Share

ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
Author: เย่ชิงขวง

บทที่ 1

Author: เย่ชิงขวง
เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อน

เธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง

ยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น

"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร"

"อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"

ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟ

กระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ

"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."

ซี๊ด...

ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ก้าวเท้าถอยหลังอย่างห้ามไม่ได้

กู้ชูหน่วนที่ควรหมดสติเพราะฤทธิ์ของเมามายพันกาลกลับยืนขึ้นต่อหน้านางเสียงอย่างนั้น แถมยังส่งรอยยิ้มมีเลศนัยให้นาง ราวกับรอยยิ้มของอสุราจากนรกนั้น ชวนให้คนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

เสียง "กรอบ" ดังขึ้น ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำได้อย่างไร นิ้วทั้งห้าจิกเกร็งเป็นกรงเล็บ กอบกุมลำคอของนางไว้ พละกำลังนั้นเหมือนดั่งทองแดงเหล็กกล้า จนนางไร้หนทางหนีรอด

"เจ๋ออ๋องน่ารังเกียจจะเอื้อมถึงข้าหรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ แต่เจ้าน่ะหรือ ไม่มีโอกาสได้ตะเกียกตะกายหาเขาหรอก"

ท่าทางของกู้ชูหน่วนน่าเกรงขาม แววตามีแต่ความบ้าคลั่ง กู้ชูหลันสะพรึงกลัว

นางแพศยานี่สู้คนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

ไม่นาน นางก็ต้องตื่นตระหนก เพราะกู้ชูหน่วนคว้าเมามายพันกาลอีกขวดหนึ่งออกมาจากตัวนาง แล้วกรอกมันลงคอของนางจนหมดเกลี้ย แสยะยิ้มและทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง

"ของดีอย่างเมามายพันกาล จะให้ข้าเก็บเอาไว้ดื่มด่ำผู้เดียวได้อย่างไร"

"เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ..."

"เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นแล"

นิ้วขาวเรียวยาวกดจุดชาของกู้ชูหลัน ปลดผ้าคลุมหน้าของนางอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะนำมาสวมคลุมทับใบหน้าของตัวเองแทน สายตาเหยียดหยามกวาดมองกู้ชูหลันที่ตื่นตระหนก ร่างทั้งร่างหายวับไปอยู่หลังเสาราวกับปลิวลม แววตาเย็นชามองบรรดาชายฉกรรจ์ที่ถูฝ่ามือไปมาอยู่ด้านนอก กำลังพากันเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางวิตถาร

"ไม่ใช่ว่านางเป็นหญิงอัปลักษณ์หรอกรึ? เหตุใดถึงได้งามเช่นนี้?"

"สนใจทำไมเล่า ในเมื่อได้ทั้งเงินได้ทั้งคนงาม เหตุใดจะไม่ทำเล่า"

"หยุดนะ นางแพศยาที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ พวกเจ้ารีบตามนางไป ข้าเป็นคนจ้างพวกเจ้าเอง อ๊ะ... หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะให้อี๋เหนียงของข้าฆ่าพวกเจ้าให้หมด... "

ยามราตรีลมพัดโบก ณ วัดร้างแห่งหนึ่ง เงาตะคุ่มของคนสองสามคนโยกไหวพร้อมกับส่งเสียงครวญคราง กำลังแสดงฉากที่ไม่น่ามองนัก

ไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็แห่กันมาที่หน้าวัดร้าง เห็นได้ชัดว่าผู้นำหน้าสุดคืออัครเสนาบดีกู้

"ท่านอัครเสนาบดี บางที่คุณหนูสามอาจจะแค่คิดไม่ตก ถึงได้หนีออกจากจวนไปกับบ่าวรับใช้ หากนางคิดได้แล้วคงกลับมาเองขอรับ"

"ใช่ขอรับ ถึงคุณหนูสามจะ... แต่นางไม่ใช่คนไม่รู้ความ ไม่มีทางจะมี...กับบ่าวรับใช้ได้หรอกขอรับ... เอ่อ..."

ประตูใหญ่ถูกถีบจนเปิดออก ทุกคนต่างตื่นตะลึง สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้เปลี่ยนสลับไปมาราวกับทาด้วยสี

"สารเลว..."

