เข้าสู่ระบบ“นี่!” นับดาวชะงัก เธอกัดปากกลั้นเสียงที่อยากจะกรี๊ดใส่คนหน้าด้านหน้าหนา
เขาเอาตัวเองมายืนขวางทาง พร้อมกับเรียกชื่อเธอเสียงดังฟังชัด มองดูเธอด้วยสายตาที่ราวกับอาฆาต
“ขอตัวค่ะ” หญิงสาวพยายามข่มกลั้นอารมณ์ของตัวเองไม่ให้หลุดออกไปให้อีกฝ่ายเห็น อารมณ์ที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันควรนิยามว่าอย่างไร
กับการวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอทั้งตื่นเต้น หวาดระแวง หวาดกลัว...
กลัว... จนแทบจะร้องไห้
“จะรีบไปไหนเหรอนับดาว หืม” นัยน์ตาคู่คมขุ่นคลั่กมองมองดาวหลังจากที่เหลือบมองไปยังเด็กน้อยที่หลบอยู่ด้านหลังของเธอ ทำเอานับดาวสันหลังชาวาบ
นับ นั่นแหละชื่อเล่นของเธอ ส่วนดาวเป็นแค่ชื่อเล่นที่คนในวงการใช้เรียกกัน
“ขอทางด้วยค่ะ”
“จะรีบไปไหน” ไม่ว่าเปล่า มือหนาของเขาก็คว้ามือของนับดาวเอาไว้ ออกแรงดึงรั้งเพียงนิดร่างบอบบางของนางแบบสาวสวยก็แทบจะลอยเข้ามาแนบอกแกร่ง
“นี่พวกคุณทำบ้าอะไร” หญิงสาวโวยวาย
โกรธที่โดนเขาล่วงเกินยังไม่เท่ากับความโกรธที่ปริญกำลังทำให้ลูกของเธอร้องไห้
เมื่อครู่เธอยังจับมือไอร่าอยู่แท้ ๆ แต่เขามันบ้าที่รั้งเธอมาถ้าเธอปล่อยมือไม่ทันล่ะ ลูกสาวเธอไม่หน้าคะมำไปแล้วหรือ
“ฮือ... หม่ามี้ขา แง้...” เด็กน้อยไอร่าเริ่มร้องไห้จ้าเมื่อเห็นว่ามารดาตัวเองกำลังถูกผู้ชายตัวโตคุกคาม เด็กน้อยไม่ชอบเลยกับสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาทำให้เธอตกใจมาก
“คุณปล่อยนับนะ!” นับดาวต่อต้านเพราะไม่อยากให้ลูกสาวเสียขวัญ ตอนนี้เธออยากเข้าไปกอดปลอบใจลูกสาวมาก
ปริญที่เห็นน้ำตาของหนูน้อยก็ตกใจไม่แพ้กัน ในอกแกร่งเกิดอาการวูบโหวงอย่างประหลาด นัยน์ตาที่เคยขุ่นคลั่กก็อ่อนไหว
มือหนายังคงจับข้อมือเรียวของนับดาวไม่ยอมปล่อย ทว่าร่างสูงใหญ่กลับเดินตรงไปหยุดต่อหน้าเด็กน้อยแล้วค่อย ๆ ทรุดกายลงนั่งคุกเข่า
“อายุกี่ขวบแล้วคะ” เสียงทุ้มของปริญอ่อนลงฉับพลัน
“สอง..” นับดาวโพล่งออกมา ทว่าปริญไม่คิดให้ราคากับคำตอบนั้น เพราะเด็กน้อยให้คำตอบที่แตกต่างกัน
“ฉาม ฮึก! ฉามขวบค่ะ” น้ำตารื้นเบ้า หากดวงตากลมโตกลับสู้สายตาคนตัวโตกว่า แรงโกรธเคืองจากนัยน์ตาของเด็กน้อยทำให้ปริญเผลอยิ้มออกมา
“ลูกฉันสินะ”
“ไม่ใช่!” นับดาวเสียงแข็ง ฉับพลันน้ำตาของเธอก็เอ่อไหลอย่างไม่อาจห้ามได้
เธอหันมองไปรอบตัวกลัวคนอื่นที่รายล้อมจะรับรู้เรื่องรายที่พร่ำปิดมานานว่าพ่อของไอร่าเป็นใคร แต่ดูเหมือนว่าอิทธิจะจัดการเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วเพราะตอนนี้ภายในห้องไม่เหลือทีมงานสักคน
“หึ!” ปริญก้มหน้า หลับตา แล้วพรูลมหายใจ
อายุของเด็ก หากได้นับย้อนไปตอนเธอตั้งท้องก็คงเป็นตอนที่ยังอยู่ในความดูแลของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นคือหลักฐานชัดเจนที่อยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้มนั่น และแววตาดื้อรั้นที่มองมาอย่างไม่มีใครยอมใครก็เช่นกัน...
