แชร์

จัดการที่ดิน

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-11 02:26:09

เมื่อทั้งสี่คนกลับถึงบ้าน หวังเจียวจิ้นก็นำเงินออกมาให้นางเหมยฮวาทันที นางเหมยฮวาแทบเป็นลมเมื่อรู้ราคาขายเห็ดหลินจือ และรู้เรื่องที่ซื้อที่ดินเพิ่ม นางไม่ต่อว่าที่ทุกคนตัดสินใจโดยไม่บอกนาง

นางดีใจจนหลั่งน้ำตาออกมา ที่หน้าหนาวปีนี้ครอบครัวหวังจะผ่านช่วงเวลาโหดร้ายของฤดูกาลไปได้ นางเหมยฮวาดึงมู่หลินมากอดพร้อมกล่าวขอบคุณสวรรค์ที่มอบสิ่งดีๆ ให้แกครอบครั้งตนเอง

หน้าหนาวทุกปีบ้านหวังทั้งห้าต้องมานอนเบียดกันในห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กัน เพราะไม่มีชุดหนาๆ ใส่ ผ้าห่มก็บางจนแทบจะต้องทิ้งไปทำผ้าขี้ริ้วแล้ว

หลังมื้อเย็นครอบครัวหวังก็เข้านอนอย่างมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะหาอะไรให้ครอบครัวกิน ไม่ต้องห่วงน้องเล็กจะไข้ขึ้นตอนไหน

ก่อนแยกกันมู่หลินบอกให้พี่ใหญ่กับพี่รองเตรียมตัวฝึกกับนางพรุ่งนี้ยามอิ๋น(03.00-04.59น.) ท่านพ่อที่อยากจะแข็งแกร่งเพื่อดูแลครอบครัวเพราะตนเองที่เป็นถึงหัวหน้าก็อยากจะปกป้องลูกสาวและทุกคน ไม่อยากจะอ่อนแอเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วก็เข้าร่วมการฝึกด้วย

วันแรกของการฝึก มู่หลินให้ทุกคนวิ่งจากบ้านขึ้นเขาเป็นระยะทาง 2 ลี้ ไปกลับห้ารอบ เพราะร่างกายของบุรุษบ้านหวังนั้นเพิ่งได้กินดีแค่ไม่กี่วันนางเลยต้องค่อยๆ ปรับร่างกายให้ทุกคน โดยมู่หลินก็ร่วมวิ่งด้วย

แม้จะขึ้นเขาลงเขากันอยู่ทุกวัน ใช้แรงงานในนาเป็นประจำแต่พอให้ออกกำลังจริงๆ แต่ละคนก็ถึงกับหอบเกือบจะหน้ามืดเลยทีเดียว มู่หลินก็รู้ถึงร่างกายนี้ของนางช่างอ่อนแอยิ่งนัก

เมื่อวิ่งครบแล้วและได้นั่งพักกันมู่หลินให้ทุกคนนั่งท่าม้าฝึกการทรงตัวอีก ครึ่งชั่วยาม มู่หลินให้ฝึกเพียงเท่านี้ไปก่อนเพื่อให้ร่างกายปรับตัวนางจึงกำหนดให้ฝึกตามนี้เจ็ดวัน

หลังจากแยกย้ายไปอาบน้ำ มู่หลินจึงเข้าไปในมิติเพื่อหายาพวกวิตามินบำรุงร่างกายให้มารดา เพราะตั้งแต่ที่คลอดพี่รองและนางมานั้น นางจางซิงไม่ได้ให้มารดานางอยู่ไฟ

โดยใช้ให้ทำงานทันทีหลังคลอดได้เพียงห้าวัน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แม้จะได้รับยาบำรุงจากเงินที่ท่านพ่อแอบเก็บไว้ไปซื้อแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าใดนัก

มู่หลินจึงพอมีเวลาสำรวจลำธารสักที นางลองใช้มือรองน้ำขึ้นมาดื่มปรากฏว่าของดี รางกายที่ปวดเมื่อยจากการออกกำลังมานั้นหายไปทันที มู่หลินนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่านผ่านตา ทั้งพวกผู้ช่วยพยาบาลเล่ากันอยากสนุกเรื่องความวิเศษของน้ำ

นางเลยลงไปอาบน้ำในลำธาร มู่หลินรู้สึกตัวเบาสบายนางหลับตาอย่างผ่อนคลายแต่ที่มู่หลินไม่ได้สังเกตเลยว่าสิ่งที่ออกมาจากตัวเธอนั้นทั้งดำทั้งมีกลิ่นเหม็น พอนางลืมตาขึ้นสิ่งสกปรกในน้ำก็แทบจะหายไปหมดแล้ว เมื่อนางมองแขนขาก็พบว่ามันขาวใสจนเหมือนฉีดวิตามินเข้าผิวของโลกก่อนเลย