เสียงตวาดดังลั่น ทุกคนคุกเข่าลงในทันใด

โดยเฉพาะอี๋เหนียง อนุภรรยา แม่นางจางที่ตาเบิกโพลง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

"นายท่านโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ หลันเอ๋อร์ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้"

เพลิงราคะในตัวโหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนไม่มีกะใจจะดูต่อไป

คนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างอัครเสนาบดีกู้ แต่ลูกสาวของตัวเองถูกกระทำชำรำปานนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นพวกอัธพาลชั้นต่ำ มีหรือเขาจะไว้ชีวิต

ฉวยจังหวะยามชุลมุน กู้ชูหน่วนเดินโซซัดโซเซจากไป พยายามข่มความรู้สึกประหลาดในร่างกายอย่างสุดกำลัง

แม้จะคิดหาวิธีถอนพิษนับร้อยก็ไม่ได้ผล เมามายพันกาลนี้ฤทธิ์ร้ายนัก หากไม่อยากตายก็ต้องถอนพิษ แต่วิธีถอนพิษนั้นมีเพียงทางเดียวคือเสพสม

ระหว่างตายกับเสียความบริสุทธิ์นั้น เธอเลือกอย่างหลังโดยไม่ลังเล

เขาร้างป่าไพร ไร้ซึ่งผู้คน ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะถึงขีดจำกัด ตรงหน้าก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น

คนในชุดดำสามคน นอนล้มเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น จากประสบการณ์การทำงานหลายปีของเธอ พวกเขาโดนยาพิษ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ถึงได้ล้มลงบนพื้นไม่ขยับไหว

กู้ชูหน่วนพลันดีใจ รีบจ้ำเข้าไป ยกมุมปากพึมพำประโยคหนึ่ง "ตัวผู้ทั้งหมดเลย สวรรค์ยังเมตตาฉัน"

คนที่นอนอยู่บนพื้นมุมปากกระตุก?

ตัวผู้ทั้งหมดเลย?

นับพวกเขาเป็นสัตว์อย่างนั้นหรือ?

มือเรียวของกู้ชูหน่วนเชยคางชายชุดดำพินิจมองทีละคน ก่อนจะส่ายหน้าอย่างรังเกียจ "หุ่นใช้ได้ หน้าตาใช้ไม่ได้"

"ผอมไป ลูบแล้วไม่ได้อารมณ์"

"…"

สีหน้าของชายชุดดำสองคนแรกแทบดูไม่ได้

นี่มันลูกสาวตระกูลไหน?

สมบัติผู้ดีอยู่ที่ใด?

เย่จิ่งหานที่ได้ชื่อว่าเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรนั้นมุมปากยกขึ้น ดวงตาล้ำลึกราวกับไร้ที่สิ้นสุดนั้นฉาบไปด้วยรอยยิ้ม แฝงไปด้วยความรู้สึกสนใจ

ไม่นาน คางของเขาก็ถูกเชยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาเปล่งประกายดุจดาวเหนือของหญิงตรงหน้าสะท้อนสู่ดวงตาของเขา

ดวงตาสองคู่สองประสาน คนหนึ่งสวมผ้าคลุมหน้า คนหนึ่งสวมหน้ากากปีศาจ ต่างฝ่างต่างมองไม่เห็นใบหน้าของอีกคน ทว่าในแววตาของทั้งสองต่างแฝงไปด้วยความอย่างรู้อย่างเห็น

กู้ชูหน่วนถอดหน้ากากปีศาจของเขาออก ความตกใจฉายแวบในแววตา

นี่มันชายหนุ่มรูปงามแห่งยุคหรืออย่างไร เรียวคิ้วเชิดสูง ดวงตาสุกใสดั่งดวงดาวยามฤดูหนาว เครื่องหน้าเด่นชัดประหนึ่งรูปปั้นแกะสลัก หาที่ติไม่พบแม้แต่นิด ราวกับปฏิมากรรมชั้นยอดจากสวรรค์

ไม่รู้ว่าเพราะบาดเจ็บสาหัสหรืออย่างไร ใบหน้าของเขาถึงได้ขาวซีด แต่ถึงกระนั้นรอบกายยังคงแผ่ซ่านไปด้วยรังสีน่าเกรงขามและความสง่างามอันไร้ที่ติ

