ตอนเย็นวันเดียวกัน หลังสามีกลับมาจากทำงาน พลอยใสจึงเล่าทุกอย่างให้คริสเตียนโน่ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ลูกชายตัวดีปฏิเสธการแต่งงานกับผู้หญิง ที่ผู้ใหญ่หมั้นหมายเอาไว้อย่างอลิซาเบธ คริสเตียนโนได้ยินอย่างนั้นก็ควันออกหูทันที
"แล้วตอนนี้ตาเพชรอยู่ที่ไหน" คนเป็นพ่อกวาดสายตามองหาลูกชายไปทั่วบ้าน ก่อนที่พลอยใสจะบอกว่า "เห็นบ่นว่านั่งเครื่องมาเหนื่อย เลยขึ้นไปนอนข้างบนค่ะ " เธอรีบรายงานสามี เพราะมีแต่คริสเตียนโน่เท่านั้นที่เพชรกล้าจะเชื่อฟัง "จำเนียร ไปเรียกคุณเพชรไปพบฉันที่ห้องทำงาน" พูดจบเขาก็เดินหงุดหงิดเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองทันที ปกติคริสเตียนโน่ ก็เป็นคนน่ากลัวอยู่แล้ว พอเจอเรื่องไม่สบอารมณ์อย่างนี้ ยิ่งหน้ากลัวเข้าไปใหญ่ สิบห้านาทีต่อมา เพชรกล้าเดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณพ่อ สองมือกำเข้าหากันแน่น ท่าทางเกร็งนิดๆแตกต่างจากการเผชิญหน้ากับคุณแม่ราวกับเป็นคนละคน เวลาใจดีคริสเตียนโน่ก็ดีใจหาย เวลาเขาใจร้ายเพชรกล้าก็ได้รับบทเรียนไปหลายครั้งเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ชายหนุ่มจึงกลัวคุณพ่อมากกว่าคุณแม่ "เห็นแม่บอกว่าเพชรอยากยกเลิกการแต่งงานอย่างนั้นหรือ" เขาพูดพลางจ้องหน้าลูกชาย ที่ตอนนี้เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามง่ามมือ "ครับ ในเมื่อคุณย่าก็เสียไปแล้ว ผมขอยกเลิกการแต่งงาน" ที่ตอนนั้นเขายอมหมั้นก็เพราะว่าจรรยาขอร้องก่อนตาย แต่นี่คุณย่าของเขาเสียไปแล้ว เพชรกล้าจึงไม่ต้องทำตามใจใครอีก "แต่มันไม่ใช่แค่นั้นสิเพชรกล้า ดูนี่สิ" เขาหยิบสัญญาฉบับหนึ่งมาวางตรงหน้า เพชรกล้าอ่านสัญญาอย่างละเอียด ก่อนจะพูดว่า "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับคุณพ่อ คุณพ่อกับคุณอาไต้ฝุ่น ผูกสัญญาการลงทุน ด้วยการแต่งงานของผมกับอลิซาเบธอย่างนั้นเหรอครับ" เขาลืมตัวโพร่งออกไปด้วยความโมโห นี่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย คิดจะเอาความสุขทั้งชีวิตของเขา แลกกับผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างนั้นเหรอ "ผมยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับคุณพ่อ คุณพ่อจะเอาความสุขของผมทั้งชีวิต ไปผูกกับเรื่องธุรกิจอย่างนี้ไม่ได้ นี่มันชีวิตของผมนะครับ การแต่งงาน ชีวิตครอบครัว ผมควรมีสิทธิ์เลือกด้วยตัวเองไหม" เพชรกล้าโมโหจนปากสั่น คิดไม่ถึงว่าคุณพ่อและคุณย่าจะทำกับเขาแบบนี้ ความน้อยใจเรื่องในอดีต มันเกิดขึ้นมาในใจของชายหนุ่ม