“นี่คุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องนี้อีกเหรอ”
“ไม่ได้โกรธค่ะก็เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวชั้นแค่ไม่อยากถูกใครมากล่าวหามาว่าชั้นอีก”
มันก็จริงของเธออย่างที่เธอว่า..เธอมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจในเมื่อควรเป็นเค้าเองที่จะต้องจัดการเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ดี ต่อให้เอ่ยคำขอโทษไปอีกกี่ครั้งเรื่องราวมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน
เขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างทางเพียงแต่ขับรถตรงไปยังร้านอาหารแห่งใหม่ที่คิดว่าเธอน่าจะชอบเพื่อเป็นการชดเชยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ดี
หญิงสาวนั่งตรงสายตาจ้องมองไปยังเส้นทางด้านหน้าเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเธอนั้นคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
“คุณรู้จักร้านนี้ได้ยังไง..”
คำพูดของเธอเรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ไม่น้อยเค้าเองก็หันมามองหน้าเธอเช่นเดียวกันเพราะ ไม่คิดว่าเธอเองก็จะรู้จักร้านนี้เช่นกัน
“คุณก็รู้จักร้านนี้เหมือนกันเหรอ”
“นี่เป็นร้านที่ฉันชอบมากับคุณปู่บ่อยๆ แต่ว่าตั้งแต่คุณปู่เสียไปฉันก็ไม่ค่อยได้มาอีก”
สายตาของเธอไหววูบลงเมื่อนึกถึงคนที่จะไปอยู่บนสรวงสวรรค์และยิ่งคิดถึงมากขึ้นไปอีกเมื่อตอนนี้เธออยู่ไหนร้านที่เป็นความทรงจำที่ไม่เคยเลือนลาง
“จริงๆ ผมก็รู้จักร้านนี้ได้ไม่นานหรอกเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้เอง ที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดผมก็เลยชอบมาบ่อยๆ จนกลายเป็นร้านประจำอีกร้านนึงเลยแหละ”
เมื่อต่างคนต่างให้เหตุผลและความชอบของตัวเองเสร็จแล้วก็พากันลงจากรถเดินเข้าร้านไปน่าแปลกที่ทั้งสองคนมักจะมีความชอบอะไรคล้ายๆ กันอยู่เสมอแล้วก็กลายเป็นว่าสองคนนั้นพูดคุยกันถูกคอต่างจากในตอนแรกที่ต่างคนต่างตั้งแง่ไส่กันโดยที่ไม่รู้เลยว่าช่วงเวลาเหล่านั้นค่อยๆ เลือนลางจางหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฉันชอบนั่งที่โต๊ะนี้กับคุณปู่ค่ะ ทุกๆ อย่างที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยทั้งที่ฉันไม่ได้มานานมากแล้วขอบคุณนะคะ”
อรฤดีมองทุกอย่างด้วยแววตาเป็นประกายและรอยยิ้มอ่อนโยนราวกับกำลังทบทวนความสุขในอดีตที่เธอมองเห็นทับซ้อนอยู่ในตอนนี้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าที่ทำให้เธอได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
“ผมดีใจที่คุณชอบนะ”
สายตาคมลอบมองใบหน้าสวยตรงหน้าเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ได้ชวนเธอพูดคุยอะไรเพราะต้องการให้เธอได้ซึมซับกับความทรงจำอันแสนสุขของเธอต่อไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ทำไมเพียงแค่เห็นภาพตรงหน้าเค้าก็รู้สึกสบายใจรู้สึกเหมือนข้างในที่มันขาดหายได้ถูกเติมเต็มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หลายวันผ่านไป
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานแล้วนะลูก”
ฝ่ามือที่ แสน อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักและหวังดีจากคนเป็นแม่ลูบลงเบาๆ ที่หัวทุยของลูกสาวถึงแม้เธอจะดื้อไปบ้างและแม้ตอนนี้เองเธอก็ยังพยายามขัดขืนและไม่เต็มใจกับการแต่งงานในครั้งนี้ที่ตนเองและสามีได้หมั้นไว้เอาไว้นั้น แต่เพื่อแม่แล้ว เพื่อความสุขของแม่เธอก็ยังยอมทำตาม..คิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูจนบอกไม่ถูก
