พี่ชายที่รักน้องสาวมากกว่าสิ่งใดเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดไปไม่น้อยกว่ากันถึงน้องเขาจะเคยทำเรื่องไม่ดีกับจอมทัพในอดีตแต่เมื่อได้โอกาสแก้ตัวเธอก็พยายามอย่างมากจนผ่านพ้นมาได้.. แต่เหมือนเวรกรรมจะไม่ได้ปล่อยผ่านไปเหมือนใจคน .. เลยสักนิด นี่สินะที่เขาว่ากฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ..
เขาส่ายหน้าไปมาเบาๆ อย่างคิดไม่ตกเขาเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวตัวเองดีและก็เข้าใจความรู้สึกของอรฤดีแน่นอนว่าเข้าใจความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจอมทัพด้วยเช่นกัน..แต่จะให้ทำอะไรโจ่งแจ้งได้ล่ะ ..
ตืดดด ตืดดดด
“อืมว่าไง..”
“โอกาศมาถึงแล้วครับนาย”
ขณะที่กำลังคิดไม่ตกอยู่สายสำคัญจากลูกน้องคนสนิทก็ดังขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่น่าพอใจริมฝีปากหนาก็เหยียดยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะรีบขับรถออกจากบ้านไป
ทางฝั่งขออรฤดีเองที่ปุบปับออกมานั้นก็ไม่รู้จะไปที่ไหนถ้ากลับบ้านแม่ของเธอจะต้องรู้เรื่องแน่ๆ แล้วยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ทัศนีย์ขอให้เธอเฝ้าจอมทัพแทนในช่วงกลางคืนด้วยโดยอ้างว่าตนเองติดงานสำคัญในช่วงนี้ ยิ่งใกล้ค่ำแล้วด้วยไม่ได้มีแผนว่าจะไปไหนเลย แต่ด้วยความโมโหจึงปากไวเท้าไวไปหน่อยพูดปุ๊บก็เดินออกมาโดยไม่มีจุดหมายปลายทางเลยทำได้เพียงเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆ โรงพยาบาลเท่านั้น
ตลาดกลางคืน
ขณะที่เดินหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะไปทางไหนดีใบหน้าสวยก็หันไปเห็นเข้าให้กับป้ายโฆษณาที่แปะอยู่บริเวณข้างทางเท้าตรงที่เธอยืนอยู่เมื่อหันมองไปตามไปก็เห็นว่าไม่ไกลเกินระยะสายตามีผู้คนพลุกพล่านและมีลานอาหารต่างๆ มากมายที่ตั้งอยู่บนฟุตบาทยาวเป็นทางจนสุดลูกตา
“ดีเลยไปเดินดูอะไรแก้เซ็งสักหน่อยดีกว่า”
ถึงที่ตรงนี้จะเป็นบริเวณใจกลางเมืองที่มีรถแล่นไปมาพลุกพล่านมีร้านอาหารมีคาเฟ่ต่างๆมากมายอยู่เรียงรายเต็มสองข้างถนนแต่ตามตรอกซอกซอยนั้นก็ยังคงดูเปลี่ยวและน่ากลัวอยู่ไม่น้อยในหลายๆ จุดสองขาเรียวรีบก้าวเดินตรงไปข้างหน้าพยายามทำตัวให้เป็นปกตินี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้มาเดินมาใช้ชีวิตแบบนี้เพราะปกติแล้วจะต้องมีเพื่อน และพ่อกับแม่ของเธอค่อนข้างจะซีเรียสเรื่องความปลอดภัยของเธออย่างมากเป็นปกติจึงไม่ค่อยได้ออกมาใช้ชีวิตในที่พลุกพล่านแบบนี้สักเท่าไหร่
หมับ! “อ้าวจะไปไหนจ๊ะคนสวย…มาคนเดียวเหรออยู่คุยกับพี่ก่อนสิ”
“ว้าย! ปล่อยนะอย่ามาจับ!”