มู่หลินวิเคราะห์มีความเป็นไปได้ที่มารดาของนางนั้นจะต้องโดนพิษมาแน่นอน ถึงใบหน้าจะงดงามแต่ก็หมองคล้ำจนกลบความงามไปจนสิ้น บุตรทั้งสามนั้นหน้าตาดีทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่มารดาของนางจะเป็นสตรีหน้าตาบ้านๆ

มู่หลินรีบออกจากมิติเพื่อไปพบบิดามารดา แต่ผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้านเริ่มทยอยมากันแล้วนางจึงเก็บเรื่องนี้ไว้คุยกับครอบครัวในตอนกลางคืนแทน

ทางฝั่งบ้านใหญ่ หลังจากเงียบหายไปเพราะกลัวบ้านเจียวจิ้นจะมาขอข้าวกิน พอรู้เรื่องที่เจียว จิ้นซื้อที่กับกำลังจะปลูกบ้านใหม่ก็เต้นเป็นเจ้าเข้าเกิดอาการไม่ยินยอม

ท่านปู่หวังเหล่ยนั้นดีใจกับความโชคดีของบุตรชายจึงมาช่วยตั้งแต่เช้าที่รู้ข่าวแล้ว นางจางชุนนั้นยิ่งเจ็บแค้นเข้าไปใหญ่เพราะต้องเป็นนางที่ได้ตบแต่งกับเจียวจิ้นมิใช่นางเหมยฮวา จึงได้ยุนางจางซิงให้ไปทวงเงินที่ขายสมุนไพรมาเป็รของพวกตน

เจียวจิ้นต้องแสดงความกตัญญูต่อบ้านใหญ่ ยิ่งหวังจงรู้เรื่องด้วยนั้นก็ยิ่งเกิดความโลภอยากได้เงินทั้งหมดของเจียวจิ้นไปต่อเงินในบ่อนพนัน

ผู้ใหญ่บ้านเหมาเมื่อวัดที่เสร็จแล้วก็ให้เจียวจิ้นลงนามเพราะเขาต้องเอาหนังสือไปลงชื่อเปลี่ยนเจ้าของที่ว่าการอำเภอ เจียวจิ้นก็จ่ายเงินให้พร้อมให้ค่าน้ำชาอีกห้าตำลึงเงิน เพราะที่ว่าการอำเภอนั้นต้องใช้เกวียนเดินทางไปถึงหนึ่งชั่วยามเลยทีเดียว ถ้าเดินเท้าก็สองชั่วยามได้

มู่หลินก็แจกจ่ายหน้าที่ให้ชาวบ้านที่มาผู้ชายที่มีกำลังให้ถากหญ้า ขุดต้นไม้ ขุดรากไม้ ผู้หญิงที่แข็งแรงก็ให้ช่วยเก็บหญ้าทิ้ง ต้นไม้รากไม้ท่านพ่อให้แยกไว้ใช้ทำฟืน

ท่านแม่ได้เชิญสตรีที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อย่างป้าสะใภ้ใหญ่หาน ภรรยานายพรานหลี่นางจื่อรั่ว สะใภ้ใหญ่ของผู้ใหญ่บ้านเหมานางหนิงเหอ ให้มาทำอาหารกลางวันให้คนงานโดยให้ค่าแรงยี่สอบอีแปะ

เด็กๆ ที่ตามพ่อแม่มาช่วยงาน มู่หลินแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละห้าคน ได้หกกลุ่ม ให้เด็กที่โตสุดของแต่ละกลุ่มดูแลเด็กเล็กๆ ด้วย ให้เก็บหินโดยให้นำตะกร้ามาด้วยของแต่ละคน ถ้าตะกร้าเล็กให้หนึ่งอีแปะ ตะกร้าขนาดใหญ่ให้สามอีแปะ โดยให้นางเหมยฮวาเป็นคนจ่ายเงิน พอเก็บได้เต็มแล้วก็เอามาให้นางเหมยฮวาดูแล้วนำหินไปเทในพื้นที่ที่มู่หลินกำหนดไว้