“อรยอมแต่งงานแล้วแม่ก็ต้องไปหาหมอตามที่หมอนัดทุกครั้งนะคะเข้าใจไหม”
“รู้จักต่อรองแม่ด้วยเหรอเด็กคนนี้โตมาแล้วเจ้าเล่ห์จริงๆ เลย”
“ก็แม่ดื้อนี่คะ แต่ยังไงอรก็รักแม่ที่สุดอยู่ดี”
ไม่ว่าจะโตแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ยังสวมกอดแม่ของเธอเอาไว้ทั้งสองแขนแล้วก้มหน้าลงไปซุกไซ้สูดกลิ่นหอมที่เหมือนกับเป็นยาวิเศษทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ต่อไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“นี่อรแม่จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะลูก คนเราถ้าหากว่าเป็นคู่กันแล้วอยู่คนละฟากฟ้าก็มาเจอกันได้อยู่ดีแต่ถ้าหากไม่ใช่คู่กันต่อให้ยืนจับมือกันแน่นแค่ไหนสักวันก็มีเหตุให้จำเป็นต้องปล่อยมือเชื่อความรู้สึกของตัวเองเชื่อหัวใจของตัวเอง”
“แม่ขอให้ลูกได้พบกับความรักขอให้ลูกมีความสุขไปชั่วชีวิตจนวันสุดท้ายและอย่าลืมใช้หัวใจมองอย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งเข้าใจไหมลูก”
เสียงของคนเป็นแม่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความรัก..เธอมีลูกสาวเพียงคนเดียวแน่นอนว่าสิ่งที่เธอเลือกให้นั้นต้องดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
สองมือเล็กๆ ของหญิงสาวที่ยังไม่พร้อมจะโตกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นในหัวก็คิดแย้งไปต่างๆ นาๆ กับคำพูดหวานหูของสิริวดี
“พรุ่งนี้ไม่มีธุระต้องไปไหนอรขอไปวัดนะคะแม่ อรอยากไปหาปู่”
“ได้สิ ให้แม่ไปด้วยไหม”
คุณแม่ยังสาวถามเสียงใสเพราะอรสนิทกับปู่มากตัวติดกันตลอด ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนเติบโตมาแทบจะทุกช่วงชีวิตไม่ว่าตอนไหนที่หันมาก็จะมี คุณปู่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ จวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตก่อนที่คนเป็นปู่สัญญาว่าจะมาเป็นเทวดาคอยคุ้มครองเธออยู่ข้างกายไม่ห่าง
ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้ายเธอก็มักจะหาเวลาไปเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้กับเทวดาของเธอฟังอยู่เสมอ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่อร ไปคนเดียวได้ค่ะ ไม่ได้ไปหาคุณปู่นานแล้วอร ว่าจะอยู่นานนิดนึง”
“งั้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูกกำลังจะมีงานมงคลโบราณเค้าถือ”
“ได้เลยค่ะเดี๋ยวอรจะรีบกลับไม่ต้องห่วงนะคะ”
“ไป..งั้นเข้านอนได้แล้ว ว่าที่เจ้าสาวแสนสวยของแม่”
สิริวดี ดึงผ้าห่มมาห่มให้กับดวงใจของเธอที่นอนอยู่บนเตียงมองเธอตาแป๋วด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับออกไปแยกย้ายกันพักผ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น
“อรคิดถึงคุณปู่จังเลยค่ะถ้าคุณปู่อยู่ข้างๆ อรคุณปู่จะช่วยอรไหมคะอรยังไม่พร้อมเลย.. อรจะทำยังไงดีคะ”
ดวงตาคู่สวยเริ่มหม่นลงเรื่อยๆ เมื่อพูดถึงเรื่องที่เธอกำลังลำบากใจ นี่มันคือทั้งชีวิตของเธอที่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“ช่วงนี้อรไม่ค่อยได้มาหาเลยปู่เหงาไหมคะ อรจะมาให้บ่อยเหมือนเมื่อก่อนะคะ”
พูดไปสองมือก็จัดแจกันดอกไม้ไปทั้งที่พูดอยู่คนเดียวแต่ก็ทำเหมือนมีคนที่เธอกำลังพูดคุยอยู่ด้วยจริงๆ ทำเอาคนที่กำลังแอบมองอยู่เงียบๆ ถึงกับหัมมองซ้ายมองขวาด้วยความกังวล
“อื้อปู่จำได้ไหมคะวันเกิดอรเดือนหน้าแล้วน้าาอย่าลืมมาหาอรด้วยนะคะ”
“ถ้าคิดถึงกันขาดนั้นก็ตามไปอยู่ด้วยกันเลยสิ!”
