เสียงบีทหนัก ๆ ดังกระหึ่มดังเข้าโซนประสาทหูทันทีเมื่อ'โรสริน'ก้าวขาเข้ามาในคลับชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงศรีวิไลซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวในยามราตรีในค่ำคืนนี้
ใบหน้าเรียวสวยจับใจชายหันมองเพื่อหาเป้าหมาย ดวงตากลมโตหรี่มองหาผ่านแสงไฟสลัวที่ทำให้เธอรู้สึกมัวตา ก่อนเรียวขายาวจะก้าวเดินไปยังทิศทางเมื่อเห็นเป้าหมายกำลังยืนโบกมือให้กับเธออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มุมปากสวยกระตุกยิ้มทักทาย เมื่อมีผู้ชายรอยกายส่งยิ้มทักทายหมายจะเข้ามาทำความรู้จักเธอในค่ำคืนนี้ระหว่างที่ตนเองนั้นกำลังก้าวขาเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่อยู่ไม่ไกล เธอแค่โปรยเสน่ยิ้มหวานทักทาย คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรใช่ไหม ร่างสูงโปร่งมีสัดส่วนลงตัวเดินตรงไปและไม่วายที่จะส่งยิ้มทักทายผู้คนที่ให้ความสนใจแก่เธออย่างเป็นมิตร "โรส ทางนี้"เสียงตะโกนแข่งกับเสียงเพลงของปัทมาหรือว่าลูกปัดดังขึ้น ดวงตากลมโตปกปิดความดีใจเอาไว้ไม่มิดยามเมื่อเห็นเพื่อนสนิทกำลังเดินตรงมาทางนี้ ร่างสวยของเจ้าแม่แฟชั่นเจ้าของร้านเสื้อผ้ากำลังโบกมือส่งสัญญาณให้เพื่อนสนิทเดินมาหาด้วยใบหน้าเบิกบานความดีใจเปี่ยมล้นอยู่ในอก เมื่อเห็นร่างสวยในชุดกางเกงยีนขายาว ด้านบนสวมทับด้วยเสื้อสายเดี่ยวลายลูกไม้คล้ายกับเสื้อชั้นในแทบจะปกปิดเต้าอวบอื่มส่วนด้านบนไม่มิด แซ่บ ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาเลยจริง ๆ "ไง" "คิดถึง"ปัทมาพุ่งเข้ากอดเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอหน้ามานานหลายเดือนด้วยความคิดถึง โรสรินยิ้มกริ่มยกเรียวแขนโอบกอดร่างสวยของเพื่อนสนิทด้วยความคิดถึงไม่แพ้เช่นเดียวกัน "ฉันก็คิดถึง"ปัทมาดันตัวออกมา ปลายจมูกย่นจนแทบจะติดกับริมฝีปากเมื่อได้ยินคำว่าคิดถึงจากปากของเพื่อนสาวตรงหน้า "คิดถึง แต่ไม่มาหากันเลยเนี่ยนะ" "ขอโทษได้ไหมล่ะ" "ชิ ไม่ต้องมาพูดเลย วัน ๆ แกก็เอาแต่เฝ้าสวนดอกไม้ไม่คิดจะมาหาเพื่อนอย่างฉันเลยสักนิด"ปัทมาสาวสวยแสดงอาการง้องอนออกมา ซึ่งเป็นเรื่องชินตาสำหรับโรสรินที่มักจะไม่มีเวลามาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง นี่ถ้าหากวันนี้ไม่ใช่วันเกิดของปัทมา ให้ตายยังไงโรสรินก็คงไม่คิดจะตีตั๋วนั่งเครื่องบินมาหา ถ้าเจ้าของวันเกิดไม่ต่อสายโทรจิกจนโทรศัพท์แทบจะระเบิดคนอย่างโรสรินก็คงจะไม่ปรากฏตัวยื่นอยู่ตรงหน้าของเธออย่างนี้ "แล้วนี่มีกันแค่นี้เหรอ"โรสรินกวาดสายตามองโต๊ะตัวใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะถามหาคนอื่น ๆ ที่จะมาร่วมฉลองวันเกิดของเพื่อนสนิทในวันนี้ "เดี๋ยวพี่ธีร์กับเพื่อนสนิทของเขาจะตามมาทีหลัง นั่งก่อนสิ อยากดื่มอะไรไหมตามสบายได้เลย" "หึ เอาเหมือนเธอก็ได้" "ได้สิ เดี๋ยวฉันจัดให้"โรสรินเดินตามร่างสวยของเพื่อนสาว ก่อนทั้งสองนั่งลงบนโซฟา ปัทมารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพเรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่มและอาหารให้กับเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมตรงหน้า