แชร์

ตอนที่ 7 พระสนมผู้มีสติฟั่นเฟือน

ผู้เขียน: Jiulin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 19:52:48

-เจ็ดวันผ่านไป-

“ซั่วอิง เจ้าบอกว่าข้าไปเอาเมล็ดพันธ์พวกนั้นมาจากวัดอะไรนะ?”

“วัดฮุ่ยหลอเพคะ อยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของเมืองหลวง วัดแห่งนั้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปกันหรอกนะเพคะ”

“ทำไมล่ะ?”

“ก็ที่นั่นมีเพียงเจ้าอาวาสคนเดียวเท่านั้น อารามก็เก่าทรุดโทรมแล้วไม่ได้งดงามเหมือนวัดเล่อฉีที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมืองหลวงเพคะ”

“ไม่มีใครไปก็ดีแล้วนี่ ไม่วุ่นวายดี”

 “เจ้าไปเอาเหล้าที่หมักไว้ออกมาสักสองไหที แล้วก็หยิบไหเล็กมาอีกสองไหด้วยนะเผื่อเอาไว้ให้ใต้เท้าโจวนะ”

“ได้เพคะ”

ซั่วอิงรีบเดินไปนำไหเหล้าองุ่นที่พวกนางหมักเอาไว้เป็นเวลากว่าเจ็ดวันแล้ว ที่ชั้นวางของในห้องครัวบริเวณปีกซ้ายของตำหนักหนิงเซียง 

ไม่นานนักนางก็หิ้วไหเหล้ามาพร้อมๆกันทั้งสี่ไหอย่างทุลักทุเลพอสมควร ซั่วอิงก้าวเดินด้วยความเชื่องช้าด้วยกลัวว่าไหเหล้าเหล่านั้นจะตกลงพื้นไปเสียก่อน

“มาแล้วเพคะพระสนม”

“ไหนมาให้ข้าชิมดูก่อนซิ”

จ้าวซูหลินรีบหยิบไหเหล้าใบเล็กใบหนึ่งมาจากมือของซั่วอิงด้วยความว่องไว ก่อนจะเปิดผ้าที่ใช้ปิดฝาไหออกแล้วสูดดมกลิ่นของมันทันที

“อืมม..หอมเสียจริง” นางดมกลิ่นสุราองุ่นก่อนจะเทลงไปในจอกใบเล็กเพียงครึ่งจอกแล้วลิ้มรสไปทีละนิด

“เป็นเช่นใดบ้างหรือเพคะ”

“ต้องใช้เวลาหมักให้นานกว่านี้ถึงจะได้รสชาติที่กลมกล่อมละมุนลิ้นไม่ฝาดคอเกินไป แม้จะมีวัตถุดิบน้อยไปหน่อยแต่รสชาติที่ได้ไม่เลวเลย”

“เจ้าก็ลองชิมดูสิ”

“หม่อมฉันไม่กินเหล้าเพคะ”

“อะไรกันพลาดของดีๆไปได้อย่างไร"

ขณะที่จ้าวซูหลินนั่งดื่มเหล้าองุ่นอย่างสบายใจอยู่นั้น ก็นึกขึ้นได้ว่านางอยากจะไปที่วัดนั้นดูสักครั้ง

"ซั่วอิงข้าอยากไปที่นั่น พาข้าไปที”

“ไปไหนหรือเพคะ”

“วัดฮุ่ยหลออย่างไรเล่า”

“ท่านจะไปอีกทำไมกันล่ะเพคะ หากไปแล้วไม่พบเจ้าอาวาสจะไม่เสียเวลาแย่หรอกหรือ”

“เสียเวลาอะไรข้าต้องทำอะไรที่ไหนกัน เห็นหรือไม่วันๆก็เอาแต่อยู่ในตำหนักเงียบเหงาจะตายไป ข้าเบื่อจะแย่อยู่แล้ว”

แม้จะโล่งอกที่ไม่มีใครมาก่อกวนแต่ภายในใจของนางกลับรู้สึกว่ามันเงียบมากเกินไปมากจนนางเองก็รู้สึกระแวงอยู่ไม่น้อย

“จะว่าไปแล้วนะซั่วอิงเจ้าว่ามันแปลกหรือไม่ หลายวันมานี้เหตุใดตำหนักของเราถึงได้เงียบสงบเช่นนี้ล่ะ”

“คือว่า”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ครั้งที่หม่อมฉันไปห้องเครื่อง ได้ยินมาว่าฮ่องเต้มีรับสั่ง….”

