แชร์

บทที่ 1 จิตวิญญาณตื่นในคืนฝนพรำ (2)

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 18:42:50

ฟู่ซูหนิงหยัดกายยืนขึ้นด้วยความทุลักทุเล ตะกร้าสานซึ่งเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรถูกยกขึ้นสะพายบนบ่า ร่างระหงเดินตุปัดตุเป๋ออกจากถ้ำด้วยจิตใจอันล่องลอย สมองของนางเฝ้าตบตีกันซ้ำไปซ้ำมา

ข้าจะทิ้งให้เขาตายตรงนี้จริงน่ะหรือ

แต่หากข้าช่วยเขาทุกอย่างก็ต้องวนกลับมาซ้ำรอยเดิม ใครจะอยากถูกตัดศีรษะซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้หรือว่ามันเจ็บเพียงใด

ฟู่ซูหนิงจึงไม่คิดสนใจบุรุษตรงหน้าอีก ทว่าจิตใจของนางช่างรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน ยามนี้เขาก็เป็นเพียงชายหนุ่มวัยแรกรุ่นผู้หนึ่ง นางจะใจจืดใจดำทิ้งเขาได้ลงคอเชียวหรือ

แต่แล้วฟู่ซูหนิงก็ตัดสินใจทิ้งเขาไว้เบื้องหลังในที่สุด ขาเรียวค่อย ๆ เยื้องย่างห่างออกไปกระทั่งหอบสังขารกลับมาถึงจวนไม้ไผ่กลางหุบเขา ร่างระหงก็ฟุบลงด้วยความเหนื่อยล้า

"หนิงเอ๋อร์!"

หญิงชรารุดประคองเรือนร่างอันโรยแรงของหลานสาวด้วยอาการตื่นตระหนก

ริมฝีปากซีดขาวเผยรอยยิ้มเบาบาง "ท่านยาย หนิงเอ๋อร์กลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

จู่ ๆ น้ำสีใสก็ไหลพรากลงตรงหางตา นานเหลือเกินที่ฟู่ซูหนิงจากหุบเขาร้อยโอสถไป นางคิดว่าชาตินี้คงมิได้กลับมาทดแทนคุณของท่านตาท่านยายเสียแล้ว ช่างคิดถึง คิดถึงชีวิตอันแสนเรียบง่ายเช่นนี้เหลือเกิน

ท่านตา ท่านยาย ข้ากลับมาแล้ว กลับมาแล้วจริง ๆ ...

จู่ ๆ สติของฟู่ซูหนิงก็มืดดับลง ทุกสิ่งพลิกผันสู่ห้วงอนธการในชั่วพริบตา

"หนิงเอ๋อร์ หนิงเอ๋อร์ เป็นอะไรไปลูก"

หญิงชราพยายามร้องเรียกฟู่ซูหนิง ชายชราเร่งถลันเข้ามาจับชีพจรก็ถอนหายใจโล่งอก "หนิงเอ๋อร์อ่อนเพลียเท่านั้น เดี๋ยวพาหลานไปพักและผลัดผ้า ต้มยาให้นาง พรุ่งนี้ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว"

แพขนตาหนาค่อย ๆ ขยับไหว เมื่ออรุณรุ่งมาเยือน เพราะเมื่อคืนได้รับการดูแลอย่างดีจากหมอเทวดาทั้งสองจึงทำให้ยามนี้ร่างกายไม่รู้สึกเจ็บไข้เพียงนั้นแล้ว ฟู่ซูหนิงเหลียวมองบรรยากาศสดใสของม่านเมฆาซึ่งยังทิ้งกลิ่นอายของหยาดพิรุณเอาไว้

ฟ้าหลังฝนงดงามเช่นนี้นี่เอง

ริมฝีปากซีดจางเริ่มมีเลือดฝาด กลิ่นหอมจรุงของมวลบุปผาส่งผลให้ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก มุมปากบางขยับยกเล็กน้อย กระนั้นจิตใจกลับรู้สึกไม่สุขสงบเอาเสียเลย

เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ หรือว่าอาจถูกสัตว์ป่าฉีกร่างตายไปเสียแล้ว

ฟู่ซูหนิงระบายลมหายใจอ่อน เพราะนางขี้ขลาดจนต้องทิ้งชายอันเป็นที่รักของตน แต่ ณ ห้วงเวลานี้เขายังไม่นับว่าเป็นคนรักของนางเสียหน่อย

"หนิงเอ๋อร์ ตื่นแล้วหรือลูก ขอยายดูหน่อยว่าไข้ลดหรือยัง"

