เกรซเป็นเลขาสาวดาวรุ่งที่ทำงานดีมาก ๆ ทุกคนในบริษัทต่างก็ชื่นชมเธอเพราะเธอเป็นคนเก่งและถึงแม้ภายนอกเธอจะดูสมบูรณ์แบบมากแค่ไหนแต่ในชีวิตจริงของเธอนั้นกลับไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลยโดยเฉพาะเรื่องความรักเพราะในวัย 30 นี้เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็แต่งงานมีครอบครัวทำธุรกิจกันมากมายแต่เธอกลับยังเป็นคนโสดเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มอยู่เหมือนเดิมแถมหน้าที่การงานก็ไม่ได้ขยับขยายไปไหนอีกจนเธอเริ่มจะหมดไฟในตัวเองแล้วเหมือนกันแต่แล้ววันนึงเธอก็ดันพลาดท่าไปมีอะไรกับเด็กนักศึกษาที่อายุห่างกันเกือบ 10 ปีจนทำให้เขาเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเธอมากขึ้น ชายหนุ่มคนนึงที่ชีวิตแสนจะเพอร์เฟคได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตสาววัยทำงานอันแสนน่าเบืื่อของเธอให้มีสีสันและถึงแม้ว่าภาพที่จินตนาการไว้มันจะดูสวยงามแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับคนสองคน
View More"อ้าว ชนนนนนนน"
"เย้~" ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นที่บาร์แห่งหนึ่งกลุ่มเพื่อนสาวนัดรวมตัวกันเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเกรซเลขาสาวดาวรุ่งสุดแกร่งที่ไม่ว่างานจะยากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ "ฉลองให้อีเกรซที่อายุครบ 30 แล้วจ้า" แจนพูดพร้อมกับชูแก้วขึ้นมาอีกครั้ง "หู้วววววว~" เพื่อน ๆ ต่างพากันดื่มฉลองให้กับเกรซใหญ่เลยเพราะว่านาน ๆ จะได้รวมตัวกันได้ครบแก๊งค์สักที "แล้วนี่แกไม่คิดจะดื่มให้เพื่อนเลยหรือไง" แจนหันไปถามปานวาดที่เอาแต่นั่งยิ้มมองเพื่อน ๆ ดื่มมาตลอดทั้งคืน "ไม่เอาอ่ะพวกแกดื่มกันเลย" ปานวาดตอบ "แกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าวาด" เกรซถามด้วยความเป็นห่วงเพราะปกติแล้วปานวาดเองชอบดื่มอยู่พอสมควร "เปล่า~ ฉันก็แค่..." ปานวาดอมยิ้มออกมาเล็กน้อยจนเพื่อน ๆ ที่รอฟังคำตอบอยู่กับงงไปเลยจากนั้นเธอก็หันไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบบางอย่างออกมาโชว์เพื่อน ๆ ด้วยสีหน้ามีความสุข "ฉันท้องแล้วจ้า" ปานวาดพูดพร้อมโชว์ใบอัลตราซาวด์ให้เพื่อน ๆ ดู "อร๊ายยยยยยย" ทุกคนเผลอร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจและตกใจแต่โชคดีที่ในร้านเสียงดังเลยไม่เป็นที่สนใจมากนัก "แกท้องเหรอ" พีต้าถาม ปานวาดรีบพยักหน้าตอบทำให้พีต้าถึงกับรีบวางแก้วในมือลงแล้วเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจทันทีเพื่อจากนั้นเกรซกับแจนก็ตามเข้าไป "ฉันดีใจด้วยนะแกในที่สุดลูกแกก็มาสักที" พีต้าพูด "ฮือ~ จะร้องไห้แล้วนะ" ปานวาดตอบ เธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 