะกุกตะกักก่อนจะหลบสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วขยับตัวลงจากเตียงคนป่วยไปซึ่งก็ไม่ต่างกันจอมทัพเองก็หันหน้ามองซ้ายมองขวาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรหรือทำตัวยังไงต่อได้แต่ล้มตัวลงนอนแล้วเปิดทีวีดู เพื่อไม่ให้บรรยากาศในห้องตอนนี้มันอึดอัดมากจนเกินไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร่กก..
เสียงประตูที่ดังขึ้นไม่ได้ทำให้เขาและเธอให้ความสนใจมากนักเพราะถ้าไม่ใช่คุณหมอหรือพยาบาลก็ต้องเป็นพ่อหรือแม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน..
“จอมขาาาาา”
“ปัด..”
ขวับ! ..
ทั้งจอมทัพและอรฤดีเหมือนจะตกใจชะงักนิ่งไปชั่วครู่พร้อมๆ กันเพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาจะเป็นผู้หญิงคนนี้…
“ปัดคิดถึงคุณจังเลยค่ะ ใจร้ายที่สุดเลยไม่ยอมบอกต้องให้สืบเองถึงได้รู้ว่าจองพักรักษาตัวอยู่ที่นี่”
ลูกปัดเดินตรงไปที่ชายหนุ่มแล้วโอบกอดเขาเต็มสองแขนก่อนจะหอมแก้มทั้งซ้ายขวาของเขาราวกับในห้องนี้มีกันอยู่เพียงสองคน
อรฤดีวางผลไม้ในมือลงไว้ที่เดิมพร้อมกับถอนหายใจหนักๆ ออกมาอย่างไม่ปิดบังมันรู้สึกอึดอัดกับภาพตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันว่าฉันออกไปข้างนอกก่อนดีกว่า”
ถึงเธอจะพูดแบบไม่ได้มองไปที่คนรักทั้งสองแต่จอมทัพเองก็รีบหันมามองตามต้นเสียงในทันทีอยากจะเอ่ยห้ามเอาไว้แต่ก็กลัวลูกปัดจะวีนใส่จนเรื่องใหญ่กว่าเดิม
“กลับไปเลยก็ได้ย่ะ อยู่ก็รกหูรกตาที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างเธอควรอยู่”
ลูกปัดหันขวับกลับมาจ้องมองอรฤดีด้วยแววตาแข็งกร้าวก่อนจะ เคล้นเสียงพูดลอดไลฟันออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจนทำเอาจอมทัพปวดหัวจี้ดข้นมาในทันที
“อ๋อเหรอแล้วถ้าเป็นที่ที่เธอควรอยู่ทำไมเค้าถึงไม่บอกเธอล่ะ”
ทีแรกก็กะว่าจะทำเป็นมองไม่เห็นเพราะนี่มันเรื่องส่วนตัวของอีกคนตามที่ได้ตกลงกันไว้แต่มาล้ำเส้นกันขนาดนี้จะให้ปล่อยผ่านโดยไม่ทำอะไรเห็นทีว่าจะง่ายเกินไปหน่อย
“อี ชั้นต่ำ หุบปากแล้วก็รีบใสหัวออกได้แล้ว”
ลูกปัดผละตัวออกจากคนรักแล้วยืนกอดอกกวาดมองอรฤดีตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคนอย่างนี้จะกล้ามาตีฝีปากกับเธอได้ยังไง แค่หายใจร่วมห้องด้วยก็รังเกียจจะแย่แล้ว
“ฉันเปลี่ยนใจละฉันอยู่ที่นี่ดีกว่า!”