ท่านยายหรือฟู่หรงหมอหญิงแห่งหุบเขาร้อยโอสถหย่อนกายลงนั่งขนาบข้างฟู่ซูหนิง ครั้นเมื่อเห็นผู้เป็นยายห่วงใยตนเหลือคณา ฟู่ซูหนิงก็น้ำตาร่วงเผาะ แขนเรียวอ้าโอบรัดรึงร่างผอมกะหร่องของหญิงชราเอาไว้ด้วยใจคะนึงหา

"ฮื่อ...ท่านยาย หนิงเอ๋อร์คิดถึงท่านเหลือเกินเจ้าค่ะ"

"หนิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไร แค่ไปเก็บสมุนไพรไม่กี่ชั่วยาม [1] ก็ร้องกระจองอแงคิดถึงยายเสียแล้ว" มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบไล้เรือนผมดำขลับของหลานรักด้วยความทะนุถนอม

ฟู่ซูหนิงสูดน้ำสีใสเข้าโพรงจมูก พลางสะอึกสะอื้น ก่อนผละกายออกห่าง "ก็ข้าคิดถึงท่าน จะห่างกี่ชั่วยามข้าก็คิดถึง"

ฟู่หรงแย้มยิ้มพลางส่ายศีรษะอย่างนึกเอ็นดู "เด็กดี เจ้าจะเอาแต่ทำตัวติดตากับยายเช่นนี้ได้อย่างไร วันหนึ่งเจ้าก็ต้องออกเรือนมีสามี"

ฟู่ซูหนิงส่ายศีรษะเสียจนเส้นผมแตกกระเจิง พลันซบลงบนอกฟู่หรงอีกครั้ง "ไม่เจ้าค่ะ ชาตินี้ข้าจะไม่แต่งงาน ข้าจะอยู่ดูแลพวกท่านทั้งสองไม่จากไปไหน"

ฟู่ซูหนิงทราบดีว่าการแต่งงานของนางต้องเผชิญกับเส้นทางใดบ้าง บางทีหากอยากเลี่ยงชะตาแสนอาภัพ นางควรออกห่างจากบุรุษผู้นั้น

ฟู่หรงเห็นหลานสาวหน้านิ่วคิ้วขมวดก็ทอดถอนใจ "เอาล่ะ เรื่องนี้ยังไม่ต้องเร่งร้อน ไหนขอยายดูอาการเจ้าเสียหน่อย"

มือเหี่ยวย่นเอื้อมขึ้นวัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากนูนเด่น จากนั้นลดลงเพื่อตรวจวัดชีพจรบนข้อมือขาว ฟู่หรงพยักหน้าเล็กน้อย "อาการดีขึ้นมากแล้ว เช่นนั้นกินโจ๊กนี่เสียหน่อย มื้อต่อไปค่อยกินอาหารปกติ"

ฟู่ซูหนิงแย้มยิ้มทั้งน้ำตา "เจ้าค่ะท่านยาย"

ฟู่หรงเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาเปื้อนเขรอะด้วยคราบน้ำตา ก็ช่วยเช็ดทำความสะอาดให้หลานรักด้วยความทะนุถนอม ฟู่ซูหนิงมองตามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตื้นตัน

คงมีเพียงท่านทั้งสอง ที่หวังดีและรักข้ามากที่สุดในดินแดนแห่งนี้ ท่านยาย ท่านตา

"ฮูหยินหากดูหลานเสร็จแล้วก็ช่วยเข้าไปดูพ่อหนุ่มนั่นหน่อย ไม่รู้ป่านนี้ได้สติหรือยัง" เสียงทุ้มดังจากด้านนอก

"ได้เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะเร่งไปดูให้"

มือที่กำลังยกโจ๊กทั้งชามเพื่อซดด้วยสีหน้าแช่มชื่นพลันชะงักลง คิ้วงามดุจกระบี่เลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง "ท่านยายเจ้าคะ มีคนไข้งั้นหรือ"

"ใช่แล้ว ท่านตาของเจ้าพบเขานอนไร้สติที่ท้ายหุบเขา ใกล้บริเวณที่เจ้าไปเก็บโอสถ จึงช่วยเอาไว้ ว่าแต่ยามนั้นเจ้าไม่เห็นเขาหรือ"

ฟู่ซูหนิงตัวแข็งทื่อดั่งถูกตรึงร่าง สีหน้าแตกตื่นของนางเป็นเหตุให้ฟู่หรงนั้นรู้สึกหวาดเกรงไปด้วย

เพล้ง!!

