แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-16 23:29:51

หลังจากแยกกับธีรภพออกมาข้างนอกกับอัฐพล ตลอดทางเดินไม่มีใครปริปากส่งเสียงหรือชวนคุยแต่อย่างใดออกมา โดยเฉพาะขนิษฐาที่เอาแต่เสมองไปทางอื่นพลางก้าวเดินอย่างไม่เร่งรีบหรือเชื่องช้าแค่รักษาระยะห่างอย่างพอเหมาะ ภายในใจคอยคิดหาทางแยกออกจากชายหนุ่มเพื่อเดินกลับไปอีกทางซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านยา ทว่าอากัปกิริยาของเธอที่เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในสายตาของเขาตลอด ฉะนั้นเขาจึงดูออกว่าเธอไม่ได้คิดลงมาหาของกินอย่างที่บอกและรอให้อีกฝ่ายพูดขึ้นมาเองตลอดตั้งแต่เดินออกมาจากคอนโด ท่าทีที่คอยหาทางหนีทีไล่สลับเลี้ยวหลังมองอีกทางจึงทำให้เขารู้ พลันรอยยิ้มขบขันก็เผยขึ้นจนคนที่เสมองไปทางอื่นไม่สนใจคนร่างสูงข้างกายต้องหันมามองพลางถามด้วยความสงสัย

            “คุณอาหัวเราะอะไรคะ”

            “หัวเราะหนูนิดไง ตกลงไม่ได้จะออกมาหาอะไรกินใช่มั้ย” อัฐพลหยุดเดินหันมามองหน้าขนิษฐาก่อนจะตอบคำถามจึงทำให้หญิงสาวพลอยหยุดเดินหันไปมองเขาเพื่อรอคำตอบ ทว่าคำตอบของเขาทำให้เธอชะงักกึกหลุบตาหนีรอยยิ้มและแววตารู้ทันของอีกฝ่ายที่มองมา เธอเงียบไม่ตอบจะหาข้อแก้ตัวก็คงไม่ดีในเมื่อเขารู้แล้วหากจะดิ้นรนโป้ปดต่อไปก็มีแต่เสียกับเสีย มิหนำซ้ำจะทำให้ตัวเธอลำบากเสียเองที่ทำตัวไม่ดีใส่ผู้ใหญ่ กระทั่งมือใหญ่ที่ยื่นมาจับปลายคางดันให้เธอเงยขึ้นมาสบตาด้วยกิริยาอ่อนโยนจนหัวใจสั่นไหวระรัวไปกับชายหนุ่มตรงหน้าที่เป็นถึงคุณอาของเพื่อนที่ได้ครอบครองร่างกายของเธอเป็นคนแรก

            “บอกอามาตามตรงหนูนิด หนูลงมาซื้ออะไรมืดค่ำแบบนี้”

            ขนิษฐานสบตาคนร่างสูงนิ่งเงียบยังไม่ยอมพูดออกไปเธอยังรู้สึกกระดากอายที่จะพูดออกไปทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะพูดออกไปเลยสักนิด แต่เธอก็ยังไม่อยากยอมรับว่าตัวเองกำลังเขินอายที่จะพูดความจริงออกไปเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ความลังเลของเธอฉายชัดให้ได้เห็น สร้างความสงสัยให้กับชายหนุ่มจนต้องเร่งถาม

            “หนูนิด ตกลงหนูลงมาซื้ออะไร”

            “เอ่อ หนู...” เธอไม่อยากพูดออกไปเลยด้วยความอายคนร่างสูงหากอีกฝ่ายรู้เข้ามีหวังล้อให้รู้สึกอายมากไปกว่านี้เป็นแน่ แค่เขาเร่งถามพลางจ้องราวกับเหยี่ยวเช่นนี้ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า

เธอยังลังเลอึกอักไม่ยอมตอบเสียทีเขาจึงรั้งเอวหญิงสาวประชิดตัวยื่นใบหน้าไปใกล้ มือที่ยังจับคางของเธอล็อกให้เชิดขึ้น