เสร็จงานในหนึ่งวันทุกคนจะมารอรับเงินกันโดยมีหวังเจียวโจวจ่ายเงิน เด็กๆที่ มาช่วยบางคนได้ถึงยี่สิบอีแปะเลยทีเดียว นางเหมยฮวาเลยบอกพ่อแม่เด็กว่าให้ทำถุงใส่เหรียญแบบคลองคอมาด้วยพรุ่งนี้ จบงานวันแรกทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

คนงานก็ขยันอย่างมากเพราะบ้านหวังเจียวจิ้นมีอาหารกลางวันที่มีเนื้อให้กิน ตอนยามเซิน(15.00-16.59น.)ผู้ใหญ่บ้านเหมาก็นำหนังสือรับรองที่ดินจากที่ว่าการอำเภอมาให้ด้วย

ตอนที่บ้านหวังกินอาหารเย็นมู่หลินจึงได้สอบถามมารดาถึงความสงสัยของนาง ที่มารดาอาจจะโดนพิษก่อนที่จะความจำเสื่อม มารดานั้นจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มู่หลินจึงเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนอาบน้ำในลำธาร

บุรุษบ้านหวังทั้งสามนั้น มีสีหน้าเคร่งเครียดทันที มู่หลินบอกหลังกินอาหารเสร็จจะให้ทุกคนเข้าไปแช่น้ำในมิติทุกคนจึงมีสีหน้าที่ดีขึ้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ตอนจบ

    ห้าปีผ่านไปชายแดนประจิมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ชาวเมืองแคว้นฉีเริ่มเข้ามาทำการค้ามากขึ้น ถึงกับมีตลาดชายแดนที่ทั้งสองแคว้นจะนำสินค้าของตนมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ชีวิตชาวบ้านจึงดีขึ้นมู่หลินได้หาพืชผักที่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเข้ามาปลูก นางยังค้นพบภูเขาที่มีดินเค็ม เมื่อถวายฎีกาถึงฮ่องเต้ให้ทราบเรื่องแล้ว พระองค์ได้ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงภูเขาผลิตเกลือออกมาจำหน่าย โดยหักภาษีเข้าคลังเพื่อพัฒนาพื้นที่เมืองอื่นต่อไปฮ่องเต้ฉู่เฟยหลางสละราชบัลลังก์ให้กับองค์รัชทายาทขึ้นปกครองตอนนี้เจ้าลูกเต่าทั้งสามติดตามบิดาเข้าไปฝึกวรยุทธ์ในค่ายทหาร เพราะไป๋เฟยหรงหมั่นไส้บุตรชายทั้งสามที่เกาะติดมู่หลินมากเกินไปไป๋หมิงยู่ ไป๋หรงซิ่ง ไป๋เฉินกง เวลาอยู่กับบิดาทั้งสามจะทำตัวนิ่งขึม เหมือนเช่นบิดา พอลับหลังบิดา ทหารที่เป็นพี่เลี้ยงทั้งหลายล้วนปวดหัวกันเป็นแทบ เด็กชายทั้งสามพี่ใหญ่วางแผน พี่รองดูต้นทาง น้องเล็กหลอกล่อ กลยุทธ์ที่ร่ำเรียนมาจากกงหยวนนั้นเรียกได้ว่าตอนนี้เก่งเกินอาจารย์เสียแล้วแม้แต่กงหยวนยังเจ้าเล่ห์ไม่ได้เท่าไป๋หรงซิ่งเลย หากหนีเรียนวันใดแล้วโดนจับได้ ไป๋เฉินกงจะทำหน้าที่เรียกร

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทส่งท้าย

    ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนก็มาถึงแดนประจิม จวนท่านแม่ทัพนั้นไม่มีอะไรให้มู่หลินปรับปรุงแก้ไขนอกจากห้องน้ำ นางอยากจะเอาที่นอนออกมาใช้ใจจะขาด แต่ยังไม่ได้บอกกล่าวเรื่องมิติที่มีให้กับเฟยหรงได้รู้มู่หลินที่นอนไม่สบายตัวก็ขยับไปมาจนเฟยหรงรู้สึกตัว“น้องหญิง นอนไม่หลับหรือ” เฟยหรงดึงตัวมู่หลินมา กอด“ท่านพี่ข้าจะพาท่านไปที่แห่งหนึ่ง” พูดจบมู่หลินก็พาเฟยหรงเข้าไปในมิติของตน“ที่นี่คือที่ใด” เฟยหรงมองรอบๆ อย่างโง่งม ที่นี้สวยมากจริงๆ ลำธารที่น่าลงไปแช่ ภูเขาด้านหลังก็ดูอุดมสมบูรณ์ ไหนจะแปลงสมุนไพรหลากหลายชนิด พืชผักผลไม้เต็มไปหมด ทุ่งข้าวที่เหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว กระท่อมหลังน้อยที่อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้“ที่นี่คือมิติของข้าเจ้าค่ะ” มู่หลินพาเฟยหรงเข้าไปในกระท่อม ด้านในเครื่องเรือนของใช้ไม่เหมือนที่เขาเคยเห็น นางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดของนางตั้งแต่แรกให้ฟัง ก็เหมือนสิ่งที่นางเล่าให้ครอบครัวฟังเฟยหรงกอดมู่หลินยิ่งนึกถึงว่านางเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่งใจเขาก็ยิ่งปวด“หากเจ้าไม่อยากนำที่นอนออกไปด้านนอก เจ้าจะบอกพี่เรื่องนี้หรือไม่” เฟยหรงเอ่ยอย่างน้อยใจ มู่หลินจึงจูบไปที่มุมปากเพื่อเอาใจ“ย่อมต้อง