“รับสั่งอะไร?”

“ก็เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นพระสนมลิ่งเฟยจึงไปฟ้องร้องฝ่าบาท ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้ตำหนักหนิงเซียงเพคะ เห็นรับสั่งว่าเพราะพระสนมซูหลินมีสติฟั่นเฟือนอาจจะทำร้ายผู้คนที่เข้าใกล้ได้”

พรู๊ดดด….~

“แค่กๆ”

“ตรัสเช่นนั้นเลยหรือ?”

“เพคะ แต่หม่อมฉันว่าก็ดีแล้วไม่ใช่หรือเพคะหลายวันมานี้ก็ไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนท่านเลย อีกทั้งทางด้านตำหนักของฮองเฮาเองก็ไม่ได้ส่งผ้ามาให้ท่านปักอีก”

“ใช่ มันก็ดีอยู่หรอก แต่อีตาบ้านั่นหาว่าข้าสติฟั่นเฟือนเลยอย่างนั้นหรือ อย่าให้แม่เจอนะจะต่อยหน้าสักทีโทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและกล่าวร้ายข้า”

“อะ อะไรนะเพคะ?”

“เฮ้อ…ช่างเถอะ ออกไปนอกวังกันข้าต้องเอาเหล้าไปขายก่อนจะแวะไปที่วัดฮุ่ยหลอต่อ ชักช้าจะเสียเวลา”

“เพคะ”

จ้าวซูหลินเก็บยาสมุนไพรที่จัดเตรียมเอาไว้เป็นชุดเล็กๆสำหรับพกพาหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ใช้ทัน นางนำยาเหล่านั้นใส่ไว้ในห่อผ้าเล็กๆแล้วมอบให้ซั่วอิงเป็นคนดูแล พวกนางรีบเดินออกจากตำหนักหนิงเซียงมุ่งสู่เส้นทางประตูลับที่เคยใช้กับใต้เท้าโจวด้วยความรวดเร็วประหนึ่งกลัวใครจะพบเห็นเข้า

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูไม้บานนั้นไม่ทันที่นางจะได้เปิดประตูออกไป ก็ได้ยินเสียงบุรุษผู้หนึ่งเรียกนางเอาไว้ก่อน

“แม่นางซูพวกเจ้าจะไปไหนงั้นหรือ? แล้วนั่นถืออะไรกัน”

“ใต้เท้าโจว ท่านนี่เองข้าก็นึกว่าใคร”

“ทำไม คิดว่าเป็นทหารเฝ้ายามหรือ”

“ก็ใช่น่ะสิเจ้าคะ”

“ความจริงแล้วเส้นทางนี้มีทหารยามมาตรวจวันละครั้งเท่านั้นล่ะ แค่ตอนเช้าครั้งเดียวเพราะเป็นเส้นทางที่ฮ่องเต้เคยใช้เพื่อออกไปตรวจชาวบ้านน่ะ”

“เส้นทางที่ฮ่องเต้ใช้เช่นนั้นหรือเจ้าคะ!”

“ใช่แล้วล่ะ”

“แล้วหากฮ่องเต้รู้ว่าข้า”

“อือ ไม่รู้หรอกข้าไม่พูดเจ้าไม่พูดพระองค์จะรู้ได้อย่างไรล่ะจริงไหม”

“ว่าแต่พวกเจ้าจะไปไหนกันล่ะ”

“ข้าจะเอาเหล้าองุ่นไปขายในเมืองเจ้าค่ะ”

“ลืมไปเลยนี่สำหรับท่านเจ้าค่ะใต้เท้า ข้าหมักเองกับมือเลยนะเจ้าคะ”

“เจ้าว่าคือเหล้าอะไรนะ”

“เหล้าองุ่นเจ้าคะ ท่านลองชิมดูสิ”

