[ ทายาท Class S ]
คนส่วนใหญ่เขาก็มีรถใช้กันทั้งนั้นตามประสาลูกหลานคนมีอันจะกิน ส่วนเด็กทุนอย่างฉันไม่มีอะไรเลย ชนชั้นกลางธรรมดา มีพ่อเป็นคุณครูสอนชั้นมัธยมปลายและมีแม่เป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ในชุมชน
จริง ๆ ที่บ้านมีรถแต่พวกพี่ชายเอาไปใช้กันหมด ไม่เหลือมาถึงน้องสักคัน ทุกวันเวลาไปไหนก็เดินเท้าบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง แท็กซี่บ้าง หลัก ๆ รถเมล์ค่ะ เพราะลงหน้าชุมชนพอดิบพอดี
"แง่ว! เหมียว~"
หืม?
ด้วยความที่เส้นทางไม่มีคนเดินผ่านไปมา เย็นย่ำท้องฟ้าสาดแสงสีแสด พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หากหูไม่ฝาดเหมือนได้ยินเสียงแมวร้องจากที่ไหนสักแห่ง
ตรงกลางเป็นถนน สองข้างทางก็คือฟุตบาทเรียงรายด้วยต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา ฉันพยายามกวาดตามองหา
"เหมียว เหมียว"
นั่น! ชัดเลย พอจะเดินผ่านก็ได้ยินเสียงร้องอีกแล้ว มองหาตามโคนต้นไม้ก็ไม่เจอ ตามพงหญ้าก็ไม่เห็น
"ผีหลอกหรือเปล่าวะ ช่วงเวลาโพล้เพล้แบบนี้..."
บรื๋อ! ขนลุก รีบเดินดีกว่า บัสหมดตอนหกโมงครึ่ง นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้วด้วย
"เหมียว เหมียว ...เหมียว~"
"โอ๊ย อะไรเนี่ย! สรุปผีหรืออะไร"
ตัดสินใจมองหาอีกรอบ ผีหรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่มันกวนใจต้องหาให้เจอ ที่พื้นแถวพงหญ้าก็ไม่เจอ เหลือแต่บนต้นไม้แล้วล่ะ เงี่ยหูฟังเสียงร้องอีกหน เอาตามที่ได้ยินฟังดูอยู่บนที่สูงจริงด้วยแฮะ พอเงยหน้าดูเท่านั้นแหละ
มีแมวส้มเกาะอยู่บนนั้น! มันกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย!
"แกปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงเนี่ย"
ตาย ๆ ๆ จากจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ ต้องมาปีนต้นไม้ช่วยแมวท้องแก่ แพ้ภัยความเป็นคนดีมีน้ำใจของตัวเอง ฮ่า ๆ ว่าไปนั่น
แล้ววันนี้ดันใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอยาวครึ่งหน้าแข้งไม่เป็นใจ เวลาถกขึ้นต้องระวังเป็นพิเศษ
"เหมียววว แงว~"
"เออน่า ใจเย็น กำลังขึ้นไปช่วยแล้ว"
ดีที่ต้นไม้ไม่สูงมาก กิ่งที่แมวส้มมันเกาะอยู่ก็เป็นกิ่งแรก พอปีนขึ้นไปได้ประมาณหนึ่งจึงพยายามยื่นมือขึ้นไปหมายจะจับมันลงมา แต่เจ้าเหมียวดันกลัวเลยขยับหนี
"โธ่เอ๊ย! มานี่สิส้ม ไม่ต้องกลัว สิบมาช่วยเนี่ยเห็นไหม มาเร็วเข้า"
ต้องขอบคุณที่ปีนต้นไม้เป็น ด้วยความมีพี่ชายสองคน ตอนเด็กฉันเลยเล่นไม่ค่อยเหมือนเด็กผู้หญิงเท่าไร ปีนต้นไม้แค่นี้สบายมาก
"มานี่สิเดี๋ยวสิบพาลงไป มา ๆ"
ร้องเรียกทั้งขาทั้งแขนอีกข้างเกร็งล็อกไว้กับลำต้น เป็นสภาพที่ดูตลกพอสมควร ขออย่ามีใครผ่านมาเห็นเลย อายคน...
