ยูโจวกงจิ่นยกส้นเท้าขึ้นหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ต้วนโจวโกรธจัดถึงกับสบถออกมา พร้อมกับถามหย่งฟางว่าคิดจะทำอะไร หย่งฟางไม่ตอบ แต่ยังคงวิ่งไล่ยูโจวกงจิ่นด้วยดาบไม้ท้อ หวังจะฟันให้กลับคืนสู่ร่างเดิม ยูโจวกงจิ่นทั้งร้องไห้และปล่อยน้ำตารูปดาวการ์ตูนกระจายไปทั่วห้อง ในขณะเดียวกันก็วิ่งหนีไปด้วย
ห้องถูกปิดผนึกด้วยแผ่นยันต์ จึงหนีออกไปที่อื่นไม่ได้ ทำได้แค่วิ่งวนอยู่ในห้อง หย่งฟางวิ่งไล่ตามพร้อมดาบในมือ ราวกับตัวร้ายจากการ์ตูนที่กำลังรังแกนางเอก ต้วนโจวก็พยายามขัดขวางตลอดเวลา ดาบไม้ท้อฟันแก้วแตกและแทงทะลุหมอน
ความวุ่นวายทำให้ทุกอย่างพังพินาศ
เหล่าคุณนายมองน้ำตาของยูโจวกงจิ่น ที่กระจายไปทั่วห้องจนไม่กล้าเพิ่มปัญหาให้อีก ได้แต่นั่งขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มองดูการต่อสู้กับตัวการ์ตูน
ฉากนี้...เป็นการทลายความเชื่อเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง หย่งฟางไล่ฟันไม่ถึงสิบรอบ ในที่สุดก็มีโอกาส เหยียดดาบออกพร้อมจะฟันลงไป
“ต้วนโจวช่วยด้วย!!!” ยูโจวกงจิ่นตะโกนเรียกน้ำตาคลอ พลางยกมือไขว้กันไว้บนหัว
“ยูโจวกงจิ่น!! ฉันจะมาช่วยเธอแล้ว!!” ต้วนโจวระเบิดพลังปกป้องเธอชทันที ยกจอคอมพิวเตอร์ขึ้นฟาดใส่ ดาบไม้ท้อของหย่งฟางถูกฟาดจนหักเป็นสองท่อน ท่อนหนึ่งตกอยู่บนพื้น
“...” หย่งฟางมองดูดาบในมือที่เหลือแค่ครึ่งเดียว แล้วหันไปมองอีกครึ่งที่อยู่บนพื้น
“อาจารย์หย่ง!!” คุณนายทั้งสามร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง
“...” หย่งฟางเกือบจะเป็นลมด้วยความโกรธ
ถึงดาบนี้จะไม่ใช่มรดกตกทอด แต่เธอก็ประมูลมาด้วยราคาหนึ่งล้านหยวน แล้วยังต้องแกะสลักเองถึงสามเดือนเพื่อเอาใจท่านอาจารย์ปู่ และมันก็เป็นเครื่องมือทำมาหากินของเธอ
เจ้านายบ้า!!!
ตอนทำงานก็เอาเปรียบเหลือเกิน ลาออกมาแล้วยังมาทำลายเครื่องมือทำมาหากินของเธออีก! แล้วยังไม่รู้ตัวอีกว่ากำลังจะได้ตัวการ์ตูนเป็นเมีย!!
ให้ตายสิ ทำไมเธอต้องมาเจอกับเรื่องไร้สาระของอดีตเจ้านายแบบนี้!! หนึ่งล้านหยวนสำหรับไม้ท้อที่โดนฟ้าผ่า กับสองล้านหยวนค่าฉีกสัญญา หย่งฟางโกรธจนหัวแทบระเบิด เหมือนมีไฟลุกอยู่ในหัวเธอ
ทุกคนตายซะ!!!
ความโกรธของหย่งฟางในครั้งนี้มากกว่าครั้งไหนๆ เธอคว้าเชือกในกระเป๋า หยิบมันขึ้นมาแล้วโยนให้คุณนายทั้งสามบนเตียง “เอาเชือกนี้ไปมัดไอ้โง่นั่นซะ!”
คุณนายทั้งสามรับภารกิจมาและทำตามทันที ต้วนโจวที่ยกจอคอมพิวเตอร์จนหมดแรง ถูกแม่แท้ๆ และป้าอีกสองคนมัดจนดิ้นไม่ได้ ซ่งเสี่ยวฮุ่ยและหนิวลี่ ที่บ้านมีลูกชายติดพ่ออยู่แล้ว จึงมีประสบการณ์มัดได้อย่างรวดเร็ว มีแต่หยูถังที่ช้าหน่อย แต่ก็ยังมัดได้แน่นหนาเรียบร้อย
ต้วนโจวถูกมัดแต่ก็ไม่วายพูดอย่างไม่พอใจ “หย่งฟาง! อย่าทำร้ายเธอนะ!! ถ้ามีปัญหาอะไร ก็มาลงกับฉันสิ!!”