กู้ชูหน่วนหัวใจเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม ชายหนุ่มหน้าตาแบบนี้ ปีศาจชัดๆ

เย่จิ่งหานเห็นความตกตะลึงในแววตาของนาง ก็รู้สึกลำพองใจขึ้นมา ทว่าจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็จ้องมองไปยังสองขาพิการของเขา ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้เขาชะงักไป จากนั้นความโกรธก็ท่วมทะลักเข้ามา อยากจะบีบนางให้ตายให้มันรู้แล้วรู้รอด

"นึกว่าของชั้นดี คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นทองแดงมีตำหนิ เสียดายที่หน้าตาดี ช่างเถอะ ใครใช้ให้ฉันเป็นพวกบ้าคนหล่อล่ะ ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้"

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?" เย่จิ่งหานเค้นประโยคนั้นออกมาจากไรฟัน ฟังดูวางอำนาจเหลือเกิน

ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนจงใจเพิกเฉยคำเตือนของเขาหรืออย่างไร สองตาถึงได้ยกยิ้มเป็นจันทร์เสี้ยว "รู้สิ เครื่องมือถอนพิษของข้าอย่างไรเล่า วางใจเถิด ข้าจะถนอมเจ้าอย่างดี"

เฮือก...

ชายชุดดำอีกสองคนหัวใจร่วงตกไปอยู่ตาตุ่ม ก่อนจะมองใบหน้าแดงก่ำของนางอีกครั้ง ในใจสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

หญิงนางนี้คงไม่ได้โดนยาพิษแล้วคิดจะใช้เจ้านายของพวกเขาเป็นยาถอนหรอกใช่ไหม?

หญิงนางนี้ไปเอาความกล้าบ้าบิ่นนี้มาจากไหนกัน นางไม่รู้หรือว่าเจ้านายของเขาคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ ผู้กุมอำนาจสูงสุด เพียงพลิกฝ่ามือก็เรียกฟ้าเรียกฝนได้ เพียงประโยคเดียวของเขา นางก็สามารถหายไปไม่เหลือแม้แต่ศพให้ฝัง

แล้วนางรู้อีกหรือไม่ว่า เจ้านายของเขาเกลียดคนที่รังเกียจสองขาพิการของเขาเป็นที่สุด

ดูแม่สาวคนนี้สิ ตัวเล็กกระจิ๋วหลิว พยายามลากเจ้านายของพวกเขาไปถึงทุ่งหญ้า ท่าทางอดรนทนไม่ไหว จากนั้นพวกเขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

นี่นางกล้า...จริงๆ หรือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 516

    หรือคุณหนูจะเปลี่ยนไปแล้ว พระเจ้าช่วย นิสัยของคุณหนูเหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นางเพิ่งจะรับได้ คุณหนูก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว เมื่อใกล้ถึงห้องหนังสือ ผู้ดูแลเอ่ยเตือนอย่างระแวดระวัง "พระชายา ท่านอ๋องยังไม่เข้าบรรทม เวลานี้ยังดูหนังสืออยู่ด้านใน จะแจ้งท่านอ๋องสักหน่อยไหม" เดิมกู้ชูหน่วนตั้งใจจะรอหลังเย่จิ่งหานเข้านอนแล้ว ค่อยมาหาดูให้ละเอียด แต่เมื่อนึกถึงชาวเผ่าอวี้ขึ้นมา นางก็กัดฟันทน มุ่งหน้าไปที่ห้องหนังสือ ทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคเดียว "ไม่ต้องบอกหรอก พวกเจ้าออกไปให้หมด ข้าจะเข้าไปเอง" ชิวเอ๋อร์เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ที่แท้คุณหนูก็ใส่ใจท่านอ๋องอยู่เหมือนกัน ในที่สุดคุณหนูก็คิดได้ รู้เสียทีว่าต้องเอาใจท่านอ๋อง ผู้ดูแลโบกมือ บ่าวรับใช้ทุกคนพากันกลับไปจนหมด ชิวเอ๋อร์เองก็ถอยออกมาอย่างรู้งาน คอยกู้ชูหน่วนอยู่ไกลๆ "แอ๊ด..." ประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้ม "ท่านอ๋อง ยังไม่นอนอีกหรือ" เย่จิ่งหานนั่งอยู่ริมหน้าต่าง จุดตะเกียงอ่านหนังสือ เมื่อได้ยินเสียงกู้ชูหน่วน ก็เงยหน้าขึ้นมา "ดึกขนาดนี้แล้ว มาหาข้ามีเรื่องใดรึ" กู้ชูหน่วน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 515