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานมงคล

    ไป๋เฟยหรงกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ตัวแทบจะติดกับมู่หลินเลยทีเดียว ยิ่งมู่หลินออกไปข้างนอกเฟยหรงแทบจะให้นางใส่ผ้าคลุมทั้งตัวไม่ใช่ว่าไม่มีสตรีเข้าหาเฟยหรงนะ มีมากเลยทีเดียว สาวใช้ที่มาใหม่ในจวนไป๋ที่คิดจะปีนเตียงเฟยหรง โดนเฟยหรงถีบออกมาจากห้องรักษาตัวอยู่ห้าวันกว่าจะลุกขึ้น เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นใครจะกล้าเสี่ยงขุนนางที่ใจกล้าก็อยากจะยกบุตรสาวให้เป็นอนุ ตอนเช้ามาทหารเข้ามาจับกุมโดนขุดความผิดที่ตนก่อไว้ตั้งแต่เริ่มเป็นขุนนาง แม้จะเล็กน้อยไม่โดนตัดสินโทษหนักก็ย่อมต้องโดนลดขั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ขุนนางทั้งหลายเลยเลิกยุ่งกับแม่ทัพไป๋ไปโดยปริยาย“หลินเออร์ แม่ว่าเจ้าแต่งให้ท่านแม่ทัพเสียเลยเถิด ตอนนี้เจ้าก็ 17 หนาว แล้ว พ่อกับแม่มีพี่รองของเจ้าอยู่ด้วย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เหมยฮวาเรียกมู่หลินมานั่งพูดคุย เพราะนางก็เห็นใจว่าที่ลูกเขยเช่นกัน“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ” มู่หลินยอมตกลงเฟยหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะวิ่งไปป่าวประกาศให้คนทั้งเมืองหลวงได้รู้กันทั่ว เฟยหรงรีบเข้าวังหลวงไปขอฤกษ์มงคลที่เร็วที่สุด แล้วก็เร็วจริงๆ งานจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้ามู่หลินขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโมโห สั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   แต่งเลยมิได้หรือ

    แล้วก็ถึงวันสอบเตี้ยนซื่อ หน้าพระที่นั่ง โดยวันสอบจะมีฮ่องเต้เป็นผู้คุมสอบและออกข้อสอบ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งจะได้เป็น จอหงวน อันดับที่สอง ปั๋งเหยี่ยน อันดับที่สาม ทั่นฮวาครอบครัวหวังมาส่งเจียวโจวกับเจียวจ้านหน้าสนามสอบ“ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดพอ พ่อไม่คาดหวังว่าเจ้าทั้งสองจะติดสามอันดับ” เจียวจิ้นให้กำลังใจบุตรชาย“แต่ข้าคาดหวังว่าท่านพี่ทั้งสองจะได้จอหงวนเจ้าค่ะ”เจียวโจวดีดหน้าผากมู่หลิน เจียวจ้านตบอกให้น้องเล็กรอดูได้เลยเมื่อทั้งสองเดินเข้าสนามสอบแล้ว เจียวจิ้น เหมยฮวา มู่หลินจึงกลับไปรอที่จวนระหว่างรอผลสอบ ข่าวที่ส่งจากโยวโจวทำให้เฟยหรงถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบควบม้าออกมาจากค่ายทหารนอกเมืองเพื่อขอความเห็นใจจากมู่หลินทันที่“หลินเออร์” เฟยหรงเอ่ยเสียงอ่อยเรียกมู่หลินมู่หลินเลิกคิ้วรอฟังว่าพ่อตัวดีจะพูดสิ่งใด"เยว่เออร์ตั้งครรภ์แล้ว""อืม" ใช่เรื่องนี้นางรู้แล้ว เพราะห่าวหรานส่งข่าวมาเช่นกัน"หลินเออร์ แต่งเลยมิได้หรือ" มู่หลินหรี่ตามองเฟยหรง"กลับค่ายไปเลย" นางกัดฟันพูดผลการสอบเตี้ยนซื่อ ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เจียวโจวได้เป็นปั๋งเหยี่ยน เจียวจ้านได้อันดับที่ห้า เด็กๆ