รวมทั้งเรื่องที่ว่า เขาเป็นลูกที่พ่อไม่เคยต้องการ มันวนกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนรอยแผลเป็นที่ตกสะเก็ดขึ้นมาอีกครั้ง "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเพชร แกก็รู้ว่าบ้านเราทำธุรกิจอะไร ตอนนี้พ่อต้องการสร้างอนาคตไว้ให้แก ถึงได้ลงทุนสร้างโรงแรมกับคุณอาไต้ฝุ่นไง พอโรงแรมนี้เสร็จ แกก็จะได้โรงแรมนั้นคนละครึ่งกับหนูอลิซาเบธ" “แต่ผมไม่ได้ต้องการสิ่งนั้น ผมไม่ได้ต้องการแต่งงานกับอลิซาเบธ” เขาพูดจาตอกย้ำคำเดิม “แต่แกต้องแต่ง เพราะทุกอย่างผู้ใหญ่ตกลงกันไว้หมดแล้ว โรงแรมแห่งนั้นมันก็ใกล้จะเสร็จแล้ว อีกไม่นานแกเข้าไปบริหารงานได้เลย” “ผมเข้าไปทำงานได้ แต่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการแต่งงานกับอลิซาเบธเลยนะครับ” เขายังคงไม่เข้าใจ คริสเตียนโนถอนหายใจออกมายืดยาว ก่อนนะอธิบายต่อไปว่า "เกี่ยวสิ เพราะที่ดินนั้นมันเป็นของคุณอาไต้ฝุ่น และแกต้องแต่งงานเพื่อให้มีสิทธิในโรงแรมนั้นครึ่งหนึ่งตามพินัยกรรมของคุณย่า หากแกปฏิเสธ แกจะไม่ได้อะไรเลย " คริสเตียนโน่หยิบพินัยกรรมมาให้เขาดู เพชรกล้ามองพินัยกรรมนั้นอย่างน้อยใจ ขนาดเขาเป็นหลานแท้ๆหากไม่ยอมแต่งงานกับอลิซาเบธ เขาจะไม่ได้อะไรเลย "ผมไม่ยอมรับพินัยกรรมฉบับนี้ครับ และผมไม่ยอมรับการแต่งงานแบบคลุมถุงชน" เขาบอกคุณพ่อก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และทำท่าจะเปิดประตูออกไป "เดี๋ยวก่อนเพชรกล้า ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูอลิซ แกก็จะเหลือแต่ตัว " เสียงของคุณพ่อพูดไล่มาตามหลัง ก่อนที่เพชรกล้าจะหันกลับไปมองด้วยสายตาอันเจ็บปวด และน้อยใจทั้งคุณพ่อและคุณย่า ที่เห็นคนอื่นดีกว่าหลานแท้ๆของตัวเอง "ได้ ผมจะยอมแต่งงานกับอลิซาเบธ ถ้าคุณพ่ออยากจะเห็นความฉิบหายของเธอ " เพชรกล้ามองคนเป็นพ่อสายตาผิดหวัง ปมตั้งแต่วัยเด็กที่โดนทอดทิ้ง มันหวนกลับมาอีกที "เรายกเลิกการแต่งงานดีไหมคะ ดูท่าทางลูกจะโกรธมาก" พลอยใสเห็นสายตาและคำพูดของลูกชายแล้ว ก็อยากจะยกเลิกการแต่งงาน ทว่า.. "ไม่! จะไม่มีการยกเลิกอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม คุณโทรนัดมาริสาเถอะ ว่าพรุ่งนี้เราจะเข้าไปคุยเรื่องแต่งงาน" เขาสั่งภรรยาสุดที่รัก ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน ส่วนทางด้านอลิซาเบธนั้น หลังกลับมาจากบ้านของพลอยใส เธอปิดประตูเงียบและนั่งทบทวนอะไรบางอย่างอยู่ในใจ คิดถึงเพชรกล้า ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนเพชรกล้าใจดีกับเธอมาก