ห้องน้ำ
“ฉันไม่ไว้ใจแม่สาวผมทองนั้นเลย ชอบมองแกแล้วก็ทำตัวแปลก ๆ ฉันว่าแกอย่าเข้าไปยุ่งมากกว่านี้จะดีกว่านะ”
เมื่อแยกตัวออกมาอยู่กันเพียงลำพัง โดยไร้ซันเดย์ที่คอยตามติดวีด้าแทบจะเหมือนเงา ไลลาก็ร่ายสิ่งที่อึดอัดตลอดทั้งวันออกมาจนหมด
“คิดมาก ซันก็แค่แปลกที่แปลกทางก็เลยตามติดฉันแค่นั้น อย่ามองคนอื่นในแง่ลบสิ”
“ยัยบ้านี่ เปื้อนหมดเลย”
ไลลาหลบละอองน้ำจากปลายนิ้ววีด้าที่แกล้งดีดใส่หน้าท้องของตน เสื้อสีขาวพอถูกน้ำก็เห็นผิวนวลเนียน เธอยู่ปากพลางมองค้อนเพื่อนวงใหญ่
“คิ ๆ รู้ว่าเป็นห่วง ซันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่แกว่า เลิกอคติแล้วจะเห็นอะไรดี ๆ เชื่อฉัน”
“เอาเถอะจะลองดูแล้วกัน แล้วเมื่อวานเป็นไงพี่เจฟฟ์จับได้หรือเปล่า อยากไปดูด้วยกันอีกไหม? ว้าย...อะไรของแกเนี่ยวี เปียกหมดแล้ว”
“ก็อยู่ ๆ เปลี่ยนเรื่องทำไมเล่า ฉันก็ตกใจไง”
“แค่เรื่องพี่เจฟฟ์อะวี แกตกใจอะไร”
วีด้าเม้มปากเพราะนึกถึงคนที่ทำให้มันช้ำเมื่อคืน ดีที่คณะของเธอและเขาไม่ได้อยู่ใกล้กัน ไม่อย่างนั้นละก็...
“วี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแกใช่ไหม?”
“ไม่มี! พี่เจฟฟ์ไม่รู้แต่พี่ก้าน่ะไม่รอด เขาเห็นเราที่นั่นถ้าไม่ได้พี่ก้าฉันตายแน่”
“หมายความว่าพี่ก้าปิดเรื่องนี้เพื่อช่วยแกใช่ไหม”
ไลลายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยระหว่างเพื่อนสนิทกับพี่ชายบ้านใกล้เคียง
“เพราะแกนั่นแหละชวนฉัน”
ปลายนิ้วเรียวแตะหน้าผากขาวเบา ๆ พลางก้าวมายังประตูห้องน้ำ
“ฉันจะไปรถเปลี่ยนเสื้อผ้า แกมีชุดหรือเปล่า?”
“แหนะ มีพิรุธนะแกเนี่ย ไม่คิดอะไรกับพี่ก้าสักนิดเลยเหรอ”
ไลลายังไม่เลิกเย้าเพื่อนเรื่องรุ่นพี่สุดหล่อคณะวิศวะอีกคน ที่ทั้งฮอตและมีชื่อเสียงโด่งดังในมหา’ลัย
“อย่าไปพูดให้บรรดาสาว ๆ ที่คลั่งไคล้พี่ก้าได้ยินเชียว ฉันรับมือกับพวกหล่อนไม่ไหวหรอกนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...กลัวทำไมพี่เจฟฟ์ก็อยู่ที่นี่ ฉันมีชุดที่รถแล้วจะกลับบ้านเลย”
สาวเท้าเดินมาอยู่ข้างกัน เสียงหัวเราะสดใสของไลลาทำวีด้าหมั่นไส้เพื่อนสนิทคนนี้นัก ชอบหาเรื่องปวดหัวมาให้ตลอด
ลานจอดรถ
ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยจริง ๆ เรียนก็ไม่เข้าหัว แย่ขนาดนี้เลยนะวีด้า เพราะเขาคนเดียวเลยที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
ติ๊ด⁓
ประตูออดี้ยังไม่ทันจะเปิดออกผู้เป็นเจ้าของก็รู้สึกความเคลื่อนไหวด้านหลัง ทว่าความเร็วของเธอก็ช้ากว่าร่างสูงของใครบางคน!