ทั้งคู่สนิทสนมตั้งแต่เรียนมัธยมกันมาเมื่อจบมหาวิทยาลัยต่างผ่านก็พากันแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ปัทมาเดินตามความฝันอยากมีห้องเสื้อเป็นของตัวเอง ต่างจากโรสรินที่ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่ในไร่ดอกไม้ซึ่งเป็นกิจการที่บิดากับมารดาทิ้งเอาไว้ให้ก่อนที่ท่านทั้งสองจะเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน "มากรุงเทพคราวนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้แกหนีกลับก่อนครบหนึ่งอาทิตย์แน่"ปัทมาเอ่ยขึ้นเมื่อรสชาติความหวานของไวน์ไหลลงคอ "ก็ไม่ได้บอกว่าจะกลับไว" "ดีล่ะ ฉันกับพี่ธีร์จะจัดทริปไปเที่ยวทะเล อีกสามวันข้างหน้าแกจะต้องไปกับฉันด้วย" "แต่" "ถ้าแกไม่ไปแล้วคิดจะหนีกลับไร่ก่อน ฉันจะตามไปแหกอกแกถึงไร่เลยคอยดู"เจ้าแม่แฟชั่นเอ่ยปากขู่ และโรสรินรู้ ว่าคนอย่างลูกปัด ปัทมา พูดจริงทำจริงอย่างแน่นอน สองสาวนั่งจิบเหล้าพูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยความคิดถึง สาวสวยสไตล์เดียวกันต่างตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายหลายต่อหลายคน แต่ด้วยชื่อเสียงของเจ้าแม่แฟชั่นอย่างลูกปัดพ่วงด้วยตำแหน่งคู่หมั้นสาวของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่าธีระจึงทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปยุ่ง ความสนใจของพวกผู้ชายจึงตกไปอยู่ที่ผู้หญิงชุดดำสุดเซ็กซี่อย่างโรสรินในตอนนี้แทน "เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะ" "อะไร"โรสรินเอ่ยถามก่อนเธอจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะตรงหน้า "ดูสายตาของพวกผู้ชายพวกนั้นสิ มันกลืนเธอได้ก็คงกลืนไปแล้ว"ดวงตากลมโตของโรสรินมองไปยังทิศทางที่เพื่อนสนิทชี้บอก มุมปากสวยของเธอกระตุกยิ้มก่อนจะยกแก้วไว้ขึ้นดื่มทำราวกับว่าไม่ได้สนใจสายตาของชายหนุ่มพวกนั้นทั้งที่มันไม่ใช่ เธอไม่ใช่เหยื่อที่ยอมให้เสือออกล่า "รอให้ฉันเป่าเค้กก่อนนะ ค่อยว่ากัน" "หึ"เพียงแค่มองตาต่างฝ่ายต่างก็รู้ความคิด โรสรินนั่งดื่มไวน์ด้วยความสะบายใจในขณะที่ลูกปัดกำลังส่งข้อความหาคู่หมั้นที่กำลังเดินทางเข้ามาพร้อมกับบรรดาเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแฟนเก่าของโรสริน "พี่ธีร์คะ ทางนี่ค่ะ" "ขอโทษนะครับที่มาช้า พอดีว่าพี่ติดลูกค้าคนสำคัญกว่าจะปลีกตัวออกมาได้" "ไม่เป็นอะไรค่ะ ลูกปัดเข้าใจ"ธีระเดินเข้ามาโอบเอวคู่หมั้นสาวที่เขาทั้งรักและหวงเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะหันมาสะดุดเข้ากับร่างสวยของใครบางคน "สวัสดีค่ะคุณธีระ"โรสรินลุกขึ้นยืนทักทายผู้ชายที่เธอรู้จักมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ต่างอะไรจากธีระที่เห็นว่าโรสรินเพื่อนสนิทของคนรักเดินทางมาร่วมฉลองวันเกิดในครั้งนี้ด้วย "สวัสดีครับคุณโรส สบายดีนะไม่เจอกันนานเลย" "โรสสบายดีค่ะ คุณธีร์สบายดีนะคะ" "ครับ แล้วนี่มายังไงมาถึงนานแล้วหรือยัง" "รถนั่งเครื่องมาค่ะ เพิ่งจะมาถึงเมื่อเช้า"ตั้งสองกล่าวทักทายด้วยความสนิทกันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาลัยอยู่ในกรุงเทพฯ "ดีเลย ลูกปัดได้บอกแล้วใช่ไหมเรื่องไปออกทริปเที่ยวทะเล" "ค่ะ"โรสรินพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทที่กำลังชะเง้อคอราวกับกำลังมองหาใคร "ที่รักคะ คุณณดล กับคุณอคินไม่มาเหรอคะ" "มาครับ แต่มันสองคนยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกเดี๋ยวก็คงตามเข้ามา" "อ๋อค่ะ แล้วอีกคน"ริมฝีปากของปัทมาเม้นเข้าหาดวงตากลมโตไม่กล้าจะหันไปมองร่างสูงโปร่งดั่งนางแบบของเพื่อนสนิทที่กำลังยืนยิ้มบาง ๆ ส่งมาให้ ซึ่งธีระเองก็เข้าใจดี "ไอ้ภาคภูมิมันกำลังมา" "..." "เห็นว่าจะพาแฟนของมันมาด้วย"คล้ายกับมีคลื่นลูกใหญ่กระแทกเข้าใบหน้าลูกปัด เจ้าของงานวันเกิดหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยแววตาสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างจากเจ้าตัวที่นั่งลงบนโซฟาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว "โรส คือว่าฉัน" "ไม่ต้องคิดมาก เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว" "..." "และตอนนี้ฉันก็โตพอที่จะแยกแยะออก ว่าอะไรควรลืม หรืออะไรที่ควรจะจำ"คนไข้ที่หลับไปติดต่อกันหลายชั่วโมงค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามที่ฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีเข้ม"นะ...น้ำ ขอน้ำหน่อย"น้ำเสียงแหบพร่าจากเตียงของคนไข้ดังขึ้นมาทำให้คุณภูวดลเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์หันมามอง"ภัคลูก"ผู้เป็นพ่อรู้สึกดีใจจนรีบเดินมาหาลูกชายเมื่อเห็นว่าภัคพงศ์ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว"พ่อเหรอครับ""ใช่ นี่พ่อเอง""ผมขอน้ำหน่อยครับพ่อ""ได้ ๆ เดี๋ยวพ่อเอาน้ำให้นะ ลูกรอแป๊บ"ผู้เป็นพ่อรีบไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมหลอดให้กับลูกชาย น้ำเย็น ๆ ช่วยดับกระหายและทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเมื่อม่านดวงตาของเขากลับมามองเห็นได้ชัดเป็นปกติ ชายหนุ่มก็รีบถามหาคนรักกับบิดาของคนเองโดยทันที"โรสล่ะครับ โรสอยู่ไหน เธอกลับไปแล้วเหรอครับพ่อ""แหม ไอ้เสือ ตื่นขึ้นมาก็ถามหาเมียเลยนะ"คุณภูวดลอดที่จะแซวลูกชายตัวเองไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จำต้องบอกลูกชายอยู่ดี"หนูโรสกับแม่ของลูกออกไปธุระที่ข้างนอก เดี๋ยวก็คงจะกลับเข้ามา"แกรก"นั่นไง คงจะพากลับมากันแล้ว"ทั้งสองหันไปมองยังประตูห้องพักก็เห็นโรสรินเดินยิ้มเคียงคู่เข้ามา ทันทีเมื่อทั้งสองเห็นว่าภัคพงศ์ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้วกำลังนั่งหน้าคิ้วขมวดเข้าหาอยู่บนเตียงก็ส
ร่างสูงใหญ่ในชุดคนไข้นอนหลับไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงภายในห้องพักระดับวีไอพีของโรงพยาบาลชื่อดังใจกลางเมืองกรุงโดยมีบิดาและมารดาของเขานั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงลูกชายจับใจ"ลูกของเราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณ""ลูกไม่เป็นอะไรหรอก คุณอย่าพึ่งคิดมากนะ"สองสามีภรรยาช่วยกันปลอบใจ เพราะก่อนหน้านี้หมอที่ได้รับรักษาอาการของภัคพงศ์ได้รายงานอาการของชายหนุ่มให้กับทั้งสามคนฟังว่า'ไม่พบความผิดปกติอะไรในร่างกายของคนไข้นะครับ''แล้วทำไมลูกชายของผมถึงได้เป็นลมหมดสติไปแบบนี้ล่ะครับหมอ''หมอก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันครับว่ามันเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่เท่าจากที่หมอสังเกตดู