“สวบบ! กรี้ดดดดด! ปล่อยนะ ๆ ปล่อยชั้น!!”
ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่จับกระสอบสวมศีรษะของเธอไว้ในทันทีแล้วมัดเชือกรอบตัวเธอไว้แน่นก่อนจะจับอุ้มยกขึ้นพาดบ่าแล้วรีบเดินดุ่มๆ ตรงไปขึ้นรถตู้ที่แอบจอดไว้
“กรี้ดดดดด! ช่วยด้วย! ช่วยด้วยยย !!”
อรฤดีพยายามร้องให้ดังที่สุดเผื่อว่าจะมีใครมาเห็นหรือได้ยิน .. ซึ่งก็จริง เพราะแม่ของเธอได้โทรให้ว่าที่ลูกเขยนั้นตามมาเพราะเป็นห่วงลูกสาว
เมื่อเห็นเขาก็รีบโทรแจ้งตำรวจแล้วจึงรีบเข้าไปช่วยว่าที่เจ้าสาวของเขาในทันที
“เห้ยหยุดนะเว้ย! ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้!”
เสียงของจอมทัพที่ตะโกนพูดออกมาทำให้อรฤดีโล่งในขึ้นมาไม่น้อย
“คุณ! คุณช่วยชั้นด้วย! ชั้นกลัว! อั่กก!”
คนร้ายโยนเธอเข้าไปในรถตู้จนร่างเล็กกระแทกอย่างแรงจนจุกเจ็บจนแทบร้องไม่ออก ก่อนจะได้ยินเสียงต่อสู้กัน
“ผลั่วะๆ!” หมัดหนักๆ ถูกต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของจอมทัพหลายทีจนเขาเซล้มลงไปกองกับพื้นถึงจะเคยเรียนฝึกวิชาป้องกันตัวมาบ้างแต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่เกินไปนั่นถือว่าเป็นอุปสรรคไม่น้อยเลยทีเดียว .. แล้วสายตาคมก็หันมองรอบๆ ตัวเพื่อหาตัวช่วยก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากิ่งไม้ใกล้ๆ ฟาดกลับไปหลายทีจนครร้ายเลือดไหลอาบหน้า
“เสร่อดีนักงั้นมึงก็ตายก่อนเลยเป็นไง !”
คนร้ายที่ต้องเก็บงานให้ได้พูดออกมาด้วยความเดือดดาลงานนี้จะมีคำว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาด ก่อนจะหยิบไม้ขึ้นมาบ้างแล้วฟาดใส่จอมทัพในทันที
ยิ่งได้ยินเสียงอรฤดีก็ยิ่งใจคอไม่ดี แล้วก็ยิ่งลนลานพยายามแก้มัดเชือกที่มือตัวเองไม่หยุด
“ผลั่วะ! .. ผลั่วะ !”