24 แล้วแต่ก็ยังไม่มีลูกสักทีแม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตามดังนั้นวันนี้เมื่อเพื่อน ๆ รู้ว่าเธอตั้งครรภ์จึงรู้สึกดีใจด้วยมาก ๆ จนน้ำตาแทบไหลกันเลย "ต่อไปนี้พีต้าก็จะได้เป็นลุงแล้ว" แจนพูดขัดเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังเข้าสู่โหมดซึ้งมากเกินไปทำให้พีต้าดีดตัวขึ้นมาทันที "ลุงบ้าลุงบออะไรสวยขนาดนี้จ๊ะ" พีต้าว่าพร้อมส่งสายตาดุ ๆ ไปให้แจน "ล้อเล่น ๆ โอ๋ ๆ นะ" แจนตอบ "ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะว่าพวกเรากำลังจะมีหลานกันแล้ว" เกรซพูด "นั่นสิ ดีใจว่ะ ฮือออออ~" แจนตอบ "อันนี้ก็ถือเป็นของขวัญให้แกด้วยนะเกรซ" ปานวาดพูด "โห~เป็นของขวัญที่มีค่ามากเลยว่ะ" เกรซตอบแล้วยื่นมือไปสัมผัสที่หน้าท้องของปานวาดเบา ๆ "ต่อไปนี้ลูกฉันก็เหมือนลูกแกแล้วนะ" ปานวาดพูด "จริง แกควรรับลูกยัยปานวาดเป็นลูกบุญธรรมแกนะ" พีต้าพูด "ทำไมอ่ะ" เกรซถาม "แกก็ลองดูตัวแกสิ" พีต้าตอบ เกรซก้มมองดูตัวเองทันทีด้วยความสงสัย " 30 แล้วนะเว้ย" เกรซถอนหายใจแล้วเงยหน้ากลับขึ้นมามองพีต้าด้วยสายตาเบื่อ ๆ เพราะเพื่อนของเธอมักจะพูดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ "แกควรเลิกบ้างานแล้วสนใจตัวเองสักที แกอย่าลืมสิว่าผู้หญิงถ้าอายุมากขึ้นแล้วความพร้อมของร่างกายในการมีลูกมันก็จะน้อยลงหรือแกคิดจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต" พีต้าพูด "ใช่ รู้จักกันมาตั้งแต่มอปลายจนตอนนี้ก็ 30 กันแล้วฉันเพิ่งเคยเห็นแกมีความรักแค่ครั้งเดียวเองอ่ะแกอย่าปิดกั้นตัวเองนักเลยเกรซ ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีแค่ทำงานหาเงินนะเว้ย" ปานวาดตอบ "ก็ฉันยังไม่อยากมีใครพวกแกจะมาบังคับฉันทำไมเนี่ย" เกรซตอบแล้วยกแก้วขึ้นมาดื่ม "อย่ามาทำเป็นพูดว่าไม่สนใจ แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าที่ผ่านมาแกแอบไปนัดบอร์ดอ่ะ" คำพูดของแจนทำให้เกรซชะงักไปเลย "ถ้าแกไม่สนใจแกจะเล่นแอพหาคู่ทำไม เรื่องแค่นี้แกไม่ต้องอายพวกฉันหรอกอีพีต้ามันเล่นตั้งไม่รู้กี่แอพมันยังไม่อายเลย" แจนพูด "หลายรอบแล้วนะมึงเนี่ย" พีต้าหันไปว่าแจนเบา ๆ "แล้วแกจะให้ฉันทำไงว่ะ ฉันก็ลองมาหลายครั้งแล้วอ่ะแต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจสักทีเลย...ใครจะอยากโสดกันล่ะ" เกรซตอบ จริง ๆ แล้วที่ผ่านมาเธอก็พยายามเปิดโอกาสให้กับตัวเองมาตลอดแต่ผู้ชายหลายคนที่เธอคุยด้วยล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ผู้ชายที่จะสามารถเดินต่อไปกับเธอได้ไม่ว่าจะด้วยเรื่องไลฟ์สไตล์หรือทัศคติก็ตามจนเธอเองก็รู้สึกท้อเหมือนกัน "เอางี้ไหมเดี๋ยวฉันจะให้แฟนฉันลองติต่อเพื่อนเขาที่โสดอยู่ให้แล้วแกก็ลองไปทำความรู้จักกับเขาดูเผื่อว่าถ้ามันคลิ๊กกันก็จะได้สานต่อ" แจนพูด "อุ๊ย! ดีนะ เพื่อนแฟนยัยแจนแต่ละคนมีแต่โปร์ไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นไม่แน่นะแกอาจได้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายนั่งสวย ๆ อยู่ที่บ้านก็ได้" พีต้าพูด "แล้วเขาจะสนใจฉันเหรอว่ะ" เกรซถาม "ทำไมจะไม่สนใจ เพื่อนฉันสวยขนาดเนี่ยใครไม่เอาก็โง่แล้ว" แจนพูด "แต่ที่ผ่านมามันก็ไม่มีใครเอานะเว้ย" คำตอบของเกรซทำเอาเำื่อนทั้งสามคนหุบยิ้มทันที "อะ เอาหน่าก็ถือว่าที่ผ่านมาไอ้ผู้ชายพวกนั้นมันตาบอดแล้วกัน อย่าไปคิดมาก" แจนพูด "อืม ใช่ ๆ" พีต้าตอบ "มา ๆ ชนแก้วดีกว่า" แจนพูด "เอ้าชนนนนนน" ทุกคนดื่มฉลองกัรอย่างสนุกสนานจนเวลาก็เลยผ่านไปจนดึกทำให้สภาพของแต่ละคนอยู่ในอาการมึนเมากันไม่น้อยยกเว้นปานวาดแค่คนเดียว "ฮือ~ พวกแกไม่รู้หรอกว่าฉันอยู่คนเดียวเหงาแค่ไหน ใช่สิพวกแกมีแฟนกันหมดแล้วหนิ ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดีทิ้งฉันไปกันหมดเลย" เกรซตัดพ้อออกมาเบา ๆ ด้วยอาการเมาจนปานวาดที่นั่งฟังอยู่ถึงกับส่ายหัวมองดูด้วยความเอ็นดู จากนั้นไม่นานบรรดาแฟนหนุ่มของแจนกับพีต้าก็มารับพวกเธอที่ร้านทันทีเพราะปานวาดโทรไปบอกว่าทุกคนเมาหนักมาก "เกรซ...เกรซ" ปานวาดพยายามเรียกเกรซให้ลุกขึ้นเพื่อที่เธอจะได้พาเกรซไปส่งที่คอนโด "ฮื้มมม~" "กลับบ้านกันเดี๋ยวฉันไปส่ง" ปานวาดพูด "ม่ายเป็นไร~ พวกแกกลับไปเถอะเดี๋ยวฉันให้กล้ามารับเอง" เกรซตอบ "เดี๋ยวพวกฉันไปส่งก็ได้" ปานวาดพูด "ฉันบอกไอ้กล้ามันไปแล้วตั้งแต่ก่อนมามี่ร้านพวกแกกลับไปเถอะ" เกรซยังคงยืนยันคำเดิมจนปานวาดต้องหันไปมองปกรณ์แฟนหนุ่มของพีต้าที่ยืนรออยู่ "เอาไงดีคะพี่กรณ์" ปานวาดถามเพราะว่าคืนนี้เธอต้องติดรถกรณ์กลับไปเช่นกันเพราะเธอเองก็ไม่ได้เอารถมาด้วยทำให้กรณ์และพีต้าต้องช่วยดูแลเธอไปก่อนชั่วคราว "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะพีต้าก็ดูจะไม่ไหวแล้วด้วย" กรณ์ตอบ "ฉันอยู่ได้ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า" เกรซตอบ "งั้นให้ฉันอยู่รอเป็นเพื่อนไหม" ปานวาดถาม "ไม่เป็นไรเกรงใจพี่กรณ์เขาแกพาพีต้ากลับไปเถอะเดี๋ยวฉันถึงบ้านแล้วจะโทรหา" เกรซตอบ "เอางั้นเหรอ" ปานวาดถาม "อื้ม" เกรซตอบ "งั้นฉันไปก่อนนะมีอะไรก็โทรหาฉันนะ" ปานวาดตอบ ความจริงเธอไม่อยากทิ้งเกรซไว้คนเดียวเลยแต่ว่าเธอเกรงใจกรณ์เลยจำเป็นต้องปล่อยเกรซไว้และอีกอย่างนึงคือปกติแล้วเกรซก็มักจะกลับเองคนเดียวอยู่แล้วโดยการเรียกรถไม่ก็ให้น้องชายอย่างกล้ามารับไปส่งที่คอนโดเธอจึงพอที่จะวางใจได้นิดหน่อยเมื่อเกรซบอกว่าจะให้กล้ามารับจากนั้นปานวาด กรณ์และพีต้าจึงได้เดินออกจาโต๊ะไป "น้องคะ" ปานวาดเรียกพนักงานที่กำลังเดินผ่านไปไว้ "คะ" พนักงานตอบ "พี่ฝากดูเพื่อนพี่หน่อยนะอีกเดี๋ยวน้องชายเขาจะมารับยังไงพี่ฝากน้องดูแลเพื่อนพี่สักแป๊ปนึงนะ" ปานวาดพูดพร้อมยื่นเงินจำนวน 