หย่งฟางหันไปยิ้มอย่างเยือกเย็น “ไม่ต้องห่วง คุณเองก็จะโดนด้วย”
ต้วนโจวสงบปากสงบคำทันที “...”
คุณนายทั้งสามรู้สึกว่าอาจารย์หย่งนี่คือตัวร้ายชัดๆ
พอหันกลับไปมองที่ยูโจวกงจิ่น หย่งฟางก็ไม่ได้ใช้เครื่องมือหรืออาวุธใดๆ อีก แต่กลับโยนยันต์ออกมาเรื่อยๆ หนึ่งแผ่นต่อหนึ่งคาถา แต่ละแผ่นใช้เวลาสองวินาที ยันต์นับสิบแผ่นถูกโยนออกมาราวกับไม่ต้องใช้เงินซื้อ ปิดทางหนีของยูโจวกงจิ่นอย่างสิ้นเชิง ไม่ให้มีโอกาสได้หายใจ
ยูโจวกงจิ่นไม่ทันได้แสร้งเล่นละคร เพราะมัวแต่หนีเอาตัวรอด แต่การโจมตีด้วยยันต์ของหย่งฟางนั้นสามารถล็อกเป้าหมายได้ ดังนั้นไม่ว่าจะหลบยังไง ยันต์ก็จะพุ่งมาปิดร่างเธออยู่ดี คุณนายทั้งสามจึงได้เห็นภาพผิวการ์ตูนของยูโจวกงจิ่น เมื่อถูกแสงสีทองจากยันต์เข้าไปปิด ก็เริ่มดำและลอกออก เผยให้เห็นผิวจริงของมนุษย์ที่อยู่ข้างใน ลอกไปกว่า 70% เกือบจะกลับคืนร่างจริงทั้งหมด ต้วนโจวที่ค่อยๆ หยุดดิ้นและเลิกตะโกนโวยวาย
จู่ๆ หย่งฟางก็หยุดมือที่หยิบยันต์ออกมา ยูโจวกงจิ่นเองก็เลิกแกล้งเช่นกัน และกลับคืนร่างจริง เป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักจมูกโด่งหน้าเรียวเล็ก
ต้วนโจวสำลักด้วยความตกใจ “เฉิง… เฉิงเสี่ยวอวี่?!!”
คุณนายทั้งสามตกใจเช่นกัน อะไรนะ จริงๆ แล้วเป็นเฉิงเสี่ยวอวี่หรือ
“แล้วยูโจวกงจิ่นของฉันล่ะ?!!”
“ฉันนี่แหละคือยูโจวกงจิ่นของคุณ” เฉิงเสี่ยวอวี่กล่าวอย่างเย้ยหยัน
ต้วนโจวกรีดร้องด้วยความโกรธที่ถูกหลอก!
“อ๊ากกกกกก! ทั้งหมดมันโกหกงั้นเหรอ?! แล้วอะไรที่เป็นความจริง?! บอกมาทีสิ!!!” ความโกรธพุ่งจนเกือบสลบไป
หย่งฟางสั่งคุณนายทั้งสาม “บีบจมูกให้เขาฟื้น! ให้เขาเห็นชัดๆ ว่าภรรยาการ์ตูนของเขาเป็นใครกันแน่!!”