แขนเล็กๆ ของเธอถูกฝ่ามือหนาหยาบกร้านรั้งแขนเอาไว้จนตัวแทบปลิวจากผู้ชายวัยกลางคนที่เนื้อตัวสกปรกมอมแมมหน้าตาไม่มีความเป็นมิตรเอาเสียเลย
“น่านะ คุยกับพี่แป๊บเดียว พี่ไม่ทำอะไรหรอก”
คนที่ไม่หวังดีออกแรงดึงแขนเธอจนอรฤดีเซไปตามแรงกระชากแล้วก็พยายามดิ้นขัดขืนดวงตาคู่สวยเบิกกว้างไหววูบด้วยความกลัวปากก็ตะโกนขอความช่วยเหลือไปพร้อมๆ กัน
“ปล่อยนะ! ปล่อยชั้น ปล่อยย! ..”
ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่พึ่งเกิดขึ้นไหลบ่าเข้ามาอีกครั้งจนหญิงสาวเกิดความกลัวจนตัวสั่นไปหมดครั้งที่แล้วเธอโชคดีที่มีจอมทัพเข้ามาช่วยแต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้…
“อย่าขัดขืนเลยดีกว่าไม่มีใครได้ยินหรอกเสียงเพลงดังจะตายตะโกนไปก็เปล่าประโยชน์ เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะพี่ไม่อยากให้ผิวสวยๆ ต้องเป็นรอยช้ำรอยแดงมากไปกว่านี้เสียของหมด”
เสียงพูดที่ฟังดูน่าขยะแขยงเอื้อนเอ่ยออกมาพร้อมกับแววตาที่กวาดมองไปทั่วร่างกายของหญิงสาว อย่างลวนลามชัดเจน
ทั้งสองฉุดกระชากยื้อกันไปยื้อกันมาทั้งที่เดินไปอีกนิดเดียวก็จะผ่านตรงนี้ไปได้แล้วแท้ๆ เชียว
“ปล่อยชั้นะ ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยฉันด้วย!”
เสียงหวานร้องออกมาสั่นเครือปนกับความกลัวอย่างชัดเจนยิ่งมองไปเห็นรอยยิ้ม น่าสะอิดสะเอียนก็ยิ่งเกิดความกลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูก
“เฮ้ยปล่อยผู้หญิงนะเว้ย! ผลัวะ! ผลัวะ!”
เสียงที่เหมือนจะคุ้นหูแต่ก็ไม่ค่อยจะแน่ใจดังขึ้นจากด้านหลังของเธอแล้วก็ตรงปรี่เข้าไปรัวหมัดใส่ผู้ชายน่ากลัวคนนั้นจนลงไปกองกับพื้น
“อยากจะเป็นฮีโร่เหรอวะมึงโดนหนี้เป็นไง!”
ฉึก! ..
ทั้งแววตาและน้ำเสียงของคนร้ายเต็มไปด้วยความโมโหที่ถูกขัดจังหวะแถมยังโดนต่อยเข้ามาหลายทีเมื่อได้โอกาสก็หยิบมีดพกในกระเป๋าออกมาตั้งใจจะแทงที่ลำตัวของชายหนุ่มแต่เขาเอามือปัดลงทันจึงโดนมีดบาดเข้าที่แขนเต็มๆ จนเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ถกพับขึ้นไว้อย่างรวก ๆ แดงฉานไปด้วยเลือดสดๆ
“วอนตายซะแล้วมึง!.. ผลัวะ! ผลัวะ! อ๊ากกกก เอื้ออ!!”..