            “เราไม่มีอะไรที่ต้องอายกันนะหนูนิด...เรื่องที่ทำให้อายเราก็ทำมาแล้ว” เขายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจก่อนจะเบี่ยงใบหน้าลากไล้ริมฝีปากไปตามแก้มนวลพลางกระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างใบหูของเธอ ขบติ่งหูตบท้ายสร้างความวาบหวามไปทั่วกายและยังใช้ริมฝีปากคลอเคลียสันกรามลากต่ำเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ทำให้คนตัวเล็กยอมปริปากบอกจนสำเร็จ

            “หนูแค่ลงมาซื้อยาคุมค่ะ! คุณอาปล่อยนะคะ นี่มันที่สาธารณะ”

            “ถ้าเป็นบนห้อง อาทำได้ใช่มั้ยหนูนิด” แม้จะได้คำตอบแล้วแต่อัฐพลก็ไม่ยอมผละออกอย่างง่ายดาย เขายังคงลากไล้ริมฝีปากสัมผัสผิวเนียนนุ่ม สูดดมกลิ่นหอมอ่อนจากซอกคอของหญิงสาวก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่งเมื่อเธอกล่าวเตือน

            “ได้คำตอบแล้วปล่อยสิคะ มีคนเดินมานู่นแล้วนะคะคุณอา”

            “ไปเถอะ เดี๋ยวอาพาไปซื้อ อาไม่อยากให้มาเสียเวลาตรงนี้นาน อาอยาก...แล้ว”

            “คุณอา!” เธอแหวใส่อัฐพลพลางถลึงตาใส่อย่างตกใจแกมไม่พอใจเมื่อสิ่งที่เขาพูดออกมาไม่ได้พูดเสียงแผ่ว เปล่งเสียงพูดจนคนที่กำลังเดินผ่านหันขวับมามอง มิหนำซ้ำเธอยังอยู่ในชุดนักศึกษาส่วนเขาก็อยู่ในชุดทำงานที่ไม่ได้เรียบร้อยนัก อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปกันใหญ่ได้

แม้คนที่เดินผ่านไปจะไม่รู้จักเธอก็ตามแต่สำหรับเขาแล้วมีแต่คนรู้จักในฐานะท่านรองประธานบริษัทส่งออกเครื่องเพชรชื่อดัง แถมสถานะก็โสดมีแต่คนคาดหวังว่าเขาจะมีภรรยาที่เป็นหน้าเป็นตา หากมีคนมาเห็นแล้วจำได้แอบถ่ายรูปไปเผยแพร่ งานนี้เขาคงมีแต่เสียกับเสีย คำซุบซิบติฉินนินทาไม่ใช่พูดแล้วให้รู้สึกดีเสียหน่อย มีแต่บั่นทอนจิตใจคนฟัง ไม่มีใครรู้จักเธอเดี๋ยวเรื่องก็เงียบไปแต่กับเขาเนี่ยสิ ออกข่าวเกือบทุกวันเมื่อมีการเคลื่อนไหว

             ชายหนุ่มไม่สนใจอากัปกิริยาของหญิงสาว กุมมือของเธอเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อตรงไปยังร้านยา ไม่สนใจคนบางกลุ่มที่มองมาด้วยความคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจึงทำให้เธอพยายามดึงมือของตัวเองออกจากมือใหญ่แต่ไม่เป็นผล หนำซ้ำยังถูกเขากระชับแน่นมากขึ้นเธอจึงยอมให้เขาเดินจับมือไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ พลันคิดในใจว่ายังดีที่เขาไม่โอบเอวเธอเดิน ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านขายยาและกำลังจะก้าวเข้าไปแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อขนิษฐาใช้มือที่ว่างรั้งแขนของเขาเอาไว้

            “เดี๋ยวหนูเข้าไปซื้อเองค่ะ มันเป็นของผู้หญิงใช้กัน มันสะดวกกว่าถ้าหนูจะ...”