2,000 บาทและนามบัตรของเธอให้พนักงานสาว "ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ได้เลย" ปานวาดพูด "ได้ค่ะ" พนักงานตอบจากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกไป เกรซเริ่มขยับตัวลุกขึ้นหลังจากที่นอนพักไปได้สัก 5 นาทีเธอเดินเซซ้ายเซขวาไปจนถึงห้องน้ำ "ทำไมวันนี้มันมึนจังว่ะ" เกรซพูดกับตัวเองหน้ากระจกแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากล้า ตืด ตืด ตืด "นี่พี่จะโทรมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ เนี่ยพรุ่งนี้ฉันมีเรียนตอนเช้า" กรีนรับโทรศัพท์พี่สาวด้วยความหงุดหงิดเพราะเกรซดันโทรมารบกวนตอนที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ "กล้า~ มารับพี่ที่ร้านเดิมหน่อยดิพี่รู้สึกปวดหัวอ่ะ" เกรซตอบ "พี่ก็โทรไปบอกไอ้กล้าดิจะโทรมาหาฉันทำไม! แค่นี้นะ" พูดจบกรีนก็วางสายใส่เกรซทันที "คนจะหลับจะนอนโทรมาทำไมก็ไม่รู้" กรีนบ่นอย่างหัวเสีย "อะไรว่ะมารับแค่นี้ก็ไม่ได้" เกรซพูดจบก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องน้ำ "โอ๊ย!" ในขณะที่เธอเดินพ้นออกมาจากห้องน้ำหญิงเธอก็ชนเขากับใครคนนึงที่เดินออกมาจากฝั่งห้องน้ำชายเช่นกันโชคดีที่เขาช่วยรับเธอไว้ไม่งั้นด้วยสภาพเธอในตอนนี้คงต้องกระเด็นไปกองอยู่ที่พื้นแน่ "เป็นอะไรไหมครับ" ชายหนุ่มรุ่นน้องหน้าตาดีเอ่ยถามเกรซด้วยความเป็นห่วง "ไม่เป็นไร ขอโทษนะ" เกรซตอบแล้วพยายามดันตัวเองออกจากชายหนุ่มซึ่งเขาก็เข้าใจดีเลยช่วยปล่อยเธอออก "คุณดูเมามากเลยให้ผมไปส่งที่โต๊ะไหมครับ" ชายหนุ่มถาม "ไม่เป็นไรอ่ะจะกลับละ โชคดีนะ บาย" เกรซตอบแล้วก็เดินออกไปแต่แค่เพียงเธอลองก้าวขาออกไปแค่ได้ข้างเดียวเธอก็เซจนเกือบล้มหน้าทิ่มทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเข้าไปประคองไว้ด้วยความเป็นห่วง "เอ่อ...นี่คุณมากับใครครับให้ผมพาไปส่งที่โต๊ะดีกว่าไหม" ชายหนุ่มถาม "โอ๊ย~ คนอื่นมันกลับบ้านกับแฟนไปหมดแล้ว" เกรซตอบ "งั้นแฟนคุณล่ะครับให้ผมช่วยโทรตามให้ไหม" ชายหนุ่มถาม เกรซหันหน้าไปหาชายรุ่นน้องแล้วใช้มือจับหน้าของเขาไว้ "นายก็จะล้อฉันอีกคนเหรอฮะ!" เกรซถาม "ผมยังไม่ได้ล้ออะไรคุณเลยนะครับ" ชายหนุ่มตอบ "ใช่สิ! ฉันมันไม่มีใครเอาหนิ ฉันมันแก่ ฉันมันธรรมดา ฉันมันบ้างานวัยรุ่นอย่างพวกนายจะไปเข้าใจหัวอกคนวัย 30 อย่างฉันได้ไง" เกรซพูด "นี่พี่ 30 แล้วเหรอครับ" ชายหนุ่มถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ "นายจะว่าฉันแก่เหรอ" เกรซถาม "ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้นซะหน่อย" ชายหนุ่มตอบ "ถอยไปเลย" เกรซพูดแล้วดันชายหนุ่มให้ถอยห่างออกไปแต่ด้วยร่างกายของเธอตอนนี้อ่อนแรงมาก ๆ ชายหนุ่มเลยไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด "ผมขอโทษ ๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปส่งพี่เป็นการไถ่โทษแล้วกัน โอเคไหม" ชายหนุ่มถาม "ฉันกลับเองไก้เดี๋ยวน้องชายฉันก็มารับแล้ว" เกรซตอบ "งั้นเดี๋ยวผมนั่งรอเป็นเพื่อนก็ได้ขืนผมปล่อยพี่ไปสภาพนี้เกรงว่าไม่น่าจะปลอดภัย" ชายหนุ่มพูดแล้วช่วยประคองพาเกรซออกไปนั่งรอหน้าร้าน "นี่มันจะชั่วโมงนึงอยู่แล้วนะทำไมน้องชายพี่ยังไม่มาอีกล่ะ" ชายหนุ่มถาม "ถ้ารอไม่ไหวก็ปลับไปก่อนดิเดี๋ยวฉันเรียกรถกลับเองก็ได้" เกรซตอบทั้ง ๆ ที่หัวยังซบอยู่ที่ไหล่ของชายหนุ่มอยู่เลย "ให้ผมไปส่งดีไหม พี่เป็นผู้หญิงแถมยังเมาอีกด้วยถ้าต้องนั่งรถกลับเองผมว่ามันอันตรายนะ" ชายหนุ่มถาม เกรซเงยหน้ามองชายหนุ่มแล้วยกมือขึ้นมาชี้หน้าเขา "นายหรือว่าคนขับรถกันแน่ที่อันตราย" เกรซถาม "ถ้าผมอันตรายจริงผมพาพี่ไปต่อตั้งแต่ที่หน้าห้องน้ำล่ะไม่มานั่งตากยุงอยู่เป็นเพื่อนพี่ตรงนี้หรอก" ชายหนุ่มตอบ "อาจเป็นเพราะฉันไม่ตรงสเปคนายก็ได้ ใครจะมาชอบผู้หญิงแก่ ๆ แบบฉันล่ะ" เกรซพูดตัดพ้อด้วยแววตาเศร้า ๆ "เพ้อเจ้อ พี่นั่งรอผมตรงนี้นะเดี๋ยวผมไปเอารถก่อน ห้ามไปไหนนะ!" พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินไปเอารถมารับเกรซแล้วขับพาเธอออกไป "บ้านพี่อยู่ไหนอ่ะ" ชายหนุมถาม "สระบุรี" เกรซตอบ "ฮะ!" ชายหนุ่มอุทานออกมาด้วยความตกใจ "นี่บ้านพี่อยู่สระบุรีเลยเหรอ" ชายหนุ่มถาม "ใช่" เกรซตอบ "ถ้าผมขับไปส่งพี่ที่สระบุรีแล้วแบบนี้ผมจะกลับถึงบ้านตัวเองกี่โมงเนี่ย" ชายหนุ่มพูด "แล้วนายจะไปส่วฉันที่สระบุรีทำไม" เกรซถาม "เอ้า! ก็ไหนเมื่อกี้พี่บ้านว่าบ้านพี่อยู่สระบุรีไง" ชายหนุ่มตอบ "บ้านเกิดฉันอยู่สระบุรีแต่ฉันย้ายออกมาอยู่คนเดียวนานแล้วจ่ะ" เกรซพูด "แล้วจะพูดเพื่อ" ชายหนุ่มถาม "ก็นายถามฉันเองหนิว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหนฉันก็ตอบนายไปตรงๆ ยังจะมีหน้ามาบ่นอีก" เกรซตอบ "อ่ะ ๆ งั้นพี่จะให้ผมไปส่งที่ไหนล่ะ" ชายหนุ่มถาม "ที่คอนโด" เกรซตอบ "แล้วคอนโดพี่อยู่ที่ไหน" ชายหนุ่มถาม "ฉันไม่บอกที่อยู่ให้คนแปลกหน้าหรอกนะ มันอันตราย" เกรซตอบแล้วปรับเบาะลงเพื่อนอนให้สบายมากขึ้น "เอ้า! ไม่บอกแล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะ" ชายหนุ่มถาม สีหน้าของชายหนุ่มตอนนี้คืองงไปหมดแล้วเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเกรซต้องการอะไรกันแน่แถมเจ้าตัวยังเมาคงคุยกันไม่รู้เรืื่องอีก "พี่...เฮ้ยพี่!" ชายหนุ่มพยายามเรียกเกรซให้ลุกขึ้นมาคุยกันดี ๆ "เบา ๆ ดิคนจะนอน" เกรซตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "เอ้า! อะไรของเขาว่ะ ปรับเบาะกูอีก...