เมื่อเห็นคู่ต่อสู้กำลังชะล่าใจเขาก็รีบเตะเข้าไปที่มืออีกฝ่ายเต็มๆ จนมีดกระเด็นไปไกลแล้วก็ประเคนทั้งหมัดทั้งเตะให้จนคนร้ายสลบเหมือดขาที่ไป
“ฮึก ฮึก.. ขอบคุณ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณ ฮึก…”
เธอรีบเอ่ยขอบคุณเจ้าของแผ่นหลังคุ้นตานั้นด้วยน้ำตาแห่งความดีใจเขาทั้งเตะทั้งต่อยผู้ชายคนนั้นจนเลือดอาบหน้าไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมาได้อีกก่อนจะหันกลับมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“คุณอร! ..”
“คุณเปรม!”
เพียงแค่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครออนฤดีก็สองขาอ่อนยวบหมดแรงจะยืนมันทั้งกลัวทั้งตกใจหลากหลายอารมณ์เต็มไปหมดไหนจะแขนของเขาที่เป็นแผลอาบไปด้วยเลือดและทั้งความกลัวจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ยังจำได้ไม่ลืมตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลมยังไงยังงั้นเลย
หมับ..
เปรมรีบรวบกอดเธอไว้เมื่อเห็นว่าอรฤดีกำลังจะเป็นลมล้มลงไป แล้วพาเธอเดินไปนั่งพักที่เก้าอี้ยาวบนฟุตบาทที่อยู่ไม่ไกล
“ไหวไหมครับคุณอรเดี๋ยวผมจะพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละครับ”
เขาค่อยๆ ประคองวางเธอนั่งลงแล้วรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงสายตาก็กวาดมองไปตามร่างกายของเธอว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“อรแค่เป็นลมเฉยๆ ค่ะนั่งพักสักแป๊บนึงก็หายแต่คุณเปรมน่ะสิคะแผลเลือดไหลขนาดนี้ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าค่ะ”
“เรื่องเล็กน้อยครับแผลแค่นี้เองคุณอรไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณเปรมถ้าไม่ได้คุณเปรมอรต้องแย่แน่ๆ เลย”
“คุณอรไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ”
เมื่อรู้สึกดีขึ้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายามประคองสติของตัวเองให้กลับมาแล้วหันมองซ้ายมองขวาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วประคองคนที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้
“อรว่าคุณเปรมไปหาหมอทำแผลก่อนดีกว่านะคะเลือดไหลไม่หยุดเลยเรารีบไปกันดีกว่าค่ะ”
ด้วยสังเกตว่าสีหน้าของเขาไม่ค่อยสู้ดีนักอาจจะเพราะเสียเลือดมากเธอจึงรีบพาเขาตรงไปโรงพยาบาลที่เพิ่งจะเดินออกมาได้ไม่นานนักอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ คุณอรก็เดินดีๆ นะครับ”
เขายอมรับความช่วยเหลือจากเธอแต่โดยดียิ่งเห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ยังพยายามทำใจแข็งแล้วรีบพาเขาไปรับการรักษาเปรมเองก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ปล่อยให้น้องสาวของตัวเองทำเรื่องไม่ดีกับเธอคนนี้
“เจ็บมากไหมคะคุณเปรมไม่ไกลก็จะถึงแล้วค่ะ”
“นิดนึงครับแต่เริ่มจะรู้สึกชาๆ ที่แผลด้วย”
“งั้นเรารีบเดินกันดีกว่าค่ะ”
เมื่อเดินต่อมาได้อีกไม่ไกลนักก็ถึงโรงพยาบาลเมื่อเห็นว่ามีคนได้รับบาดเจ็บพากันเดินมาเจ้าหน้าที่แผนกฉุกเฉินก็รีบวิ่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
พลึบ…
“คุณอร/ คุณครับคุณ ..”
เพียงแค่เปรมถึงมือเจ้าหน้าที่อรฤดีก็หมดสติล้มลงไปกับพื้นทันทีทำเอาทั้งเปรมทั้งเจ้าหน้าที่บุรุษพยาบาลตกใจรีบหันกลับมาหาเธอพร้อมๆ กัน
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