"ตายแล้ว หนิงเอ๋อร์เป็นอะไรไปลูก"

ถ้วยกระเบื้องเคลือบหลุดมือกะทันหัน ฟู่ซูหนิงเอ่ยละล่ำละลัก "ทะ...ท่านยายเจ้าคะ ท่านอย่าบอกว่าท่านตาช่วยบุรุษผู้นั้นเอาไว้"

"หนิงเอ๋อร์ นี่เจ้าเห็นเขาแต่แรก แล้วไม่ได้ช่วยหรือ"

ฟู่ซูหนิงกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอ ใบหน้าของนางซีดขาวราวเกิดป่วยไข้อีกหน

ฟู่หรงเห็นท่าทีลำบากใจของหลานสาวจึงมิได้คะยั้นคะยอต่อ "...ช่างเถิดดูเหมือนเมื่อคืนเจ้าป่วยจึงไม่อาจช่วยเขาได้ใช่หรือไม่"

ฟู่ซูหนิงหูอื้ออึงไปหมด นางรู้สึกว่าจวนกำลังกลับด้านขึ้นลง ร่างระหงดีดกายผึง จากนั้นถลาออกจากห้องด้วยความรีบรน

"หนิงเอ๋อร์ นี่เจ้าจะไปที่ใด ยังไม่หายดีเดี๋ยวก็ล้มเอาหรอก"

ฟู่ซูหนิงหูดับไปตั้งนานแล้ว เท้าเปลือยเปล่าระเห็จมาหยุดยืนหน้าม่านกั้นเตียงสำหรับผู้ป่วย มือเรียวยกขึ้นด้วยอาการสั่นเทา

พรึบ!!

ม่านตากลมโตขยายกว้าง ฟู่ซูหนิงตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี ความรู้สึกหนาวเหน็บถึงกระดูกก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

"นะ...นี่เขาจริงน่ะหรือ ท่าน! ไยจึงดวงแข็งนัก ฉืออิ้งเทียน!"

เชิงอรรถ

^หนึ่งชั่วยาม = สองชั่วโมง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   สะพานสายรุ้ง (ตอนพิเศษ)

    เมืองเป่ยเหลียนและเมืองเทียนหลันเป็นเมืองที่ห่างกันเพียงแม่น้ำกั้น หลังจากฉืออิ้งเทียนเข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองเป่ยเหลียนจึงมีการหารือกับเหออ๋องและเหอหยางซื่อจื่อพร้อมส่งเรื่องรายงานไปยังเมืองหลวง เพื่อจัดแจงการก่อสร้างสะพานเชื่อมไมตรีระหว่างสองเมือง และให้นามว่าสะพานไฉ่หง [1] อีกทั้งสองฟากฝั่งยังเป็นแหล่งการค้าที่อุดมสมบูรณ์สะพานจึงถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตและงดงาม ราษฎรทั้งสองเมืองล้วนแช่มชื่นและเบิกบานที่การเดินทางสัญจรนั้นสะดวกมากขึ้น แม้การสร้างสะพานใช้เวลานานถึงสามปีแต่ทุกอย่างกลับคุ้มค่าเป็นที่สุดค่ำคืนนี้คือเทศกาลโคมไฟ จึงมีการจัดงาน ณ สะพานไฉ่หงเป็นครั้งแรก"ท่านพี่เพคะ อาภรณ์ตัวนี้งามหรือไม่"ริมฝีปากได้รูปยกโค้งอบอุ่น ฉืออิ้งเทียนมองสีหน้าฟู่ซูหนิงซึ่งประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข"ไม่ว่าเจ้าสวมชุดไหนก็งามที่สุด ไม่สวมยิ่งงดงาม""ท่านพี่ นี่พระองค์ทำไมจึงพูดจาไร้ยางอายยิ่งนัก"ฉืออิ้งเทียนอมยิ้ม ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง จากนั้นเยื้

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 45 ความรักทำให้คนตาบอด (2) (จบ)