ลูกเขาชัด ๆ
ทว่าประโยคของเด็กน้อยก็ดังขึ้นดับฝันคนมั่นหน้าในฉับพลัน
“ม่ายช่าย! พ่อตายแย้ว!”
“เอาเถอะ เชื่อฉัน เรื่องลูกก็เหมือนกัน ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ฉันแค่อยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกและเธอก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจ” ที่สำคัญที่สุดคือนับดาวจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นปริญต้องการพี่เลี้ยงที่โพรไฟล์ดี มีความรู้รอบด้าน ค่าตัวเท่าไหร่เขาสู้ตายเพราะต้องการปูพื้นฐานเพื่อจะให้ไอร่าได้เข้าเรียนอินเตอร์ที่เดียวกันกับลูกหลานโชติภิวรรธคนอื่น ๆ ด้วย“ไอร่าไม่ต้องไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กอรุณโชติอีกแล้วนะ” ปริญสั่ง ส่วนนับดาวได้แต่ตอบรับอย่างขัดไม่ได้ รู้ดีว่าเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของไอร่าและรู้ว่าทุกอย่างที่เขาสรรหามาคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอเองก็เคยอยากทำให้ลูกได้มาตลอดเช่นกันนั่นแหละ“การ์ดล่ะ ได้ยัง” ปริญถามอิทธิที่เข้ามายื่นเอกสารของพี่เลี้ยงที่ปริญสั่งให้เลือก“กำลังสแกนครับ”“สแกนให้ดีนะ ขอคนที่ไว้ใจได้จริง ๆ” นอกจากพี่เลี้ยงแล้วปริญหาคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งบอดีการ์ดให้ไอร่าอีกหนึ่งอัตรา จนกว่าลูกสาวจะโตพอ เขาต้องมั่นใจว่าลูกจะปลอดภัย“ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณปริ๊น” นับดาวอึ้งงัน รู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็รู้สึกว่ากำลังเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ คนธรรมดาอย่างเธอปรับไม่ทันกับหลายสิ่งที่ก
“เรื่องงานไม่ต้องกลัวนะนับ แบรนด์สินค้าพี่เพียบเลย กำลังหานางแบบโฆษณาอยู่พอดี ไหนจะพาร์ตเนอร์พี่ แล้วก็แบรนด์ของตะวันกับพายอีกต่างหาก ไม่ต้องกลัวว่าจะว่างงานจ้ะ กลัวหาเวลาพักไม่ได้ดีกว่า” บุญนำพาว่า ตระกูลโชติภิวรรธและตระกูลที่เกี่ยวดองกันมีธุรกิจมากมายจนไม่รู้จะหาทายาทสืบทอดพอไหมเลยด้วยซ้ำ เรื่องไม่มีงานทำไม่มีรายได้ตัดทิ้งไปแต่ลำพังแค่ธุรกิจของปริญที่มันบุกเบิกสร้างเองก็มีให้บริหาร ไม่รู้ว่ามันจะปล่อยเมียมาทำงานข้างนอกอีกไหมด้วยซ้ำ“นับก็แค่มาทำงานกับผม ยากตรงไหน” ถ้าไม่อยากบริหารก็แค่มาช่วยดูบัญชี หรือจะเลี้ยงลูกอยู่บ้านเขาก็ไม่ว่าอะไร“เออเนอะ นับดาวขาวจั๊วะแบบนี้ ให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์หลอดไฟเลยดิ รับรองขายดีแน่มึง” ไธม์แสร้งเสนอไอเดียที่รู้ดีว่าน้องชายเขาจะไม่มีทางให้เมียไปทำแน่ ๆ“ไม่ใช่เรื่อง!”นั่นไง! เขาเดาพลาดเสียที่ไหนทุกคนขำกับความหวงเมียของปริญจากนั้นไม่นานก็มานั่งหารือกันต่ออย่างจริงจัง โชติภิวรรธต้องการจัดการกับข่าวเสียหายให้ไวที่สุดเพราะไม่อยากให้กระทบกับทั้งภาพลักษณ์ ธุรกิจ และสำคัญที่สุดคืออยากรักษาจิตใจหลานทุกข่าวที่อยู่ในโลกออนไลน์จัดการไม่ง่าย หากอนาคตข่าวเสียหาย