            “งั้นหนูรออยู่นี่ อาเข้าไปซื้อเอง มีของที่อาเท่านั้นที่จะซื้อได้เหมือนกัน ส่วนของหนูนิดอาไม่สนหรอกว่ามันจะสะดวกหรือไม่สะดวก” ไม่เพียงพูดแต่ชายหนุ่มยังผละออกก่อนเดินเข้าไปในร้านยาเพียงคนเดียว ทิ้งให้เธอยืนมองตามเขาเดินเข้าไปเพียงคนเดียวอยากทำอะไรไม่ได้ เธอจึงเลือกที่จะยืนรออยู่หน้าร้านแทนพลางหันหลังเข้าหาร้านเสมองไปทางอื่นเพื่อรอเขาออกมา

            “เป็นอะไรมาคะ” ทันทีที่อัฐพลเดินเข้ามาเภสัชกรสาวเจ้าของร้านยากล่าวถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มทันทีพลางเหลือบสายตากลับไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าร้านก่อนจะดึงสายตากลับมาที่ชายหนุ่มทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ

            “ขอสิ่งนี้กับยาคุมด้วยครับ”

            เภสัชกรสาวก้มมองกล่องสี่เหลี่ยมสีดำสองกล่องพลางยกยิ้มอย่างเก้อเขินก่อนจะเอ่ยถาม “ยาคุมแบบไหนคะ”

            “มีหลายแบบเหรอ...มีกี่แบบก็เอามาหมดเลยครับ” ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนจะตอบคำถามไปและคำตอบของเขาเรียกเสียงหัวเราะจากเภสัชกรสาวได้เป็นอย่างดีก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังชั้นวางยาคุมกำเนิดหยิบออกมาอย่างที่เคยหยิบเมื่อได้ของที่ต้องการแล้วจึงเดินกลับมาพร้อมกับวางกล่องยาคุมกำเนิดใกล้กับสิ่งที่อีกฝ่ายหยิบมันมาวางบนเคาน์เตอร์พลางพูดด้วยรอยยิ้ม

            “หนูนิดทานยี่ห้อนี้ค่ะ”

            “เธอซื้อที่นี่ประจำเหรอครับ” ถามพลางหันหน้าไปมองหญิงสาวที่ยืนหันหลังให้กับร้านยา

            “ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบาง

            “เธอมี เอ่อ...ผู้ชายคนอื่นมาหานอกจากผมเหรอครับ” อัฐพลละสายตาจากขนิษฐาหันกลับมาถาม แต่คำตอบของเภสัชกรสาวก็ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้เพราะนับตั้งแต่เช้าวันนั้นสาวเจ้าก็หนีหายไป มารู้อีกทีก็เจ้าหลานสาวมาพูดให้ฟังตอนทานข้าวกับครอบครัวว่ากำลังเข้ามาฝึกงานที่บริษัทกับหญิงสาวแม้จะรู้ความเป็นไปของเธอแล้วก็ยังไม่มีเวลาไปหา แต่พอไปยังแผนกที่หลานสาวฝึกงานก็คลาดกันตลอดจนวันนี้ที่เขาตัดสินใจลงไปหาเร็วกว่าทุกครั้งถึงได้พบเธอ

            “ไม่มีหรอกค่ะ คุณคนแรกเลยนะที่ฉันเห็น แถมยังน่ารักเข้ามาซื้อให้หนูนิดอีก ฉันยังแปลกใจเลยว่าทำไมหนูนิดมาซื้อทั้งที่ไม่เห็นว่าหนูนิดจะมีแฟน” เภสัชกรสาวกล่าวแซว

            “ผมรู้แล้วครับ” อัฐพลยกยิ้มมุมปากพลางนึกไปถึงคืนนั้นที่เธอกับเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ก่อนจะถามราคาของทั้งหมด “เท่าไรครับ”

            “สองร้อยบาทค่ะ หลังจากนี้ก็คงมาซื้อบ่อยเลยน่ะสิคะ” เภสัชกรสาวตอบไม่วายแกล้งเย้า

            “ความจริงผมก็ไม่ได้อยากจะมาบ่อยหรอกครับ ผมแถบรอเธอเรียนจบไม่ไหวแล้ว ไม่ใช้ของพวกนี้มันดี...ใช่มั้ยครับ” อัฐพลยื่นเงินให้กับเภสัชกรพลางถาม

            เภสัชกรสาวนิ่งไปครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อเข้าใจในคำพูดของชายหนุ่ม “พูดเสียชัดเจนเลยนะคะ”