อรฤดีเองก็ยกมือขึ้นมากอดอกแล้วนั่งไขว่ห้าง เชิดหน้าจ้องมอง ลูกปัด ด้วยท่าทางสงบเรียบนิ่งจนเดาไม่ถูกเลยว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ถ้าจะอกแตกตายก็ตายไปสิ ที่นี่โรงพยาบาล หมอมีเยอะแยะไป
“คุณไม่ควรพูดอย่างนี้นะปัด ขอโทษคุณอรเดี๋ยวนี้”
เมื่อเห็นว่าคนรักของตนเองเริ่มก้าวร้าวมากเกินไปและอรฤดีก็ดูจะหมดความอดทนแล้วคนกลางที่พูดอะไรไปก็ไม่มีใครฟัลยจึงต้องเอ่ยท้วงออกมา
“ไม่ค่ะปัดทำอะไรผิดคะ ทำไมปัดต้องขอโทษมันด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นลูกปัดก็หันขวับกลับมาตั้งคำถามกับชายหนุ่มที่จ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่เหมือนกับว่าผิดหวังในตัวเธอยังไงยังงั้นแต่จริงๆ แล้วเขาก็รู้สึกผิดจนพูดอะไรไม่ออกที่ตัวเองเป็นต้นเหตุเรื่องราวนี้ ปกติลูกปัดก็ไม่ได้มีนิสัยอย่างตอนนี้แต่เป็นเพราะเขาเองที่ทำให้เธอเสียใจแบบนี้
“ผิดที่คุณไปด่าเค้าไงพูดดีๆ กันก็ได้ไม่ใช่เหรอ”
“อ๋อเดี๋ยวนี้ปัดทำอะไรก็ไม่ดีไปแล้วสินะคะ ทำไมเหรอคะพอได้อยู่กับมันแล้วอะไรๆ ก็ดีไปหมดเลยใช่ไหมเรื่องที่ คุณรับปากกับปัดไว้ ล่ะคะ”
“ไปกันใหญ่แล้วปัดผมว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่าผมอยากพักผ่อน”
จอมทัพมองคนรักของตัวเองทีเหลียวไปมองอรฤดีทีด้วยความอ่อนใจ
“นี่คุณไล่ปัดอย่างนี้เหรอคะ จอม คุณกล้าไล่ปัดต่อหน้ามันเหรอคะ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะปัด แต่ผมอยากพักผ่อนจริงๆ”
เขามองเธอด้วยสายตาที่เจ็บปวดและสับสนตอนนี้มันรู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังยืนอยู่ที่ปากเหว ยังไงบอกไม่ถูกนี่เรื่องราวมันมาถึงตอนนี้ได้ยังไงกัน..
“เอาอย่างงั้นก็ได้ค่ะขอโทษนะคะที่ปัดมารบกวนเวลาของคุณ ส่วนแกอย่าได้ดีใจนานไปแกได้เจอฉันอีกแน่”
อรฤดีชายตามองหญิงสาวที่ส่งเสียงแว้ดๆ อยู่อย่างไม่แยแสก่อนจะหันหน้ากลับมามองทีวีแล้วก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังปังเป็นสัญญาณบอกว่าเธอได้ออกไปจากห้องแล้ว
“ผมขอโทษ”
เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบาพูดออกมาจากปากของคนที่รู้สึกผิดจริงๆ ทั้งทางสีหน้าแววตาและท่าทาง
“คุณจะมาบอกฉันทำไมคนที่ควรจะพูดไม่ใช่คุณซะหน่อย”
“เพราะผมเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด”
“ฉันว่าฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า”
อรฤดีพูดจบก็คว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาหรือตอบรับคำขอโทษใดๆ จากชายหนุ่ม..
เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังของเธอด้วยความรู้สึกผิดที่มันจุกเต็มตื้นอยู่ในอก
สองขาที่เดินก้าวออกจากห้องนั้นมามันหนักอึ้งแปลกๆ ความรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจมันถาโถมเข้ามาผสมปนเปไปกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดในทรวงอกข้างซ้ายอย่างหาสาเหตุไม่ได้ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตื่นขึ้นมาจนไม่ รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
.
.
.
“กรี๊ดกรี๊ดกรี๊ดดดดดดดดดดด!”
“เกลียดฉันเกลียดแก เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด กรี๊ดดดด”
เพล้งงงง!!