    ตอนนั้น นางอยากได้ม้วนหนังแกะโบราณ เพียงเพราะแปลกใจที่บนม้วนหนังแกะโบราณมีสัญลักษณ์ภาษาอังกฤษอยู่ แม้เย่จิ่งหานจะไม่ยกให้นาง นางก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ยามนี้... ม้วนหนังแกะโบราณเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเกี่ยวข้องกับแก้วมังกร อีกทั้งชาวเผ่าอวี้นับหมื่นนับพันคนกำลังรอนางรวบรวมแก้วมังกรทั้งเจ็ดให้ครบ หากขอกับเย่จิ่งหานตรงๆ แล้วเย่จิ่งหานปฏิเสธอีกครั้ง หรือนำม้วนหนังแกะโบราณไปซ่อนไว้ล่ะ นางเดิมพันสิ่งนี้ไม่ไหว หลังจากที่เดินทางไปยังเผ่าอวี้มา ภาระบนบ่านางหนักอึ้งขึ้นกว่าเดิมนัก เรื่องราวร้ายต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นที่เผ่าอวี้ในคืนขึ้นสิบห้าค่ำ ทุกฉากราวกับตราประทับที่เป็นรอยแผลฝังลึกอยู่ในหัวของนาง ทุกครั้งที่คิดถึง หัวใจนางก็เจ็บปวดอย่างไม่อาจห้ามได้ "คุณหนู เป็นอะไรไป สีหน้าดูไม่ดีเลย" กู้ชูหน่วนหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกท้อแท้เซื่องซึมเหล่านั้นกระเจิงไปหมดสิ้น "ช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย" "เจ้าค่ะ" "ใส่ตัวนั้น" "คุณหนู ดึกแล้ว คุณหนูไม่พักผ่อนหรือเจ้าคะ" "นอนไม่หลับ อยากออกไปเดินเล่นหน่อย" "คุณหนูระหกระเหินอยู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 514

    สีหน้าที่ตึงเครียดของเย่จิ่งหานค่อยๆ ดีขึ้น น้ำเสียงก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ "ไม่สบายที่ใดบ้างหรือไม่" หมอบอกว่าพลังลมปราณภายในร่างกายคอยฉุดกระชากนางอยู่ตลอดเวลา หรือพลังจากผลึกหิมะยังไม่ถูกนางดูดไป ? นึกถึงตอนที่กู้ชูหน่วนกลืนผลึกหิมะเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ มีพลังลมปราณหลายส่วนพุ่งชนพลุกพล่านอยู่ในร่างของนาง เขารักษานาง ปรากฏว่ากำลังภายในกลับถูกนางดูดไปเกินครึ่ง ทำให้เขาเสียพลังอย่างหนัก เย่จิ่งหานเริ่มเชื่อคำพูดของหมอโดยไม่รู้ตัว และแอบตัดสินใจอยู่ลึกๆ ว่าวันพรุ่งหลังจากที่นางตื่นค่อยให้หมอหลวงมาจับชีพจรนางอย่างละเอียดอีกครั้ง กู้ชูหน่วนชูมือบิดขี้เกียจ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ "แน่นอนว่าไม่สบาย ทั้งบนทั้งล่าง ในและนอกล้วนแต่ไม่สบาย โดยเฉพาะหัวใจ ยิ่งไม่สบายเข้าไปใหญ่" "ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป แต่ต่อไปเจ้าก็กินให้เยอะหน่อย ดูท้องเจ้าสิ แบนยิ่งนัก ผู้ที่ไม่รู้จะคิดว่าข้าทรมานเจ้า" เย่จิ่งหานมองไปที่ท้องของนางอีกครั้ง ภายในใจยังคงสงสัย กู้ชูหน่วนเลิกเสื้อขึ้นมา เปิดให้เขาดูอย่างโจ่งแจ้งไปเสียเลย "เขาเอาแต่กินไม่ยอมโต ข้าจะทำเช่นไรได้ หากแน่จริง ท่านก็มุดเข้าไปถามเขาในท้องเอง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 513