ฮ่องเต้เปิดผ้าที่ปิดปากไหเหล้าออก กลิ่นของเหล้าโชยออกมาช่างหอมยั่วยวนน้ำลายยิ่งนัก เขารีบยกขึ้นมาดื่มทันที

“รสชาติไม่เลวเลย กลมกล่อมกว่าเหล้านารีแดงเสียอีก”

“จริงหรือเจ้าค่ะ ดีเลยพวกข้าจะนำเหล้าพวกนี้ออกไปขายข้างนอกเจ้าค่ะ ข้าไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวสิ เจ้าจะนำเหล้าพวกนี้ไปขายเช่นนั้นหรือ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ท่านอย่าไปบอกใครนะเจ้าคะข้ากำลังรวบรวมเงินเพื่อไถ่ตัวเองออกจากวังแห่งนี้อยู่”

“อะ ออกจากวังเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไรกันเจ้าเป็นถึงพระ….”

“หืม?”

“เอ่อ…ข้าหมายถึงเป็นถึงนางกำนัลจะออกจากวังไปได้อย่างไรกัน หรือที่ที่เจ้าอยู่ไม่สุขสบายเช่นนั้นหรือ”

จ้าวซูหลินไม่ได้ตอบกลับเขาไป นางเพียงแค่ส่งยิ้มให้เล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะหันหลังเดินออกจากประตูวังไปด้วยความรวดเร็วทันที

ฮ่องเต้มองแผนหลังที่ก้าวเดินอย่างคล่องแคล่วออกไปจากรั้ววังแห่งนี้ทีละก้าว ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแสงที่สะท้อนบนแผ่นหลังบอบบางนั้นถึงได้ดูมีชีวิตชีวามากกว่าตอนที่นางอยู่ในเขตรั้ววังหลวงเสียอีก

“อยู่ในวังหลวงนางอึดอัดใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ หรือว่าการปลดปล่อยเจ้าไปจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับเจ้ากันแน่นะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 32 คำอธิษฐานที่เป็นจริง

    -5 ปีผ่านไป-เทศกาลโคมไฟวนเวียนกลับมาในอีกรอบปีแล้ว แต่ปีนี้นั้นจ้าวซูหลินกลับรู้สึกว่าช่างเงียบเหงายิ่งนัก ในทุกๆปี นางจะนั่งชมโคมไฟรูปแบบต่างๆกับฮ่องเต้เสมอแต่มาปีนี้กลับต้องนั่งเหงาเดียวดายอยู่เพียงลำพัง“ฝ่าบาท หากชาติหน้ามีจริงขอให้พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งนะเพคะ”ฮ่องเต้ฮั่วจงสวรรคตไปเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังเทศกาลโคมไฟของปีที่แล้วพอดี จ้าวซูหลินไม่อาจยื้อชีวิตพระองค์ได้อีกต่อไปแล้วอาจเพราะเครื่องมือที่มีไม่มากพอและตัวนางเองก็ไม่อยากทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแม้จะเป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่ฮ่องเต้ฮั่วจงต้องสวรรคตในวัยเพียงแค่สี่สิบชันษา และแม้นางอยากที่จะยื้อชีวิตให้เขาได้อยู่กับนางนานๆมากกว่านี้แต่นางก็ไม่อยากฝืนชะตาลิขิตอีกต่อไปได้เพียงแค่หวังว่าหากชาติหน้ามีจริง นางและเขาจะกลับมาพบกันในสถานะที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในชาตินี้ มีเพียงกันและกันและสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่ต้องผิดต่อใคร-โรงเตี๊ยมฟู่อันหลง-เช้าวันนี้จ้าวซูหลินรู้สึกว

