'ม่านมุก' ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ทุกอย่างจาก 'ธรรศ'
View MoreTahimik akong naglalakad dito sa hallway ng may biglang humablot sa kamay ko at kinaladkad ako papuntang faculty.
Nabigla man ay sumunod na lang ako sa paghatak nito sa akin. Ramdam ko ang mahigpit nitong paghawak sa aking kamay.
Hindi naman halata na galit na galit ito base na rin sa kanyang pag hila at paghawak sa aking kamay.
Ano na naman kaya ang nagawa ko at bakit galit ito sa akin?
Nang makarating na kami sa kanyang office ay agad niyang binuksan ang pinto at patulak akong pinasok sa loob sabay bigla nitong sandal sa akin sa may pintuan.
Ramdam ko ang sakit nang bigla nitong pagtulak sa akin pasara sa may pintuan.
Bigla niyang hinawakan ang kwelyo ng damit ko at napaka dilim ang aura na tinitigan ako.
"Sino yung kasama mo na yun ha!!!?? Babae mo ba yun!!!??? Napaka landi mo talaga!!! May asawa ka nat lahat ay humaharot ka pa!!!!" Ang galit na galit nitong litanya sa akin na may kasamang panggigigil.
"May Pa hampas hampas pa ng brasong nalalaman. Eh kung ihampas ko kaya ang mukha nun sa pader at nang magpantay!!!! Ang harot mo talagang bwisit ka!!!!" Tuloy tuloy nitong talak na parang kakain na ng tao sa galit.
Huwag lang na magkamali ako ng sagot dito ay malamang na lilipad na ang kamao nito sa maganda kong mukha.
Nagtatakang nakatingin lang ako sa kanya. Hindi ko kasi magets kung bakit nagagalit siya. Eh wala naman kasi akong matandaan na aking ginawa sa mga binibintang niya ngayon.
"Oh bakit di kana nakaimik dyan ha?!!! Siguro babae mo nga talaga iyon ano!!! Magsabi ka sa akin ng totoo na bwisit ka!!!!" Lalo pa itong nanggigil sa hindi ko pag imik sa kanya.
Paano ko naman kasi maipagtatanggol pa ang aking sarili kung ganito na siya kagalit?
Isang option na lang ang aking naisip na alam ko naman na sobrang effective pag ginamit ko sa kanya.
Mabilis pa kay the flash na agad ko itong hinila papalapit sa akin at kinawit ang kanyang batok at sinalubong ng nagbabaga kong halik ang napaka sarap nitong labi.
Hinalikan ko ito na parang wala ng bukas. Dahil naman sa pagkabigla ay hindi ito nakapag react kaagad sa aking ginawa.
Maya lang ay naramdaman ko na ang pag ganti nito ng halik sa akin ng same intensity din tulad ng ginagawa ko sa kanya.
Hindi ko naman maiwasang mapangiti ng palihim dahil sabi ko nga sobrang effective nito sa kanya.
See, biglang natahimik. Sabi na eh. Mas magandang ganito ang gawin kaysa ang makipag talo dito. Na malamang ay matatalo lang ako at baka makatikim pa ako ng mag asawang sampal mula dito na syempre ayaw kong mangyari. Ang Sakit kaya nun.
Nang alam ko ng kumalma na ito ay dahan dahan ko ng pinaghiwalay ang aming mga labi pero nakayakap pa rin ako dito.
"Babe alam mo na hindi ko magagawa sa iyo yang mga binibintang mo sa akin. Masyado kitang mahal para lang ipagpalit sa kung sino lang dyan. Alam mo naman na mahal na mahal kita di ba? Ilang beses mo ng napatunayan iyan." Mahinahong paliwanag ko dito.
"Sorry babe, nag selos lang naman kasi ako doon sa nakita ko kanina eh. Akala ko babae mo iyon. Ang kapal ng mukha mo kung yung pangit na iyon lang ang ipapalit mo sa akin ha. Sobrang nakakainsulto kana pag iyon talaga pinalit mo sa akin." Naka nguso naman na sabi nito.