    กู้ชูหน่วนสองมือกอดอก ยิ้มเยาะ "ท่านคงตัดสินใจแน่วแน่แล้วสินะว่าจะไม่ให้ข้ากลับไปนอน" "ข้าทำเพื่อผลดีของพระชายา พระชายาเอาแต่ดื้อ ไม่ยอมให้ตรวจชีพจร คงไม่ได้ปกปิดซ่อนเร้นสิ่งใดไว้ ?" "ท่านต่างหากที่มีเรื่องซ่อนเร้น ทั้งบ้านท่านต่างก็เป็นกันหมด อยากตรวจชีพจรมากนักใช่หรือไม่ ได้ เช่นนั้นก็ตรวจเลย แต่เร็วหน่อย อย่าเสียเวลานอนข้า" กู้ชูหน่วนหาที่ที่สบายนั่งลง ดึงแขนเสื้อตนเองขึ้นมา มองทุกคนตรงนั้นด้วยความเย็นชา เมื่อครู่นางพยายามปฏิเสธ ยามนี้กลับว่าง่ายใจกว้างขนาดนี้ เย่จิ่งหานอดไม่ได้ที่จะสงสัยยิ่งกว่าเดิม เขาส่งสายตาไป หมอเข้าใจในทันที แต่ละคนวางผ้าเช็ดหน้าลงบนมือกู้ชูหน่วน ตรวจชีพจรผ่านผ้าบาง หมอคนแรกขมวดคิ้วมุ่น เย่จิ่งหานพลันเป็นกังวล "เป็นเช่นไร" นางคงไม่ได้หลอกเขาว่าท้องหรอกกระมัง เย่จิ่งหานไม่กล้าจินตนาการ หากกู้ชูหน่วนแกล้งท้อง เขาควรจะทำเช่นไรกับนาง หมอเหงื่อแตกพลั่ก "เรื่องนี้...ชีพจรของพระชายาดูจะประหลาดไปบ้าง ข้าน้อย...ข้าน้อยตรวจไม่เจอเลย" เขารีบหลีกทาง หลังจากที่หมอคนต่อๆ ไปหลายคนจับชีพจรแล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเช่นกัน เหงื่อเย็นผุ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 512

    "ไม่ต้อง ถอยไปให้หมด" หมอหลวงท่านหนึ่งอธิบายด้วยรอยยิ้ม "ท่านอ๋อง ผู้ที่ร่างกายมีครรภ์ ภายในร่างค่อนข้างร้อนลุ่ม อาการเช่นนี้ของพระชายาถือเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวกระหม่อมจะให้ยาที่ช่วยทำให้ใจสงบแก่พระชายา" สีหน้าไม่สบอารมณ์ของเย่จิ่งหานเย็นลงไปอย่างชัดเจน เขาส่งสายตา พลันมีหมอหลวงอีกท่านพูดเอาอกเอาใจด้วยรอยยิ้ม "พระชายา อีกประเดี๋ยวข้าจะตรวจชีพจรให้ท่านอย่างดี ไม่ใช้เวลาของท่านนานนักหรอก ท่าน..." จู่ๆ กู้ชูหน่วนก็กุมท้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นมากะทันหัน หน้านิ่วคิ้วขมวด "โอ๊ย ข้าปวดท้องจะแย่อยู่แล้ว เป็นเพราะอาหารเมื่อครู่ไม่สดหรือเปล่า ปวดท้องจะตายแล้ว หลีกไป ข้าขอไปทำธุระส่วนตัวก่อน" ขณะพูด กู้ชูหน่วนดันทุกคนออก แล้วออกไปด้วยความรีบร้อน หมอหลายสิบคนตกใจ ตามติดกู้ชูหน่วนอยู่ด้านหลังดั่งกับเงา รอจนกว่านางจะออกมาจากห้องน้ำ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับนางแล้วเทพสงครามจะจัดการพวกเขา "นายท่าน บางทีอาจเพราะช่วงหลายวันนี้พระชายานอนกลางดินกินกลางป่า ทำให้ท้องไส้ไม่ดีนัก น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใด" "ชิงเฟิง เจ้าว่าผู้ที่ท้องได้สามเดือนแล้ว หน้าท้องจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดเล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 511

    ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าเย่จิ่งหานจะเข้าใจความหมายของนาง "ผู้ที่จับเจ้าไปคือเผ่าอวี้รึ" "อืม..." กู้ชูหน่วนฝืนพูดออกมา "เจ้ากับเผ่าอวี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร" เย่จิ่งหานจ้องมองนาง ไม่ยอมพลาดทุกสีหน้าของหน้า "จะมีความเกี่ยวข้องใดได้ หากไม่ใช่เพราะข้ามีแก้วมังกรอยู่ที่ตัว พวกเขาจึงอยากได้แก้วมังกรก็เท่านั้น" "เช่นนั้นรึ แต่ตอนที่คนเผ่าอวี้พาตัวเจ้าไปบอกว่า หมอด้านล่างภูเขาช่วยเจ้าไม่ได้ มีเพียงพวกเขาที่ช่วยเจ้าได้" เย่จิ่งหานมั่นใจว่ากู้ชูหน่วนกำลังโกหก เพียงแต่เขาระดมกำลังทุกฝ่ายไปตามสืบ ก็ไม่เจอว่ากู้ชูหน่วนและเผ่าอวี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยข้องเกี่ยวใดๆ ต่อกันมาก่อน กู้ชูหน่วนกินน่องไก่ด้วยความร้อนรน ตอบเขาไปเรื่อยเปื่อย "เช่นนั้นรึ บางทีอาจเพราะพวกเขาได้แก้วมังกรจากข้า คิดว่าติดหนี้บุญคุณข้า จึงถือโอกาสช่วยข้าไว้" "เช่นนั้นเกิดอะไรกับเจ้าบ้างที่เผ่าอวี้ คนเผ่าอวี้มีใครบ้าง พวกเขารักษาเจ้าหายได้อย่างไร" "ท่านอ๋อง ถามมาเยอะขนาดนี้ จะให้ข้าตอบคำถามใดก่อนล่ะ ภรรยาของท่านเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ท่านไม่รู้จักใส่ใจก็ช่าง ยังจะซักถามไม่หยุด ข้าคือนั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 510

    กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างจนปัญญา ปล่อยให้เขาจูงมือนางไป ท่ามกลางสายตาอิจฉาและตกตะลึงของผู้คน ณ จวนหานอ๋อง ไม่รู้ว่าเย่จิ่งหานให้คนเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะตั้งแต่เมื่อใด กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองผ่านๆ มีกับข้าวถึงสิบแปดชนิด ทุกชนิดล้วนแต่เป็นสิ่งที่นางชอบ ดูออกเลยว่า เย่จิ่งหานใส่ใจเพียงใด เดินทางมาอย่างยากลำบาก นางเองก็หิวจนไส้กิ่ว หยิบตะเกียบขึ้นมา กินเข้าไปคำโตโดยไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้น น้องเก้าที่พันอยู่บนข้อมือได้กลิ่นเนื้อ โห่ร้องก่อนจะกระโดดออกมา มองดูกับข้าวที่วางเต็มโต๊ะด้วยความละโมบ กู้ชูหน่วนเห็นมันคิดจะวุ่นวาย จึงหิ้วหางมันขึ้นมา "เจ้านายจะกินข้าว เจ้างูห้ามยุ่ง" "ฟ่อฟ่อ...นายท่าน ข้าหิวแล้ว" "เจ้าควรบอกข้าว่า มีวันใดบ้างที่เจ้าไม่หิว" "เยอะขนาดนี้ ท่านก็กินไม่หมดหรอก เหลือให้ข้ากินสักคำเหอะน่า ดูแววตาน้อยๆ ที่น่าสงสารของข้าสิ" "ไปให้พ้น อย่ามาทำตัวน่าสงสาร" กู้ชูหน่วนโยนมันออกไปทันที ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าอวี้ นางไม่ได้กินเนื้อเลยสักคำ ยกให้มันกินหมด อีกอย่าง เงินที่นางพกติดตัวก็นำไปซื้อเนื้อให้มันจนหมด แม้แต่เสื้อผ้าเครื่องประดับของนางก็เอาไปขายแลกเนื้อหม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 509

