กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ..
“แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ”
“อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย”
“อึ๋ยย..”
กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
“อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”
“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ”
นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ
“ไปกันเลยไหม อยากเดินแล้ว”
กรองขวัญทำหน้าเบ้ทั้ง งง ทั้งสงสัยไม่หยุดแต่ก็ทำตามที่เพื่อนบอกทุกอย่างก่อนจะคิดได้ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแบบนี้แหละที่เธออยากจะให้อรฤดีเป็น.. เกิดเป็นผู้หญิงก็ต้องรักสวยรักงามกันบ้างอุส่าห์เกิดมาสวยทั้งทีดันลืมหยิบบคู่มีความสวยติดมือมาด้วยแบบนี้ได้ยังไงกัน..
“ไปกันๆ วันนี้ช้อปให้แขนที่ยกเวทมาถือถุงจนแขนล้าไปเลยนะ”
“ได้เล้ยยย”
เห็นพ้องต้องกันแล้วก็จูงมือกันเดินพุ่งตรงเข้าไปทำตามความฝันโดยไม่ได้รู้เลยว่ามีใครที่กำลังแอบมองอยู่จากที่ไกลๆ
“สุดยอดเลยพึ่งรู้ว่าการช้อปปิ้งมันจะสนุกขนาดนี้ เสียดายค่ำแล้วไม่งั้นจะเดินต่ออีกหน่อย”
กรองขวัญอึ้งไปกับคำพูดของอรฤดีจนพูดอะไรไม่ออก และเมื่อก้มมองของในมือ…ของอรฤดีเยอะกว่าของเธออีก !
“งั้นวันหลังเรามาอีกนะ ดีจังชอบว่ะอรที่เป็นแแบบนี้”
“งั้นพรุ่งนี้มาอีกนะ ติดใจขนมเค้กว่าแล้วก็อยากกินอีกนะเนี่ย”
“ไม่สบายหรือเปล่าอร.. ไปหาหมอไหม”
กรองขวัญอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาแปะหน้าผากเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยถาม.. ผิดปกติ ผิดไปหมดแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือเพื่อนของเธอจริงๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรสบายดี กินอิ่มนอนอุ่นแต่เหมือนจะกินเก่งกว่าเดิมด้วย”
“เออ..เออๆ ดีก็ดีให้ไปส่งไหม ของเยอะขนาดนี้”
“ไม่เป็นไรแค่นี้เองสบายมากกลับกันเถอะ แล้วเจอกันนะ”
“โอเคๆ ถึงแล้วทักมาบอกด้วยนะ บาย”
“บายย”
ร่ำลากันเสร็จทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับอรฤดีเดินฮัมเพลงเบาๆ เดินไปที่รถเป็นจังหวะเดียวกับที่เปรมเลี้ยวรถเข้ามาเห็นเธอพอดีตั้งใจว่าจอดรถเสร็จจะเข้าไปทักทายสักหน่อย
ตืดดด ตืดดดด
“ว่าไงคะแแม่อรกำลังจะกลับแล้วค่ะ ช้อปของเต็มมือเลยขับรถก่อนนะคะ “
“หมับ..ว้ายยยย อุ๊ปปป..”
ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูรถก็มีมือหนาพร้อมกับผ้าสีขาวอาบยาสลบเอื้อมมือมาปิดจูกของเธอเอาไว้เพียงไม่กี่วินาทีหญิงสาวก็หมดสติลงไปในทันที
แกร่ก!!..
เปรมลั่นไกปืนจ่อหัวคนร้ายไว้เมื่อมันกำลังจะพาเธอออกไปจากตรงนั้น
“ถ้ามึงยังไม่อยากตายปล่อยมือจากผู้หญิงซะ”
คนคร้ายตัวโตชะงักนิ่งก่อนจะค่อยๆ ทำตามที่เสียงคุ้นหูเอ่ยพูดแต่ยังไม่ทันทีจะหันกลับมาก็โดนด้ามปืนตบเข้าจากด้านหลังอย่างแรงจนหมดสติสลบไป
เปรมรีบดึงหมวกไอ้โม่งออกก็จำได้ว่าเป็นของน้องสาวตนเองจึงโทรให้คนสนิทของตนเองมาเอาตัวคนร้ายไป
“สร้างแต่เรื่องจริงๆ”
เขาบ่นพึมพำแล้วช้อนอุ้มร่างที่ไร้สติของอรฤดีไปที่รถของตัวเองในหัวมันสับสนไปหมด.. เขารักเธอด้วยใจจริง ความรู้สึกที่มีต่อเธอมันบริสุทธิ์เกินกว่าที่เขาจะทำร้ายเธอได้แม้เธอจะไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับเขาก็ตาม..