Hindi ko naman maiwasang mapangiti dahil sa sinabi nito.
Ang cute lang kasi. Hindi halata na masyado siyang nag selos.
“ผมเตรียมโต๊ะให้แล้วครับนาย” ลุงสุขเดินเข้ามาหาธรรศ ดวงตาฝ้าฟางของชายสูงวัยเลื่อนมองไปยังหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยสะอาดสะอ้านโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว สวยเสียด้วย“ขอบคุณครับลุง”ม่านมุกยิ้มน้อย ๆให้ชายชราผู้ซึ่งที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนจะเคยเจอ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะเพิ่งเคยมาไร่องุ่นของธรรศ ไม่น่าจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักคุณลุงคนนี้“ไปตักข้าวกัน” ธรรศแตะที่หลังศอกของม่านมุก บอกให้อีกฝ่ายเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีถาดอาหารวางเรียงรายอยู่หลายถาด“นายรับอะไรดีคะ”“หนูม่านเลือกก่อนเลย” เหลียวหน้าบอกคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ม่านมุกมองถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงบอกแม่ครัวที่รอตักอาหารให้อยู่“เอาผัดผักคะน้ากับไข่เจียวค่ะ เอาข้าวนิดเดียวนะคะ” ไม่ได้รู้สึกหิวมาก แต่กินเพราะเกรงใจธรรศ“เอาแบบนี้อีกจาน แต่เอาข้าวเยอะกว่านี้”ธรรศสั่งเหมือนม่านมุก ยืนรอแค่เดี๋ยวเดียวก็ถือจานข้าวกลับมาที่โต๊ะที่ลุงสุขเตรียมทไว้ให้ ยังไม่ทันได้ลุกไปเอาน้ำดื่ม วิมาลาก็เดินเอาแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้แล้ว“แว๋วไม่รู้ว่าคุณธรรศจะมากินข้าวกลางวันด้วย ไม่งั้นก็คงให้แม่ครัวเตรียมอาหารดี ๆให้แล้วค่ะ”วางแก้วน้ำดื่มลงบนโต๊ะให
“ห้องทำงานอา”แม้แต่ห้องทำงานก็ยังเงียบง่าย มีโต๊ะทำงาน มีชั้นวางเอกสาร เรียบง่ายเหมือนห้องนอนที่บ้านม่านมุกกวาดตามองสำรวจ สะดุดตาเข้ากับบานประตูบานใหญ่ที่อยู่ติดผนังด้านหลังโต๊ะทำงานของธรรศ คงเป็นห้องน้ำละมั้ง“ห้องนอน อาทำไว้เผื่ออยากนอนพัก เข้าไปดูกันไหม อาให้คนมาทำความสะอาดแล้ว” เพราะเห็นว่าเด็กดีมองไปยังห้องนอนห้องเล็กที่ทำไว้เผื่อขี้เกียจกลับไปนอนที่บ้าน เขาก็จะนอนที่ห้องนี้แทน แต่ก็นาน ๆทีถึงจะนอนจูงมือม่านมุกเดินไปหลังโต๊ะทำงาน เปิดประตูแล้วให้เด็กสาวเดินเข้าไปก่อน ธรรศเปิดไฟจนสว่างทั่วห้อง เป็นห้องที่ไม่กว้างมาก มีเตียงขนาดสามฟุตและมีห้องน้ำเล็ก ๆอยู่ข้างในด้วยเล็กแต่ก็ไม่ได้ชวนให้อึดอัด“ให้หนูม่านมานอนรอตอนอาทำงาน”“ม่านอยากช่วยงานอาธรรศค่ะ” คิดไว้แล้วว่าจะของานธรรศทำ งานอะไรก็ได้ ขอแค่ได้แบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายบ้างก็ยังดี “ม่านไม่เอาเงินเดือนค่ะ ม่านแค่อยากช่วยงานอาธรรศบ้าง”“เป็นเมียเจ้าของไร่ ใครให้ทำงานกันเล่า”“อาธรรศ ม่านจริงจังนะคะ”พอเห็นธรรศยิ้มเหมือนไม่จริงจังกับสิ่งที่เธอบอก ม่านมุกก็ทำหน้าตึงมองเขาแบบเคือง ๆ“อาก็จริงจังกับหนูม่าน จริงจังมาก ๆด้วย”“อาธรรศ” น้ำ