แมวส้มนั่งมองเฉย ออกแนวกวนอารมณ์นิด ๆ มีหูแต่ทวดลมทำเป็นไม่ได้ยิน สรุปแกอยากลงหรือไม่อยากลง ร้องเรียกซ้ำ ๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นบางสิ่งบ้างอย่างที่อยู่เหนือหัวขึ้นไปอีก
"ว้ากกกกก งู!!!"
ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ เหลือมหรือหลามไม่รู้ รู้แค่ว่ามันกำลังเลื้อยลงมาหมายจะกินแมว นาทีระทึกเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ บอกเลยนะฉันกลัวงูมากแค่เห็นก็สั่นไปหมดทั้งตัว มีสองทางเลือกคือหนีเอาตัวรอดหรือจะปีนขึ้นไปเอาตัวแมวลงมาด้วยกัน
"ฮือออออ ฉันต้องได้โล่เกียรติคุณแน่งานนี้" ครวญครางพลางกลั้นใจปีนขึ้นไปคว้าตัวแมวมากอดไว้ในอ้อมแขน
ลนลานแทบกระโดดลงอย่างคนสติแตก ก่อนถึงจุดนั้นดันเสียจังหวะพลัดหงายหลัง มือไขว้คว้ากลางอากาศเปลี่ยนมาโอบกอดเจ้าแมวไว้สองข้าง อย่างไรก็ตกลงไปกระแทกพื้นแน่เลยหลับตาปี๋รอรับความเจ็บ
พรึ่บ!
"อึก..."
เอ๊ะ! หืม? อันนี้ถึงพื้นแล้วใช่ไหม แปลก ๆ ไม่รู้สึกเจ็บสักนิด หรือว่าฉันตกลงมาแล้วตายคาที่ทันที บ้าน่ะสิ...สูงแค่นี้เองอย่างมากก็เอวเคล็ด ขาอาจหักด้วยถ้าลงผิดท่า แต่ไม่รู้สึกเจ็บจริง ๆ นะ
ยังไงกันแน่...
"หาที่ตายใหม่หรือไง"
เฮือก!
"เหวอออ ม หา... สมุทร"
พอได้ยินเสียงพูดฉันลืมตาขึ้นมองทันที สรุปมีคนมารับตัวฉันทัน ฉันตกลงมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
แล้วเขาที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ไปไงมาไงถึงได้มาโผล่อยู่ตรงนี้!!
มหาสมุทร
"ใช่ ผมเอง"
มหาสมุทรคนอันตราย แฟนเก่าที่เลิกกันเมื่อตอนปีหนึ่ง ละ หล่อ... หล่อมาก ยังคงหล่อเหมือนเดิม เอ้ย! ไม่ใช่สิ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าหลงใบหน้าเทพสร้าง
ณ ขณะนี้คนตัวสูงใหญ่ร่างกายแข็งแรงกำลังอุ้มฉัน
"เอ่อ ชะ ช่วยปล่อย..."
พรึ่บ!
"โอ๊ย!"
ไม่เจ็บเพราะตกต้นไม้ก็เจ็บจากการถูกอีกฝ่ายทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี บอกให้ปล่อยก็ปล่อยจริง ก้นกระแทกพื้นอย่างจัง เจ็บจ้าแม่จ๋า
"สำออยเหมือนเดิม"
แกก็ปากร้ายเหมือนเดิม!