“ไปทำอะไรมาถึงได้เปียกขนาดนี้!”
ขนอ่อนบริเวณต้นคอของวีด้าตั้งชูชัน ทั้งจากเสียงทุ้มและลมหายใจอุ่นที่เป่ารด แล้วยังสองแขนกักกันตัวเองไว้ทั้งสองจนด้านหน้าของเธอแนบสนิทกับตัวรถ
ลำคอระหงตีบตันคล้ายกับคนหายใจไม่ออก และยังประหม่ามากขึ้นเมื่อสะโพกสัมผัสแนบชิดกับความแข็งแกร่งของคนด้านหลัง
“พี่อชิ! ถอยออกไปหน่อยค่ะ แบบนี้ถ้ามีใครมาเห็น วีเสียหายนะ” เธอจำกลิ่นนี้ได้ยิ่งเสียงไม่มีวันลืม มันฝังอยู่ในหัวหลอกหลอนมาตลอดทั้งวัน หลับตาผ่อนลมหายใจให้อยู่ในระดับปกติไม่อยากให้ถูกจับได้ว่ากำลังใจสั่นเพราะเขา
“งั้นถ้าไม่มีใครเห็นพี่จะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม”
“ไม่ได้ อุ๊ย!” ตกใจกับคำพูดสองแง่สองง่ามคิดเข้าข้างตัวเองของกายสูงก็เลยรีบหันไปด้านหลัง ไม่คิดว่าจะเป็นการเอาแก้มไปแตะกับเรียวปากอุ่น
“หอม” ยิ้มร้ายปรากฏเด่นชัด ชัดชนิดคิดไปว่าเป็นความตั้งใจให้คนกึ่งอยู่ในอ้อมกอดหันมา
วีด้าเริ่มทำตัวไม่ถูก ส่ายสายตามองไปโดยรอบก็เหมือนจะเป็นใจให้คนมือไวได้เอาเปรียบกัน หรือเพราะเวลานี้นักศึกษาเกรดA ต่างก็เรียนกันหมด ยกเว้นชั้นของเธอที่ยกคลาสพร้อมกันถึงสองวิชา!
‘เฮ้อ จะบังเอิญอะไรขนาดนั้น’
“ปล่อยเถอะนะคะพี่อชิ ทำแบบนี้เกิดคนของพี่มาเห็นวีซวยแน่ ๆ” เปลี่ยนความสนใจเขาเสียใหม่ หวังว่าข้อนี้จะเบี่ยงเบนความสนใจเขาได้
หนึ่งใน 5 สิงห์แห่ง MTU (Mittap Univetsity)
เขาคือตัวท็อปตัวพ่อเรื่องเสือผู้หญิง สาว ๆ ทั่วทั้งมหา’ลัยต่างก็อยากถวายตัวให้ แต่ยกเว้นเธอคนหนึ่ง เพราะแค่ได้ยินชื่อเสียง (เสีย) ด้านนี้ของเพื่อนพี่ชายก็ชวนปวดหัวแล้ว
“หึ กลัวเหรอ? แล้วถ้าพี่เลิกยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น วีจะยอมให้พี่เข้าใกล้ จะยอมคบกับพี่ไหม”
เสียงกระซิบเข้าไปใกล้กกหูขาว แถมชิดซอกคอ กลิ่นหอมเย้ายวนฟุ้งเหนือจมูกจนต้องสูดลมหายใจยาวเหยียดก่อนจะจงใจปัดปลายจมูกผ่านใบหนูคนตัวเล็ก
“อะ! พี่อย่าล้อวีเล่น” จะดิ้นก็ไม่ได้หากทำแบบนั้นส่วนที่เสียดสีกันก็ยิ่งร้อนผ่าว
“พี่พูดจริง พวกหล่อนถ้าเทียบกับวีแล้ว...สู้วีไม่ได้เลยสักนิด”
พรึ่บ⁓
“อื้อ เจ็บค่ะ” แรงฉุดตรงหัวไหล่รวดเร็ว แรงพอให้เธอหันหน้ามาทางพี่อชิได้อย่างง่ายดาย เราเผชิญหน้ากัน ได้เห็นนัยน์ตาคมดุพราวระยับจับจ้องหัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นส่ำ เกินควบคุมทุกครั้งพอได้อยู่ใกล้เขา ร่างกายไม่ยอมทำตามอย่างที่ใจสั่งเลยสักนิด
พี่อชิยังไม่ยอมให้เธอได้พ้นไปจากวงแขนเต็มไปด้วยเส้นเลือดรายล้อม ชุดช็อปสีแดงคนอื่นใส่แล้วดูปกติ แต่พอเป็นเขาทำไมถึงได้ดูฮอตขนาดนี้!