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 31 งานแต่งงาน

    ฮ่องเต้และฮองเฮาเดินเข้ามาในงานด้วยท่วงท่าสง่างามยิ่ง ฮ่องเต้นั้นสวมฉลองพระองค์ด้วยชุดสีเหลืองทองอร่ามปักลายมังกรงามสง่า ส่วนฮองเฮาสวมชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการตาปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทองทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความสูงค่าทรงสง่าดูมีท่วงท่าของพระมารดาของแผ่นดินเป็นอย่างมาก บนโถงพิธีมงคลเทียนสีแดงถูกจุดสว่างตำแหน่งเก้าอี้สูงมีฮ่องเต้และฮองเฮาประทับอยู่ ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางที่หลี่กงอี้เชื้อเชิญมาร่วมงานรวมตัวกันอยู่ไม่น้อย“ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว” ผู้ดูแลจวนเดินออกมายืนป่าวประกาศด้วยเสียงอันดังดนตรีมงคลก็เริ่มบรรเลง เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่ของจวนตระกูลหลี่แล้ว ซั่วอิงถูกประคองลงจากเกี้ยวขณะนั้นก็ได้ยินเสียงประทัดดังปึงปังความปีติยินดีเบิกบานลั่นทั่วทั้งท้องฟ้าพรมสีแดงถูกปูมาจนถึงใต้เท้าของนาง “เจ้าสาวมาแล้ว” มีคนร้องขึ้น ซั่วอิงถูกประคองมาถึงหน้าโถงรับแขก จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากจ้าวซูหลินสาวใช้สองคนประคองซั่วอิงซ้ายขวาเดินเข้ามาในพิธีชุดมงคลแดงปักท

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 30 หลี่กงอี้จะมีฮูหยินแล้ว

    เวลาล่วงเลยผ่านไปอีกปีแล้วจ้าวซูหลินยังคงอาศัยอยู่ในวังเพื่อถวายการรักษาฮ่องเต้อย่างต่อเนื่อง หลายๆครั้งที่นางพาฮ่องเต้แอบหนีออกจากวังเพื่อไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านในหลายๆหมู่บ้าน อะไรที่เขาไม่เคยทำจ้าวซูหลินก็พาทำหมดทุกอย่างหลี่กงอี้ที่เดิมทีเป็นกังวลเกี่ยวกับพระวรกายของฝ่าบาทแต่เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ยังคงแข็งแรงไปไหนมาไหนได้ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเขาจึงไม่เอ่ยคัดค้านใดๆ ทำได้เพียงแค่ตามทั้งสองคนไปในทุกๆที่เท่านั้น“ท่านกงอี้”“แม่นางซูหลิน มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ”“เปล่าเสียหน่อยข้าเพียงแค่จะถามท่านว่าท่านไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรือ”“ข้าหรือ?”“ใช่สิเจ้าคะ”“ข้าเห็นนะ ท่านแอบไปที่โรงเตี๊ยมของข้าบ่อยๆ”“อะไรกันนั่นข้าไม่ได้สั่งเสียหน่อย เจ้าไปที่นั่นทำไม? คงไม่ได้แค่ไปกินข้าวกระมัง”“อะเอ่อ ฝ่าบาทคือว่า”“ว่าอย่างไร อ้ำอึ้งอยู่ได้”“คือว่ากระหม่อม”“เจ้าชอบซั่วอิงงั้นหรือ แค่ช

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 29 มิตรภาพของสองเรา

    “ก็ฮองเฮาอย่างไรเล่าเพคะ คนที่มีอำนาจในวังหลังมากสุดก็คือฮองเฮา ลองใครกล้านินทาหม่อมฉันดูสิฮองเฮาต้องออกหน้าจัดการแทนแน่นอน”“แล้วการที่เข้ามาดูแลรักษาอาการของพระองค์มันผิดตรงไหนกัน ใครๆก็รู้ว่าหม่อมฉันเป็นหมอ”“ข้าไม่ได้ว่าอะไร กลัวก็เพียงว่าคนที่เจ้าชอบจะมองเจ้าไม่ดี”“หม่อมฉันไม่มีลูกตาให้มองใครแล้วนะเพคะ”“แล้วเจ้ามองใครอยู่หรือ”จ้าวซูหลินยิ้มเบาๆนางไม่ตอบคำถามนี้แต่กลับกำลังค้นหาขวดยาเพื่อนำมาให้ฮ่องเต้เสวยอีกครั้ง“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าข้ากินยาแล้วหรือ”“นั่นยาของหมอหลวง ส่วนนี่ของหม่อมฉัน”“ได้อย่างไรข้ากินแล้วนะ”“อย่าดื้อสิเพคะ หากท่านหายดีในเร็ววันหม่อมฉันจะพาพระองค์อบออกไปเที่ยวนอกวัง”“เที่ยวนอกวัง?”“ใช่แล้วเพคะ”“ไม่กี่วันข้างหน้าก็ถึงเทศกาลโคมไฟแล้วนะเพคะ หม่อมฉันอยากไปดูโคมไฟสวยๆ ฝ่าบาทก็ต้องไปกับหม่อมฉันด้วยนะเพคะ”จ้าวซูหลินยิ้มก่อนจะยื่นเม็ดยาที่นางสกัดออกมาเองใส่พระหัตถ์ของฝ่าบาทฮ่องเต้ถอนพระปัสสาสะเล็กน้อย‘เอาก็เอา อย่างน้อยถ้าหายดีก็จะได้พานางไปเที่ยวเล่

