“เลว! เลวสิ้นดี!”
อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น
ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด
หลายวันต่อมา
“แม่คะอรจะหย่า .. “
“อรคิดดีแล้วเหรอลูก”
“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”
“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ”
“แต่เรื่องนั้น”
“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “
แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกสาวทนทุกข์ได้อยู่ดี ..
สิริวดีได้แต่ถอนหายใจเห็นทีคงต้องมีเรื่องคุยกับทางบ้านนั้นอีกยาว
“แล้วลูกคุยกับตาจอมแล้วหรือยัง “
“ยังค่ะแต่ไม่น่าจะยากอะไรเพราะเค้าก็คิดเหมือนอรมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็จะไม่ห้าม แต่แม่อยากให้คิดดีๆ ก่อนนะลูกแต่ถึงจะยังไงแม่ก็อยู่ข้างลูกของแม่เสมอนะ”
“แม่ก็อยู่บ้างลูกสะใภ้ของแม่เหมือนกัน”
“พ่อด้วย”
ทัศนีย์และสามีพูดแทรกขึ้นเสียงดังจนสามพ่อแม่ลูกตกใจรีบหันไปมองในทันที
“ดูสิดูลูกคุณทำงามหน้าจนหนูอรทนไม่ได้ คอยดูเถอะถ้าเซ็นใบหย่าเมื่อไหร่เตรียมตัวเปลี่ยนนามสกุลได้เลย”
ทัศนีย์จีบปากจีบคอพูด พร้อมกับลูบหัวลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู
“ใจเย็นๆ ก่อนนะลูกลิ้นกับฟันก็เป็นอย่างนี้ มันต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่แม่ก็รู้นะว่าลูกสะใภ้ของแม่ต้องใช้ความอดทนมากขนาดไหน .. พ่อกับแม่ขอโทษนะลูก”
“มาไม่ให้ซุมให้เสียงเลยนะพวกเอ็ง”
คเชนทร์เป็นฝ่ายพูดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไปมาหาสู่กันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว
“จริงๆ พ่อก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วยกับการที่ลูกชายพ่อมันทำตัวแบบนี้หรอกนะ พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกต้องมาคิดมากกับเรื่องของมันแบบนี้”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ อรรู้ว่าทุกคนรักและหวังดีกับอรแต่อรว่าเรื่องของเราสองคนมันไปต่อไม่ได้แล้วค่ะ”
ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนได้แต่ทำหน้าหงอย มองตากันไปกันมาจะว่าทะเลาะกันตามประสาเด็กๆ ก็ดูไม่ได้ตอนนี้คงทำได้เพียงยื้อให้นานที่สุดและหาโอกาสให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันเสียก่อน
.
.
“แกไปทำอะไรหนูอรถึงได้อยากจะหย่ากับแกขนาดนี้ห้ะตาจอม”
จอมทัพทำได้เพียงอ้ำอึ้งมันหลายเรื่องเหลือเกินถ้าบอกไปหมดนี่มีหวังมีเขาได้ ถูกตีหัวแบะแน่นอน ..