“ขอโทษค่ะ ไม่ตั้งใจทำให้วีเจ็บ ตอบได้หรือยังเราคบกันได้หรือเปล่า”
“ทำไมง่ายจังล่ะคะ?”
“ไม่มีอะไรยากนี่ แค่วีบอกว่าตกลงพวกหล่อนจะไม่เข้ามาใกล้หรือวุ่นวายกับพี่อีก”
“ถ้าพี่ทำให้พวกหล่อนไม่มายุ่งวุ่นวายได้ วีจะลองคิดดู อื้อ...”
เพียงสิ้นคำจูบหนัก ๆ ก็กดลงมา ทั้งร้อนแรง ดุดัน ทำหัวหมุนไปหมด เขาร้ายกาจขนาดนี้แทนที่เธอจะผลักไสกลับยึดไหล่กว้างไว้แน่น เผยอปากให้ลิ้นร้อนเข้ามาตวัดเล่นอยู่ข้างใน สติเลอะเลือนขึ้นทุกวันแล้ววีด้า
“อื้อ...” กายสูงบดเบียดลำตัวเข้าหาเรือนร่างนุ่มนิ่ม เลื่อนฝ่ามือใหญ่แนบชิดสะโพก ฟอนเฟ้นคลึงเบา ๆ เสียงหวานก็ครางในลำคอ
อึก!
“อย่าลืมคำพูดวันนี้ แล้วพี่จะไปทวงสัญญาจำไว้นะเด็กดี” หน้าผากอิงแอบกัน เสียงแหบห้าวย้ำเตือนคำพูดของน้องสาวเพื่อน ก่อนจะผละใบหน้าออกยังหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง
วีด้ากระทืบเท้าเบา ๆ ที่เผลอใจปล่อยตัวให้เพื่อนพี่ชายใกล้ชิดอีกแล้ว
“พี่จะไม่มีวันได้เข้าใกล้วีอีก และเราก็ไม่มีทางคบกันได้”
หลายวันต่อมา...
“วี ซันหิวแล้วเราไปกินข้าวกันเลยได้ไหม” ซันเดย์ลุกมาจากที่นั่ง
เดินมาหาคนอยู่ด้านหน้า ทิ้งสะโพกกับขอบโต๊ะเรียนของเพื่อนพลางหมุนผมสีน้ำตาลอมส้มเล่น
“เธอพึ่งกินแซนด์วิชอบกรอบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงซันเดย์ ถามจริงระบบย่อยดีเกินไปหรือเปล่า”
เป็นไลลาย้ายก้นอันสวยงามจากเก้าอี้ของตัวเองมาหยุดข้างสาวฝรั่งผมทอง กดสายตาหยุดที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะย้ายมาอยู่บนกรอบหน้าสวย
“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้นไงไลลา ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วก็ต้องกินไหมล่ะ อีกอย่างช่วงนี้ใช้พลังงานเยอะมากกก... ก็ต้องอัดพลังงานเข้าไปทดแทนส่วนที่หายไปให้สมดุลกันสิ”
เหลือบมองเพื่อนทั้งสองเล่นจ้องตากันเขม็ง เดาไม่ผิด ไลลากับซันเดย์เข้ากันได้เป็นอย่างดี แค่ชอบต่อปากต่อคำกันเป็นพิเศษก็แค่นั้น แต่นี่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าปากหวานแต่ก้นเปรี้ยวแบบนั้นก็คงไม่ไหว
“วีเก็บเลกเชอร์แป๊บ”
ว่าพลางรวบสมุดเล่มเล็กลงกระเป๋า เลิกคิ้วมองไลลาว่ายังยืนอยู่ตรงนี้อีก เจ้าตัวพอเห็นอย่างนั้นก็ย่นจมูกให้ซันเดย์แล้วกลับไปจัดเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเอง ตามด้วยซันเดย์หยุดเล่นผมวีด้า ยิ้มสวยฉีกกว้างทั่วมุมปากเมื่อวีด้าตามใจตนเองทุกอย่าง
กึก!