เลิกสนใจพลางก้มมองเจ้าแมวในอ้อมแขน ปลอดภัยดีสินะ ในท้องจะมีลูก ๆ อยู่กี่ตัวกัน อยากให้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยทุกตัวเลย ด้วยความเป็นแมวจรอาหารที่กินก็คงไม่ได้ครบถ้วนอะไร
"แล้วจะนั่งอยู่อย่างนั้นหรือไง ลุกขึ้นมา"
อีกฝ่ายเห็นเรานั่งนาน พอไม่ได้ดั่งใจก็กระชากแขนแล้วดึงขึ้นทันใด
"โอ๊ย! มันเจ็บนะสมุทร"
"ลีลาน่ารำคาญ"
แล้วจะมาเสียเวลาทำไมล่ะ! อยากแว้ดใส่มากแต่ไม่กล้า กลัวถูกตี หนึ่งปีเขาที่ไม่ได้เจอกันเขายังจำฉันได้เหรอเนี่ย ไฟแค้นช่างน่ากลัวจริง ๆ ทั้งที่หลบเลี่ยงมาโดยตลอดแท้ ๆ
"ขอบคุณที่ช่วยนะ บนนั้นมีงูตัวใหญ่มาก"
ท่าทางเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์ โกรธง่ายหายยาก มองแมวส้มในอ้อมแขนสลับกับหน้าฉัน
"ไร้สาระ"
กำลังด่าว่าสิ่งที่ฉันทำได้ไม่คุ้มเสีย ดวงตาคมกริบจิกมองไม่พอใจ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด นิยามให้ตัวเองแบบนี้ละกัน
"ขอบคุณอีกครั้ง งั้นสิบขอตัวไปก่อนนะ"
รีบหนีดีกว่า ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนจะโกรธขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าเริ่มหมดแสงและหมดรอบรถรับส่งเรียบร้อย จากนี้ต้องเดินออกไปหน้ามหาวิทยาลัยด้วยเท้าตัวเอง วันนี้ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเอาไว้ลงการ์ตูนเรื่องใหม่วันอื่น เดี๋ยวพาเจ้าแมวแวะคลีนิกตรงคณะสัตวแพทย์ หลังจากนี้ก็ต้องหาบ้าน ๆ ดีให้อยู่
ปี๊บ!
เดิน ๆ อยู่ตกใจเสียงแตรเกือบสะดุดเท้าตัวเองล้ม หันกลับไปมองปรากฎว่ามหาสมุทรขับรถตามหลังมา จอดเทียบข้างพลางเลื่อนกระจกลง
"ขึ้นรถ"
อะไรของเขาอีก
"เลิกทำหน้าโง่แล้วขึ้นมา"
ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดเต็มทน คิ้วเข้มได้รูปขมวดมุ่นแทบชนกัน จำฉันได้จริง ๆ สินะ คือเขาน่ะควงผู้หญิงเยอะมาก ไม่เคยซ้ำหน้า นานสุดสามหรือสี่เดือน สั้นสุดไม่น่าเกินสามวันละมั้ง
บังเอิญผ่านมาทางนี้พอดีแหละ คิดในแง่ดี
"เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเอื่อยเฉื่อยสักที!"
เพราะมัวแต่ยืนเหม่อ คนขี้โมโหเลยลงจากรถมาดึงฉันอ้อมไปอีกฝั่ง เปิดประตูแล้วผลักเข้ารถอย่างแรง
"โอ๊ยยย เป็นบ้าหรือไง" หัวกระแทกขอบประตู ตัวกระแทกเบาะอีกที หน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บถึงอย่างนั้นก็ระวังเจ้าแมวสุดความสามารถ
เขากลับมาขึ้นรถพลางพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ไปกินรังต่อรังแตนที่ไหนมาถึงเอาอารมณ์ทั้งหมดมาลงฉันซะงั้น โคตรซวย... ขยับนั่งเบาะดี ๆ ลูบหัวตัวเองเช็คดูว่าแตกไหม มันเจ็บแล้วก็ปวดตุบ ๆ เพราะเขาเป็นแบบนี้บ่อยมากฉันเลยทนไม่ไหวขอเลิกเสียเอง
>>>>>โปรดติดตามบทต่อไป
[ อยู่ด้วยกัน ]-----------------มหาสมุทรเอาฉันมาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลให้เฝ้าพี่ชายที่นอนไม่ได้สติ ส่วนเจ้าตัวรับสายด่วนจากผู้ช่วยก็รีบไปบริษัททันที ยังดีที่ฉันพกแท็บเล็ตมาด้วย เสียบหูฟังกับมือถือ เปิดเพลง นั่งทำงานเพลินเลยคราวนี้กระทั่งมีคนเข้ามาในห้อง ไม่ใช่คุณพยาบาล แล้วก็ไม่ใช่คุณหมอ หากแต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูมีอายุทว่ายังสวยอยู่เลย แต่งตัวเรียบหรูดูก็รู้ว่ามีฐานะ ฉันรีบเอาแท็บเล็ตวางข้างตัวก่อนลุกขึ้นยืน"เธอเป็นใคร" ท่านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่แฝงด้วยความไม่พอใจเล็ก ๆ"เอ่อ... หนูชื่อสิบค่ะ เป็นแฟนของมหาสมุทร"พอบอกไปแบบนั้นท่านมองฉันตั้งหัวจรดเท้าทันที "แฟน? กับคนพรรค์น่ะนะ" ท่านทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ราวกับรู้นิสัยมหาสมุทรเป็นอย่างดี"ค่ะ" ฉันพยักหน้าสำทับ"แล้วแฟนของเธอไปไหนซะแล้วล่ะ""เขามีประชุมด่วนค่ะ""ก็เลยเอามาทิ้งไว้ที่นี่?""ใช่ค่ะ จริง ๆ หนูเคยมาครั้งนึงแล้ว สมุทรดูเป็นห่วงพี่ชายมาก ที่ผ่านมาก็คงจะมาเฝ้าอยู่บ่อย ๆ""ใช่แหละนะ นิสัยต่างกันแต่ก็เป็นคู่พี่น้องที่รักกันดีมาก"ฉันเลยยิ้มพร้อมพยักหน้า มาถึงตรงนี้พอจะรู้แล้วว่าคุณผู้หญิงเป็นใคร มารดาหรือแม่ของมห
[ อยู่ด้วยกัน ] 18+--------------------แชทแตกตั้งแต่เมื่อคืน ตื่นมาก็ยังไม่หยุดส่งกัน หลังจากฉันตัดสินใจพิมพ์บอกทุกคนในแชทว่าคบกับมหาสมุทรเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนเสียงตอบรับไม่ดีอย่างที่คาดไว้ โดยเฉพาะมาดีที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก ถึงขั้นโทรมาโวยวายไม่พอใจ ไม่โอเค บลา ๆ ๆฉันวางมือถือทิ้งไว้ไม่ได้แตะมัน วันนี้ตื่นสาย ทุกคนออกจากบ้านกันไปหมดแล้ว แต่กลับได้ยินเสียงทีวีเปิดอยู่จึงเดินไปดู"วันนี้ก็มาเหรอ"เป็นมหาสมุทรนั่นเองที่นั่งดูทีวีอยู่ ช่วงปิดเทอมทำให้เขาพอมีเวลาว่างมากกว่าเดิมนิดหน่อย"ตื่นแล้วเหรอ""อื้อ อาบน้ำแล้วด้วย หอมไหม"พูดพลางเดินไปนั่งคร่อมตักเพราะเขาอ้าแขนรอรับ มหาสมุทรติดสัมผัสมาก หอมแก้ม หอมซอกคอ ดมดอมอยู่อย่างนั้น ยิ่งไม่ขัดขืนยิ่งได้ใจใหญ่ ไอ้เราก็ชอบด้วยเลยคลอเคลียไม่ห่างฝ่ามืออุ่นลูบไล้แผ่นหลังมอบความอบอุ่นให้แก่กัน ดีจังเลย... ช่วงเวลาที่ไม่เคยคิดฝัน"หอมไปหมด" มหาสมุทรกดจมูกหอมแก้มฉันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้"วันนี้จะทำอะไร" ฉันเอ่ยถามพลางประคองใบหน้าหล่อเหลาให้สบตากัน ลูบแก้มสากที่มีรอยกระเล็ก ๆ เป็นเอกลักษณ์ หน้านวลเนียนไร้สิวแต่ก็ไม่ได้ขาวใสเฉกเช่นพิมพ์