แจกันราคาแพงถูกกวาดร่วงลงพื้นเพื่อระบายอารมณ์โกรธแค้นของหญิงสาวที่ตอนนี้เธอนั้นโมโหจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว
“เลิกบ้าแล้วก็มีสติได้หรือยังดูสภาพแกสิ !”
เปรม เดินตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของสาวตัวเองที่เพิ่งจะทำเรื่องให้เขาหงุดหงิดมากเสียจนถ้าหากเป็นคนอื่นเขาคงจะมอบลงโทษให้อย่างสาสมแน่นอน
“อะไร! อะไรอีก!.. จะมายุ่งอะไรกับปัดนักหนา!”
“ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับคุณอรฉันรู้เรื่องที่แกทำทั้งหมดแล้วมันหมายความว่ายังไงแกอยากให้ฉันหมดความอดทนจริงๆใช่ไหม”
“เออ! แล้วยังไง ก็ปัดบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าปัดเกลียดมันเกลียดเกลียดเกลียดเกลียด! ปัดอยากให้มันตายตายไปด้วยซ้ำมันมีดีตรงไหนทำไมมีแต่คนหลงรักมันกรี๊ดดดด!!”
“ถ้าแกยังไม่หยุดทำนิสัยแบบนี้แกได้เสียไอ้จอมไปจริงๆ แน่ฉันสั่งห้ามเด็ดขาดอย่ายุ่งกับคุณอรอีกไม่งั้นแกได้เห็นดีกับฉันแน่…อ้อแล้วอีกอย่างหนึ่งนะ เรื่องความชั่วที่แกทำ ทางพ่อแม่ไอ้จอมและพ่อแม่คุณอรก็น่าจะรู้แล้วด้วยถ้าแกไม่อยากติดคุกก็อยู่เงียบๆ ซะถ้าแกคิดจะทำร้าย คุณอรอีกแล้วล่ะก็ ฉันจะไม่ให้ความช่วยเหลือแกอีกต่อไป”
“เอาเลยก็เอาสิปัดไม่กลัวหรอกยังไงพ่อกับแม่ก็ต้องช่วยปัดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอีนังนั่นหรือพี่ปัดก็ไม่กลัวทั้งนั้น”
น้องสาวแสนสวยผู้เย่อหยิ่งขึงตาชักสีหน้าใส่พี่ชายของตัวเองขณะพูดลูกผู้ดีตระกูลเก่าแก่อย่างเธอจะต้องกลัวอะไรอย่างนั้นหรือ … แล้วเธอจะแพ้นังคนไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่นได้อย่างไร ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นทั้งคนรักของเธอทั้งพี่ชายของเธอดูเหมือนจะพากันหลงเสน่ห์นังนั่นกันไปหมดแล้ว
“ฮือๆ ฮือๆ”
ลูกปัดปล่อยโฮออกมาเมื่อเดินพ้นจากสายตาของพี่ชายเธอผิดอะไรเธอผิดตรงไหนทั้งๆ ที่เธอมาก่อน ทั้งๆ ที่เขารักเธอก่อนแท้ๆ ทำไมถึงต้องมาพลากเขาไปจากเธอด้วย
หยาดน้ำตาใสๆ ไหลอาบใบหน้าสวยด้วยความเสียใจ น้อยอกน้อยใจปนกันไปหมดแต่ใครที่ไหนเลยจะรู้ทำได้เพียงแค่ร้องไห้อยู่คนเดียวเท่านั้น
พี่ชายที่รักน้องสาวมากกว่าสิ่งใดเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดไปไม่น้อยกว่ากันถึงน้องเขาจะเคยทำเรื่องไม่ดีกับจอมทัพในอดีตแต่เมื่อได้โอกาสแก้ตัวเธอก็พยายามอย่างมากจนผ่านพ้นมาได้.. แต่เหมือนเวรกรรมจะไม่ได้ปล่อยผ่านไปเหมือนใจคน .. เลยสักนิด นี่สินะที่เขาว่ากฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ..
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