“มีอะไรหรือเปล่า?” รวบทุกอย่างไว้ในอ้อมแขนเตรียมจะออกไปจากห้องก็มีเพื่อนนักศึกษาในห้องมายืนตรงหน้า
“ห้องA สาขาออกแบบรอวีอยู่ข้างนอก” เพื่อนร่วมห้องบอกวีด้ายิ้มหวานอย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณเดี๋ยววีไปหาเธอเอง ไปกินข้าวด้วยกันไหม” ไม่ลืมจะชวนเพื่อนร่วมห้องที่มีน้ำใจมาบอก แต่หล่อนก็ปฏิเสธ คงเพราะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกันรออยู่
“แกรู้จักใครสาขานั้น” ไลลาเดินตีคู่เพื่อนออกมา
“ถ้าสนิทก็ไม่มี แต่ก็มีเคยช่วยงานกันบ้าง อาจจะมาให้ช่วยอะไรละมั้ง” เดาไปทางนั้น ก็คิดไม่ออกว่าจะมีใครที่เคยให้ความสนใจมาก่อน นอกจากไลลาก็คงซันเดย์ที่ตอนนี้เธอเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเพื่อนจริง ๆ
หน้าห้อง
วีด้าขยับริมฝีปากรูปหัวใจคล้ายจะเม้มก็ไม่เชิงเมื่อเห็นนักศึกษาสาวสวยยืนยิ้มให้ตรงหน้า เรือนร่างสูงสมส่วน ผิวขาวจนออกไปทางออร่าเด่นชัด ผมสีน้ำตาลแดงดัดเป็นลอนสวย
“สวัสดีวีด้าใช่ไหมเรา ‘อชิตา’ เห็นในบอสว่าสวยแล้วตัวจริงสวยกว่ามาก ยินดีที่ได้รู้จัก เราขอเป็นเพื่อนกับเธอได้ไหม”
สาวสวยนามว่าอชิตายื่นมือออกมาเพื่อต้องการสานสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ ซึ่งทั้งสามพอเห็นอย่างนั้นก็มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
“ทำไมเหรอ! เรามาดีนะ อยากเป็นเพื่อนกับวีด้าจริง ๆ เรียนที่นี่มาสองปีไม่มีใครที่รู้สึกว่าถูกชะตาเหมือนวีด้ามาก่อน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เราคงเสียใจมาก ๆ ที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน”
สาวสวยก้มหน้าด้วยความผิดหวัง อุตส่าห์ตั้งใจเดินข้ามสาขาเพื่อมาหาแต่กลับถูกดาวคณะนิ่งเฉยใส่!