            “ก็ผมอยากทำให้มันชัดเจนนิครับ” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณอาเพื่อน   ตอนพิเศษ

    แสงแดดยามสายของวันสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนปลุกให้เชอเอมตื่นจากภวังค์เมื่อแสงแดดที่ลอดผ่านเข้ามาในห้องกระทบลงบนเปลือกตา หญิงสาวยกมือขึ้นมาบังแสงแดดพลางขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดใจก่อนเปลี่ยนมากุมขมับฉับพลันเมื่ออาการปวดศีรษะแล่นปราดขึ้นมาจนต้องร้องโอดครวญออกมาก่อนพลิกตัวนอนตะแคงข้างกุมขมับ “ปวดหัวชะมัด ไม่น่าดื่มเข้าไปเยอะเลยเรา” เสียงหวานบ่นอุบกับตนเองก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งอย่างยากลำบากเมื่ออาการปวดศีรษะยิ่งทวีคูณขึ้น แต่แล้วความรู้สึกเย็นวาบทั่วทั้งตัวส่วนบนก็ทำให้หญิงสาวชะงัก อาการปวดศีรษะทุเลาลงลืมตาขึ้นด้วยความฉงนก่อนมองไปรอบๆ จึงพบว่าตนไม่ได้นอนอยู่ในห้องนอนตัวเอง แต่แล้วสายตาไปสะดุดลงที่กรอบรูปหัวเตียงของอัฐพลจึงรับรู้ได้ว่าตนค้างคืนที่ห้องของผู้เป็นอา ทว่า ขณะที่เชอเอมกำลังเรียบเรียงสติและความทรงจำเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีแขนหนักๆ ของใครบางคนมาพาดลงบนหน้าตักของตัวเอง หญิงสาวจึงก้มลงมองแขนแกร่งที่อยู่บนตักแต่ไม่เท่ากับความน่าตกใจที่ได้พบว่าตัวเองกำลังเปลือยเปล่า เธอรีบปัดแขนแกร่งออกจากตักพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อ

  • คุณอาเพื่อน   บทส่งท้าย

    เสียงคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่งไพเราะรับเข้ากับเสียงลมและเสียงธรรมชาติชวนให้ขนิษฐาที่นั่งอยู่บนผ้าปูริมชายหาดระบายยิ้มรับสายลมอย่างมีความสุขพลางหลับตาพริ้มสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ยิ่งเพิ่มรอยยิ้มยิ้มให้กว้างขึ้นเมื่อเวลานี้เธอสามารถยิ้มได้อย่างไม่ติดขีดใดๆ ได้อีกเมื่อความสุขที่แท้จริงได้ก่อเกิดขึ้นในชีวิตของเธอแล้ว เมื่อเสียงหัวเราะใสอย่างสนุกสนานของลูกชายวัยห้าขวบที่กำลังวิ่งหยอกล้อกับผู้เป็นพ่ออยู่เบื้องหน้า ขนิษฐาเปิดเปลือกตาขึ้นมามองภาพอัฐพลกำลังวิ่งไล่จับลูกชายก่อนจะจับได้พลางยกขึ้นจากพื้นทรายเพื่อเล่นให้ลูกชายรู้สึกหวาดเสียวอย่างสนุกสนานและชอบใจ มือเล็กที่เท้ากับพื้นยกขึ้นมาเพียงหนึ่งข้างเพื่อลูบวนเบาๆ ที่หน้าท้องนูนของตนที่มีอายุครรภ์ในหกเดือน หญิงสาวมองสามีและลูกชายอย่างมีความสุขอย่างเต็มความรู้สึกหลังเหตุการณ์มากมายผ่านพ้นไป พลันฉุกคิดถึงตนเองที่ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลอีกครั้งแม้จะพบว่าลูกของหญิงสาวปลอดภัยแต่ก็ควรระวังไม่ให้ออกแรงด้วยเพราะเจอเหตุการณ์และการกระทบกระเทือนมา จนคนเป็นพ่อลูกชายวัยห้าขวบกังวลจนเธอแทบทำอะไรเองไม่ได้จัดการให้ทุกอย่างจนแพทย์สั่งให้กลั