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานปักปิ่นมู่หลิน

    ท่านผู้เฒ่าเซี่ยมาถึงก็เมืองหลวงพักผ่อนเพียงหนึ่งวันก็พาคนทั้งตระกูลเดินทางเข้าสู่วังหลวง"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี""ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธี" ฮ่องเต้มองสหายต่างวัยด้วยความคิดถึง"เซี่ยหลี่เฉียงรับราชโองการ ตระกูลเซี่ยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ มีความดีความชอบร่วมปราบกบฏองค์ชายใหญ่ในครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงพระราชทานตำแหน่งกั๋วกง ขั้นหนึ่ง ประทานจวนหน่งหลัง เงินรางวัล 50,000 ตำลึงทอง ผ้าไหม 20 พับ เครื่องประดับ 5 หีบ จบราชโองการ " ขันทีประกาศราชโองการแม้ของรางวัลที่ได้จะไม่อาจเทียบเท่ากับของที่เคยโดนยึดไป แต่ตระกูลเซี่ยก็ไม่เสียดาย เพราะทรัพย์สินของตระกูลตอนนี้มีมากมายเทียบเท่าเงินในคลังหลวงได้ฮ่องเต้ยังคงต้องใช้เงินเยี่ยวยาชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏขององค์ชายใหญ่ในครั้งนี้อีกมากตระกูลเซี่ยเข้าพักในจวนหลังใหม่ ท่านตาท่านยายยังบ่นกับมู่หลินเรื่องที่นอนนั้นนอนไม่สบายเท่าที่หมู่บ้านชุนหง ห้องน้ำก็ไม่สะดวกสบาย หลานสาวแสนดีจึงเอาใจด้วยการเอาที่นอนของใช้ออกมาให้ทุกคน ท่านตาท่านยายเลยได้ยิ้มหน้าบานครอบครัวหวังเจียวจิ้นนั้นแยกตัวไปอยู่จวนที่ห่าวหรานซื้อไว้ หากให้นั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทลงโทษของกบฏ

    เซี่ยซีห่าวนำทัพพร้อมพวกกบฏเดินทางถึงเมืองหลวงหลังจากที่ไป๋เฟยหรงถึงเกือบสิบวันฮ่องเต้สังประหารขุนนางฝ่ายกบฏทั้งหมด ขุนนางคนใดที่โทษไม่หนักก็เนรเทศออกไปใช้แรงงานที่ชายแดน ส่วนองค์ชายใหญ่นั้นทดพิษบาดแผลไม่ไหวชิงตายไปเสียก่อนวันตัดสินโทษเพียงแค่สองวัน หวงกุ้ยเฟย เสนาบดีเว่ย เว่ยซูเหิง โดนตัดสินให้แล่เนื้อเถือหนังจนกว่าจะสิ้นใจตายส่วนคนในจวนตระกูลเว่ยและตำหนักขององค์ชายใหญ่ที่ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็โดนเนรเทศสั่งห้ามทั้งหมดกลับเข้าเมืองหลวงและหมดสิทธิ์เข้าสอบขุนนางตลอดชีวิตเว่ยซูเม่ยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏครั้งนี้ แต่นางมีความผิดที่ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารมู่หลินหลายครั้ง จึงโดนตัดสินให้ประหารชีวิตด้วย ถึงแม้มู่หลินจะเสียดายที่นางไม่ได้เป็นคนจัดการเอง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะโทษตายที่นางได้รับนั้นสมควรแล้วขุนนางกว่าครึ่งในท้องพระโรงที่โดยตัดสินโทษครั้งนี้ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ทรงร้อนใจเท่าใด เพียงแต่ตั้งขุนนางตงฉินเข้ามาแทนในตำแหน่งสำคัญที่หายไป ส่วนในตำแหน่งอื่นนั้น ทรงรอการสอบหน้าพระที่นั่งในอีกหกเดือนที่จะถึงนี้ คงเติมเต็มท้องพระโรงได้ครบทุกตำแหน่งเวลาที่ครอบครัวบ้านหวังรอก็มาถ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status