แต่สองมือของเขาก็ประคองพวงมาลัยรถตรงไปที่คอนโดของตัวเองทันที ..
เขาค่อยๆ วางคนในอ้อมแขนลงบนเตียงกว้างของตนเองแล้วเดินไปหาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดหน้าให้เธอเบาๆ ด้วยความทะนุถนอมก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตัดสินใจกดโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคน
“ผมขอโทษ..ที่คุณต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายเพราะน้องสาวของผมหลายต่อหลายครั้งแบบนี้ ทั้งๆ ที่บอกว่าหวังดี ทั้งที่ผมรักคุณมากกว่าใครแต่กลับดูแลปกป้องคุณไม่ได้เลย”
เปรมก้มหน้าพูดด้วยความรู้สึกผิดสองมือก็เช็ดเบาๆ ไปตามใบหน้าและแขนทั้งสองข้างของคนที่หมดสติอยู่
“ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
แกร่ก…
“อรอยู่ไหน! มึงทำอะไรอร!”
จอมทัพเปิดประตูห้องเข้ามาก็เอ่ยถามเสีบงดังด้วยความโมโหทันทีที่เปรมโทรไปเขาก็รีบเหยียบบรถมาอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนใจเมื่อมาถึงก็เห็นเปรมกำลังเช็ดตัวให้เธออยู่ จอมทัพรีบปัดมือของเปรมออกในทันที
“ถ้ากูคิดจะทำกูคงไม่โทรไปบอกมึงหรอกนะ แล้วสิ่งที่มึงควรทำคือดูแลคุณอรให้ดีไม่ใช่หรือไงแล้วนี่อะไร !! “
เปรมลุกขึ้นผลักจอมทัพอย่างแรงด้วยความโมโหยิ่งเห็นหน้าคนที่ได้ครอบครองหัวใจเธอคือไอ้คนโลเลคนนี้เขาก็ยิ่งโมโหขึ้นมา
“อย่าเอามือของมึงมาแตะต้องตัวอรอีก”
“ถ้ามึงไม่มีปัญญาดูแลมึงก็ถอยไปซะ ไม่ใช่เพราะมึงหรอที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณอรเจ็บตัว พาคุณอรออกไปจากห้องกูซะ ..”
เปรมพูดจบแล้วก็เดินหนีออกไปเพื่อระงับสติอารมณ์จอมทัพเองก็รีบอุ้มอรฤดีออกมาจากห้องนั้นถ้าขืนอยู่นานกว่านี่มีหวังได้ซัดกันสักยกสองยกแน่ๆ
“หึ ไม่เจอกันหลายวันก่อเรื่องอีกจนได้สินะ”
เขาหันมาพูดกับคนข้างๆ เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จแล้วก่อนออกรถ พากลับไปบ้านแม่คงต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนพากลับเรือนหอของเขาและเธอก็แล้วกัน คิดได้อย่างนั้นก็รีบขับรถตรงกลับไปที่นั่นในทันที
“ตายแล้ววว คุณอรเป็นอะไรไปคะคุณจอม”
“รีบไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คุณอรเร็วพี่ปลา”
“ค่ะ ๆ “
ตลอดเวลาที่เธอยังไม่ได้สติเขาคอยเฝ้ดูแลอยู่ไม่ห่างแทบจะไม่ได้นอนนั่งจ้องใบหน้าที่หลับพริ้มไปพร้อมกับความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ในอก ไม่รู้ว่าการได้เห็นเธออยู่ตรงหน้านี้คือความสุขไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ไปพักผ่อนเถอะค่ะเดี๋ยวพี่ปลาจะดูแลต่อเอง”
พี่ปลาเข้ามาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็เห็นชายหนุ่มยังคงนั่นจ้องคนที่ยังไม่ได้สติอยู่ที่เดิมก็เป็นห่วงกลัวจะไม่สบายไปอีกคน
“ฝากด้วยนะครับพี่ปลาเดี๋ยวผมมา”
จอมทัพหันมามองใบหน้าของเธออีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตนเองแต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงของพี่ปลาดตะโกนดีใจที่เจ้านายของตัวเองฟื้นเมื่อได้ยินอย่างนั้นจอมทัพก็โล่งใจตั้งใจว่าอาบน้ำเสร็จจะไปขอโทษเธอกับสิ่งที่เขาทำเลวๆ ในวันนั้น..
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