    หลังจากความยินดี เย่จิ่งหานก็หงุดหงิดอีกครั้ง นางผู้นี้ ทำการรักษาให้เขาได้ครึ่งหนึ่งก็แอบชิ่งหนีไปทุกครั้ง บนเขาโลหิตน้ำเต้า ทั้งๆ ที่นางรู้แก่ใจว่าตอนที่เขาถอนพิษ จะสูญเสียกำลังภายในทั้งหมดไป อีกทั้งยังมีอันตรายรอบด้าน หากไม่ระวัง ชีวิตก็อาจจบสิ้นได้ทุกเมื่อ แต่นางกลับไม่สนใจ ยังคงแอบหนีไปตอนรักษาได้ครึ่งเดียว หนีหายไปยังไม่พอ นางยังไม่ห่วงชีวิตตัวเอง ที่ไหนมีอันตรายก็บุกไปที่นั่น สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาเป็นห่วงนางเพียงใด สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าช่วงหลายวันนี้เขาตามหานางอย่างยากลำบากเพียงใด หากเป็นไปได้ เย่จิ่งหานอยากจะกักขังนางไว้ในจวนหานอ๋องตลอดไป ไม่ให้นางจากไปไหนอีก กู้ชูหน่วนพินิจมองเย่จิ่งหานปราดหนึ่ง ขาที่พิการทั้งสองข้างของเขาหายดีแล้ว ยามนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้านาง เย่จิ่งหานรูปโฉมงดงามเกินคน มีความน่าเกรงขาม ยามนี้ขาทั้งสองข้างกลับมาเป็นปกติ ยิ่งดูมีสง่าราศี สูงส่งเป็นสุภาพบุรุษ ท่าทางที่เขายืน สง่างามเสียยิ่งกว่าตอนเขานั่ง เพียงแต่ความรู้สึกที่ฉายวาบผ่านดวงตาคู่นั้นของเขา ทำให้คนไม่อาจเข้าใจได้ กู้ชูหน่วนอมยิ้มให้เขา นับเป็นการทักทาย ได้รับรอย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 508

    "คุณชายของพวกข้าเป็นถึงคุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกง ครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเรียกพวกข้ากลับมาเป็นการเฉพาะ เจ้าบังอาจหยามเกียรติคุณชายของพวกข้า" บ่าวรับใช้คนหนึ่งท่าทางเหิมเกริมอวดดี คุณชายสามอันยืดหลังตรงอกผายไหล่ผึ่ง สีหน้าดูเหยียดหยัน โอหัง กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ "คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกง ตำแหน่งใหญ่มากหรือ" "เหลวไหล กั๋วกงของพวกข้าได้รับพระราชทานแต่งตั้งจากอดีตฮ่องเต้ เรียกได้ว่าอยู่ใต้เพียงผู้เดียว อยู่เหนือคนนับหมื่น หากเจ้าไปกับคุณชายของข้า ต่อไปเจ้าจะได้มีลาภยศสรรเสริญ กินดีอยู่ดีเป็นแน่" แม้คนของจวนอันกั๋วกงจะหื่นกระหายในเรือนร่างของกู้ชูหน่วน แต่จากเนื้อผ้าเครื่องแต่งกายนาง เขาเชื่อว่าหญิงตรงหน้าจะต้องไม่ใช่คนมีตำแหน่งหรือฐานะใด จึงดูมั่นอกมั่นใจมากขึ้น "น่าเสียดาย ข้าแต่งงานแล้ว คงไม่มีวาสนานั้น" คุณชายสามอันเข้าใจกู้ชูหน่วนผิด คิดว่านางตัดพ้อที่ตนแต่งงานเร็วไป จึงถูมือพลางพูดจาทะลึ่ง "คนงาม ขอเพียงเจ้ายอมไปกับข้า แม้เจ้าจะแต่งงานไปแล้ว แล้วจะเป็นอย่างไร ข้าจะรีบให้คนไปสังหารชายหนุ่มของเจ้าทันที" ผู้คนที่ล้อมวงมุงดูต่างก็ถอนหายใจ ไปหาเรื่องคุณชายสามอั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status