    ฟู่ซูหนิงตัวแข็งค้างดั่งดินปั้นไม้แกะสลัก เมื่อลมหายใจอุ่น ๆ เป่าปะทะบริเวณลำคอและปรางแก้มของตน แขนแกร่งดุจคีมเหล็กรวบเอวของนางพลันกระชับด้วยใจคะนึงหา"หนิงเอ๋อร์ เจ้าเลิกผลักไสข้าเสียที ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ชายาของข้า"ฟู่ซูหนิงหนาวยะเยือกไปทั่วสรรพางค์ กระบอกตาสองข้างร้อนรื้นแดงก่ำ เสียงใสสั่นเครือ "ทะ...ท่านอ๋อง เหตุใดเป็นท่าน""หนิงเอ๋อร์ เจ้าให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้าอีกครั้งมิได้เชียวหรือ เรื่องในตอนนั้นเป็นข้าที่ผิด เป็นข้าเพียงคนเดียวไม่อาจดูแลเจ้าได้"น้ำสีใสหลั่งลงตรงหางตาเมื่อนางรับรู้ว่ายามนี้เขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากนาง "ท่านอ๋อง ท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร""ครึ่งปีมานี้ข้าติดอยู่ในวังวนมายาแห่งหนึ่ง ข้าฝันเห็นเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้ามิอาจช่วยเหลือเจ้าได้ ข้าเป็นสามีที่ไร้สามารถเอง หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะเกลียดข้า โกรธข้าก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปจากข้าอีกได้หรือไม่"ฟู่ซูหนิงใจเต้นโครมครามหูของนางอื้ออึงไปหมด ภาพในวันนั้นที่เขาวิ่งเข้ามาตระกองกอดนาง ฟู่ซูหนิงเองก็ฝันในทุก ๆ คืน เขาไม่เคยทิ้งนางเลย วันนั้นเขากลับ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 45 ความรักทำให้คนตาบอด (1)

    ร่างระหงเยื้องย่างเข้าสู่ด้านในห้องพักส่วนตัวของเจ้าเมืองเป่ยเหลียน นัยน์ตาดอกท้อกวาดมองโดยรอบก็รู้สึกใจเต้นครึกโครมด้วยความประหวั่น รูปแบบการตกแต่งภายในห้องเหตุใดจึงคล้ายกับห้องหอของนางและเขาในชาติก่อน"นี่เป็นการตบแต่งแบบใดกัน ยังมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อยู่อีกหรือ" ฟู่ซูหนิงกระซิบกับตนเองเสียงแผ่ว"ท่านหมอ มาแล้วหรือ"ฟู่ซูหนิงสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังลอดออกจากม่านผืนโปร่งบริเวณเตียงนอน แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูแหบแห้ง ทว่ากลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด"ท่านเจ้าเมือง" ฟู่ซูหนิงยอบกายลง นางทราบมาจากเหอหยางว่าท่านเจ้าเมืองคนนี้เพิ่งมาประจำการใหม่ และเขายังพ่วงตำแหน่งอ๋องเฉกเช่นบิดาของเหอหยางฟู่ซูหนิงได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วผ่านลำคอของอีกฝ่าย ส่งผลให้หัวใจของนางเต้นโครมคราม"ขออภัย ทำให้ท่านหมอตกใจแล้ว""เปล่าเลยเพคะ เป็นหม่อมฉันที่ใจลอยเอง""ใจลอยงั้นหรือ กำลังคิดถึงผู้ใดเล่า""เอ่อ..."ยังไม่ทันได้รับคำตอบ เขาก็ถามนางขึ้นอีก "ท่านหมอชอบห้องนี้

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 44 ความรักช่างยากแท้หยั่งถึง (2)

    และรถม้าก็วนกลับมาที่โรงหมอของฟู่ซูหนิงอีกครั้งเสี่ยวไป๋เอ่ยขึ้น "อ้าว ซื่อจื่อเพิ่งออกไปไม่ใช่หรือขอรับ ไยจึงกลับมาอีกเล่า หรือว่าลืมของ"ฟู่ซูหนิงมองตามสายตาของเสี่ยวไป๋ สหายของนางหัวรั้นใช้ได้ เหตุใดคนที่อยู่รอบกายต้องมีแต่พวกเอาแต่ใจกันนะ จะว่าไปแล้วนางก็คงเอาแต่ใจไม่ต่างจากพวกเขา มิน่าเล่าเขาถึงบอก โลกจะเหวี่ยงคนประเภทเดียวกันให้มาพบกัน ช่างน่าปวดหัวจริงเชียว"ซื่อจื่อ ท่านมีเรื่องใดอีกหรือ""หนิงเอ๋อร์ ข้าขอถามเจ้าว่ายังอยากรักษาโรงหมอแห่งนี้ไว้หรือไม่""แน่นอนเจ้าค่ะ""แต่เจ้าค้างค่าเช่ามานานมากแล้ว หุบเขาร้อยโอสถเจ้าก็ยังไม่อยากกลับ"แววตาคู่งามระริกไหว "ข้ารู้ ข้ากำลังพยายามหาวิธีอยู่เจ้าค่ะ""หากข้ามีวิธีให้เจ้า โดยที่ข้าไม่ได้ควักเงินของตน หรือเป็นเรื่องผิดศีลธรรมใด เจ้าจะยินยอมทำหรือไม่"ฟู่ซูหนิงหยุดมือที่ง่วนกับเทียบยาลง "ซื่อจื่อ ท่านไม่เคยจริงจังเช่นนี้มาก่อน มีอะไรก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ""เจ้ายังจำเมืองเป่ยเหลียนได้หรือไม่"ริมฝีปากสีกุหลาบขยับเอ่ย "เมืองเป่ยเหลียนงั้นหรือ" ฟู่ซูหนิงครุ่นคิดคร