เมื่อเป็นการจัดงานมาเพื่อฉลองให้กับความสำเร็จฉะนั้นค่ำคืนนี้ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรื่นเริงและสนุกสนาน เสียงพูดคุยหัวเราะเจื้อยแจ้วเคล้าคลอไปกับเสียงดนตรีทำนองเร้าใจ กลุ่มเพื่อนสนิทจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างถูกคอ จิบเครื่องดื่มสีอำพัน ซึ่งแต่ละคนความเข้มข้นย่อมต่างกันท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอวลไปด้วยความสุขใจสายตาของอชิระกลับจับจ้องอยู่แค่วีด้าเพียงคนเดียว เธออยู่ในชุดเดรสสีดำเกาะอกที่ขับเน้นรูปร่างงดงาม ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้โดดเด่นเพราะมีกิ๊บรูปผีเสื้อติดเปิดใบหูขาว ยามที่เธอขยับตัวแสงไฟอ่อน ๆ ทำให้เปล่งประกายสู้แสงสวยงามเป็นที่สุดทุกการเคลื่อนไหวราวกับต้องมนต์สะกดเขาไม่อาจละสายตาไปได้ รอยยิ้มบาง ๆ ประดับบนริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบ ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับ เขาอยากไปยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ในสายตาของเธอแทนน้องสาวในแววตาของอชิระฉายชัดถึงความรักลึกซึ้ง มันไม่ใช่แค่ความชื่นชมในความงามภายนอก แต่เป็นความรู้สึกผูกพัน ความเสน่หา และความปรารถนาที่เอ่อล้นออกมาอย่างปิดไม่มิด เขาเฝ้ามองเธออย่างเงียบ ๆ ดื่มด่ำกับภาพตรงหน้า ราวกับกลัวว่าหากกะพริบตาไปเพียงเสี้ยววินาที
สนามหญ้าหน้าคณะวิศกรรมศาสตร์ ก่อนหน้านิสิตยืนถ่ายรูปกันอยู่บ้างตามจุดต่าง ๆ ทว่าบัดนี้มีกลุ่มใหญ่อย่างสมาชิกสิงห์และผู้ปกครองจำนวนหนึ่งยืนตีวงล้อมพวกเขา จุดใจกลางมีอชิระยืนข้างอชิตา ฝั่งตรงข้ามเจฟฟ์โอบไหล่น้องสาว ทั้งสองยืนประจันหน้ากันด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน โดยมีผู้ให้กำเนิดของทั้งสองฝั่งยืนขนาบข้างปิดท้ายที่ผู้สูงอายุกว่าใคร ๆ มองเหตุการณ์นั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“หมายความว่ายังไงคะคุณตา ที่ว่าคุณปู่พี่อชิเป็นหมอประจำตัวน่ะค่ะ” วีด้ามองผู้เป็นตาด้วยความมึนงง จริงที่ว่าระหว่างครอบครัวไปมาหาสู่กันตลอดยี่สิบปี แต่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่าท่านจะต้องมีแพทย์ประจำตัวติดกายไว้ตลอด แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยเจอบ้าง? ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ป๊ากับม๊า ซึ่งมีพ่อและแม่ของพี่อชิยืนอยู่ด้วย ยิ่งทำให้เธอมึนไปหมด เท่าที่รู้ไม่เคยเห็นพวกท่านทำตัวสนิทสนมหรือรู้จักกันมาก่อน สรุปแล้วสิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้คือเรื่องอะไรกันแน่ แล้วที่ป๊าคัดค้านพี่อชิ ไม่ยอมรับความรักระหว่างเรามันหมายความว่ายังไง?“อย่าใช้เสียงแบบนั้นถามคุณตาวีด้า” รีน่าที่ไม่เคยดุลูกสาวปรามเสียงเข้ม “ไม่เป็นไรรีน่า เราเองที่ทำให้เด็ก ๆ ตกใจ