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 28 เด็กดื้อ

    “ท่านน่าจะบอกข้าให้รู้เร็วกว่านี้”“ก็ฝ่าบาทไม่ยอมให้ข้าบอกท่านนี่นา เอาแต่ขู่ข้าว่าหากข้าปากโป้งไปบอกท่านจะตัดหัวข้าทิ้งเสีย ข้าเป็นองค์รักษ์ไม่กลัวตายหรอกนะแต่ข้าเพียงแค่กลัวว่าจะไม่มีใครอยู่คอยดูแลพระองค์ก็เท่านั้นเอง”‘ไม่กลัวตายเลยจริงจริ๊ง’“ใช่สินะ ใครจะไปรู้พระทัยฝ่าบาทเท่าท่านกัน”“แต่ก็อย่างที่ข้าตำหนิท่าน หากบอกข้าเร็วกว่านี้อาการของฝ่าบาทก็จะไม่ทรุดลงเร็วเช่นนี้”“แล้วแม่นางซูหลิน ฝ่าบาทจะทรงหายดีใช่หรือไม่”“ท่านรู้จักข้ามานานรู้ใช่หรือไม่ว่าข้าไม่พูดโกหก แม้บางครั้งจะจำเป็นต้องโกหกก็ตาม”“ข้ารู้”“ฝ่าบาทร่างกายอ่อนแอลงอย่างมากสุดก็ห้าปี”“ห้าปีงั้นหรือ”“พอจะจัดการอะไรๆ ได้ใช่หรือไม่”“ข้านึกว่าจะไม่นานเพียงนั้น”“ท่านกงอี้!”“ข้าพูดเรื่องจริงทั้งไทเฮาและฮองเฮาต่างก็วิตกเพราะรัชทายาทเองก็อายุได้เพียงสิบชันษายังไ

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 27 หนทางที่นางได้เลือกแล้ว

    “สะ สนมซู ไม่ใช่ว่าเจ้าตายไปแล้วหรอกหรือ แล้วเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่!”“ไทเฮา ฮองเฮา เรื่องนี้หม่อมฉันจะมาอธิบายทีหลังนะเพคะ ตอนนี้ให้หม่อมฉันตรวจอาการของฝ่าบาทก่อน”“เจ้ารักษาคนเป็นหรือ”“ฮองเฮาที่กระหม่อมพาพระสนมมาก็เพราะว่านางมีฝีมือทางการแพทย์พ่ะย่ะค่ะ เห็นสมควรให้นางลองรักษาฝ่าบาทไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ”ฝ่าบาทที่เดิมกำลังจะบรรทมต่อเพราะฤทธิ์ยาที่หมอหลวงให้กิน แต่ก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าจ้าวซูหลินมาที่นี่‘มาได้อย่างไร?’ฮ่องเต้รีบทอดพระเนตรดูคนตรงหน้าทันที‘ชัดเลย จ้าวซูหลินจริงๆ! ต้องเป็นเจ้าบ้าหลี่กงอี้แน่ๆ อยากหัวหลุดจากบ่ามากหรืออย่างไรกัน’หลี่กงอี้ที่เหมือนจะรู้ตัวว่ามีสายตาอาฆาตจากฝ่าบาทมุ่งมาทางเขาก็รีบหลบไปที่หลังของจ้าวซูหลินทันที นางแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆหลี่กงอี้ก็มาหลบที่หลังของนางแต่เมื่อหันไปมองดูคนบนเตียงก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!“ตะ…ใต้เท้า!”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status