แม่งคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่ช่วยมา" ชายหนุ่มบ่นงึมงัมเบา ๆ ด้วยความสับสนว่าควรจะเอายังไงกับเกรซต่อดีบรรยากาศภายในรถเงียบสงบแต่ดูอึมครึมมากทั้งพศินและสายลมเหมือนกำลังแผ่รังสีใส่กันอยู่ตลอดเวลาจนคนบนรถทุกคนได้รับผลกระทบความกดดันจากพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน สายฟ้าล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาภรรยา"ค่ะ""ผมจะถึงแล้วนะ""ได้ค่ะเดี๋ยวดาออกไปรับนะคะ""ผมโทรบอกดาแล้วนะครับพ่อ ฟังจากเสียงรอบข้างตอนนี้น่าจะมีคนถึงงานกันบ้างแล้ว""อืม จริง ๆ วันนี้แกน่าจะให้หนูมุกดามาพร้อมพวกเรานะจะได้ดูไม่น่าเกียจ""ผมบอกแล้วครับแต่ดาเขาอยากมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในงานให้ที่บ้านก่อนก็เลยขอกลับไปนอนบ้าน 2 วันแล้ว" "ช่วยทำตัวเป็นสามีที่ดีหน่อยนะเพราะถ้าเกิดหนูดาเขาทนแกไม่ไหวขอหย่าเมื่อไหร่แกเจอฉันเล่นแน่""ครับพ่อ" สายลมเบะปากเล็กน้อยเพราะรู้สึกแย่กับคำที่พ่อสอนพี่ชายทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังเป็นสามีที่ดีไม่ได้แต่กลับสอนให้ลูกเป็นสามีที่ดีให้กับคนที่ลูกไม่ได้เลือกด้วยซ้ำบ้านสุขนิรันดร์"คุณแม่ขาเดี๋ยวดาขอตัวออกไปรับพี่สายฟ้าก่อนนะคะ""จ่ะ รีบมานะ""ค่ะ""ให้มีนไปเป็นเพื่อนไหมคะพี่ดา""ไม่เป็นไรจ่ะ" มุกดาลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปรอรับครอบครัวสามีที่กำลังจะมาถึง ไม่นานรถตู้สีดำเงาสวยราคาแพงก็ขับเข้ามาจอดในบ้านโด
สายลมนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย เขารู้สึกอึดอัดและคิดถึงเกรซมากจนไม่อยากทำอะไร 5 วันที่ผ่านมาที่เขาต้องอยู่คนเดียวทำได้แค่โทรคุยกับเกรซบ้างหลังเธอเลิกงานและนั่นเป็นความสุขเดียวของเขาในตอนนี้เลย เขารู้สึกซึ้งใจมาก ๆ ที่เวลาเกรซโทรมาแล้วถามถึงปัญหาที่เขาเจอ เธอพยายามช่วยเขาคิดวิธีแก้ไขทุกอย่างเพราะยังเข้าใจอยู่ว่าที่สายลมหายไปเป็นเพราะปัญหาธุรกิจจริง ๆ สายลมทั้งซึ้งใจและรู้สึกผิดอยู่นัย ๆ ที่ต้องโกหกเกรซแบบนี้บางทีเขาก็แอบน้ำตาไหลออกมาเลย เขาอยากพุ่งเข้าไปในโทรศัพท์แล้วดึงเกรซเข้ามากอดให้หายคิดถึงพร้อมกับสารภาพทุกอย่างอย่างจริงใจแต่เขาก็ทำไม่ได้ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์)สายลมรีบลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าเกรซโทรมาแต่เมื่อเห็นชื่อปลายสายเป็นพ่อตัวเองเขาก็หุบยิ้มทันที"ครับ""พรุ่งนี้บ่าย 3 มาที่บ้านด้วยอย่าสายล่ะ""พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ""ไม่มีฉันจะโทรตามแกเหรอ! มาให้ตรงเวลาด้วยอย่าให้ฉันต้องรอแกนะ""เฮ่อ~ ครับ" สายลมรับปากทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะปฏิเสธมากและทันทีที่วางสายพ่อไปเกรซก็โทรเข้ามาหาเขาทันที"ฮัลโหลครับ""เมื่อกี้โทรไปแล้วติดสาย...คุยกับใครอยู่เหรอ""ผม