[ ฝากตัว ]-------------------หลับไปนานเหมือนกัน มหาสมุทรตื่นขึ้นมาก็เกือบเย็นแล้ว ไม่รู้สิบลุกออกจากเก้าอี้บ้างหรือเปล่า ตอนนี้เธอยังจดจ่ออยู่กับการลงแสงและสีของการ์ตูนที่เธอวาด ไม่แปลกใจทำไมถึงไม่ชอบออกไปไหนมันคืองานที่เธอชอบทำมากที่สุด และทำได้เรื่อย ๆ ทั้งวันไม่มีเบื่อ มหาสมุทรเองก็เพิ่งรู้ว่าเธอวาดรูปเก่งขนาดนี้ แถมการ์ตูนของเธอยังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยลายเส้นที่สวยมากภึงมากที่สุด ใครไม่เห็นด้วยก็ช่างเพราะเขาจะอวยแฟนตัวเองให้ถึงที่สุดขยับลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้า พอได้พักผ่อนเต็มที่ก็สดชื่นขึ้น หยิบโทรศัพท์มือถือมาเช็คข้อความจากผู้ช่วย ส่งรูปถ่ายกองงานเอกสารมาให้ดู แล้วแบบนี้จะให้เขามีเวลานอนได้อย่างไร มีงานให้เคลียร์ทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นงานจาก Class S ส่วน Company ของเขาตอนนี้อยู่ตัวมีลูกน้องช่วยดูอีกแรงนอกจากข้อความจากผู้ช่วยแล้วก็ยังมีข้อความจากกลุ่มแชทเพื่อน และที่ส่งมาเยอะมากเลยก็คือข้อความจากเพทาย ไล่สายตาอ่านพบว่าเธอพิมพ์มาถามเรื่องผู้หญิงที่รับสายโทรศัพท์ ต่อว่าเรื่องการทรยศและนอกใจ ไม่รักเธอจริง และอีกหลายประโยคที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ"สิบ" เอ่ยเรียก
[ ฝากตัว ]--------------------เดินลงบันไดไปเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงพูดคุยไม่ขาดสายดังมาจากทางห้องครัว เช้าแรกของการปิดเทอมครึกครื้นเสียจริง เมื่อคืนฉันกลับถึงบ้านประมาณสี่ทุ่ม บ้านเปิดไฟสว่างโร่ พ่อกับแม่นั่งดูทีวีรอฉัน เป็นห่วงตามประสานั่นแหละ พอเห็นลูกสาวกลับบ้านอย่างปลอดภัยก็พากันขึ้นนอน"มอนิ่งทุกคนนนน คุยอะไรกันเสียงดังขึ้นไปถึงข้างบนเลย" ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้ายังไม่ได้ล้าง ฟันยังไม่ได้แปรง ลุกจากเตียงลงมาทั้งอย่างนี้เพราะไม่ต้องตื่นเช้าไปเรียน แต่ใครจะไปรู้ว่าเช้าขนาดนี้จะมีแขกมาบ้าน ฉันยิ้มค้างมองแขกที่ว่านั่งยิ้มแป้นแล้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน"โอ๊ยตายลูกสาวบ้านนี้ อายแฟนบ้างสิลูก" แม่เดินมาลูบหน้าลูบตาจัดผมเผ้าให้อย่างเอ็นดูแต่เอ๊ะ... เดี๋ยวนะ"แฟนเหรอคะ""อ้าว! สรุปไม่ใช่เหรอ ก็พี่เขาบอกเองเลยนะว่ากำลังคบกับลูกอยู่ ยังไงกันแน่"พี่เขา?ฉันหันมองมหาสมุทรซึ่งนั่งอยู่ข้างพ่อ ท่าทางของท่านอดีตอาจารย์แลดูพอใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตอนงานวันเกิดยังกอดคอกับพวกลูกชายตั้งกลุ่มแอนตี้ผู้ชายที่เข้ามาจีบลูกสาวอยู่เลย แปลกมากเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมหาสมุทรส่งยิ้มทักทายมาให้ เมื่อคืนเจ