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 44 ความรักช่างยากแท้หยั่งถึง (1)

    ณ ตำหนักฮ่องเต้"อิ้งเทียนเจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าต้องการเช่นนี้""พ่ะย่ะค่ะ ลูกแน่ใจ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีถอนหายใจแผ่ว "เจ้าต้องการไปเช่นนี้เสด็จแม่ของเจ้าเล่า ยินยอมงั้นหรือ""เรื่องนี้เสด็จแม่ทรงทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกจากไปเพียงกาย ใช่ว่ามิอาจหวนกลับมาเยี่ยมเยียน เสด็จพ่อโปรดอนุญาตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ""ได้ เช่นนั้นก็ตามแต่ใจเจ้า"ฉืออิ้งเทียนเดินทางจากเมืองหลวงภายในวันที่ตนฟื้นขึ้นด้วยความเร่งร้อนฮ่องเต้หมายปูนบำเหน็จให้เขาหลังจากได้สติทว่าสิ่งที่ฉืออิ้งเทียนต้องการ กลับเป็นสิ่งที่ผู้เป็นบิดาล้วนลำบากใจยิ่ง แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของหัวใจผู้ใดก็มิอาจบังคับ ราชโองการนี้จึงนับว่าสมควรแล้วกระมังอีกคนพยายามวิ่งหนีไม่ลืมหูลืมตาส่วนอีกคนพยายามไล่ตามอย่างไม่ย่อหย่อน ความรักหนุ่มสาวช่างยากแท้หยั่งถึงเหลือเกินเติ้งเหวยค้อมศีรษะ "ท่านอ๋อง ที่หุบเขาร้อยโอสถไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าท่านหมอคงมิได้กลับมาที่นี่"คิ้วเข้มขมวดมุ่น "นางจะไปที่ใดได้"

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 43 อดีตที่เสมือนกระจกสะท้อนความจริง (2)

    จู่ ๆ ฟู่ซูหนิงก็ถูกควบคุมตัวให้คุกเข่าลง "นี่เรื่องใดกัน อยู่ ๆ ก็มาจับกุมข้า อยากหัวขาดงั้นรึ"บุรุษผู้หนึ่งย่างกรายมาเบื้องหน้าของนาง พร้อมย่ามสุดรักในมือ เขาชูของสิ่งนั้นขึ้น ครั้นเห็นกระจะตาว่าเป็นผู้ใดนางก็เบิกตากว้าง"หมอชุย!"ชุยว่านเหวินเหยียดยิ้ม "พระชายา นี่ของท่านใช่หรือไม่"ฟู่ซูหนิงเมียงมองครู่หนึ่ง "ของข้า แล้วไปอยู่กับเจ้าได้อย่างไร""เป็นชายาชินอ๋องไม่ผิดแน่ นางสารภาพแล้วว่าคือของนาง"คิ้วสวยขมวดฉับ "หมายความว่าอย่างไร""พระชายา ท่านแสร้งทำตาใสเรื่องใดงั้นหรือ ลอบวางยาพิษฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่ามีโทษสถานใด""ลอบวางยาพิษ! ไร้หลักฐานไยคิดปรักปรำข้า อีกอย่างข้าเป็นชายาชินอ๋อง ควบคุมตัวข้าทั้งที่ยังไม่ไต่สวน ทำเช่นนี้นับว่าถูกต้องแล้วรึ หากชินอ๋องรู้เข้า อย่าหมายว่าศีรษะของเจ้าจะยังอยู่บนบ่า"เสียงทุ้มหัวเราะร่วน "พระชายา หลักฐานคาตา ทุกคนก็เห็นกันหมด และนี่..." เขาเทของออกจากย่ามใบโปรดของฟู่ซูหนิง ยาพิษหลากชนิดร่วงกราวดั่งใบไม้แห้ง "ของพวกนี้ ยาพิษใช่หรือไม่""ก็ใช่ แต่นั่นข้าเอาไว้ศึกษาทดลอง และย่ามของข้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status