“ป๊า แม่ กับลุง ๆ ไปพักผ่อนดีกว่านะครับ เรื่องตรงนี้พวกผมจัดการได้” ปรมะเอ่ยเพราะเกรงใจผู้ใหญ่“ใช่ครับ ผมจัดการได้” ปริญเอ่ยต่อ เรื่องพวกนี้ความจริงแล้วเขาจัดการได้สบาย แต่ในวิธีของเขานะ“ฮื่อ! ทำให้ถูกต้องซะ” ท่านวิศรุตกระแทกลมหายใจใส่ตัวต้นเรื่องก่อนจะทิ้งท้ายแล้วปล่อยให้รุ่นลูก ๆ ช่วยเหลือกันเพราะต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ส่วนเจเนอเรชันของพวกท่านก็จะคอยซัปพอร์ตอยู่ห่าง ๆ ก็พอ“ในเพจมีคนแท็กรายการเกาะกระแสเยอะมาก ว่าอยากให้เชิญนับไปสัมภาษณ์จัง ขี้เสือกว่ะ” หมอไธม์[1]ลูกแฝดคนน้องของลุงรองพูดขึ้นเมื่อเห็นโพสต์หนึ่งในโซเชียลที่บุญนำพายื่นมาให้ดู“นี่มันเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่จะมีคดีความหรือมีข้อพิพาทกับใครคนอื่น จะให้ไปทำไมก่อน” บุญนำพาบ่นอุบ“ไงนับ อยากไปไหม” ปรมะถามความสมัครใจดูหากว่ามีรายการไหนติดต่อมานับดาวส่ายหน้าหวือทันทีเพราะเธอไม่ได้อยากไป เธอเองก็อยากจะชี้แจงเรื่องราวเพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเองอยู่เหมือนกัน หากกระนั้นเพราะเรื่องนี้มันมีความเกี่ยวโยงกับทั้งปริญและแน่นอนว่ามันจะต้องลามมาถึงคนอื่น ๆ ในตระกูลโชติภิวรรธ“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ผมจะชี้แจงทุกอย่างในช่องทางโซเชียลของผมเอง
“ขอย่าอุ้มหน่อยนะลูก” ปาริฉัตรขออนุญาตไอร่าที่ท่าทางยังไม่ไว้ใจใครมากนัก เด็กน้อยหันไปมองคนเป็นแม่ และเมื่อเห็นว่านับดาวส่งยิ้มกับพยักหน้าให้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทำได้ สองแขนป้อม ๆ จึงกอดเข้ากับไหล่ของคนที่เรียกตัวเองว่าย่านางปาริฉัตรน้ำตาเอ่อไหล“โถลูก”“ไม่ต้องร้องน้า...” ไอร่าเช็ดน้ำตาช่วยปลอบใจ แม้ไม่รู้ว่าหญิงชราร้องไห้เพราะเหตุใด“เข้ามานี่สิ” ท่านวิศรุตกวักมือเรียกนับดาวให้เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวลังเลอยู่ชั่วครู่ เธอกวาดมองสีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องเกือบสิบชีวิตก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปตอนนี้เธอแทบจะกลั้นหายใจเพราะทำตัวไม่ถูกที่สุดในชีวิต เกร็งชนิดที่แม้แต่ก้าวขาก็ยังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกินอยากใช้สกิลนักแสดงอันน้อยนิดของตัวเอง อยากควบคุมอารมณ์ สีหน้าและควบคุมสถานการณ์ให้ได้ หากในชีวิตจริงมันไม่ง่ายเลยให้ตาย“ผมขอข้ามขั้นตอนแนะนำตัวกับไหว้พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ไปก่อนเลยนะครับ ขอหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนก็แล้วกัน” ปริญเอ่ย“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น”“ไว้วันหลังค่อยเลี้ยงต้อนรับหลานกับนับดาวละกันนะ”“ป้ามีของขวัญจะให้หลานด้วยแหละ”“ใช่ อาเองก็มีของจะให้”“ตาก็มี ให้วันนี้เลยไม่ได้รึ