เป็นเดือนที่ทรมานสุด ๆ ป๊าไม่ถึงขั้นให้เราตัดขาดการติดต่อกัน เพียงแต่ว่าจะออกไปไหนตามลำพังไม่ได้ ตอนไปเรียนยังพอมีหวังว่าจะได้เจอพี่อชิบ้าง แต่เปล่าเลย! เวลาที่เธอว่างเขามักถูกอธิการเรียกให้ไปพบ กว่าจะปลีกตัวมาได้เธอก็ต้องไปเรียนแล้ว เป็นแบบนี้มาตลอด เธอโมโหจะตายอยู่แล้ววันนี้ต้องไม่พลาดแน่ เธอจะกอดพี่อชิให้หายคิดถึง และบอกว่าเราจะไม่ยอมแพ้ผู้ใหญ่เด็ดขาด แต่เอาเข้าจริงดูเหมือนฟ้าจะไม่ฟังคำอ้อนวอนที่แสนปวดใจสักเท่าไหร่ เมื่อมาถึงมหา’ลัย เนืองแน่นไปด้วยบรรยากาศคึกคักในวันรับปริญญาของพวกเขา พี่อชิกลับไม่ได้อยู่กับเพื่อน ๆอธิการและสามีของท่านยืนขนาบข้างคนละฝั่งของคนประสบความสำเร็จ อชิตาตรงหน้าของเธอมีชายสูงอายุ ทว่าภูมิฐานน่าเป็นญาติผู้ใหญ่พวกเขาดูกำลังมีความสุข แล้วเธอล่ะ? ”หยุดทำไม ไม่เข้าไปเหรอ” ซันเดย์เอ่ยเมื่อเพื่อนที่กระตือรือร้นตั้งแต่ออกจากบ้าน แต่กลับยืนนิ่งทั้งที่อชิระก็อยู่เบื้องหน้านี้แล้ว“จะเข้าไปยังไง เห็นนั่นไหม ตรงไหนละที่วีพอจะไปยืนได้ ซันว่าวีควรทบทวนเรื่องระหว่างเราใหม่ดีไหม” เป็นคำถามที่ดูเลื่อนลอยไร้น้ำหนัก ทว่าหัวใจนั้นกลับหนักอึ้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับพี
เข้าวันที่สี่นับตั้งแต่เรื่องระหว่างเธอและพี่อชิเป็นหัวข้ออ่อนไหวของป๊ากับม๊า ซ้ำผู้ช่วยคนสำคัญก็ถูกคุมเข้มหมายหัวห้ามช่วยเหลือเพื่อนเด็ดขาด ถูกตัดความช่วยเหลือทุกช่องทาง ไม่ใช่ว่าไม่เคยใช้ลูกไม้กับพวกท่านทว่าถูกมองออก ก็เลยต้องนั่งเครียดจ้องหน้าพี่ชายอยู่แบบนี้!“มันก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่หรอก เห็นหลังคาแต่เจอหน้าไม่ได้”เห็นน้องสาวไม่มีชีวิตชีวาคนเป็นพี่อย่างเขาก็ปวดใจ แต่ไหนเลยจะกล้าขัดผู้ใหญ่ ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนคนในบ้านสำคัญสุด ป๊า ม๊า ไม่เคยพูดอะไรซ้ำสอง เด็ดขาดคำไหนคำนั้น ”วีโตแล้วนะคะ ทำไมพวกท่านยังมองว่าเด็ก ตัดสินใจเองไม่ได้” หลุบตามองต่ำ ไม่เข้าใจว่าพวกท่านกำลังคิดอะไรอยู่ คราแรกเหมือนจะไม่คัดค้านแต่พอพี่อชิอยากจะมาไหว้กลับบอกว่าไม่ว่าง ซะงั้น! ไม่เท่ากับกีดกันพวกเธอแล้วหรือยังไง“ห้ามร้องนะ พวกท่านไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เอาไว้ให้อะไรมันดีกว่านี้เราต้องมีทางออกแน่”“แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ? ขนาดตัวไม่อยู่ยังรู้ทุกการเคลื่อนไหวพวกเราเลย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเจอพี่อชิเล่า”“เอาน่า! ไอ้อชิมันไม่ใช่พวกไม่เอาไหน ถ้ามันรักเธอจริงก็ต้องมีวิธีทำให้ป๊าใจอ่อนจนได้แหละ”เหมือนจะดี! แต่สุดท้