ที่คนไข้เป็นลมหมดสติไปคงเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เมื่อครู่หมอได้เจาะเลือดของคนไข้นำไปตรวจดูแล้วทุกอย่างปกติดี เดี๋ยวรอให้คนไข้ฟื้นแล้วหมอจะนำไปสแกนสมองดูอีกทีนะครับ''ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ'"ฉันเป็นกังวลจังเลยค่ะ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร""คุณไม่ต้องเป็นกังวลนะ ผมจะหาวิธีรักษาให้ลูกของเราหาย ภัคพงศ์จะต้องหาย"แกรกเสียงเปิดประตูดังขึ้นดึงสายตาของทั้งสองให้หันไปมองผู้มาใหม่ โรสรินส่งยิ้มให้กับพ่อแม่ของฝ่ายชาย ในมือของเธอตอนนี้นั้นเต็มเ
"เหนื่อยจังเลยครับ ตั้งแต่กลับมาผมก็ยังไม่ได้พักเลย""สู้ ๆ นะคะ คนเก่งของโรส""อยากได้กำลังใจจากเมียจัง ไม่ได้กอดไม่ได้หอมเมียมาเป็นเดือนแล้ว ไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย"เสียงโอดครวญของชายหนุ่มดังมาตามสายทำให้โรสรินนึกสงสารและเห็นใจเพราะนับตั้งแต่ภัคพงศ์กลับกรุงเทพไปเวลาก็ผ่านเลยไปจนจะเข้าใกล้เดือนที่สองที่ทั้งคู่ไม่ได้กอดใกล้ชิดกัน ซึ่งได้อาศัยการโทรให้เห็นใบหน้าช่วยบรรเทาพอให้หายคิดถึงได้"แล้ววันนี้ทำงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ กลับถึงห้องแล้วใช่ไหม""ครับ พึ่งจะกลับมาถึงเมื่อกี้ มาถึงห้องผมก็โทรหาคุณเลย"ชายหนุ่มตอบเสียงอ่อนคล้ายกับคนกำลังง่วงนอน ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอคิดไว้ ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอโทรศัพท์ฉายชัดให้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเคลิ้มหลับไป"ถ้าง่วงก็นอนพักผ่อนก่อนก็ได้ค่ะ""ไม่วางสายได้ไหมครับ""ได้สิคะ เดี๋ยวโรสจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง อ้าว หลับเสียแล้ว"แววตาของเธอยามเมื่อมองเขามันช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก โรสรินมองคนที่โหมทำงานหนัก เคลียร์งานทุกอย่างเพื่อจะได้ขึ้นมาหาเธอที่ไร่ไม่ว่าจะโทรคุยกันยามไหน โรสรินก็มักจะสังเกตเห็นสีหน้าและอาการเหนื่อยล้าจากเขาทุกที รวมถึงวันนี้ เพราะ
"ผมไม่อยากไปเลย"นับเป็นครั้งที่สิบแล้วที่ภัคพงศ์พูดเช่นนี้กับเธอ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องเดินทางกลับไปทำงาน "ไม่เอาสิคะอย่างอแง""จะไม่ให้งอแงได้ยังไง ผมต้องห่างกับคุณอีกแล้ว"ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนไหล่บางของหญิงสาว สองแขนของเขาโอบกอดร่างสวยเอาไว้แน่น"เอาไว้ถ้าโรสมีเวลาว่าง โรสจะลงไปหาคุณที่กรุงเทพนะคะ""ไปพร้อมกับผมตอนนี้เลยไม่ได้เหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยเก็บกระเป๋าให้"หญิงสาวส่ายหน้าไปมาทำเอาชายหนุ่มหน้าหงิกงอราวกับเด็กน้อยพ่อแม่ไม่ตามใจ"กลับไปทำงานเถอะนะคะ อย่าให้คุณท่านต้องทำงานหนัก ไว้โรสมีเวลาแล้วจะบินไปหา""ก็ได้ครับ แต่สัญญากับผมก่อนได้ไหมว่าจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมาจีบคุณอีก"เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ภัคพงศ์รู้สึกเป็นกังวล เพราะไม่กี่วันก่อนมีแขกผู้ชายกลุ่มใหญ่เข้ามาเที่ยวชมไร่ มาชมไร่เขาไม่ว่า แต่มันดันมาขอเบอร์โทรของเธอเขายอมไม่ได้ แต่เขารู้สึกดีใจอย่างหนึ่งที่โรสรินบอกกับผู้ชายกลุ่มนั้นไปว่า'ขอโทษนะคะ ดิฉันมีคนรักอยู่แล้ว'"โรสไม่มองใครหรอกค่ะ ถึงเขาจะมาจีบแต่โรสก็จะบอกไปว่าโรสมีคนรักอยู่แล้ว""ดีมากเลยครับ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ บอกพวกนั้นไปด้วยเลยว่า ของผมทั้งยาวและใหญ่มาก พ