“ม่านไม่เหงาหรอกค่ะ”“อารู้ว่าหนูม่านเก่ง เก่งมาก ๆด้วย” ยกมือลูบศีรษะของม่านมุก ต้องเหงาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ ม่านมุกแค่พูดเพื่อให้เขาสบายใจจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลม่านมุกยิ้มอ่อน รู้สึกสบายใจทุกครั้งเวลาที่ธรรศลูบศีรษะ เขาดูอ่อนโยน แววตามีแต่ความอบอุ่นถ้าไม่ติดว่าเขายื่นข้อเสนอให้เธอเอาตัวเข้าแลกกับเงิน ไม่แน่ เธออาจจะลองเปิดใจให้ธรรศก็ได้เลือกเดินซื้อของที่จะเอาไปทำกินมื้อกลางวันกับมื้อเย็นได้จนครบ ธรรศเป็นฝ่ายหิ้วของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง โดยที่ม่านมุกเสนอตัวจะช่วยหิ้ว เขาก็ไม่ยอม“อาธรรศแบ่งให้ม่านหิ้วบ้างสิคะ มืออาธรรศแดงหมดแล้ว” เห็นนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของธรรศที่ถูกหูหิ้วรัดแน่นจนเนื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่านมุกก็เป็นห่วง เอ่ยขอจะช่วยหิ้วของตั้งหลายที อีกฝ่ายก็ตีมึน ทำไม่สนใจ หิ้วของเดินหนีอยู่นั่นแหละ“จะถึงรถแล้ว หนูม่านช่วยล้วงกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงให้อาหน่อยสิ”“ได้ค่ะ”“ล้วงดี ๆนะ เดี๋ยวจับโดนอย่างอื่น”กำลังจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของธรรศ ทว่าสิ่งที่เขาพูดตามมาเล่นเอาม่านมุกชะงักพร้อมช้อนตาขึ้นสบด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยม่านมุกระบายลมหายใจเนิบช้า ค่อย ๆล้วงมือเข้
“หนูม่านทำอะไร”ม่านมุกที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาพับเสื้อผ้าของธรรศเก็บเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสะดุ้งนิดเมื่อได้ยินเสียงของธรรศพูดขึ้น“ม่านเก็บเสื้อผ้าให้อาธรรศค่ะ”ด้วยความที่ถูกแม่สอนตั้งแต่เด็กว่าให้จัดเก็บเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเสื้อกับกางเกงไว้คนละส่วน เวลาที่จะหยิบออกมาใส่จะได้ง่ายและสะดวก“เละเทะมากใช่ไหม”ธรรศถามยิ้ม ๆ เขาเป็นผู้ชาย เสื้อผ้าตัวไหนอยู่ใกล้มือก็หยิบมาใส่ไว้ก่อน ไม่ได้เลือกมาก เน้นที่เร็วและง่ายที่สุดเป็นหลักเด็กดีของเขาเห็นแล้วคงขัดใจหรือไม่ก็รำคาญตากับความไม่เป็นระเบียบ ถึงได้เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ แยกสี แยกกางเกงกับเสื้ออย่างเรียบร้อยแบบนี้“ผู้ชายก็แบบนี้แหละค่ะ” ดันประตูตู้เสื้อผ้าปิดก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธรรศเดินเข้ามาใกล้ “ธุระของอาธรรศเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้ว หนูม่านหิวรึยัง”“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยค่ะ” หลังจากที่ธรรศออกไปจากบ้าน ม่านมุกก็นอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่แป๊บหนึ่ง ตั้งใจว่าจะลุกมาทำข้าวเช้าไว้รอเขา แม้ธรรศจะบอกว่าอาจจะกลับมาสาย แต่พอไปเปิดตู้เย็นดู ไม่มีอะไรนอกจากน้ำเปล่ากับเบียร์“อาทำกับข้าวไม่เป็น อยากมีคนทำใ