ผมขึ้นมาบนรถคิดทบทวนก่อนว่าจะเอายังไงต่อดีเพราะขืนวันนี้ผมกลับไปคอนโดพี่เกรซพ่ออาจจะรู้ได้ในไม่ช้าแน่ว่าผมกำลังคบกับใครอยู่เพราะผมมั่นใจว่ายังไงซะช่วงนี้พ่อต้องให้คนคอยติดตามดูผมแน่ ๆ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าผมไม่มีใครจริง ๆ ถึงจะเลิกตาม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่เกรซทันทีและระหว่งรอสายอยู่ผมก็มองออกไปด้านนอกเห็นบอดี้การ์ดของพ่อหลายคนแอบเหช่มองมาที่รถผมเป็นระยะ"ฮัลโหล" เสียงอันสดใสของพี่เกรซช่วยฮีลใจผมจากการมีปากเสียงกับพ่อไปเมื่อกี้ไม่น้อยเลย"พี่ทำอะไรอยู่อ่ะ" ผมไม่รู้จะเริ่มเข้าประเด็นจากตรงไหนเลยพยายามหาเรื่องอื่นคุยก่อน"ก็ทำงานน่ะสิมีอะไรหรือเปล่า" "คือ...วันนี้...""เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" "เปล่าครับ ผมแค่จะโทรมาบอกอ่ะว่าวันนี้ผมคงไม่ได้กลับไปทานข้าวกับพี่แล้ว""ทำไมอ่ะ""ผมมีธุระต้องจัดการนิดหน่อย...อาจจะ...ไม่ได้ไปหาพี่สักพัก" แม้ว่าการพูดออกไปตรง ๆ สำหรับใครมันอาจจะไม่ได้ยากแต่สำหรับผมมันยากมากเพราะผมรู้จักพี่เกรซดี เธอเป็นคนคิดมาก ความใจดีของเเธอถ้ามีให้กับผมมันจะทำให้เธอลำบากซะเอง ผมรู้ว่าถ้าผมสารภาพกับพี่เกรซตรง ๆ พี่เกรซต้องเข้าใจผมแน่และเธออาจยอมทำให้สิ่งที่ผมไม่ต้องกา
"แล้วที่เรียกผมกลับมามีเรื่องด่วนหรือเปล่า""ทำไม ที่นี่ก็บ้านของแกถ้าฉันไม่มีธุระอะไรแกก็จะไม่กลับมาเลยใช่ไหม" "เอาเป็นว่าวันนี้พ่อมีอะไรจะพูดกับผมดีกว่าครับ" ผมเริ่มชักสีหน้าใส่พ่ออีกครั้งเพราะรู้สึกไม่โอเคที่เขาไม่เข้าประเด็นสักที"ปีหน้าแกก็จะจบแล้วใช่ไหม""ครับ""ดี! งั้นหลังจากนั้นแกก็หมั้นเลยแล้วค่อยมาเริ่มกับทำงานกับฉัน รอให้เจ้าสาวแกเรียนจบก่อนจากนั้นถึงค่อยแต่งกัน""ผมไม่แต่ง" ผมกะไว้แล้วไม่มีผิดเลยว่าพ่แจะต้องเรียกผมมาคุยเรื่องนี้แน่ ๆ"ไม่ได้! แกกับหนูมีนหมั้นกันมาตั้งนานแล้วไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ" "ผมบอกพ่อแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบมีน ตอนนั้นพ่อก็รับปากผมแล้วว่าถ้าสายฟ้ามันแต่งกับพี่มุกดาแล้วพ่อจะไม่บังคับผมเรื่องมีนอีก""ใช่ ฉันพูดกับแกแบบนั้นแต่แกดูซิ พี่ชายแกมันแต่งงานมาจะ 3 ปีแล้วตอนนี้วี่แววหนูมุกดาจะท้องยังไม่มีเลยแล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไง" "จะต้องทำอะไรอีกอ่ะ ครอบครัวเราก็ไม่ได้ยากจนจะต้องอยากแต่งงานกับบ้านนั้นอะไรนักหนา" ผมโกรธมากที่พ่อผิดคำพูดกับผม"ฉันไม่ได้อยากได้เงินจากบ้านหลังนั้นแต่ที่ต้องทำแบบนี้เพราะฉันอยากได้ความมั่นคงจากอำนาจตำรวจของพ่อหนูมุกดาต่างหาก ที่ผ่านมา
ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า)สายลมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกหลังได้ยินเสียงสั่นของโทรศัพท์แต่เมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครเขากลับรู้สึกลังเลที่จะหลับ"ครับพ่อ" เขากดรับในที่สุดเพราะเขาคิดว่าถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรพ่อคงไม่โทรมาดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้หรอก"แกอยู่ไหน" เสียงทุ่มฟังดูแข็ง ๆ จากผู้เป็นพ่อทำเอาสายลมใจเต้นสั่นด้วยความกลัว"อยู่คอนโดครับ" "แกแน่ใจนะ""ครับ พ่อมีอะไรหรือเปล่า""งั้นแกลงมาตอนนี้ฉันอยู่หน้าคอนโดแกแล้ว" คำพูดของพ่อทำเอาสายลมขนลุกซู่ เขามองดูนาฬิกาตรงหัวเตียงเห็นเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ "นี่มันตีหนึ่งกว่าแล้วนะพ่อมาทำอะไรอ่ะ" "ฉันให้โอกาสแกอีกครั้ง...ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน" น้ำเสียงของพ่อทำให้สายลมรู้สึกกดดันได้จริง ๆ เขาหันไปมองเกรซที่นอนหลับสนิทด้วยหัวใจสั่นไหว"ผมอยู่ข้างนอกครับ" สายลมยอมรับสารภาพตรง ๆ แต่เขาก็ไม่กล้าบอกพ่ออยู่ดีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เขารู้จักพ่อตัวเองดีว่าถ้าบอกอะไรออกไปพ่อต้องทำให้เกรซเดือดร้อนแน่ ๆ "พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงฉันต้องเห็นแกที่บ้านไม่งั้นแกเจอดีแน่" พูดจบพ่อก็วางสายไปทิ้งให้สายลมนั่งเครียดอยู่แบบนั้นคนเดียว เขาพอจะเดาได้ว่าพ่อกำลังโกรธเรื่องอะไรแต่ที
หลังจากเสร็จกิจกรรมสายลมกับเกรซก็นอนพักกันอยู่บนเตียงทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียวปล่อยให้เวลาผ่านไปจนแอร์ในห้องสามารถดับความร้อนในร่างกายได้แล้ว เกรซหันไปมองสายลมที่นอนหลับตาเอามือก่ายหน้าผากไว้อยู่แบบนั้นแค่เธอดูเธอก็รู้ได้แล้วว่าสายลมต้องมีอะไรในใจแน่ ๆ เธอจึงได้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมทั้งดึงผ่าห่มขึ้นมาปิดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไว้ด้วยแต่สายลมเขาใส่กางเกงบ็อกเซอร์ไว้ตั้งแต่เสร็จภารกิจแล้วเลยไม่ได้ห่มผ้ากับเกรซ"สรุปจะบอกได้ยังว่าเครียดเรื่องอะไร" เกรซเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศเงียบสงบในห้อง"เฮ้อ~" สายลมถอนหายใจแล้วเอามือลง เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเกรซแป๊ปนึงก่อนจะหลบตาเธออีกครั้ง"ขอโทษนะ" สายลมตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ เหมือนคนรู้สึกผิดจนเกรซงงเพราะตามอารมณ์เขาไม่ถูก"ขอโทษทำไม""ที่เมื่อกี้ตีพี่อ่ะ เจ็บหรือเปล่า" "ไม่เจ็บหรอก...แค่ตกใจเฉย ๆ อ่ะปกติไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้" "งั้นก็ดีแล้ว" เกรซรู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นท่าทีหมดอะไรตายอยากของสายลม"สายลม!" เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังไม่พอใจเขาแล้วนะและถ้าเขายังทำตัวผิดปกติใส่เธออีกเธอ
Comments