อาทิตย์ต่อมา...นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงได้เวลาก็เลยผ่านข้ามมาอีกวัน ล่าสุดที่ได้คุยกันก็น่าจะเกือบ ๆ เดือนเลยนะพอรู้ว่าป๊ากับมาจะกลับมาเธอกับพี่เจฟฟ์ก็เตรียมตัวกันออกจากบ้านแต่เช้ามารอรับพวกท่านก่อนเวลา พี่เจฟฟ์ยกนาฬิกาข้อมือที่แพงแสนแพงของเขาขึ้นมาดู ก็คงไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ที่คิดถึงป๊ากับม๊ามาก ๆ “น่าจะมาถึงกันแล้ว พี่ว่าเราเดินไปรอข้างหน้ากันดีกว่า” พี่ชายลุกจากที่นั่งตัวยาวแล้วหันมาบอกคนข้าง ๆ คว้าข้อมือเล็กเดินไปพร้อมกัน “พี่ว่าพวกท่านจะมีน้องกลับมาฝากเราไหม” พูดไปก็หัวเราะไปพลาง ครั้งหนึ่งเคยบอกพวกท่านว่าอยากได้น้องสักคน แล้วครั้งนี้พวกท่านก็ไปกันนานมาก... น่าจะมีอะไรพิเศษกลับมาบ้างละนา!“คงอยู่กับไอ้อชิมากไปถึงได้มีแต่เรื่องไร้สาระนะเธอเนี่ย” “ทำไมว่าน้องอะ แล้วพี่อชิมาเกี่ยวอะไรด้วยอย่าโยงไปมั่วสิ ก็วีอยากมีน้องนี่น่า” เจฟฟ์เอียงหน้าลงมองน้องสาวด้วยสายตาปราม เดี๋ยวนี้แตะต้องไม่ได้แล้วเพื่อนเขาน่ะ “เพราะมันสอนแต่ละอย่างให้เธอดูสิ! รู้งี้ไม่ยอมตั้งแต่แรกก็จบ” “นี่น้องไงพี่เจฟฟ์ อย่าใจร้ายสิคะ เราตกลงกันแล้วไง” ว่าพี่ชายดุม
ริมฝีปากร้อนจัดหันมาจุมพิตกลีบปากอวบอิ่มแสนหวานอย่างดูดดื่ม หัวใจดวงนี้พื้นที่เต็มไปด้วยผู้หญิงที่ชื่อวีด้า คู่ชีวิต ลมหายใจเขาตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะฝากมันไว้กับเธอ จะไม่มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคของเส้นทางรักของเขาได้เป็นอันขาด“อื้อ” “อ๊า” วีด้าเผยอปากเปิดกว้างเป็นโอกาสให้เรียวลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในโพรงนุ่มอชิระเรียกร้องหาความหวานจากแฟนสาว ขบเม้มดูดดึงปากนิ่มอย่างโหยหา ลิ้นสากซอกซอนเกี่ยวพันละเลงทั่วทั้งลิ้นหวานอย่างช่ำชอง“อื้ม”เสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจเปล่งออกมาจากลำคอแกร่ง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ผละมันออก ”แต่เธอมีความผิดอยู่จำได้หรือเปล่า” ย้ำเสียงพร่าแต่สายตาจ้องริมฝีปากบวมเจ่ออย่างคาดโทษ“ผิดอะไรคะ วีจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรตอนไหน” ค้านเสียงสั่น พลางสูดลมถี่ ๆ เพราะจูบดูดวิญญาณ หากเขาไม่หยุดเธอคงขาดใจตายไปแล้วแน่เลย“จำไม่ได้พี่ก็จะค่อย ๆ บอกทีละอย่าง จนกว่าเธอจะเข้าใจ” ปลายจมูกโด่งซุกไซ้ซอกคอขาว ฟันซี่คมขบกัดเนินเนื้อนูนระหว่างสองเต้าด้วยความกระสันใคร่ แลบลิ้นเลียผิวผุดผ่องทิ้งน้ำลายเปียกแฉะทั่วบริเวณ“อืม พี่อชิ” เสียงหวานครางเรียกชื่อคนรักเมื่อสติสัมปชัญญะเริ่มเลือนหาย ก้านนิ้วเรียวล