  • คุณอาเพื่อน   บทที่ 35/2

    “นี คุณหยุดเถอะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา” จิระภัทรพูดเตือนสติบ้าง“ไม่ต้องพูด คุณบอกฉันว่าเป็นศัตรูกับอัฐไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ดูสนิทสนมกันล่ะคะ” เสาวนีหันมาพูดพลางเล็งปืนออกมาที่ทุกคน“ผมเป็นคนส่งเพื่อนผมเข้าหาคุณเอง ผมผิดเอง...นี ผมขอโทษ คุณยังมีโอกาสที่จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นนะ” อัฐพลตอบพลางขยับเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ พร้อมจิระภัทรอย่ารู้กันดีเมื่อเห็นเสาวนีไม่ทันตั้งตัวเซนโซก้าซึ่งเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองกำลังเข้ารวบตัวเสาวนีจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเผลอ เขาจึงคิดเข้าไปช่วยน้องสาวแต่แล้วความเคลื่อนไหวของเขากลับทำให้เสาวนีจับได้จึงบันดาลโทสะออกมา“หยุดนะ! อย่าคิดเข้ามาแม้แต่คนเดียว ฉันยิงนังนี้กับลูกในท้องแน่” เสาวนีตวาดลั่นพลางเล็งปืนสะเปะสะปะไปมาในจังหวะนั้นเองที่อัฐพลตัดสินใจชำเลืองตามองจิระภัทรพลางพยักหน้าอย่างรู้กันก่อนก้าวเท้าเข้าไปล็อกตัวหญิงสาวทันทีให้ออกห่างจากขนิษฐาอย่างไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวจนสำเร็จ ทว่าปืนกลับลั่นขึ้นหนึ่งนัดสร้างความตกใจแก่ทุกคน ต่างพากันมองไปที่ชายหนุ่มทั้งสองที่กกำลังกอดรัดหญิงสาวเพียงคนเดียวล้มลงไปนอนกับพื้นปัง!ทุกคนให้ความสนใจที่คนทั้งสามโดนไม่ทันสังเกตขนิษฐ

  • คุณอาเพื่อน   บทที่ 35/1

    “คุณแค่จะใช่เธอเป็นตัวประกันต่อกรกับมันหมอนั่นไม่ใช่เหรอนี” “ใช่ค่ะ แต่บังเอิญมันท้องฉันเลยต้องทำหลักประกันให้ไม่มีข้อบกพร่องยังไงล่ะคะ คนอย่างอัฐไม่มีทางปล่อยให้ลุกในท้องนังเด็กนั่นเป็นอะไรแน่...หลักประกันชิ้นดีเลยนะคะ” “แต่นั่นเด็กนะนี เด็กทียังไม่...” “เด็กแล้วยังไงล่ะคะ เจตน์ ความจริงตอนนี้คุณไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว หน้าที่ของคุณแค่ทำให้ไฟที่งานดับและพาตัวมันมาให้ฉันที่นี่เท่านั้น!” เสียงคนกำลังมีปากเสียงกันปลุกให้ขนิษฐารู้สึกตัวตื่น ไม่เพียงเสียงผู้คนแต่ยังมีลมเย็นที่ปะทะผิวกายจึงทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวจนเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ คิ้วทรงสวยขมวดเข้าหากันพลางค่อยๆ ไล่เรียงความทรงจำหลังไฟดับสาวเจ้าผละออกจากอัฐพลพลางหันมองซ้ายขวาท่ามกลางความมืดด้วยความตกใจก่อนจะรู้สึกมีคนเข้ามาประชิดจากด้านหลังพร้อมกับใช้บางอย่างประกบลงที่จมูกและปากของตนก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป จนกระทั่งตอนนี้ เธอเปิดเปลือกตาขึ้นจึงพบว่าตนกำลังถูกมัดกับเสาบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคือเสาอะไรและไม่เพียงรู้ว่าตนถูกมัดติดเอาไว้แน่น แต่ยังรับรู้ว่าตนกำลังอยู่บนดาดฟ้าของบริษั