หลังจากที่สั่งการลูกน้อง ธรรศก็ยืนนิ่งมองบ้านพักคนงานที่ถูกไฟไหม้ไปหลายหลัง โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟทันและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ“ไอ้หมึกมันติดยากับนาย”ยาเสพติดอีกแล้วสินะเขาเคยสั่งนักสั่งหนา สั่งห้ามลูกน้องยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้าใครฝืนคำสั่งแอบเล่นยา ถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยให้อยู่ที่ไร่เพื่อจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น“มันคงตั้งใจเผาห้องพักมันแล้วอาศัยจังหวะที่คนงานออกมาช่วยกันดับไฟเข้าไปขโมยเงิน”“ใครที่โดนขโมยเงินให้ไปแจ้งกับคุณแว๋ว เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง” สร้างเรื่องได้ถูกจังหวะ คนงานเพิ่งได้รับเงินเดือนจากฝ่ายบัญชีเมื่อสองวันก่อนคงมีบางคนที่ยังไม่ทันได้เอาเงินไปฝากธนาคารไอ้สารเลวมันเลยได้โอกาสขโมย“ครับนาย”“เด็กคนนั้น ลูกสาวพี่เปี่ยม...อยู่ที่นี่”“นายไปรับมาแล้วเหรอครับ” ชายชราเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าและแววตานอบน้อมธรรศพยักหน้า สองตายังจับอยู่ที่กลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากกองเถ้าถ่านที่ไฟมอดแล้วสิบกว่าปี ที่รู้จักกับเปี่ยมตอนนั้น เขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้น ๆ รู้จักกับอีกฝ่ายด้วยเหตุบังเอิญล้วน ๆ“ช่วงนี้หลานสาวของลุงปิดเทอมใช่ไหม”“ครับ นายจะใช้อะไรมันรึเปล่าครับ”“ให้มาอยู่เป็
“พรุ่งนี้อาจะพาหนูม่านไปทำงานด้วย”อาบน้ำเสร็จ ธรรศก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าของ ม่านมุกในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งหวีผมอยู่ที่ปลายเตียง ดวงตาคมกริบจับไปยังดวงตากลมโตที่ยังคงปรากฏความเศร้าสะท้อนออกมาให้เห็นปลายนิ้วสากเชยคางมนให้เงยขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผ่านความวาบหวามมาก็หลายครั้งเขาเองก็ดูออกว่าเด็กดีของเขาพยายามที่จะเป็นคนเข้มแข็งทั้งที่ใจกำลังเปราะบาง“อยากร้องไห้ไหม หนูม่านร้องออกมาได้เลยนะ ร้องออกมาดัง ๆ”มือขาวเล็กที่จับหวี กำแน่นเข้าจนสั่น ริมฝีปากเล็กบางขยับนิด ต่อจากนั้นเสียงสะอื้นแผ่วเบาถูกปล่อยออกมาพร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่ค่อยเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาก่อนที่จะกลิ้งผ่านขนตาไหลลงมาตามแก้มขาวนวล กายเล็กค่อย ๆไหวเอน หยดน้ำตาไหลรินหยดแล้วหยดเล่า เธอคิดถึงแม่“ม่านคิดถึงแม่”ธรรศทิ้งตัวนั่งชิดกับเด็กสาว สวมกอดแล้วโน้มใบหน้าจูบที่ขมับของอีกฝ่าย ฟังเสียงร่ำไห้จากคนที่พยายามฝืนเป็นคนแข็งแกร่งมาได้ตั้งหลายวัน“แต่งงานกับอานะ อาจะดูแลหนูม่านเอง”“แต่ม่านไม่ได้รักอาธรรศ” รอจนตัวเองสงบแล้ว ม่านมุกก็บอกธรรศไปตรง ๆ บอกธรรศไปแล้วและก็ยินดีจะย้ำให้เขาฟังอีกครั้งโดยที่ไม่มีความลังเลเธอไม
Comments