แต่หลังจากหมั้นหมายกันไม่นาน เขาก็ไปเรียนต่อที่อเมริกา ตั้งแต่ตอนนั้นเพชรกล้า ก็ไม่เคยติดต่อเธออีกเลย "พี่เพชรมีคนอื่นหรือเปล่าวะ" เธอเคยปรึกษาเพื่อนสนิทอย่างไผ่หลิว ฝ่ายนั้นบอกว่า "มันก็ไม่แน่นะ หายไปอย่างนี้มีคนอื่นแล้วแน่นอน" "แต่เราว่าไม่หรอก ถ้าหากพี่เพชรมีใคร มันต้องมีการลงรูปบ้างแหละ แต่นี่เราเห็นเขาถ่ายแต่กับแมว" "โอ๊ะ รูปในโซเชี่ยลมันเชื่อได้ที่ไหนกันล่ะ บางคนถ่ายแต่กับแมว แต่ชีวิตจริงมีผู้หญิงรอบกาย" คำพูดของเพื่อนทำให้อลิซาเบธเริ่มคิดมาก เธอเริ่มถามป้าพลอยใส แต่ฝ่ายนั้นปลอบใจว่า เพชรกล้าไม่มีใคร ที่เขาหายไป เพราะพี่เขาเรียนหนักจริงๆ "อีกไม่นานพี่เพชรก็กลับมาแล้วลูก ถึงตอนนั้นป้าจะจัดงานแต่งให้หนูทันที" อลิซาเบธก็เชื่อตามนั้น แต่เป็นเพราะเขาไม่เคยตอบกลับข้อความ เธอจึงเลือกที่จะกดอันเฟรนด์ ทว่าลึกๆในใจแล้ว เธอแอบรอคอยเพชรกล้ามาตลอด จนกระทั่งวันนี้ที่ได้รู้ความจริงว่า ที่เขาหายไปนั้น เพราะไม่อยากแต่งงานกับเธอ หญิงสาวมองดูแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้าย ก่อนจะหมุนมันไปมา อย่างใช้ความคิดอยู่สักพัก เธอจะคืนอิสระให้เขาดีไหม หรือจะรั้งเอาไว้ต่อไปดี หญิงสาวนอนคิดไปคิดมา จนในที่สุด ก็ตัดสินใจถอดแหวนวงนั้นออก ก่อนจะวางเอาไว้ในลิ้นชักข้างหัวเตียง หากเจอพลอยใสเมื่อไหร่ เธอจะนำมันไปคืน หญิงสาวซุกหน้ากับหมอนด้วยความหม่นเศร้า ก่อนจะหลับทั้งน้ำตาจนกระทั่งถึงตอนเช้า ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังตั้งแต่แปดโมงเช้า ก่อนที่มาริสาจะตะโกนบอกลูกว่า "อลิซ อลิซตื่นได้แล้วลูก พี่เพชรกับป้าพลอยมารออยู่ข้างล่าง" พอได้ยินอย่างนี้อลิซาเบธลุกพรวดขึ้นมาจากที่นอนทันที หัวใจของเธอมันกำลังเต้นระส่ำเมื่อได้ยินคำนั้น พี่เพชรมาหาอย่างนั้นเหรอ หรือว่าเมื่อวานเขาจะเหนื่อยอย่างที่ป้าพลอยบอกจริงๆ แต่ไม่หรอก ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน หากมีใจ เขาต้องทักทายเธอ หญิงสาวเถียงกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา พลางมองแหวนที่อยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียง เธอจะหยิบมันขึ้นมาสวมอีกครั้งดีไหม หรือว่าจะหยิบมันไปคืนเขาดี ? เธอกำลังครุ่นคิดอย่างสับสน หัวใจของหญิงสาวยังมีเพชรกล้าอยู่ในนั้น เขาเป็นรักแรกรักเดียวตั้งแต่เด็กจนโตแต่พอคิดถึงใบหน้าอันเฉยชาของชายหนุ่มเมื่อวานนี้ 'อลิซาเบธหยิบแหวนเพชรใส่ลงไปในกล่อง เพื่อเอาไปคืนเจ้าของ ของมันทันที'เมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