“ยังห่วงเขาอีกเหรอ?” เฉิงเสี่ยวอวี่แสยะยิ้มออกมา “ตอนนี้ถึงตาฉันบ้างล่ะ”
ร่างวิญญาณของเฉิงเสี่ยวอวี่ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ พุ่งตรงเข้าหาหย่งฟาง กระจายพลังร้ายแรงออกมาหวังจะทำร้ายเธอเ หลืออีกแค่หนึ่งเมตร ปลายพลังร้ายแรงก็เกือบจะสัมผัสหย่งฟางแล้ว จู่ๆ กลับยิ้มออกมา หยิบตาข่ายที่ถักด้วยเชือกสีแดงจากกระเป๋าออกมาปล่อย
เฉิงเสี่ยวอวี่เบิกตากว้าง แต่ก็สายไปแล้ว หล่อนพุ่งตรงเข้าไปในตาข่าย หย่งฟางเตรียมไว้ตอนหยิบยันต์ออกมา เพื่อล่อตัวหล่อนเข้าสู่กับดักในจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี เฉิงเสี่ยวอวี่ถูกตาข่ายสีแดงมัดแน่นอยู่ที่มุมห้อง ตาข่ายนั้นจะกระพริบแสงสีทองทุกหนึ่งวินาที
วิญญาณร้ายแสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเฉิงเสี่ยวอวี่หมดโอกาสหนีแล้ว หย่งฟางก็ร่ายคาถาเพื่อยกเลิกการกระพริบอัตโนมัติของตาข่าย แค่เฉิงเสี่ยวอวี่ไม่ขยับ หล่อนก็จะไม่เจ็บ เมื่อเห็นหย่งฟางจัดการเฉิงเสี่ยวอวี่จนเสร็จสิ้น เหล่าคุณนายก็ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
หนิวลี่บีบจมูกต้วนโจวอย่างแรง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงทื่อๆ “หยูถัง ตอนที่หย่งฟางไปทำงานที่บ้านเธอก็เป็นแบบนี้หรือเปล่า…”
ถึงแม้หยูถังจะเคยเห็นหย่งฟางปราบวิญญาณที่บ้านของเธอมาแล้ว แต่ก็ยังใจเต้นแรง เมื่อนึกถึงคนที่บ้านตระกูลฉู่ที่เป็นลม และตัวเธอเองก็อยากเป็นลมด้วยแต่ทำไม่ได้ “ก็คล้ายๆ กัน”
ต้วนโจวถูกบีบจมูกจนฟื้นคืนสติ น้ำตาไหลพรากด้วยความสิ้นหวัง ทุกอย่างมันโกหก ทั้งหมดมันโกหก ภรรยาการ์ตูนของเขา…หลายวันที่ผ่านมาที่ได้อยู่ด้วยกันในฝัน...เฉิงเสี่ยวอวี่เห็นเขาในสภาพนี้แล้วก็โกรธจนควันออกหู พลางกลอกตาไปมา
“อาจารย์หย่ง... คุณรู้ได้ยังไง ว่ายูโจวกงจิ่นคือเฉิงเสี่ยวอวี่?” หนิวลี่ถามออกมาด้วยความสงสัย หลังจากที่หาจังหวะถามได้ในที่สุด
เพราะก่อนที่ยูโจวกงจิ่นจะเผยร่างจริง พวกเธอไม่เข้าใจว่าหย่งฟางกำลังทำอะไร
หย่งฟางเก็บดาบไม้ท้อที่หักบนพื้นขึ้นมา พยายามต่อดาบเข้าด้วยกันพลางอธิบาย “ง่ายมาก เป็นการคาดเดาธรรมดา เริ่มจากบ้านของเสี่ยวฮุ่ยไม่มีปัญหา ภาพวาดก็ไม่มีปัญหา แต่ต้วนโจวมีปัญหามาก เพราะฉันเห็นว่ามีวิญญาณอยู่ข้างหลังเขา เต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย เมื่อฉันบังคับวิญญาณออกมา ก็เป็นสาวในภาพวาด บอกแล้วว่าภาพวาดไม่มีปัญหา งั้นเด็กสาวที่ว่าจะเป็นใครไปได้ล่ะ? ถ้าไม่ใช่แฟนสาวที่ตายไปของเขา ก็เป็นหนี้ผีจากการเล่นชู้ แต่ความเป็นไปได้ที่เป็นแฟนสาวที่ตายไปมีสูงกว่า” หย่งฟางมีหลักการในการคาดเดาของตัวเอง
คุณนายทั้งสามร้อง "อ๋อ" อย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
“ต้วนโจว…ฮ่าๆ” ผีหญิงที่อยู่ตรงมุมห้องหัวเราะลั่น เมื่อได้ยินคำเรียกของหย่งฟาง แต่แล้วก็หยุดหัวเราะ เพราะขยับตัวแล้วถูกตาข่ายแดงช็อตทำให้เจ็บปวด
เฉิงเสี่ยวอวี่กอดตัวเอง พยายามไม่ให้ร่างวิญญาณของเธอไปแตะตาข่ายสีแดง
ซ่งเสี่ยวฮุ่ยรู้สึกตัวและถามอย่างโกรธเคือง “ลูกชายฉันดีกับเธอขนาดนี้ มอบทุกสิ่งให้ตามที่เธอต้องการ แล้วเธอทำร้ายเขาทำไม? ชีวิตของเธอไม่ได้ถูกเขาพรากไปเสียหน่อย!”
มาต่อกันจ้าาาา คอมรวนๆ ย้ายไฟล์เล่นเอาเหนื่อยเลยค่าา
เกิดขิตไฟล์หายแล้ววววว
หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย
วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห
หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด
มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว
ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ
ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