“แล้วดูสิ รอไม่กี่วัน ฉาวเลยเห็นไหม” เป็นบุญนำพา[1]ญาติผู้พี่ ลูกสาวของลุงภาส[2]ที่นั่งเงียบดูงานในแท็บเล็ตอยู่นานสองนานเอ่ยขึ้น“ตอนนี้กระแสดรามาโจมตีนับดาวจนได้ข่าวว่าโดนถอดงาน ยกเลิกสัญญาจ้างเพียบเลยนี่นา” บุญนำพาเป็นเจ้าแม่ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการค้าขายออนไลน์ เรียกได้ว่าตัวแม่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เธอมักจะทันโลกเสมอเพราะวนเวียนทำงานกับคนในวงการนี้“ถอดก็ถอดไปดิ ผมเลี้ยงเอง”“ตลก!” บุญนำพาเบะปาก เข้าใจแล้วว่าทำไมน้าปริมถึงอยากจะเอาเลือดหัวไอ้ปริ๊นออกนัก เพราะปากมันเป็นแบบนี้ไง จนเธอเองก็คันมือคันเท้าอยากจะฟาดหลังมันสักทีสองทีอยู่เหมือนกัน“คิดว่าผู้หญิงเขาจะภูมิใจเหรอ”เออ ไม่ปริญตอบในใจเพราะเรื่องนี้นับดาวเคยพูดกับเขาแล้วเช่นกัน เธอเองอยากยืนด้วยตัวเองได้เพราะไม่มั่นใจจะฝากชีวิตไว้กับเขาอีกแล้ว และเธออยากภูมิใจในตัวเอง เรื่องนี้เขาก็เข้าใจ“งั้นจะแก้ปัญหายังไง ไหนพูดมาสิปริ๊น” ลุงรองเอ่ยถามตอนนี้สมาชิกโชติภิวรรธเกือบครึ่งตระกูลมาชุมนุมกันที่บ้านใหญ่ของวิศรุตเพราะเรื่องของปริญ นี่เป็นเพียงสมาชิกที่อยู่ใกล้และว่างพอในตอนนี้เท่านั้น หากมารวมตัวกันหมดตระกูลอาจจะต้องไปที่ห้
“มันก็ทำสาวท้องเหมือนกัน ทำไมผมโดนด่าอยู่คนเดียวอะแม่” ปริญเถียงคำไม่ตกฟาก ถ้าพูดถึงเรื่องทำสาวท้องโย้ก่อนแต่ง บ้านนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวแหละวะ พี่ปลื้มคือตัวบุกเบิกเลยในเจเนอเรชันหลาน ๆส่วนไอ้มาวัชร์นี่แผลสดมาก ตัวจี๊ดคนล่าสุด ยังไม่รวมพี่ธาร์ลูกลุงรองอีกคนนะ เขาจะลากไอ้มาวัชร์มันมาโดนด่าด้วยกันเผื่อจะได้ทุเลาเรื่องบาปของตัวเองลงบ้าง“เฮ้ย ๆ มึงอย่าโยนขี้มาให้กูนะไอ้ปริ๊น” มาวัชร์[1]รีบค้าน เขาเพิ่งโดนพ่อด่าไปเองสด ๆ ร้อน ๆ เลยด้วยซ้ำมาวัชร์ไม่อยู่รอให้ตัวเองโดนเพ่นกบาลอีกรอบก็รีบลุกหนีออกจากบ้านอาเล็กทันควัน ทำหลายคนในบ้านส่ายหน้าขำปนหน่ายใจ“พอเถอะปริม เดี๋ยวจะเป็นลมล้มพับเอา” ลุงรอง[2]พี่ชายอีกคนของวิศรุตเอ่ยปรามเพราะเห็นคนเป็นน้องสะใภ้หายใจหอบเหนื่อยเต็มที่แล้ว กลัวจะเป็นลมล้มพับเอาได้บวกกับวิศรุตที่รีบไปรวบไหล่เมียรักแล้วลูบปลอบให้ใจเย็น ปาริฉัตรถึงได้ยอมหยุดให้ หากทว่าก็ยังนั่งชี้หน้าด่าปริญอีกหลายคำ“โห... ทีกับพี่ปลื้มแม่ไม่เห็นด่างี้บ้าง” เขาจำได้ตอนนั้นมารดาด่าปรมะพี่ชายเขาเรื่องทำพี่ตะวันท้องจนต้องหนีไปคลอดที่ฮ่องกง แม่ด่าน้อยมาก ไม่ใช้คำหยาบคายเลยด้วยซ้ำ“ด่าน้อย แต่