"อืม คุณภัคขา""อ๊าส์ ว่าไงครับคนดี""ยังไม่พอ อืม อีกเหรอคะ"โรสรินเปล่งน้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มพลางหรี่ตามองคนด้านบนที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับเต้าอวบของเธอทั้งสองข้างอย่างเมามัน"ยังไม่พอครับ ยังได้มากกว่านี้"เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าไม่แพ้กัน "ก็ใครใช้ให้คุณเอาแต่ทำงานจนลืมผมกันล่ะ โอ้ว"เขาเติมเต็มความเป็นใหญ่เข้าไปในช่องทางรักทันทีเมื่อพูดจบปึก"โรสไม่เคยลืมคุณเลยนะคะ อ๊าส์ ก็กลางวันโรสต้องทำงาน อึก อย่ารุนแรงนะสิคะ""นี่เป็นบทลงโทษครับคนดี คุณหนีผม อ๊าส์ ไปทำงานตั้งสามชั่วโมงแหนะ"ชายหนุ่มกดสะโพกขยับแก่นกายเข้าออกช่องทางรักของหญิงสาว ความเสียวซ่านทำเอาโรสรินสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกายชายหนุ่มจับขาเรียวของเธอมาเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเองเอาไว้ก่อนจะโน้มลำตัวไปด้านหน้าก้มลงฉกชิมความหอมหวานจากยอดทันของเต้าอวบทั้งสองข้าง'ถ้าหากวันไหนไม่ได้ดื่มด่ำความหวานจากเต้าอวบทั้งสองข้างของหญิงสาว เขาก็จะนอนไม่หลับ'ปึก ปึก ปึก"แรงไปแล้วนะคะ อ๊าส์ เดี๋ยวโรสจะต้องออกไปที่รีสอร์ตอีกนะ"แม้ปากจะต่อว่าแต่ก็แอ่นหน้าอกป้อนความหอบหวานใส่อุ้งปากร้อนของชายหนุ่ม"ถ้าคุณไปทำงานจนลืมผมอีก กลับบ้านมาผมก็จ
จุดต้นกำเนิดของน้ำตกอยู่ห่างออกไปยังทิศตะวันออกของไร่ ภัคพงศ์สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นและความอุดมสมบูรณ์ทันทีเมื่อขับรถมาถึง ลำธารน้อยมีสายน้ำใสเย็นเฉียบไหลผ่านสามารถมองเห็นตัวปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายไหลไปตามกระแสน้ำ"ที่นี่อุดมสมบูรณ์ดีจังเลยนะครับ ไม่เหมือนกับกรุงเทพ""ชาวบ้านแถวนี้เขาอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ เคยมีนายทุนมาขอซื้อที่ไปทำโรงงานนะคะแต่พวกชาวบ้านเขาไม่ขาย"โรสรินตอบชายหนุ่มก่อนเธอจะเดินถือตะกร้าใส่ของทานเล่นนำไปหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะนำเสื่อผืนใหญ่ออกมากางเพื่อใช้เป็นที่รองนั่ง"บรรยากาศร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ขายนะ"ภัคพงศ์นั่งลงด้านข้างหญิงสาว จมูกโด่งเป็นสันสูดดมกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติเข้าเต็มปอด"จะทานอาหารเลยหรือว่าจะนั่งพักก่อนดีคะ""ผมยังไงก็ได้ครับ ว่าแต่โรสเถอะหิวหรือยัง ผมเห็นคุณใช้เวลาอยู่ในครัวเตรียมของพวกนี้ตั้งนาน"ตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มารู้จากปากของน้ำฟ้าว่าโรสรินออกไปตลาดเพื่อซื้อของเตรียมจะออกมาปิกนิกกับเขาที่นี่ และเธอยังเป็นคนที่จัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเองโดยไม่ให้เขาเป็นลูกมือช่วยสักนิด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เ