เสียงชายทั้งสองต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเลือดสีแดงฉาดอาบไปทั่วทั้งหัว ทั้ง คิ้ว ทั้งปาก และตามร่างกายไม่ได้ต่างกัน ก่อนที่คนร้ายจะล้วงหยิบมีกพกในกระเป๋ากางเกงออกมา
“อยากจะเป็นพระเอกมากนักหรอมึง.. ตายซะ!” ปั้ง!…
“คือคุณอร … คุณอรเธอท้องค่ะ”“พรวดดดดด แค่กๆ” ชาจีนอย่างดีถูกพ่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ ให้ตายเถอะแต่ละวัน หัวใจจะวาย“อะไรนะ แล้วเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมถึงพึ่งมาบอก” “ขอโทษค่ะคุณนายแต่คุณอรกำชับไว้เลยไม่กล้าบอกค่ะคุณนาย” พี่ปลารีบก้มหน้าพูดรัวๆ ออกมาด้วยความกลัวเมื่อเห็นท่าทางของทัศนีย์ในตอนนี้“ฮึ่มมมมแกนะแก” ทัศนีย์รีบเดินไปหาสามีของเธอด้วยความดีใจจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมาแล้วรีบพากันไปที่บ้านของสิริวดีอีกครั้งในทันที “จริงเหรอ เรื่องจริงใช่ไหมแน่ใจแล้วใช่ไหม..” สิริวดีเสียงสั่นเครือเมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอกำลังตั้งท้องอยู่สองมือของคนเป็นแม่สั่นเทาด้วยคความดีใจทำอะไรไม่ถูก“เราไปหาลูกกันเถอะคุณ”คเชนทร์เสนอความคิดพร้อมกับโอบไหล่ภรรยาของตนเองเอาไว้“พวกเราไปด้วยเราก็อยากไปหาหลานเหมือนกันนะ” “งั้นก็ไปกันทั้งหมดนี่เลยแล้วกกัน”ตกลงกันได้อย่างนั้นทั้งสี่คนก็ออกเดินทางไปหาอรฤดีที่บ้านสวนในทันทีกว่าจะถึงก็ใช้เวลาเดินทางอยู่นานพอสมควรแต่กลับเป็นการเดินทางที่ทุกคนรู้สึกว่าช้ากว่าครั้งไหนๆ เพราะตอนนี้หัวในของคนแก่ๆ ไปถึงหลานตัวน้อยๆ ตั้งนานแล้ว ...“วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะคุณอร ดอกไม้บ
หลายวันต่อมา ในงานวันหมั้นของลูกปัดและจอมทัพมีเพียงคนจากสองครอบครัวเท่านั้นไม่ได้จัดยิ่งใหญ่อะไรพิธีถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาวแม้แต่เปรมเองที่ไปทำงานต่างจังหวัดก็พึ่งรู้เรื่องงานหมั้นนี้เห็นแต่ว่าน้องสาวของตัวเองประกาศจะแต่งงานยังคิดว่าเป็นเพียงการสร้างเรื่องเมื่อเห็นแบบนี้ทำให้เขาอดที่จะคิดถึงอรฤดีไม่ได้เลยป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ไม่อยู่บ้านเพียงไม่กี่วันไม่คิดว่าน้องสาวของตนเองจะสร้างเรื่องได้ใหญ่โตขนาดนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกคนพร้อมและถึงเวลาที่จะได้เริ่มพิธีการถึงจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่นักแต่ทั้งสุเมธและทัศนีย์ก็ยิ้มแย้มและให้ความร่วมมือทำตามขั้นตอนพิธีการเป็นอย่างดีจะให้ทำยังไงได้ล่ะก็ลูกชายของเธอไปทำลูกเขาท้องนี่เนอะในท้องของเด็กผู้หญิงคนนั้นมีหลานตัวเล็กๆ ของเธอกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกไหนจะของหมั้นทุกอย่างก็ของดองทุกอย่างก็ไม่ได้ให้น้อยหน้าชื่อเสียงครอบครัวตัวเองได้ ภายในงานเต็มไปด้วยความแช่มชื่นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายถึงจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่แต่ก็รักษาหน้าตาของกันและกันไม่ให้อายสื่อได้ ลูกปัดยิ้มร่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ ในที่สุดวันที่เธอรอคอย
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