“ความผิดผมเองแหละครับแม่”
“อย่าบอกนะว่าเรื่องนังเด็กนั่น .. นี่แกยังไม่เลิกกันอีกหรือไงห้ะตาจอม”
ทัศนีย์จ้องมองลูกตัวเองตาไม่กระพริบ บอกให้ไปจบความสัมพันธ์กันตั้งนานแล้วก็ปล่อยให้มีปัญหามาจนได้ ลูกคนนี้นี่มันน่าโดนจริงๆ
“ผมกำลังหาโอกาสอยู่ครับแม่”
แต่แม่บอกแกไปตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าให้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วถ้าหนูอรจะหย่าแม่ไม่ยอมเด็ดขาดแล้วก็ไม่มีวันที่จะให้นังเด็กนั่นมาทำอะไรหนูอรได้อีกแล้วนะ แม่ขอเตือนแกไว้ก่อนนะตาจอม
“อ่อ..แล้วอีกเรื่องก่อนที่แกจะเอาหน้าแกไปให้หนูอรเห็นแกควรทำตัวให้สะอาดซะก่อนถ้าแกทำให้หนูอรเปลียนใจไม่ได้แกเจอดีแน่”
พูดจบคนเป็นแม่ก็เดินขึ้นห้องของตัวเองไปปล่อยให้ลูกชายนั่งกุมขมับกับผลงานของตัวเอง ลูกปัดก็ไม่มีท่าทางอ่อนลงเลยแถมยังทำเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
หนึ่งเดือนต่อมา
ตั้งแต่ที่โดนแม่สวดไปวันนั้นจอมทัพก็พยายามที่จะติดต่อและไปหาอรฤดีอยู่หลายต่อหลายครั้งแต่เธอก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาอีกเลยและยังถูกสั่งห้ามจากพ่อและแม่ของเขาไม่ให้ไปหาเธอจนกว่าจะเคลียร์เรื่องลูกปัดจบ
ที่เรือนหอจึงมีแค่พี่ลูกปลาและอรฤดีที่อยู่ที่นั่นอันที่จริงเธออยากกลับไปอยู่บ้านแต่พ่อและแม่ของเธออยากให้มาอยู่เพราะยังมีความหวังว่าเธอจะเปลี่ยนใจเรื่องการหย่า อรฤดีก็ยอมกลับมาอยู่ตามคำขอของแม่
“อึก..อุบ อ้วกกก..แค่กๆ อ้วกกกกก”
“เป็นอะไรคะคุณอร ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“อุบบ อ้วกกกกก แค่กๆ”
“น้ำค่ะๆ พี่ลูบหลังให้นะคะ”
ขณะกำลังดูแลสวนผักและสวนดอกไม้อยู่นั้นอรฤดีก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเสียดื้อๆ ก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมดเรี่ยวแรง
“นั่งพักก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาใจคอไม่ดีเลยค่ะไปหาหมอกันดีกว่าไหมคะ”
“อรแค่เวียนหัวนิดหน่อยเองค่ะพี่ปลา นั่งพักสักแปปก็คงจะดีขึ้นช่วงนี้อรนอนน้อยน่ะค่ะ”
“ถ้าคุณๆ รู้เข้าพี่ปลาตายแน่เลยค่ะ ดมยาดมก่อนนะคะ”
“อย่าคิดมากไปเลยค่ะ อรไม่ได้เป็นอะไร”
“หืมม ก็ถ้าคุณจอมอยู่ด้วยแล้วอาเจียนแบบนี้คงจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่นี่..”
คำพูดของพี่ปลาทำเอาอรฤดีหน้าซีดเผือด.. เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย และท่าทางของเธอก็ทำเอาพี่ปลาอดที่จะฉุกคิดขึ้นมาไม่ได้ ถึงเรื่องในคืนวันนั้น…
“หรือ..หรือว่าคุณอร !! “
“อุบบ อ้วกกกก กกกก “
ยังไม่ทันที่อรฤดีจะตอบปฏิเสธเธอก็อาเจียนออกมาอีกครั้งเพียงเท่านั้นพี่ปลาก็รีบประคองเธอกลับขึ้นห้องไปนอนพักผ่อนในทันที
“อย่าพึ่งบอกใครนะคะพี่ปลา .. อรยังไม่อยากให้ใครรู้ค่ะ”
เธอกำมือของพี่ปลาไว้แน่นแววตาเต็มไปด้วยความเว้าวอนน่าสงสารจนพี่ปลาใจอ่อนยวบเห็นใจเธอไม่น้อย
“กับพวกคุณท่านก็ไม่บอกเหรอคะ”
“ไม่ค่ะ อรยังไม่อยากให้ใครรู้ค่ะ “
พี่ปลาพยักหน้าเบาๆ แล้วลูบหลังมือเจ้านายคนสวยเป็นเชิงปลอบใจเธอตอลกลับไป
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณอรต้องรับปากพี่ปลานะคะ ว่าจะต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ”
“อรรับปากค่ะ พี่ปลา”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่ปลาก็เดินออกจากห้องมาปล่อยให้เธอได้พักผ่อนแต่เพียงแค่พี่ปลาเดินลับหลังหายออกไปหยาดน้ำตาเป็นสายก็ไหลเอ่ออาบแก้มนวนอีกครั้ง .. ขอให้นี่เป็นเพียงแค่ความฝันได้ไหม ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอขนาดนี้กันนะ..
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