[ เลือกสักทาง ]------------------"จุ๊บ! จุ๊บ! ฟอด ฟอด""โอ๊ย พอแล้วน่า""ผมคิดถึงเธอ""โกหกตกนรกนะสมุทร""ผมไม่ชอบโกหกอยู่แล้ว"ฉันแยกยิ้มอย่างเฉยชาพร้อมขยับลงจากตักหลังจากถูกมหาสมุทรจับฟัดจนยับยุ่งไปหมดทั้งผมเผ้าแล้วก็เสื้อผ้า ขยับมานั่งข้าง ๆ ต่างฝ่ายต่างเงียบ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ดุเดือดพอสมควร พอสติกลับมาเกิดอาการไม่อยากมองหน้า รู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนั้น..."ไม่ได้กำลังมีความสุขกับรักแรกอยู่หรอกเหรอคะ ตกลงจะเอายังไงกันแน่ บอกก่อนนะนี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่สิบจะมาเจอเธอ"พรึ่บ!สิ้นสุดประโยคมหาสมุทรหันมากอดฉัน ซุกหน้าเข้ากับซอกคอ กระชับกอดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ปล่อยให้ความเงียบงันทำงานจนเริ่มอึดอัด"ผมคิดว่าผมรักเพทายมากจนยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ"ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพูดมันออกมา ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นชื่อเพทายสินะ ชื่อเข้ากับใบหน้าสวยงามนั่นมาก ๆ เลย"แต่พอได้เจอกันอีกครั้งกลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม เพเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะคิดเรื่องความรัก ขณะเดียวกันผมกลับคิดถึง
[ เลือกสักทาง ]------------------คนรวยปิดผับเลี้ยง ฉันรู้นะว่าที่นี่เลโอเพื่อนของมหาสมุทรเป็นเจ้าของ สปายจูงมือฉันตั้งแต่ทางเข้าขึ้นมายังชั้นสอง โต๊ะของพวกเราไม่ได้มีแค่พวกเรา ยังมีเลโอ รอน แล้วก็จิณณ์นั่งอยู่ด้วย"หวัดดีทุกคน" สปายทักทายส่วนฉันโบกมือและยิ้มให้ทุกคน"สิบมานั่งนี่ครับ"ยังไม่ทันจะได้เอ่ยพูดคุยกับใครจิณณ์ก็พูดขึ้นพลางตบเบาะว่างข้างตัวเอง ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างรู้ทันรวมถึงฉันด้วย ...แต่ก็ไม่ติดนะ ยักไหล่แล้วเดินไปนั่งข้างเขา"เป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันนานสบายดีนะ""สบายดี จิณณ์ก็สบายดีนะ""สบายดี ๆ""แหม ชัดเจนไปหรือเปล่าจ๊ะจิณณ์" แกรนด์กลอกตาไปหนึ่งที เรียกเสียงขำขันเพราะทุกคนคิดเหมือนกัน"ผมชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้วนะเผื่อไม่รู้" "ชิ! น่าหมั่นไส้เนาะ""เพื่อนกันน่า"ฉันให้คำตอบจิณณ์ไปอย่างชัดเจนแล้ว เขาเองก็รู้ดีระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่อยากวนเวียนรอบวงโคจรของมหาสมุทรอีกแล้ว แหนะ! พูดแบบนี้เดี๋ยวก็เข้าอีหรอบเดิมอีก แต่คงไม่แล้วแหละตอนนี้คนรัก