  • คุณอาเพื่อน   บทที่ 34/5

    “สาวน้อยของแม่ ยังไม่ได้มีแค่คำอวยพรจากพ่อแต่ยังมีจากแม่ด้วยนะ...แม่ไม่มีคำพูดอวยพรอะไรมากมายแต่แม่จะขอให้ลูกพบกับสิ่งล้ำค่าอีกชิ้นที่กำลังมีหัวใจดวงน้อยในท้องของหนู ต่อจากนี้ก็เป็นข่าวดีที่จะบอกว่าแม่จะอยู่ที่ไทยจนกว่าหลานแม่จะคลอด” เขมมิกามองสามีและลูกสาวด้วยรอยยิ้มก่อนพูดออกไป ยื่นมือไปลูบศีรษะลูกสาวด้วยความรัก“มาพูดกันแบบนี้ ทำให้หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่กลับกันเลยนะคะ” ขนิษฐาพูดขึ้นอย่างออดอ้อนเมื่อได้รับความรักจากพ่อและแม่ของตนท่านทั้งสองส่งยิ้มให้กับลูกสาวก่อนจะหันไปมองทางประตูห้องเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น ขนิษฐาอาสาเดินไปดูบุคคลที่มาเยือนในเวลา พลันฉุกคิดได้ว่าอาจเป็นเซนโซก้าที่กลับจากฮ่องคนแต่แล้วก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นไปหากเป็นพี่ชายก็คงไม่กดกริ่งเช่นนี้ทั้งที่เธอเคยบอกพร้อมยื่นกุญแจห้องสำรองเอาไว้แล้วก่อนอีกฝ่ายเดินทาง แต่แล้วเมื่อหญิงสาวเปิดประตูจึงพบกับอัฐพลที่กำลังยืนถือกล่องสีดำกำมะหยี่พร้อมรอยยิ้มทันทีที่เห็นเธอ“คุณอาไม่ได้เข้าบริษัทไปเตรียมงานเหรอคะ” สาวเจ้าถามหลังหันกลับมาจากหันไปมองพ่อและแม่ของตน“ไปมาแล้วและกลับมาเพื่อเอาสร้อยข้อมือมาให้หนูนิดใส่กับชุด” ชายหนุ่มตอบพล

  • คุณอาเพื่อน   บทที่ 34/4

    ขนิษฐานั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นแม่และพ่อขงอตนด้วยความรู้สึกผิดหลังเล่าทุกอย่างให้พวกท่านได้รับรู้ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่ตนกำลังตั้งครรภ์ลูกของอัฐพล ปฏิกิริยาตกใจแกมนิ่งอึ้งของท่านทั้งสองไม่ได้ผิดคาดไปจากที่ครุ่นคิดเอาไว้ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องผิดอย่างไม่น่าให้อภัยในฐานะลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว “หนูขอโทษพ่อกับแม่นะคะกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น” หญิงสาวกระพุ่มมือขึ้นมาก้มลงกราบลงที่ตักผู้เป็นพ่อก่อนก้มลงกราบผู้เป็นแม่ตาม ผละออกห่างมองพวกท่านทั้งสองอีกครั้ง สาวเจ้ารู้ตัวเองว่าตนทำผิดและทำตัวให้พวกท่านทั้งสองผิดหวังในตัวเธอโดยเฉพาะกับผู้เป็นแม่ที่แสดงสีหน้าราบเรียบจนเธอดูไม่ออกว่าทันกำลังคิดหรือกำลังรู้สึกเช่นไร ต่างจากผู้เป็นพ่อที่แม้จะแสดงสีหน้าตกใจแกมเสียใจอยู่น้อยๆ แต่ท่านยังมีสีหน้าให้พอเดาออกว่ากำลังรู้สึกเช่นไร “พ่อผิดหวังในตัวลูกที่มีความคิดอะไรก็ไม่รู้ไม่ยอมบอกเขาเสียที” ซานเซสชำเลืองมองภรรยาที่รักก่อนพ่นลมหายใจออกมาเพื่อรวบรวมสติให้มั่นก่อนตัดสินใจพูดออกมาเมื่อภรรยาเอาแต่นั่งนิ่งมองหน้าลูกสาว ด้วยเพราะตนนึกเป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status